บทที่ 495 พลังงานจำกัด?
บทที่ 495 พลังงานจำกัด?
เมื่อเซียวเฟิงออกจากเมืองจักรวรรดิ เขาก็พบว่าฟอรั่มนั้นบ้าคลั่งไปแล้ว ความนิยมของการผ่านดันเจี้ยนเลเวล 45 ครั้งแรกของกลุ่มบุกดันเจี้ยนยังไม่ลดลง และข่าวใหญ่ครั้งใหม่ก็ทำให้เกิดความรู้สึกในฟอรั่มเขตฮัวเซียอีกครั้ง
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในกิลด์ชั้นนำ เจ้าผู้ครองเขตใต้อย่างกิลด์มิดซัมเมอร์ได้ประกาศสงครามกับตำหนักกุหลาบ!
พูดถึงตำหนักกุหลาบแห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นการรวมตัวของดาราที่มีชื่อเสียงสูงในเขตฮัวเซีย ไม่เพียงแต่สมาชิกของกิลด์จะประกอบด้วยผู้เล่นหญิงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสาวงามที่มีชื่อเสียงอีกครึ่งหนึ่งในรายชื่อเทพธิดาประจำเขตฮัวเซียด้วย…
ระหว่างสงครามชิงอำนาจในเขตฮัวเซีย ครั้งหนึ่งพวกเธอเคยก้าวไปสู่กิลด์สิบอันดับแรก ถึงแม้ว่านั่นเป็นเพียงเพราะกิลด์ใหญ่อื่น ๆ เสียศูนย์และล้มลงภายในสองสามวัน
อย่างไรก็ตาม มันก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ชื่อเสียงของตำหนักกุหลาบ แม้ว่าจะไม่น่าแปลกใจที่มันทรงพลัง แต่ก็เป็นที่จดจำของทั้งเขตฮัวเซีย ไม่ต้องพูดถึงว่าในฐานะกิลด์สาวงาม ย่อมไม่มีปัญหาการขาดแคลนผู้ดูแลสาวงามอยู่แล้ว ดังนั้นแม้ว่าความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของตัวเองจะปานกลาง แต่ก็ไม่มีใคร กล้าหาเรื่องง่าย ๆ
อย่างไรก็ตาม กิลด์มิดซัมเมอร์ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขตใต้ ประกาศสงครามกับตำหนักกุหลาบ! เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างคลื่นลูกใหญ่ในเขตฮัวเซีย และแตกตื่นได้ไม่น้อยไปกว่าความสำเร็จของดันเจี้ยนเลเวล 45
แม้ว่าอิทธิพลของตำหนักกุหลาบจะไม่ธรรมดา แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะให้กิลด์ยักษ์ใหญ่อย่างกิลด์ระดับเจ้าผู้ครองไว้หน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิลด์ที่มีชื่อเสียงอย่างกิลด์มิดซัมเมอร์
ผู้เล่นเขตฮัวเซียเกือบทั้งหมดเชื่อว่าภัยพิบัติกำลังจะมาถึงตำหนักกุหลาบแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงออกเดินทางเพื่อไปชมการแสดงในขณะที่คาดเดาเหตุผลว่าทำไมทั้งสองฝ่ายถึงก่อสงครามกัน
เซียวเฟิงก็ไม่มีข้อยกเว้น นอกจากนี้เขาก็ไม่คิดว่าตำหนักกุหลาบจะเป็นคู่ต่อสู้ของกิลด์มิดซัมเมอร์ได้ ดังนั้นจึงไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนัก แต่ยังคงทำภารกิจของตัวเองต่อไป…
อย่างไรก็ตามหลิวเฉียงเหว่ยและซือเยี่ยจิ๋งไม่ได้ออฟไลน์จนถึงเวลาอาหารเย็น หลังจากตรวจสอบสถานการณ์แล้ว ก็พบว่าสงครามกิลด์ยังคงดำเนินต่อไป และเซียวเฟิงก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ เพราะไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่ได้ออฟไลน์ แต่จืออี้ก็ยังอยู่ในเกมด้วย
“มีอะไรผิดปกติกับพวกเขา?”
