ตอนที่ 400

The Divine Nine Dragon Cauldron

นอกปราสาท กลุ่มแขกเข้ามาดู แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในปราสาท พวกเขาก็ได้ยินเสียงที่ดังออกมา

 

“ดูเหมือนว่าคนตระกูลกุยจะไร้สามัญสำนักเพราะผลจากสายโลหิต ตอนนี้พวกเราได้เห็นกับตาแล้ว มันเป็นเช่นนั้นจริง!”

 

หลงเฟยหยูเลียริมฝีปาก ในแววตาเขานั้นแปลกไป ว่ากันว่าภรรยาของยี่เหยานั้นงดงามอย่างเป็นที่สุด แต่ก็ถูกคนตระกูลกุยเข้าฉวยโอกาส!

 

******

 

เมื่อผลของยาพิษสลายไป ใบหน้าซือหยูคล้ำลง โอสถได้ทำให้โลหิตของเขาเดือดพล่านและอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ราวกับว่าเขาเพิ่งตื่นจากความฝัน เขาไม่เชื่อว่าตัวเองทำอะไรลงไป

 

เขาได้ทำความผิดพลาดอันโง่เขลา และเป็นกับผู้หญิงชั่วร้ายอย่างเฟิงเซี่ยน!

 

แม้เฟิงเซี่ยนจะเป็นผู้หญิงชั่วร้ายที่สุดที่ซือหยูเคยรู้จัก แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่นางสมควรจะถูกกระทำ เฟิงเซี่ยนมีจิตใจชั่วร้ายและความผิดพลาดของนางทำให้คนอื่นมาชิงครั้งแรกของนางไป ซือหยูขยะแขยงกับการกระทำของตัวเอง แต่เขาก็ไม่ใช่ตัวเองในตอนที่กระทำลงไป

 

ซือหยูหลับตาถอนหายใจยาว เขาจะลงโทษเฟิงเซี่ยนในตอนนี้รึ? ซือหยูคิดอยู่นางและมองเฟิงเซี่ยนที่ตัวสั่น นางหลับตา ร่างกายนางยังคงมีร่องรอยในการกระทำ มีจิตสังหารในดวงตาซือหยู แต่มันก็หายไปพร้อมกับการถอนหายใจ

 

“นับแต่นี้ไป จงอย่าทำเรื่องชั่วร้ายอีก…”

 

“ถ้าเจ้าสังหารคนบริสุทธิ์อีก ข้าจะตามมาฆ่าเจ้าด้วยตัวเองไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหน! ผู้หญิงของข้า…ไม่มีใครที่เป็นคนชั่วร้าย!”

 

นี่คือการออมชอมเดียวที่ซือหยูทำได้!

 

เฟิงเซี่ยนไม่ขยับตัว นางใจเต้นไม่เป็นจังหวั นางใจเย็นลงเมื่อรู้ว่านางรอดไปได้ นางรักษาตัวให้บริสุทธิ์มาตลอดยี่สิบปี ทั้งหมดก็เพื่อดึงดูดผู้สูงส่งและเพิ่มอำนาจของตัวเอง แต่ตอนนี้ทุกสิ่งได้จากไปแล้ว

 

เฟิงเซี่ยนราวกับสูญเสียทุกอย่างไป นางเคยคิดว่าตัวเองคือสตรีลำดับหนึ่ง นางเคยคิดว่านางจะได้ยืนเหนือทุกคน อนาคตอันตระการตาของนางถูกทำลายลงไป ร่างกายของนางคือสิ่งล้ำค่าที่สุด

 

เมื่อได้ยินว่าซือหยูไว้ชีวิต นางก็หัวเราะอย่างน่าเวทนา

 

“ผู้หญิงของเจ้า…”

 

นางกลายเป็นผู้หญิงของหยินหยู! ความลักลั่นนี้ทำให้นางรู้สึกขมขื่นยิ่งกว่าเดิม แต่นางก็มิอาจเกลียดแค้นเขาได้ นางได้วางอุบายในเรื่องนี้เพื่อที่จะได้เป็นสะใภ้ตระกูลยี่ ท้ายสุดนางก็ทำให้ตัวเองต้องเสียหาย

 

ซือหยูแต่งกายช้าๆ เขามองนางอย่างลึกซึ้ง

 

“ชีวิตผู้คนมิยืนยาว ใช้พลังของเจ้าเองคว้าจุดสูงสุดจะไม่ดีกว่ารึ? เจ้าหมายมั่นจะทำลายคนอื่น เจ้าอาจจะไปถึงจุดสูงสุดได้ แต่เจ้าก็ต้องเสียชีวิตของตัวเองไปเช่นกัน”

