ขณะที่วีนาเริ่มด่าเขาอีกครั้ง เขาก็กดตัดสาย
ไม่คิดเลยว่าเธอจะวิ่งไปหาคุณท่านเพื่อโวยวาย เมื่อเทาเท่พิจารณาถึงสุขภาพของคุณท่านแล้ว เทาเท่จึงทำได้เพียงรีบไปเก็บกวาดจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
เทาเท่รีบไปบ้านของคุณท่าน ยังไม่ทันเปิดประตูก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของวีนา
“คุณพ่อคะ ครั้งนี้คุณพ่อจะต้องตัดสินใจให้ฉันนะคะ”
“หลายปีมานี้ฉันเสียสละให้ตระกูลฟอเรนาของพวกคุณมามากพอแล้ว ตอนที่ไกอานอกใจฉันก็ไม่ได้หย่า ยังคงยืนกรานที่จะเลี้ยงเด็กทั้งสองคนจนโตเป็นผู้ใหญ่ให้พวกคุณ ถึงฉันจะไม่มีคุณงามความดีแต่ฉันก็ทำงานอย่างหนักจริงไหมคะ?”
“สามีมีก็เหมือนไม่มี ลูกชายฉันก็ยุ่งทั้งวัน หลายปีมานี้ก็เท่ากับฉันกับพินอินก็ต่างพึ่งพากันเพื่อความอยู่รอด พินอินคือชีวิตของฉันนะคะ”
“ตอนนี้เกิดเรื่องกับพินอิน ถ้าคุณพ่อจะให้ฉันมองดูเธอติดคุกเฉยๆ? งั้นสู้ให้ฉันตายเสียดีกว่า!”
คำพูดของวีนายิ่งตีโพยตีพายขึ้นเรื่อยๆอย่างคุมไม่อยู่ คุณท่านนั่งอยู่บนโซฟา ขณะที่วีนานั่งลงตรงพื้นข้างๆร้องไห้จนแทบจะขาดใจ
คุณท่านจนปัญญากับเธอ เพราะบางคำพูดของวีนามันแทงใจของคุณท่าน
อย่างเช่นไกอาลูกชายที่ไม่เอาไหนของเขาที่ตอนนั้นสร้างปัญหาใหญ่โต หลายปีที่ผ่านมาหนีไปไกลแสนไกลและยังละเลยครอบครัว จริงๆวีนาเป็นคนประคองครอบครัวนี้ไว้ ทำให้ครอบครัวนี้มีหน้ามีตา
จริงอย่างที่วีนากล่าวไว้ หากหลายปีมานี้ไม่มีลูกสาวอย่างพินอินอยู่เคียงข้าง วีนาก็ยังไม่รู้ว่าเธอจะทะเลาะกับไกอารุนแรงแค่ไหน
คุณท่านถอนหายใจด้วยความทุกข์ใจ บางทีสภาพแวดล้อมของครอบครัวนี้อาจพิการตั้งแต่แรก ดังนั้นถึงทำให้พินอินโดนตามใจจนนิสัยเสีย
บางทีควรจะให้ไกอาและวีนาหย่ากันตั้งแต่แรก แทนที่จะฝืนคงสถานะแต่งงานอย่างไม่เต็มใจเพื่อรักษาหน้าของตระกูลฟอเรนาไว้
เทาเท่ผลักประตูเข้าไป วีนาที่นั่งอยู่บนพื้นเห็นเขา ก็คว้ากาน้ำชาที่วางอยู่ข้างๆของคุณท่านที่ใช้ดื่มชาโยนใส่เขาอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับตะโกนว่า “เทาเท่! แกต้องการบีบแม่แกให้ตายใช่ไหม!”
การกระทำของวีนานั้นเร็วมากจนเทาเท่ไม่สามารถหลบได้ทัน กาน้ำชาทุบใส่หน้าผากเขาอย่างจัง เลือดสีแดงสดก็ไหลออกมาทันที
เขาเคยถูกคุณท่านโยนกาน้ำชาถ้วยชาใส่มาหลายปี แต่เขากลับไม่เคยเจ็บตัวเลยสักครั้ง เหตุผลก็คือคุณท่านตัดใจทำร้ายเขาไม่ลง แต่คราวนี้วีนาลงมืออย่างโหดเหี้ยม
คุณท่านตื่นตระหนก รีบเรียกพ่อบ้าน “พ่อบ้าน รีบไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาห้ามเลือด!”