เซียวเฟิงมองไปยังโต๊ะที่ว่างเปล่าและถามเฉียนโตวโตวที่อยู่ข้าง ๆ
แม้ว่าหลิวเฉียงเหว่ยและจืออี้จะนอนอยู่บนเตียงของเขา แต่นี่ก็เป็นเวลาอาหารเย็น และเซียวเฟิงที่กลัวว่าเซียวหลิงจะบุกเข้ามา ก็ไม่กล้าที่จะอยู่ในห้อง ดังนั้นจึงไม่มีโอกาสถามและลงไปชั้นล่างก่อน แต่มื้อเย็นจบลงแล้วก็ยังไม่เห็นพวกเขาเลย ซึ่งทำให้เซียวเฟิงรู้สึกแปลก
“กิลด์มิดซัมเมอร์กำลังต่อสู้กับตำหนักกุหลาบ และมันก็ยังไม่จบ” เฉียนโตวโตวพูดอย่างคลุมเครือขณะกัดอะไรบางอย่าง
“ตั้งแต่บ่ายโมงเนี่ยนะ ทำไมการต่อสู้ยังไม่จบ? ตำหนักกุหลาบแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?” เซียวเฟิงสงสัย
ในตอนบ่ายเขาได้ทำภารกิจขั้น 3 ไปแล้วสองรอบ แน่นอนว่าเขาเลือกเข้าร่วมวิหารแห่งแสง
กองทัพที่สามและกองทัพที่สี่ของจักรวรรดิร่วมกันบุกจู่โจมป้อมปราการแห่งความมืดและประสบความสูญเสียอย่างหนัก เซียวเฟิงแอบฆ่ารองผู้บัญชาการกองทัพและเสร็จสิ้นภารกิจแรก แต่เขาก็ยังถูกลงโทษโดยระบบ ถึงแม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่มีนัยสำคัญก็ตาม เป็นบทลงโทษเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างหนึ่งคือภารกิจขั้น 3 ที่จักรวรรดิออกให้เขาจะล้มเหลว และอีกอย่างคือความชื่นชอบของ NPC ฝ่ายจักรวรรดิที่มีต่อเขาจะไม่เพิ่มขึ้น
จากนั้นเซียวเฟิงก็กลับไปที่เมืองศักดิ์สิทธิ์ รายงานภารกิจแรก และรับภารกิจที่สอง คราวนี้เป็นการจัดการสายลับที่อาณาจักรเอลฟ์วางไว้ใกล้กับวิหารแห่งแสง
เป็นผลให้ภารกิจทั้งสองเสร็จสิ้นและช่วงบ่ายก็ผ่านไป แต่สงครามกิลด์ของหลิวเฉียงเหว่ยยังไม่จบ เป็นไปได้หรือว่าตำหนักกุหลาบนั้นจัดการยากกว่าที่เขาคาดไว้?
“ไม่ใช่ว่าตำหนักกุหลาบแข็งแกร่งมากหรอก แต่ผู้พิทักษ์ของตำหนักกุหลาบนั้นแข็งแกร่งเกินไป ทันทีที่พี่หลิวประกาศสงคราม มันก็เหมือนกับการแหย่รังแตน กิลด์อย่างน้อยยี่สิบกิลด์กระโดดออกมายืนข้างตำหนักกุหลาบและรวมพลังต่อกรกับมิดซัมเมอร์” เฉียนโตวโตวพูดอย่างหมดหนทาง แต่น้ำเสียงของเธอผ่อนคลายมาก เห็นได้ชัดว่าไม่มีแรงกดดันมากนัก
“แค่ยี่สิบ? มันยากมากเหรอ?” เซียวเฟิงรู้สึกประหลาดใจ
“กิลด์เหล่านั้นก็เป็นแค่กิลด์ธรรมดาก็น่าจะไม่เท่าไหร่ สุดท้ายแล้วระดับปัจจุบันของมิดซัมเมอร์ไม่ใช่เล่น ๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเข้าแทรกแซงของกิลด์สงครามเพื่อโลก” เฉียนโตวโตวส่ายหัว
“โห?” เซียวเฟิงเริ่มสนใจ
“ตำหนักกุหลาบเดิมอยู่ทางทิศตะวันออกและมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีกับกิลด์สงครามเพื่อโลก ทางทิศตะวันออกเป็นที่ตั้งของกิลด์สงครามเพื่อโลก และการไปทางทิศตะวันออกเพื่อทำสงครามของมิดซัมเมอร์เป็นการข้ามพรมแดน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่กิลด์ทั่วไปและกิลด์สงครามเพื่อโลกจะเพิกเฉย” เฉียนโตวโตวอธิบาย