 

นางได้ยินเรื่องเช่นนี้หลายต่อหลายครั้ง แต่ตอนนี้นางตกต่ำที่สุดในชีวิต คำพูดแบบเดียวกันทำให้นางได้เรียนรู้สิ่งใหม่ นางคิดถึงคนที่นางเคยทำลายมาตลอดเพราะอุบายของนาง นางได้ชินชากับการสังหารผู้คนแต่ก็เรียกตัวเองว่าสตรีผู้สูงศักดิ์ เมื่อใดกันที่นางได้มีความสุขอย่างแท้จริง?

 

ความเหนื่อยล้ากัดกินดวงวิญญาณ นางคิดถึงอดีตและตระหนักว่าตลอดชีวิตของนางนั้นคือการฟันฝ่าไม่รู้จบ นางกลายเป็นสตรีลำดับหนึ่ง ได้รับความสนใจจากทุกคน นางได้รับความหลงใหลจากบุรุษนับล้าน นางอยู่บนจุดสูงสุดไปแล้ว แต่เมื่อใดกัน…เมื่อใดกันที่นางเคยพอใจหรือสบายใจกับเรื่องนี้?

 

ความปรารถนาในชีวิตผู้คนนั้นดั่งหลุมลึกไม่รู้จบที่ไม่มีวันเติมเต็ม เมื่อนางเข้าสู่คณะวิหคเพลิง นางหวังจะปกครองทั้งคณะวิหคเพลิง เมื่อนางได้ปกครองคณะวิหคเพลิง นางก็อยากจะได้นามของตัวเองแผ่ไปทั่วทวีป และต่อมา…หลังจากที่นามของนางเป็นที่รู้จักจากทั้งทวีป…ต่อมานางปรารถนาสิ่งใดกัน?

 

หลังจากคิดอยู่นาน ประตูบานใหญ่ดูเหมือนจะเปิดให้กับจิตใจอันโศกเศร้าของนาง ซือหยูห่มกายของนางเบาๆก่อนจะจากไป เขาทำเพียงนาทีเดียวแต่นั่นก็ทำให้ดวงตาของเฟิงเซี่ยนเต็มไปด้วยอารมณ์ น้ำตาเอ่อล้นจากดวงตาคู่นั้น

 

“ข้าพาม่ออู๋หนีไป…”

 

“เจ้าไม่ต้องห่วง”

 

เฟิงเซี่ยนพูดก่อนที่ซือหยูจะจากไป

 

“ขอบคุณ…”

 

เขาพูดเบาๆโดยหันหลังให้ประตู

 

ผู้คนสีหน้าเปลี่ยนไปเมื่อเห็นซือหยูปรากฏตัว ซือหยูไม่สนใจคนเหล่านั้นและบินขึ้นฟ้า เขาใช้เนตรวิญญาณมองทุกอย่างในระยะสามหมื่นลี้ เขาพบคนคนหนึ่งที่กำลังหนีไปยังทิศทางของหอสดับหิมะ

 

ฟึ่บ–

 

ซือหยูราวกับสายลม เขาไล่ล่าคนที่หนีไป

 

******

 

หลายวันต่อมา

 

ผู้คุมสวรรค์ตระกูลยี่ที่มุ่งหน้าไปยังหอสดับหิมะถูกสังหารด้วยศรวิญญาณ คนที่ต่อสู้ข้างเขาถูกสังหารตายหมด!

 

หลายวันต่อมา

 

หิมะทมิฬร่วงโรยสู่คณะวิหคเพลิง มันตกไปทั่วในระยะสามพันลี้ คนที่มีสายสัมพันธ์กับตระกูลยี่ถูกสังหารจนหมด!

 

หลายวันต่อมา

 

แม่น้ำโลหิตทอดยาวหลายหมื่นลี้ ตระกูลมากมายในร้อยตระกูลถูกกำจัด

 

หิมะทมิฬร่วงโรยสามวันเต็มตั้งแต่ทวีปเหนือไปถึงหอสดับหิมะจนถึงคณะวิหคเพลิงที่อยู่กลางทวีป ไปจนถึงร้อยดินแดน ซือหยูได้สังหารผู้คนตลอดทาง ใครที่เกี่ยวข้องกับยี่เหยาล้วนถูกฆ่าอย่างไร้ปรานี!

