บทที่ 207 อีกหนึ่งคำเชิญ

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา

ณ ช่วงต้นเดือนแรกของปี เดือนแห่งการเริ่มต้น ขณะที่อากาศหนาวยังคงปกคลุมเมืองอัลลิน ป่าเขาลำเนาไพรรอบสำนักดักลาสยังดูเป็นสีเขียวสด

ตรงหน้าประตูเหล็กสีดำทรงโบราณ วูดส์ถามอยากถามยามรักษาการณ์อย่างกระตือรือร้น “ข้าชื่อวูดส์ มาจากวารสารอาร์คานาสามัญ ข้าเป็นสหายของอาจารย์ใหญ่ที่นี่ ข้ากำลังตามหาตัว ลูเซียน อีวานส์”

“ที่นี่เรามีท่านลูเซียน อีวานส์ สองคน แต่ทั้งสองคนไม่ได้อยู่ในสำนักตอนนี้” ยามรักษาการณ์โกเลมเหล็กตอบด้วยน้ำเสียงท่าทางเหมือนเครื่องจักร “ทั้งสองเดินทางไปนครเรนทาโตด้วยกัน”

“ไปตั้งแต่เมื่อไร แล้วเมื่อไรจะกลับมา? ข้าหมายถึง… ข้ากำลังตามหาลูเซียน อีวานส์ เอ็กซ์  เมื่อไรเขาจะกลับมา?” วูดส์อธิบายอย่างเร่งรีบ “พวกเขาไปเมืองเรนทาโตทำไม?”

“พวกเขาเพิ่งออกไปได้ประมาณหนึ่งชั่วโมง” โกเลมเหล็กตอบ “ไม่ได้แจ้งไว้ว่าจะกลับเมื่อใด”

เมื่อได้ฟังคำตอบของผู้ของยามรักษาการณ์ วูดส์กดหมวกสีดำของเขาลงเล็กน้อยอย่างรำคาญ เมื่อรู้ว่าลูเซียนออกเดินทางไปนครเรนทาโตแล้วตอนนี้ ในฐานะเมืองหลวงของอาณาจักรโฮล์ม นครเรนทาโตเป็นเมืองใหญ่ที่แสนวุ่นวาย ซึ่งหมายความว่าเวทมนตร์ของเขาอาจไม่สามารถช่วยในการตามหาตัวลูเซียนซึ่งเขามีข้อมูลเพียงจำกัด

“ถ้าอีวานส์ เอ็กซ์ กลับมา ช่วยบอกเขาด้วยว่าวารสารอาร์คานาสามัญต้องการตีพิมพ์บทความวิจัยของเขาในฉบับเดือนนี้ เราจะตั้งตารอคำตอบของเขาอย่างใจจดใจจ่อ ถ้าเขาไม่รังเกียจ เราอยากชวนเขามายังสำนักงานใหญ่ของเราอีกครั้ง” เมื่อลมเย็นพัดผ่าน ขณะวูดส์กำลังกล่าว ลมหายใจของเขากลายเป็นไอสีขาวในอากาศ

หลังจากนั้น เขากลับไปยังรถม้าและเดินทางจาก

นครเรนทาโต ณ ทั้งสองของร้านอาหารที่ชื่อ ‘โอ๊ก’

ในห้องรับรองพิเศษ ลูเซียนมองผ่านหน้าต่างออกไปยังค่ำคืนอันสวยงามและเกล็ดหิมะตกมาจำนวนนับไม่ถ้วนจากฟากฟ้า เขาจ้องมองดูคนเดินผ่านไปผ่านมาท่ามกลางหิมะ บางคนกำลังรีบ บางคนเดินอ้อยอิ่งเคียงคู่กันไป ขณะที่บางคนพยายามไล่จับเกล็ดหิมะ ส่วนอีกหลายคนก้มลงกับพื้นปั้นหุ่นปั้นหิมะเป็นลูก…

อิกน่า จอมเวทระดับสี่ นักเวทสายธาตุระดับห้า ผู้มีรูปร่างสูงผอม กำลังนั่งอยู่ตรงข้ามเขา เขามีโครงหน้าที่ได้สัดส่วนและมีผมสีขาวอยู่เหนือหูทั้งสองข้างเพียงไม่กี่เส้น