“พูดอีกอย่างก็คือ มันเป็นเรื่องใหญ่” เซียวเฟิงพยักหน้า
“ไม่ได้วุ่นวายขนาดนั้น พวกเขาไม่ได้ประกาศสงครามกับกิลด์มิดซัมเมอร์ หรือแม้แต่แทรกแซงโดยตรง แค่ระดมกิลด์ขนาดใหญ่และเล็กจากทางตะวันออกมาเพื่อช่วยป้องกันตำหนักกุหลาบ ไม่เช่นนั้นอิทธิพลของตำหนักกุหลาบคงจะไม่ยิ่งใหญ่นัก กิลด์มิดซัมเมอร์ยังได้เปรียบมากอยู่” เฉียนโตวโตวส่ายหัว
“มันจะใช้เวลานานเท่าไหร่?” เซียวเฟิงถาม
“ถ้าไม่ต้องต่อสู้กับกิลด์สงครามเพื่อโลก อย่างมากที่สุดก็จะจบตอนกลางดึก หากไม่มีอำนาจระดับเจ้าผู้ครองที่แท้จริงเข้ามาแทรกแซง จำนวนกิลด์เหล่านั้นก็มีแต่ต้องกระจายตัวกัน แม้ว่าจะต่อสู้กันในที่ต่าง ๆ พวกเขาจะไม่สามารถทำกิลด์มิดซัมเมอร์เสียเวลาได้ แต่…”
เฉียนโตวโตววางภาชนะบนโต๊ะอาหารลงและลังเล
“แต่อะไร?” เซียวเฟิงถามต่อ
“แต่มันจะเป็นปัญหามากหากกิลด์สงครามเพื่อโลกโจมตีในช่วงเวลาวิกฤต แม้ว่าพี่หลิวจะเตรียมผู้ช่วยอย่างเช่นกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์ และกิลด์หลายแห่งที่พร้อมจะต่อสู้ทุกเวลา และในที่สุด เราจะชนะได้แต่ความสูญเสียของเราเองก็จะไม่ใช่น้อย ๆ” เฉียนโตวโตวกล่าว
“ตำหนักกุหลาบช่างเป็นปัญหาจริง ๆ” เซียวเฟิงขมวดคิ้ว
“พูดตรง ๆ ก็เพราะการแทรกแซงจากมหาอำนาจระดับเดียวกันอย่างกิลด์สงครามเพื่อโลก ไม่งั้นก็อาจจะจบไปนานแล้ว ฉันคาดว่ากิลด์สงครามเพื่อโลกวางแผนสร้างชื่อเสียง และต้องการประกาศความยิ่งใหญ่ของเขตตะวันออกให้ทั้งเขตฮัวเซียรับรู้ ดังนั้นฉันคิดว่าพวกเขาต้องลงมือในตอนท้ายแน่ ๆ” เฉียนโตวโตวกล่าว
เซียวเฟิงพยักหน้า และในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมหลิวเฉียงเหว่ยถามเขาก่อนหน้านี้ หญิงสาวคงเดาสถานการณ์นี้ไว้แล้ว
“ช่างเถอะ เดี๋ยวฉันจะไป เดี๋ยว…เซียวหลิง…เธอไปเถอะ”
เซียวเฟิงกล่าวหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่อเขากำลังจะไปด้วยตัวเอง ก็เห็นเซียวหลิงที่กำลังแอบฟังอยู่ข้าง ๆ เขา ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนใจ “พาเสี่ยวไป๋ไป”
“จริงเหรอ? ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ในเมื่อคนใช้ขอร้องท่านเซียวหลิง ท่านเซียวหลิงก็จะฝืนใจช่วยคนใช้สักครั้งก็ได้”
เซียวหลิงหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัดด้วยความตื่นเต้นและการหายใจของเธอเร็วขึ้น แต่เธอก็ยังแสร้งทำเป็นไม่เต็มใจ
เซียวเฟิงรู้สึกว่าเซียวหลิงเหมือนถูกทอดทิ้งเล็กน้อยในช่วงสองวันที่ผ่านมา ดังนั้นจึงปล่อยให้เธอได้อวดฝีมือ หลังจากตกลงเรื่องสถานที่นัดพบแล้ว เขาก็กลับไปที่ห้องและออนไลน์
ด้วยความตื่นเต้นของเซียวหลิง เธอจะไม่สามารถมาหาเซียวเฟิงในตอนกลางคืนได้แน่นอน และพวกเขาก็มาพบกันในเมืองแห่งความโศกเศร้าในไม่ช้า
“เสี่ยวไป๋อยู่ไหน?” ทันทีที่เธอเห็นเซียวเฟิงมา เซียวหลิงก็ถามอย่างใจร้อนและยื่นมือเล็ก ๆ ของเธอไปทางเซียวเฟิง
