บทที่ 242 ไปเลยNight of Meteor จงทะลวงวงเวทย์ที่ปกคลุมโลก ซะ

Shoujo Grand Summoning ไปจีบสาวที่โลกอนิเมะกันเถอะ!

บทที่ 242 ไปเลยNight of Meteor! จงทะลวงวงเวทย์ที่ปกคลุมโลก
ซะ!!
อัครทูตสวรรค์ กาเบรียล : Level75
เห็นเลเวลอีกฝ่าย สีหน้าวู่หยานก็ดิ่งลง นัยน์ตาดวงดาวเต็มไปด้วยความตื่น
ตระหนก อัครทูตสวรรค์ กาเบรียล มีเลเวลมากกว่าเขาเกือบจะเท่าตัวเลย!
ด้วยเลเวลปัจจุบันของเขา ถ้าต้องสู้กันจริงๆล่ะก็มันก็เหมือนว่าเขารนหาเรื่องตาย
เอง!
จริงๆถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้เขาอยู่ในร่างอันแสนเปราะบางของควีนซามะ วู่หยานก็
สามารถพึ่งร่างกายอมตะของสายเลือดแท้สู้แบบไม่สนร่างกายกับอัครทูตสวรรค์
ได้ แต่ว่า….ขืนเอาร่างควีนซามะไปสู้ล่ะก็มีหวัง……..
วู่หยานทำได้แค่ถอนหายใจ จากนั้นมองคันซากิกับโทวมะด้านล่าง ใบหน้า
เครียดๆของเขาก็คลายตัวลงเล็กน้อย……..
ด้วยพลังของสองคนนี้ ก็น่าจะพอสู้กับอัครทูตสวรรค์ได้อยู่น่า……..
คันซากิ คาโอริ : Level72
คามิโจ โทวมะ : Level10
ทว่าพอเห็นเลเวลโทวมะ วู่หยานก็แทบจะร่วงตกจากฟ้า……….
แต่วู่หยานก็เข้าใจ ถึงเลเวลโทวมะมันจะดูต่ำสุดๆแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าพลัง
จะต่ำไปด้วย ถึงเลเวลมันจะน้อยจนเขายังรู้สึกสงสารก็เถอะ แต่ด้วยสุดยอดของ
โกงอย่าง Imagine Breakerเลเวลมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรแล้ว…….
ส่วนคันซากิ คาโอริ ถึงเธอจะเลเวล72 แต่ถ้าเธอใช้พลังของนักบุญ เปิดบาดแผล
ศักดิ์สิทธิ์เมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นต่อให้ไม่มีใครช่วยเธอก็สามารถหนึ่งหนึ่งกับกาเบรียล
ได้!
ขณะที่วู่หยานกำลังครุ่นคิด คันซากิก็คิดว่าเขากลัวกาเบรียลตรงหน้าจนก้าวขาไม่
ออก เธอจึงรีบตะโกนไปว่า “รีบไปจากที่นี่เร็วเข้า!อีกไม่นานที่นี่ก็จะกลายเป็นที่ที่
อันตรายสุดๆแล้วนะ!!!”
ได้ยินเสียงตะโกนจากด้านล่าง วู่หยานก็ทำได้แค่หยุดความคิดไว้ จากนั้นเงยหน้า
มองวงเวทย์อันกว้างใหญ่ไพศาลบนท้องฟ้าที่ตอนนี้คงจะแผ่ออกไปปกคลุมทั้งโลก
แล้ว ทันใดนั้นนัยน์ตาเขาก็หดตัว!
เปิดริมฝีปากสีเชอร์รี่ขึ้น จากนั้นเสียงใสๆของโชคุโฮ มิซากิ ก็ได้ดังขึ้น………
“เห็นด้วยเลย ที่นี่มันอันตรายมาก…….”
จากนั้นด้วยความเผลอ วู่หยานก็ได้ยกมือขึ้นมาปิดปากแล้วหัวเราะคิกคัก ดู
เหมือนเขาจะไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำของตัวเองมันไม่ใช่สิ่งที่ชายแท้ควรจะทำ
เลย (@หยานกลายเป็นสาวแล้วล่ะ!)
“เวทย์ล้างโลกนั่น อันตรายมากจริงๆ เห็นทีคงต้องกำจัดทิ้งซะแล้วแฮะ…….”
ได้ยินคันซากิก็ตกใจกับประหลาดใจ อีกฝ่ายเองก็รู้ถึงเวทย์ล้างโลกเหมือนกัน ด้วย
คำพูดของวู่หยาน ทำให้เธอเริ่มคิดว่าเขาไม่ธรรมดาแล้ว!