หากเคไม่ได้บอกลูเซียนไว้ก่อน ลูเซียนคงคิดว่าอิกน่าคงอายุเราราวๆ ห้าสิบ อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้ว อิกน่าอายุเกินกว่าร้อยปีแล้ว

สมัยที่อิกน่าหน้าอายุเจ็ดสิบปี เขาใช้เงินเก็บทั้งหมดไปกับการประกอบพิธีธรรมเวทมนตร์อันแสนจะสิ้นเปลืองและยืดอายุขัยมาได้ถึงเพียงนี้ ดูเหมือนชีวิตของเขาจะไปได้ด้วยดี แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วเขาติดอยู่ในระดับกลางมาเป็นเวลาหกสิบปีแล้ว

“ชนแก้ว สำหรับมื้อค่ำสุดแสนพิเศษ” อิกน่ายกแก้วขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาจ้องมองลูเซียน ก่อนจะหันไปมองเค

หลังจากจัดการเครื่องดื่มหมดแก้ว เคขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ถนัดกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

หลังจากเคลุกไป อิกน่ามองลูเซียนแล้วพูดว่า “อีวานส์ ข้าได้อ่านบทความของเจ้าก่อนมื้อค่ำ ข้าขอบอกว่าบทความของเจ้ามีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน แต่แน่นอนมันเป็นบทความที่ชาญฉลาดมาก น่าเสียดาย วารสารเวทธาตุฉบับเดือนนี้ไม่สามารถรับบทความเพิ่มได้แล้วนอกจากบทความจากการประชุม”

ก่อนที่ลูเซียนจะทันได้ตอบ อิกน่าเขย่าแก้วแล้วพูดต่อว่า “อย่างไรก็ตาม เพราะเคจะได้เป็นศิษย์ของท่านแลร์รี่เร็วๆ นี้ และเพราะท่านแลร์รี่กับข้าเป็นสหายที่ดีต่อกัน ข้าต้องทำอะไรเพื่อเจ้าสักอย่าง พ่อหนุ่ม ข้าวางแผนจะเสนอต่อท่านราวา บรรณาธิการบริหารของวารสารเวทธาตุ เพื่อทำให้วารสารฉบับเดือนนี้เป็นฉบับพิเศษ ฉะนั้น เราจะสามารถรับบทความจากที่อื่นได้ แต่ข้าก็ไม่มั่นใจเช่นกันว่าเขาจะรับฟังข้าหรือไม่ เห็นๆ กันอยู่ ว่ามันไม่ง่ายเลย”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น  ลูเซียนก็กลับมามีความหวังอีกครั้ง แต่เขารู้สึกว่าอิกน่าพยายามจะบอกอะไรบางอย่างกับเขา

ตามที่เขาคาด อิกน่ามองออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะถอนหายใจ “การเป็นหนุ่มช่างเป็นเรื่องดีเหลือเกิน โดยเฉพาะในสายตาของคนเฒ่าคนแก่ ข้าเหลือความหวังเพียงน้อยนิดในการยกระดับตัวเองให้สามารถเขียนบทความเสนอแนวคิดใหม่ๆ แต่พิธีกรรมทรงอานุภาพจากโบราณยังคงสามารถช่วยข้าได้ แต่พวกวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในพิธีกรรมพวกนี้แพงเหลือเกิน”

เขาหยุดคิด แต่เริ่มจิบไวน์โดยมีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้า

ลูเซียนเข้าใจว่าเขาต้องใช้จ่ายกับสิ่งที่เขาต้องการ ดังนั้นจึงตอบออกไปอย่างระมัดระวัง “บางครั้งการได้คะแนนอาร์คานาก็ไม่ใช่เรื่องยากมากเกินไป และบางครั้งเราแค่ต้องการความโชคดี… จริงๆ แล้วข้าได้มาสองสามคะแนนจากบทความล่าสุด”

อิกน่าชำเลืองมองลูเซียนนอย่างพึงพอใจ “ช่างเป็นคนหนุ่มนิสัยดีเสียเหลือเกิน ข้าคงตามเจ้าไม่ทัน… ข้ายังต้องดิ้นรนเก็บคะแนนอาร์คานาเพิ่มอีกสามร้อยคะแนนเพื่อซื้อ ‘หินมงกุฎ’

