บทที่ 243 อัครทูตสวรรค์ Power of Godสำแดงเดช

Shoujo Grand Summoning ไปจีบสาวที่โลกอนิเมะกันเถอะ!

บทที่ 243 อัครทูตสวรรค์! Power of Godสำแดงเดช!!
เวทย์ของตัวเองถูกทำลายไป แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ทำให้อัครทูตสวรรค์เปลี่ยนสี
หน้าได้เลย นอกจากตอนที่วู่หยานหยิบ Night of Meteor ออกมา สีหน้าอีกฝ่าย
ก็นิ่งสงบตลอด……..
ซึ่งมันตรงกันข้ามกับอีกทางเลย คันซากิ โทวยะ โทวมะ ได้มอง Night of
Meteor ด้วยสีหน้าปะปนไปด้วยความช็อค กลัว และจริงจัง…….
แน่นอนว่าอีกหนึ่งผู้ที่เพิ่งมาถึงเองก็ทำสีหน้าคล้ายๆกัน…….
“นั่นมัน….Mental Out?” สึจิมิโคโดะ โมโตฮารุเบิกตาขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูด
ออกมาด้วยความสงสัย ตัวเขาที่อาศัยในเมืองแห่งการศึกษาแล้วยังมีสถานะ
สายลับจึงเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่เขาจะไม่รู้จักเลเวล5 โชคุโฮ มิซากิ คนนี้
ได้ยินเสียงดัง พวกคันซากิก็หันหน้าไปมองทันที จากนั้นคันซากิก็ขมวดคิ้วแล้วพูด
ว่า “นายรู้จักเธอ?”
สึจิมิโคโดะ เพ่งตามองวู่หยานบนฟ้า ก่อนจะพยักหน้าให้ “เธอชื่อว่า โชคุโฮ มิซา
กิ เป็นหนึ่งในผู้มีพลังจิตเลเวล5อันดับ5 ฉายา Mental Outเป็นคนที่เก่งกาจด้าน
การชักจูงบงการคนอื่น…….”
พูดถึงตรงนี้ สึจิมิคาโดะก็หัวเราะออกมาอย่างไม่ดูสถานการณ์ “แต่ว่าตอนนี้คง
ไม่ใช่ตัวอันดับ5หรอกเนียะ เพราะว่าตัวฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าเธอบินได้!”
คันซากิตกใจ ก่อนจะนึกอะไรได้ “คุณกำลังจะบอกว่าเธอเองก็ได้รับกระทบจาก
แองเจิลฟอล ด้วยสินะคะ?”
สึจิมิโคโดะพยักหน้า ขณะเดียวกันโทวมะก็ยกมือขยี้หัวตัวเองด้วยความสับสน
“ถ้างั้นใครคือผู้หญิงข้างบนนั่นกันแน่?”
คำถามนี่ ไม่มีใครตอบโทวมะ เป็นเพราะทุกคนเองต่างก็รู้สึกสงสัยเช่นเดียวกัน
คันซากิมีสีหน้าไม่สู้ดีเธอพึมพำว่า “ขออย่าได้เป็นศัตรูเลย……”
สึจิมิโคโดะได้ยินคำพูดเบาๆของคันซากิ เขาก็เงยหน้ามองไปยังสาวน้อยบนฟ้าอีก
ครั้งแล้วพูดในใจว่า ต้องรู้ฐานะจริงๆของอีกฝ่ายให้ได้ ไม่งั้นเกิดมีคนที่ทรงพลัง
ขนาดนี้ซ่อนตัวอยู่ แล้วในอนาคตเขาหรือเธอเกิดอยากยื่นมือเข้ามาสอดระหว่าง
ขั่วอำนาจอื่นๆล่ะก็มีหวังได้เกิดปัญหาตามมาอีกเป็นกระบุ้งแน่…….
เมื่อกี้นี้ สึจิมิโคโดะเองก็เห็นดาวตกที่ราวกับสามารถบดขยี้ท้องฟ้านั่นได้
เหมือนกัน……….
ขณะที่พวกเขากำลังจมอยู่ในความคิดของตัวเอง บนฟ้าก็ได้เกิดเสียงใหม่ขึ้น!
ถึงแม้อัครทูตสวรรค์จะไม่ได้แสดงสีหน้าอาการอะไรตอนที่เวทย์ตัวเองถูกทำลาย
เป็นเสี่ยง แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ความสนใจของเธอ(แองเจิลหรือทูตสวรรค์นั่นไม่มี
เพศแต่ร่างสิงของเธอคือโลลิจึงใช้แทนว่าเธอ)ได้หันไปโฟกัสที่ตัววู่หยานแล้ว!