วีนาก็ตกตะลึงเช่นกัน เธอไม่คิดว่าจะทำร้ายเทาเท่จนบาดเจ็บแบบนี้ เธอแค่ต้องการระบายความโกรธเท่านั้น…
จึงรีบวิ่งเข้าไปขอโทษเทาเท่ด้วยความตื่นตระหนก “เทาเท่ แม่ไม่ได้ตั้งใจ แม่ไม่ได้ตั้งใจ…”
เทาเท่เอาผ้าก๊อซที่พ่อบ้านส่งให้มาห่อหน้าผาก เม้มปากไม่พูดอะไร
คุณท่านตำหนิวีนาด้วยความโกรธจัด “ในสายตาเธอมีพินอินเป็นลูกสาวคนเดียวรึไง? เมื่อไรเธอหันมามองเทาเท่ดีๆบ้าง?”
“เธอเอาแต่บ่นว่าเขาไม่ปกป้องพินอิน แต่เธอไม่ดูบ้างล่ะว่าพินอินทำอะไรลงไป?”
“คนที่พินอินทำร้ายคือหลินจือ เธอเคยพิจารณาจุดยืนของเทาเท่ไหม?”
คุณท่านมองเห็นความรู้สึกที่เทาเท่มีให้หลินจือออกแต่แรกแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถเข้าใจจุดยืนของเทาเท่ในตอนนี้ได้
ถ้าเทาเท่พยายามปกป้องพินอินอย่างเต็มที่ งั้นเขากับหลินจือคงจะโกรธแค้นกัน นี่มันเป็นเรื่องที่เทาเท่จะต้องเจ็บปวดใจแค่ไหน?
ไม่ได้ปกป้องพินอิน ตอนนี้วีนาก็มาโวยวายที่นี่ไม่หยุด
“ตั้งแต่ที่หลินจือแต่งงานกับเทาเท่กันมาสามปี ถ้าเธอกับพินอินดีกับหลินจือบ้าง ถ้าหากไม่เอาแต่ทำให้หลินจือต้องขายหน้าทั้งวัน ไม่แน่ว่าบางทีหลินจือกับเทาเท่อาจเดินมาไม่ถึงขั้นต้องหย่าร้างกัน!”
คำพูดเหล่านี้คุณท่านอยากจะพูดกับวีนาพินอินสองคนแม่ลูกมาตลอด
ในบรรดาคนในตระกูลฟอเรนาทั้งหมด มีเขาคนเดียวที่สนับสนุนหลินจือมาตลอด แต่กำลังของเขาอ่อนแอเกินไป จึงทำให้หลินจือท้อแท้ ในที่สุดก็เลือกที่จะหย่า
เมื่อเจอกับคำตำหนิของคุณท่าน วีนาจึงโต้กลับ “เขายืนอยู่จุดยืนไหนกัน?”
“เขาไม่ชอบหลินจืออยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ในเมื่อไม่ชอบหลินจือ งั้นเขาก็ต้องปกป้องพินอิน พินอินเป็นน้องสาวของเขานะ!”