“ข้าขอถามตรงๆ… ” ลูเซียนพูดและพยายามไม่รังเกียจสิ่งที่ตัวเองกำลังพูดออกไป “ท่านจะยินดีรับคะแนนของข้าหรือไม่ขอรับ ท่านอิกน่า? ข้าไม่อยากเห็นนักเวทผู้ยิ่งใหญ่ต้องมารำคาญใจเพราะเรื่องเงินเรื่องทอง จนไม่อาจพัฒนาต่อไปได้”

ลูเซียนรู้ว่าการได้ตีพิมพ์บทความใน ‘วารสารเวทธาตุ’ จะทำให้เขามีโอกาสมากขึ้นในการตีพิมพ์บทความในวารสารอาร์คานา

“หวังว่าเราสองคนจะประสบความสำเร็จ” อิกน่าบรรจงยกแก้วขึ้นอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้ม

เคดีใจที่ได้เห็นอิกน่ากับลูเซียนสนทนากันถูกคอ เมื่อเขากลับมา

บางทีอาจเป็นเพราะอิกน่าทำงานของเขาได้ดี หรืออาจเป็นเพราะวารสารเวทธาตุกำลังเตรียมฉบับพิเศษ เมื่อลูเซียนและเคกำลังออกจากโรงแรมในวันรุ่งขึ้น ลูเซียนได้รับจดหมายจากวารสารเวทธาตุ แจ้งเขาว่าบทความของเขาได้รับการอนุมัติให้ตีพิมพ์

“ขอบใจเจ้ามาก เค ถ้าเจ้าไม่ช่วย คงไม่มีวันที่ข้าจะได้ตีพิมพ์ผลงาน” ลูเซียนกล่าวขอบคุณเคด้วยความจริงใจ ณ ชานชาลารถไฟเวทมนตร์

เคเกาศีรษะอย่างเขินๆ “บทความของเจ้ามีคุณค่าอยู่แล้ว”

เขาไม่สามารถแสดงความเห็นได้เฉพาะเจาะจงมากไปกว่านี้ เพราะเขาไม่เคยอ่านบทความของใครก่อนได้รับการตีพิมพ์มาก่อน

‘ใช่สิ… สามร้อยคะแนนเชียวนะ…’ ลูเซียนคิดกับตัวเอง แต่ตราบใดที่บทความของเขาสามารถเข้าถึงจอมเวทคนอื่นๆ ได้โดยเร็วที่สุด ลูเซียนคิดว่าแค่นั้นก็คุ้มค่าแล้ว

“เจ้าไม่กลับไปพร้อมข้าหรือ?” ลูเซียนถาม ขณะที่เขากำลังกลับไปที่สำนักดักกลาสเพื่อทำการทดลองต่อไป

เคส่ายศีรษะ ท่าทางเศร้าสร้อย “ข้าออกจากสำนักแล้ว อันที่จริง ตั้งแต่ก่อนข้าได้เป็นศิษย์ของท่านแลร์รี่เสียอีก ข้าต้องกลับไปที่แกรนลิน จัดการธุระบางอย่าง ที่บ้านเกิด”

แกรนลิน เป็นหนึ่งในมณฑลที่อยู่ห่างไกลที่สุดในแปดมณฑลของโฮล์ม

“ข้าเข้าใจ ข้าหวังว่าเราจะได้พบกันอีกไม่ช้าในเร็วๆ นี้” ลูเซียนพยักหน้า “เจ้าต้องการให้ช่วยอะไรไหม ตอนข้ากลับไปถึง?”

เคส่ายหน้า “ไม่ใช่เรื่องอะไรใหญ่โต”

“เอาเถอะ… ถ้าเจ้าต้องการความช่วยเหลือ เค ส่งจดหมายมาหาข้าล่ะกัน” ลูเซียนเอ่ย รถไฟกำลังมา ลูเซียนโบกมือลาเขา

ก่อนเคจะขึ้นรถไฟไป ลูเซียนพูดกับเขาอย่างกำกวมว่า “ถ้าเจ้ามีเวลา… เจ้าอาจจะอยากลองวัดน้ำหนักธาตุดูอีกครั้ง…”

เคค่อนข้างสับสน แต่เขาก็พยักหน้าก่อนจะจากไป

ณ สำนักงานใหญ่วารสารอาร์คานาสามัญ

“น่าเสียดายจริงๆ…” วูดส์พึมพำอย่างผิดหวัง “วารสารเวทธาตุได้บทความไปเสียอย่างนั้น โธ่เอ๊ย…”