ในแววตาเกิดประกาบแสงลึกลับขึ้น ราวกับสายน้ำอันเย็นเยียบ เธอมองตรงที่
ตัววู่หยาน ก่อนที่จะมือสร้างอาวุธรูปร่างแปลกๆขึ้น!
ตัวเธอที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกจึงไม่จำเป็นต้องีการพูดคุยใดๆ ตราบใดที่มีคนมา
ขัดขวางหนทางคืนสู่เบื้ยงชยของเธอคนผู้นั้นก็ต้องถูกกำจัด!
กาเบรียลกระพือปีกทำชั้นบรรยากาศสั่นสะเทือน ก่อนที่จะมีแท่งน้ำแข็งพุ่ง
ออกมาจากปีกของเธอ!
เป้าหมายย่อมเป็นตัววู่หยาน!
วู่หยานหน้าเปลี่ยนสี เขาขยับนิ้วไปมาจากนั้นตัวเขาก็พริ้วหลบการโจมตีที่มาดุจ
ต้นใหญ้าที่ลู่ไปตามสายลม ถ้าลองเพ่งตามองดูดีๆจะพบว่าใต้เท้าวู่หยานมีเม็ด
ทรายเหล็กขนาดจิ๋วอยู่เป็นฐานให้เขายืนกลางอากาศโดยที่จะขยับตามนิ้วของเขา
……
นี่เป็นท่าที่เขาฉุกคิดมาได้ตอนโดนแอคเซราเรเตอร์ซัดเปรี้ยงลงมาจากฟ้า ถ้าตอน
นั้นเขาไม่ได้ใช้ทรายเหล็กลดแรงปะทะตอนกระแทกพื้นมีหวังเขาได้สาหัสกว่านี้
แน่……
แถมท่านี่มันยังกินพลังเขาน้อยด้วย ดังนั้นวู่หยานจึงสามารถเคลื่อนไหวกลาง
อากาศได้อย่างเสรี!
“เริ่มได้!” คันซากิเอามือไปจับดาบตัวเองแล้วพูดกับโทวยะ โทวมะ สึจิมิคาโดะ
“พวกคุณรีบไปทำลายพิธีกรรมเร็วเข้า!”
ได้ยินแบบนี้ โทวมะก็เบิกตาแล้วรีบเอ่ยถามคันซากิ “แล้วเธอ?”
คันซากิมองไปด้านบนไปยังตัววู่หยานที่กำลังยุ่งอยู่กับการหลบการโจมตีของทูต
สวรรค์ “ฉันจะอยู่ที่นี่! ถ่วงอัครทูตสวรรค์ไว้!”
“เธอสู้ไหวงั้นเหรอ?” ดูเหมือนโทวมะจะตกใจกับคำพูดคันซากิ ถึงตัวเขาจะไม่มี
ความรู้ทางฝั่งเวทมนตร์ แต่เขาก็รู้ว่าอัครทูตสวรรค์ไม่ใช่ตัวตนที่มนุษย์จะต่อกร
ด้วยได้!
โทวมะไม่รู้ว่า คันซากิมี ‘บาดแปลศักดิ์สิทธิ์’ ที่สามารถทำให้เธอยืนหยัดสู้กับทูต
สวรรค์ได้!
แต่คันซากิก็ไม่มีแผนที่จะใช้ ‘บาดแปลศักดิ์สิทธิ์’เธอมองกาเบรียลที่กำลังโจมตีวู่
หยานแล้วยิ้มออกมา “ไม่เป็นไรหรอกคะ ด้วยความสามารถของฉันบวกกับคน
ลึกลับตรงนั่นน่าจะพอถ่วงเวลาอีกฝ่ายได้อยู่!”
“แต่…..”
โทวมะดูเหมือนจะยังไม่เชื่อ ดังนั้จสึจิมิคาโดะจึงดึงแขนเขาไป
“ไม่ต้องห่วงไปคามิยัง! พี่สาวน่ะแข็งแกร่งมากเลยนะ! พวกเราเองก็มีเรื่องที่ต้อง
ทำเหมือนกันนะเนียะ!”
ได้ยินสึจิมิคาโดะ โทวมะก็กัดฟันกรอดก่อนจะพยักหน้า แล้วมุ่งหน้าไปทางบ้าน
ตัวเองที่เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมร่วมกับสึจิมิคาโดะและพ่อตัวเอง!
คันซากิมองตามหลังพวกเขาไปแล้วพูดเบาๆว่า “ขอฝากพวกคุณด้วยนะคะ…..”
แต่อนิจจัง คันซากิไม่ได้รู้เลยว่าตอนนี้เองก็มีคนอีกกลุ่มนึงกำลังมุ่งไปหน้าไป
ระเบิดบ้านโทวมะเหมือนกัน…….