“อย่าใจร้อนนักสิ” เซียวเฟิงเตือนเธอก่อนที่จะเปิดมิติสัตว์เลี้ยงเพื่อเรียกเสี่ยวไป๋และมอบให้เซียวหลิง
เมื่อเห็นโลลิคุณภาพสูงสองคน ผมบลอนด์หนึ่งคนและผมเงินหนึ่งคน จับมือเดินเข้าจุดเทเลพอร์ต เซียวเฟิงก็ส่ายหัวและส่งข้อความไปยังซือเยี่ยจิ๋งเพื่อให้เธอจับตาดูก่อนที่จะไปทำภารกิจขั้น 3 ต่อไป…
ฐานกิลด์ของตำหนักกุหลาบตั้งอยู่ในแผนที่ที่เรียกว่าหุบเขาดอกท้อ มันยังไม่พัฒนาไปถึงระดับเมืองหลัก เป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ
สภาพแวดล้อมของหุบเขาดอกท้อนั้นสวยงามมาก เป็นแผนที่ประเภทที่ไม่มีทรัพยากร ไม่มีจุดเก็บเลเวล ไม่มีดันเจี้ยนใกล้เคียง มันเป็นจุดชมวิวล้วน ๆ แต่เป็นที่รักของผู้เล่นหญิง
น่าเสียดายที่หุบเขาดอกท้อในขณะนี้ไม่มีความสวยงามเลย และมันได้ถูกทำลายไปแล้วโดยสนามรบที่วุ่นวาย
“หลิวเฉียงเหว่ย นังร่านนี่! หล่อนกล้าที่จะสู้จริง ๆ! กิลด์มิดซัมเมอร์เป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายหรือไง? การทำสงครามกับเรามีประโยชน์อะไร! ไม่คิดถึงความสูญเสียบ้างเหรอ?”
ที่ห้องโถงของตำหนักกุหลาบ ฮัวหม่านเซียนเปิดแชตส่วนตัว เลื่อนดูข้อความด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว กิลด์สนับสนุนของเธอพ่ายแพ้ต่อกิลด์มิดซัมเมอร์อย่างไม่มีข้อยกเว้น
กิลด์ธรรมดาจะสามารถต่อกรกับกิลด์ระดับเจ้าผู้ครองได้อย่างไร ยังไม่นับว่านี่คือมิดซัมเมอร์ ผู้ทรงอิทธิพลทางใต้ที่มีประสบการณ์การต่อสู้มากที่สุด และมีชื่อเสียงโด่งดัง
“อย่ากังวลไป มิดซัมเมอร์จะไม่นิ่งนอนใจได้นาน พวกเขาจะแพ้ในศึกครั้งนี้”
ชายวัยกลางคนผู้สงบนิ่งนั่งที่หัวโต๊ะห้องโถงของตำหนักกุหลาบโดยไร้ซึ่งความว่อกแว่ก
และชายผู้นี้ที่สามารถนั่งบนตำแหน่งสูงสุดของห้องโถงในกิลด์หญิงล้วนอย่างตำหนักกุหลาบ ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหยู่หลง หัวหน้ากิลด์สงครามเพื่อโลก
เป็นเพราะคำสั่งของเขา กิลด์ที่สนับสนุนตำหนักกุหลาบถึงเข้าพลีชีพกับมิดซัมเมอร์
“หืม มันก็จริงนะที่นังสุนัขตัวเมียนั่นต้องทนทรมานตั้งแต่กล้าที่จะยั่วโมโหฉันแล้ว แต่นายแน่ใจนะ?” ฮัวหม่านเซียนเดินไปข้างหลังหยู่หลง ยื่นมือไปบีบไหล่ของเขาแล้วถาม
“ถ้าฉันทำสงครามกับกิลด์มิดซัมเมอร์ ฉันก็ไม่มีความมั่นใจเลยจริง ๆ ถึงอย่างไรก็พวกเขาก็ยังมีเจ้าแห่งฮีลเลอร์คอยขัดขวาง แต่มันง่ายมากสำหรับฉันที่จะปกป้องตำหนักกุหลาบของเธอไว้และปล่อยให้การโจมตีของกิลด์มิดซัมเมอร์ล้มเหลว” หยู่หลงยิ้ม ยื่นมือออกไปกดมือของฮัวหม่านเซียนบนไหล่ของเขาและตบเบา ๆ
“สมเป็นว่าที่ชายที่รวยที่สุดคนต่อไปในจีน ฉันรู้ว่านายจะไม่ทำให้ใครผิดหวัง” ฮัวหม่านเซียนยิ้มอย่างอ่อนโยน จูบใบหน้าของหยู่หลงอย่างแผ่วเบา และถามอย่างอธิบายไม่ถูกว่า “แต่สำหรับนาย เจ้าแห่งฮีลเลอร์เป็นอุปสรรค์ที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ เหรอ?”