ตอนนี้ ลูเซียนยืนอยู่ต่อหน้าเขาในห้องทำงาน เมื่อรู้ว่าวูดส์ลงทุนไปหาเขาถึงสำนัก ลูเซียนก็ต้องกลับมาแสดงความขอบคุณ “ข้าขออภัย ท่านวูดส์ ถ้ารู้ก่อน ข้าจะไม่ไปที่นครเรนทาโต”

เขาไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่เขาจะสามารถประหยัดคะแนนได้ถึงสามร้อยคะแนน

“ไม่เป็นไร ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะเลือกวารสารเวทธาตุเช่นกัน สำหรับบทความของเจ้า วารสารเวทธาตุเป็นรองเพียงวารสารอาร์คานาสามัญ” วูดส์พูดอย่างใจกว้าง “แม้ว่าวารสารอาร์คานาสามัญจะเจริญก้าวหน้าอย่างยิ่งในช่วงสิบปีที่ผ่านมา แต่เรายังไม่ใกล้เคียงกับวารสารเวทธาตุในสาขาวิชานี้”

ลูเซียนพยักหน้าเบาๆ หากเป็นเรื่องส่วนใหญ่แล้ว เขาจะเลือกวารสารอาร์คานาสามัญ เพราะความชื่นชมของวูดส์ที่มีต่อเขา แต่ครั้งนี้ มันแตกต่างกัน

“หวังว่าข้าจะได้มีโอกาสร่วมงานกับอาร์คานาสามัญอีกนะขอรับ” ลูเซียนกล่าว

“ยินดี” วูดส์ตอบรับอย่างสุภาพ “อย่างไรก็ตาม อีวานส์ ข้ายังอยากตีพิมพ์บทความของข้าเกี่ยวกับน้ำหนักอะตอมที่ถูกต้องของธาตุในอาร์คานาสามัญฉบับนี้อยู่ดี และแน่นอน ข้าจะอ้างอิงบทความของเจ้า… เจ้าจะว่าอะไรไหม?”

“ไม่ แน่นอนขอรับ” ลูเซียนยิ้ม “เป็นเกียรติอย่างยิ่ง”

หลังจากกลับมายังสำนัก ลูเซียนเขียนจดหมายถึงร็อค เจอโรม และลาซาร์ อธิบายให้ทุกคนรู้ว่าอาจมีการวัดน้ำหนักธาตุผิดที่เกิดขึ้น

ลูเซียนบอกทุกคนไม่ใช่เพราะต้องการให้สหายของเขาได้รับผลงานไปด้วย แต่เพราะหวังว่าเหล่าสหายจะช่วยกันสนับสนุนบทความของเขา เพราะฉะนั้นลูเซียนถึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้บทความของตัวเองได้รับการตีพิมพ์เป็นอย่างแรก

ช่วงเย็นวันศุกร์ ลูเซียนกลับมาที่พัก หลังจากการทดลองล้มเหลวหลายครั้งในความพยายามหาธาตุชนิดใหม่จากสายแร่ต่างๆ

เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไป ลูเซียนเห็นจดหมายวางอยู่บนพื้น

‘ใครเขียนถึงฉันกันนี่’ ลูเซียนตรวจสอบจดหมายอย่างระมัดระวังและเปิดออกด้วยความสงสัย

“ถึง ลูเซียน อีวานส์”

“ในฐานะนักเวทชั้นต้น ความทุ่มเทของท่านต่อสาขาเวทธาตุช่างน่าประทับใจยิ่งนัก ฉะนั้น เราประสงค์จะเชิญท่านเข้าร่วมการประชุมเวทธาตุและการเล่นแร่แปรธาตุประจำปี ณ สวนกุหลาบ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบสวอนอันงดงาม เวลา 9.00 น. เช้าวันเสาร์  27 มกราคม

“กลุ่มเจตจำนงแห่งธาตุ และสถาบันเวทมนตร์ราชสำนักโฮล์ม”

และจดหมายส่งมาตั้งแต่สามวันที่แล้ว

ลูเซียนประหลาดใจมาก เขาสงสัยเหลือเกินว่าบทความของเขาได้รับความสนใจจากกลุ่มนี้ได้อย่างไร

…………………………………