อีกด้านนึงวู่หยานกำลังตาเหลือกวิ่งหลบการโจมตีที่พุ่งเข้ามาไม่หยุดราวกับห่าฝน
ตราบใดที่เขาเผลอเพียงนิดเดียวร่างบอบบางของควีนซามะได้พรุนเป็นรังผึ้ง
แน่นอน……
ที่เขาต้องมีสภาพอนาถแบบนี้เป็นเพราะท่าใหม่นี่เขาเพิ่งคิดค้นมาได้ไม่นานจึงยัง
ไม่ชิน ไม่นานนักเขาที่วิ่งไปทั่วท้องฟ้าก็เริ่มหอบแฮ่กๆ
เขาต้องการโจมตีกลับ แต่ห่าฝนแท่งน้ำแข็งพวกนี้มันไม่ปล่อยให้เขาทำอะไรได้
เลย เขาไม่มีแม้แต่เวลาที่จะใช้Night of Meteor!
ทางเดียวที่เขาจะใช้สู้กับอัครทูตสวรรค์ได้มีเพียงแค่Night of Meteor
นอกเหนือจากนี้เขาก็ไ ม่มีทางอื่นแล้ว ไม่ว่า จะเป็น ปรมจารย์ดาบ
Electromaster Lv5 ต่างก็ไร้ผลเมื่อต้องมาเจอกับคู่ต่อสู้ที่เลเวลมากกว่าเขา
เกือบจะเท่าตัวแบบนี้! ขืนใช้ไปก็มีแต่ลนหาที่ตายเท่านั้น!
แค่หลบการโจมตีก็ทำเขาหืดขึ้นคอแล้ว ไม่ต้องสงสัยถึงพลังของอีกฝ่ายเลย ขนาด
การโจมตีด้วยรูปแบบง่ายๆแบบนี้ยังมีพลังได้ถึงขนาดนี้ ถ้าเธอใช้บทเวทย์ชั้นสูง
หรือเวทย์เฉพาะของทูตสววรค์เขาไม่ตายเลยเหรอ?………
อีกด้านนึง โลลิน้อยที่มีพลังไม่สมกับตัวก็ดูเหมือนคิดจะจบการต่อสู้นี่แล้ว
เหมือนกัน นัยน์ตาเธอส่องสว่างจากนั้นก็มีทอร์นาโดน้ำจำนวนมากเกิดขึ้นเหนือ
ทะเลก่อนที่พวกมันจะตรงดิ่งมาหาวู่หยานราวกับมังกรน้ำ!
ด้วยระยะห่างเพียงสิบกว่าเมตร ด้วยพลังของทั้งสองฝ่ายจึงแทบจะพริบตาเดียวก็
สามารถย่นระยะห่างนี้ได้แล้ว ดังนั้นพริบตาต่อมามังกรน้ำจำนวนมาก็ได้แหวก
ว่ายมากถึงเบื้องหน้าวู่หยาน!
เผชิญหน้ากับการโจมตีอันทรงพลัง วู่หยานไม่กล้าที่จะรับไว้ ร่างกายปรากฏ
กระแสไฟฟ้าแล่นไปมา จากนั้นตัววู่หยานก็หลบไปอีกทางด้วยทรายเหล็ก
ขณะที่วู่หยานหลบไป ทอร์นาโดน้ำก็ได้เปลี่ยนกลายเป็นแท่งน้ำแข็งยักษ์แล้ววาด
ผ่านจุดที่เขาอยู่เมื่อกี้ก่อนที่จะหักหลบพุ่งไปทางวู่หยาน!
วู่หยานหน้าเปลี่ยนสีอีกครั้งและอีกครั้ง เดิมทีความเร็วของทอร์นาโดก็ไม่ธรรมดา
อยู่แล้วพอกลายมาเป็นน้ำแข็งความเร็วยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก พวกมันมุ่งมาหาเขา
อย่างรวดเร็วถึงขนาดได้ยินเสียงปริแตกของชั้นบรรยากาศ! (@เดาว่าเร็วเหนือ
เสียง)
วู่หยานกัดฟันแน่น แล้วพูดขอโทษร่างกายโชคุโฮในใจ จากนั้นยก Night of
Meteorขึ้นมาราวกับคิดจะแลกเลือดตัวเองด้วยเลือดอีกฝ่าย! (ประมาณตัวเอง
เจ็บอีกฝ่ายก็ต้องเจ็บด้วย)
ทว่าวินาทีนี่เองก็มีลำแสงดาบพุ่งขึ้นมาจากข้างล่างเข้ามาฟาดฟันแท่งน้ำแขงยักษ์
ผลคือน้ำแข็งแตกเป็นเสี่ยงๆ……….