ชำเลืองตามองกาเบรียลทีนึง จากนั้นเปิดปากพูดใส่ราวกับว่าอีกฝ่ายอยู่ต่ำกว่า
ตัวเอง
“อัครทูตสวรรค์ กาเบรียลเอ๋ย เพียงเพื่อหวนกลับสู่สวรรค์ เจ้าถึงกลับต้องทำลาย
ล้างโลกใบนี้เชียวรึ? ถ้างั้นเจ้าก็ต้องผ่านข้าที่เป็น ‘แขก’ของโลกใบนี่ก่อนล่ะนะ
…….”
จากนั้นเขาก็ไม่สนใจว่าคำพูดตัวเองจะทำให้พวกคันซากิช็อค วู่หยานเงยหน้ามอง
วงเวทย์บนฟ้าก่อนที่จะยกมือขึ้น!
เกิดแสงสว่างขึ้น จากนั้น คันซากิ โทวยะ โทวมะ และ กาเบรียล ก็พบว่ามือวู่
หยานได้มี ธนู ปรากฏขึ้น!
รูปร่างดูราวกับปีกนก และผิวทั้งหมดเป็นสีดำดุจน้ำหมึก โดยที่ข้างในนั่นมีแสง
ดาวส่องประกายอยู่! ธนูยาวสีดำ!
‘Night of Meteor!!’
นี่คือธนูที่แม้แต่ เอวัสก็ยังพูดว่าตัวเองไม่มีทางรับได้โดยไม่เกิดบาดแผล!ธนูอันทรง
พลังได้ถูกวู่หยานเรียกออกมาอีกครั้ง!
โลกจากเดิมที่มืดมิดก็ได้เกิดเสียงระยิบระยับขึ้นราวกับหิ่งห้อยเล็กๆจำนวนมาก ที่
ค่อยๆเร่งความเร็วขึ้นจนกลายเป็นเส้นแสงสีเงินไปรวมตัวที่ Night of Meteor!
ดูอย่างกับมีแสงดาวได้ไปรวมตัวที่ Night of Meteor มุมปากวู่หยานโค้งขึ้นเป็น
รอยยิ้มตื่นเต้น ในที่สุดเขาก็ได้ใช้ Night of Meteor แล้ว!
ด้วยความตื่นเต้น วู่หยานก็วางมือไปที่สายธนูแล้วค่อยๆดึง………
แสงดาวอันสวยงามได้รวมตัวที่ธนู แล้วก่อตัวกันเป็นลูกศรเรืองแสงสีเงิน!
เมื่อศรสีเงินปรากฏขึ้น จากเดิมที่มีสีหน้าไม่แยแสกาเบรียลก็ได้เปลี่ยนไปในที่สุด
ทว่าทางด้านล่างคันซากิเองก็ได้ค้นพบว่าตอนนี้ธนูสีดำนั่นได้ปลดปล่อยแรงกดดัน
อันน่ากลัวที่มากกว่าวงเวทย์บนฟ้าออกมา!
“นะ…นั่นมันธนูอะไรกัน…..” คันซากิมองธนูในมือวู่หยานด้วยความไม่เข้าใจ
จากนั้นเธอก็กลืนน้ำลาย “เทียบกับเวทย์บนฟ้าแล้วยังอันตรายมากกว่าอีก…..”
จริงๆมันไม่ได้น่ากลัวกว่าหรืออันตรายกว่าเวทย์ล้างโลกตอนเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ตอนนี้เวทย์นั่นยังต้องการเวลาในการเตรียมการอีกสักพักพลังถึงจะพุ่งพึ่งขีดสุด
เมื่อถึงตอนนันพลังมันก็มากกว่า Night of Meteorแล้ว!
แสงดาวกระจุกรวมตัวอยู่รอบๆ Night of Meteorและตัววู่หยานในร่างโชคุโฮ
ทำให้ตอนนี้เธอดูราวกับเทพธิดายามราตรีภายใต้แสงจันทร์! ดูงดงามมาก!
อย่าว่าแต่พ่อโทวมะกับโทวมะเลย แม้แต่คันซากิที่ช็อคอยู่กับออร่าที่แผ่ออกมา
ของ Night of Meteorยังต้องอึ้งกับกับเสน่ห์ของเขาตอนนี้เลย
ส่วนกาเบีรลก็ดูเหมือนกับกำลังช็อคกับ Night of Meteorจนเธอลืมไปว่าตอนนี้
ธนูสุดอันตรายนี่กำลังเล็งไปบนฟ้า…….