วีนาไม่รู้ความรู้สึกของเทาเท่ที่มีต่อหลินจือมันเปลี่ยนไปแล้ว หรือก็พูดได้ว่าเธอรู้ แต่เธอปฏิเสธที่จะยอมรับมัน
เทาเท่มองวีนาแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่ว่าวันนี้พินอินจะทำร้ายใคร ผมก็จะไม่ปกป้องพินอิน”
เขาเข้าใจความรู้สึกของวีนาที่ต้องการปกป้องพินอินในฐานะแม่ แต่สิ่งที่วีนาไม่มองให้ชัดก็คือ สิ่งที่พินอินทำนั้นผิดกฎหมาย
ไม่ว่าวันนี้เป้าหมายของพินอินจะเป็นหลินจือหรือผู้หญิงคนอื่นที่เขาไม่รู้จัก พินอินก็ควรรับผลราคาที่ต้องจ่ายสำหรับการกระทำของตัวเอง
“แม่ครับ ผมไม่ได้เจตนาจะพูดให้ตกใจ แต่ถ้าไม่ให้บทเรียนพินอินในครั้งนี้ ในอนาคตเธออาจจะทำเรื่องที่ใหญ่กว่าเดิมให้แม่ได้” เทาเท่กล่าวเสริมอีกว่า “พอถึงตอนนั้นหากมันกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้วจริงๆ ก็อาจไม่ใช่เรื่องที่แม่กับผมสามารถปกป้องได้แล้ว”
“ผมบอกไปแล้วว่าทุกสิ่งที่ผมทำก็เพื่อประโยชน์ของพินอินเอง รวมถึงการให้เธอไปต่างประเทศด้วย” หลังจากที่เทาเท่ทิ้งท้ายประโยคให้วีนา เขาก็เดินตามพ่อบ้านไปทำความสะอาดแผลที่ด้านข้าง
วีนายืนอึ้งอยู่ตรงนั้น คุณท่านก็พูดอย่างโกรธเคืองว่า “ทุกอย่างที่เทาเท่พูดมานั้นมีเหตุผล พินอินถูกเธอตามใจจนเสียคนแล้ว”
“ตามใจตัวเองบ้างก็ไม่เป็นไร แต่ต้องมีขอบเขต” หลังจากคุณท่านพูดจบก็เดินออกไป เขาเดินไปดูเทาเท่จัดการกับบาดแผลอย่างปวดใจ
ตอนนี้ความหมายของเทาเท่กับคุณท่านคือไม่ปกป้องพินอิน วีนาทั้งสิ้นหวังและผิดหวัง
หลังจากได้สติวีนาชี้เทาเท่และคุณท่านที่กำลังจัดการบาดแผลอย่างสั่นเทา “ดี! ดี! พวกคุณไม่สนใจเธอ ไปสนใจความเป็นความตายของพวกเราสองคนแม่ลูก อย่ามาเสียใจทีหลังละกัน!”
พูดจบเธอก็หันหลังวิ่งออกไป
คุณท่านโกรธกับทัศนคติที่บิดเบี้ยวของวีนา จึงอดไม่ได้ที่จะพูดกับเทาเท่ว่า “จนตอนนี้แม่ของแกยังมองไม่ออก พินอินจำเป็นต้องได้รับการสั่งสอนดีๆจริงๆ”
เทาเท่เม้มปากไม่พูดอะไร
เป็นอย่างที่คุณท่านพูด พอเกิดเรื่องกับพินอิน วีนาไม่คิดจะหาสาเหตุของพินอินเลย แต่กลับผลักความรับผิดชอบให้คนอื่นแทน ตอนนี้ยังเกลียดเขาจนไม่สนใจไยดีแล้ว”
คุณท่านถอนหายใจ “นิสัยแบบนี้ของแม่แก ก็ไม่น่าแปลกใจที่พ่อแกต้องการจะหย่ากับเธอลูกเดียว”
“สองคนนี้ไม่สามารถสื่อสารกันได้เลย แม่แกอารมณ์ร้อน ทั้งเสียงดังทั้งโวยวาย” ในฐานะคนนอกอย่างคุณท่านที่เห็นอะไรหลายๆเรื่องได้อย่างชัดเจน “ช่วงแรกๆตอนแต่งงานกัน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีมากๆ ไม่อย่างนั้นคงจะไม่มีลูกสองคนอย่างแกกับพินอินหรอก แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าๆ นิสัยของทั้งสองคนก็มักเข้ากันไม่ได้ พ่อของแกก็เหนื่อยแล้ว”
“แน่นอนว่าพ่อแกก็ไม่ใช่คนดีเช่นกัน เหนื่อยแล้วก็พูดออกมาให้ชัดเจน แค่เสนอให้แยกทางกันก็จบ แต่กลับทำตัวไม่ได้เรื่องด้วยการไปหาผู้หญิงข้างนอก!” คุณท่านไม่ได้โทษวีนาทั้งหมด ลูกชายของเขาก็เป็นผู้ชายเหี้ยๆ
เทาเท่กล่าวว่า “ตามนิสัยของแม่ผมแล้ว ถ้าพ่อผมพูดถึงการหย่าจริงๆ แม่ก็คงจะโวยวายจนเป็นเรื่องใหญ่เหมือนเดิม”
“ก็ใช่” คุณท่านนอกจากจะถอนหายใจก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ
คนแก่อย่างเขายังต้องมากังวลครอบครัวของลูกๆหลานๆ ชีวิตของเขาไม่ค่อยดีนัก