“ไม่ใช่แค่สำหรับฉัน แต่สำหรับกิลด์ใหญ่ทั้งหมด สกิลระดับตำนานเป็นอุปสรรคทุกกิลด์ เพราะมันสามารถทำลายฐานกิลด์ได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่จะหาวิธีจัดการกับมันได้ กิลด์ใด ๆ ก็ต้องยอมรับอุปสรรค์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยิ่งกิลด์ใหญ่ การอัปเกรดระดับของกิลด์ก็ยิ่งแพง และไม่มีใครสามารถยอมเสียมันไปได้ แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเวลาคูลดาวน์ของสกิลระดับตำนานมันยาวนานมากแต่ก็ไม่มีใครกล้าเสี่ยง” หยู่หลงพูดเบา ๆ
“เจ้าแห่งฮีลเลอร์น่ากลัวมากเหรอ?” ฮัวหม่านเซียนแสดงสีหน้าตกใจ
“เธอที่เป็นผู้เล่นสายบันเทิงไม่รู้จักความน่าสยดสยองของเขา ยิ่งเธอไปไกลในโลกเกมนี้เท่าไหร่เธอก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงน้ำหนักของพลังการต่อสู้อันดับหนึ่ง มันแทบจะกล่าวว่าในตอนนี้เจ้าแห่งฮีลเลอร์คือพระเจ้าของโลกเกม เว้นแต่จะมีผู้เล่นระดับเทพคนใหม่ปรากฏขึ้นในอนาคต หรือหาวิธีจัดการกับเจ้าแห่งฮีลเลอร์ได้ เจ้าแห่งฮีลเลอร์จะเป็นอุปสรรค์ที่คงอยู่ถาวร” หยู่หลงพูดด้วยเสียงตามปกติ
“แล้วในเมื่อเจ้าแห่งฮีลเลอร์น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้ เราจะต่อกรกับมิดซัมเมอร์แบบนี้ได้เหรอ?”ฮัวหม่านเซียนถามทันที
“ฉันเลยไม่ได้ออกไปตรง ๆ ไงล่ะ เพราะกลัวจะก่อความแค้นกับกิลด์มิดซัมเมอร์มากไป ต่อให้ฉันจะช่วยเธอปกป้องฐานในนาทีสุดท้ายก็ยังไม่ถือว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจของมิดซัมเมอร์ ในสถานการณ์เช่นนี้ กิลด์มิดซัมเมอร์ก็ไม่ได้โง่ เป็นไปไม่ได้สำหรับฉันที่จะต่อสู้ด้วยเหตุนี้ การต่อสู้ระหว่างเจ้าผู้ครองไม่สามารถวัดได้ด้วยการสูญเสียผลกำไร ยิ่งไปกว่านั้นความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างเจ้าแห่งฮีลเลอร์กับมิดซัมเมอร์คืออะไร? ผู้คนรู้ดีว่าทุกอย่างเป็นเพียงคำบอกเล่า…ใช่ไหม?”
หยู่หลงมีรอยยิ้มที่มั่นใจและลึกลับบนใบหน้าของเขา เพราะเขารู้บางเรื่องที่คนธรรมดาไม่รู้ เช่น เจ้าแห่งฮีลเลอร์มีคนรักในความเป็นจริง และเป็นอันดับหนึ่งในรายชื่อเทพธิดาและจืออี้
แม้ว่าการจัดอันดับของจืออี้จะตามหลังโรสอยู่สองอันดับ แต่สิ่งล่อใจสำหรับผู้ชายนั้นเหนือยิ่งกว่า ไม่คิดว่าเจ้าแห่งฮีลเลอร์จะสับสนกับโรส หลังจากที่ตะลึงกับความยอดเยี่ยมนั้น
ท้ายที่สุดแล้ว พลังงานของมนุษย์ก็มีจำกัด ใช่ไหม?