เงยหน้าขึ้นมองวงเวทย์ใหญ่โตตรงหน้า วู่หยานก็ดึงสายธนูจนสุด ทำให้แสงดาว
มารวมตัวกันเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งส่งเสริมพลังทำลายขึ้นไปอีก!
จนกระทั่งพลังได้เพิ่มขึ้นถึงขีดสุด………
ดาวตกเส้นนึงก็ได้พุ่งทะยานออกไปจาก Night of Meteor ตัดผ่านเส้นขอบฟ้า
ตัดผ่านความว่างเปล่า ตัดผ่านความมืด จากนั้นภายใต้สีหน้าที่แตกต่างกันไปของ
คันซากิ โทวยะ โทวมะ และ กาเบรียล ดาวตกก็ได้พุ่งชนวงเวทย์ล้างโลก!
ไร้ซึ่งเสียง ไร้ซึ่งแสงสี ไม่มีการระเบิดที่น่ากลัว ไม่มีออร่าปะทุออกมายามที่ทั้งสอง
ปะทะกัน ชั่ววินาทีที่ดาวตกได้สัมผัสกับวงเวทย์มันก็ได้หายแวบไป……
เหลือเพียงแค่วงเวทย์ใหญ่โตบนฟ้าที่ยังคงทำงานเหมือนปกติราวกับเมื่อกี่เป็นแค่
ภาพลวงตา……..
ไม่กี่วินาทีต่อมา ภายใต้สีหน้างงของคันซากิ วงเวทย์บนฟ้าจู่ๆก็เกิดเสียง ‘แคร๊ก’
ขึ้น!
เมื่อเสียง ‘แคร๊ก’ ดังขึ้น ทันใดนั่นก็เกิดเสียง ‘แคร๊ก’ ต่อขึ้นมาอีกอย่างต่อเนื่อง
ในเวลาเดียวกันตัววงเวทย์ก็ได้เกิดรอยร้าวขึ้นเรื่อยๆราวกับกระจกใกล้แตก เกิด
เป็นเศษชิ้นส่วนมากมายนับไม่ถ้วนทยอยตกลงมาจากฟ้า!
เมื่อเสียง ‘แคร๊ก’ สุดท้ายดังขึ้น วงเวทย์ทั้งหมดบนฟ้าก็ได้แตกเพร้งเป็นเศษ
ชิ้นส่วนกระจัดกระจายไปทั่วทุกที่ก่อนที่พวกมันจะหายไป…….
มองดูด้วยสีหน้าอึ้งๆกับภาพที่วู่หยานที่อาบไปด้วยเศษชิ้นส่วนเวทย์ทำลายโลก
จากนั้นเขาก็ค่อยๆวาง Night of Meteor ลงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่ทำคันซา
กิช็อค ช็อคสุดๆ………..
ธนูนั่น…..ดาวตกนั่น……
ทุกคนเหม่อมองภาพอันสวยงามตรงหน้าอย่างถอนตัวไม่ขึ้น……
เธอ….เป็นใครกัน……
คันซากิมองวู่หยานที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ ความช็อคในหัวใจได้เปลี่ยนไป
กลายเป็นตื่นตัวอยากรู้อยากเห็น
ตื่นตัวคือเธอที่เป็นถึงนักบุญกลับไม่เคยได้ยินว่ามีธนูที่สามารถทำลายเวทย์ระดับ
หายนะได้!
แม้แต่พวกของในตำนานที่พระเจ้าทิ้งไว้ยังไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้เลย!
มีอาวุธที่น่าสะพรึงกลัวแบบนี้อยู่ ถ้าอีกฝ่ายเกิดเป็นคนฝั่งศัตรูล่ะก็ คันซากิก็มอง
อนาคตได้เลยว่า อาร์คบิชอปที่ชอบทำตัวน่ารักของNecessarius(โบสถ์อังกฤษ)
คงได้นอนตาไม่หลับทุกคืนแน่……….
ส่วนสำหรับอยากรู้อยากเห็น แน่นอนว่าคือตัววู่หยาน……..
เธอ(?)เป็นใคร? จอมเวท? ผู้มีพลังจิต? เธอเป็นคนสาธารณะ? แล้วได้อยู่ฝ่ายไหน
แล้วหรือยัง?
ทั้งหมดทั้งมวลนี่ได้ให้ความรู้สึกลึกลับกับเธอ ทำให้คันซากิลืมที่จะตอบสนอง(ยืน
นิ่ง)……..
แน่นอนว่า อัครทูตสวรรค์ เป็นข้อยกแว้น……………