 

ขุมกำลังทั้งหมดที่ใกล้ชิดกับพันธมิตรอุดรทวีปถูกฆ่าล้างสังหาร! โลหิตแผ่ขยายไปล้านลี้ ทั้งภูเขาสายธาร หิมะทมิฬได้ปกคลุมทั้งทวีปเหนือราวกับเทือกเขาทมิฬที่อยู่เหนือทุ่งหิมะอู่หลง

 

ไม่มีใครรู้ว่าซือหยูสังหารคนไปมากเท่าใด พวกเขารู้แต่เพียงว่าผู้คุมสวรรค์แทบทั้งหมดในทวีปเหนือแทบจะหมดไป ทุกคนรู้ว่าเป็นฝีมือของบุรุษ…เพียงคนเดียว…ที่อาบทวีปเหนือด้วยโลหิต เขานำพาโลหิตไปในทุกที่ที่ผ่าน แต่สิ่งที่ร่วงโรยลงมากลับเป็นหิมะทมิฬ ทุกคนในพันธมิตรอุดร่ทวีปนอกจากเก้าศักดิ์สิทธิ์ถูกสังหารสิ้น เหลือเพียงนามที่ยังคงอยู่ เดือนนี้ถูกเรียกว่า “รัตติกาลแห่งทวีปเหนือ”!

 

เหล่าผู้คุมสวรรค์ตกตาย โลหิตหลั่งริน พันธมิตรอุดรทวีปที่เพิ่งจะรวมตัวได้ถูกทำลายในข้ามคืนหลงเหลือแต่เพียงร่องรอยในบันทึกประวัติศาสตร์ แต่บุรุษผมสีโลหิต หน้ากากสีทองแดง และชุดขาว…บุรุษผู้นี้ได้กลายเป็นผู้ที่มิอาจถูกลืมเลือน เขาคือตำนานที่น่ากลัวไม่ต่างกับปีศาจ

 

เขาไม่มีนามใดทิ้งเอาไว้ แต่ก็มีฉายาอย่างไร้ข้อกังขาที่ถูกตั้ง ราชาปีศาจหิมะทมิฬ!

 

บุรุษผู้นี้ใช้ธนูเขียนระยะหลายหมื่นลี้ด้วยโลหิต เขาคร่าชีวิตผู้คนไปนับไม่ถ้วน เขาเป็นตัวแทนแห่งความตาย การทำลายล้าง และความหวาดกลัว

 

******

 

วันหนึ่ง ที่ขอบชายมหาสมุทรกว้างใหญ่

 

ยี่เหยาที่ถูกไล่ล่ามาตลอดล้านลี้คุกเข่าลงบนเกาะ

 

เขาไร้กระจิตกระใจ แววตาว่างเปล่า พันธมิตรอุดรทวีปถูกทำลาย และตระกูลยี่ถูกฆ่าล้างตระกูล เหตุเดียวที่ซือหยูไม่ฆ่าเขาด้วยก็เพราะเขาอยากจะแยกยี่เหยาออกจากข้อมูลเพื่อหาคนตระกูลยี่ที่ยังหลงเหลืออยู่

 

สุดท้าย ยี่เหยาหยุดในตอนที่เหลือพลังเฮือกสุดท้าย เขาเลิกคิดที่จะหนี

 

“ราชาปีศาจหิมะทมิฬ!”

 

เขาตะโกน

 

“เจ้าข่มขื่นภรรยาข้า ฆ่าล้างตระกูลข้า ฆ่าคนของข้า ยี่เหยาผู้นี้จะไม่มีวันอภัยให้เจ้า แม้ข้าจะต้องตกตาย!”

 

ซือหยูสีหน้าเย็นชา เขาขยับธนูสีเงินในมือ เขาง้างคันธนูสังหารยี่เหยาในพริบตา

 

“ช่างเจ้าเถอะ…”

 

นับแต่วันนี้ไป ตระกูลยี่ถูกกำจัด ขุมกำลังในทวีปเหนือทั้งหมดถูกกำจัด เขาล้างแค้นให้กับจ้าววิหคเพลิงและล้างแค้นให้ตัวเอง!

 

เหลือแต่เพียงความแค้นของหลิงเสี่ยวเทียน! เฉินยิ่งกับไป่ลั่ว…เขาต้องชำระบาปนี้ด้วยโลหิตของพวกมัน!

 

แต่ก่อนที่เขาจะไปล้างแค้นที่อาณาจักรทมิฬ เขาต้องหาทางสำเร็จพลังเพื่อกลายเป็นผู้คุมสวรรค์เสียก่อน