บทที่ 245 บทสรุป และคำแนะนำของสึจิมิคาโดะล่ะ

Shoujo Grand Summoning ไปจีบสาวที่โลกอนิเมะกันเถอะ!

บทที่ 245 บทสรุป! และคำแนะนำของสึจิมิคาโดะล่ะ!
ภาพที่ทั้งสองเห็นก็คือ มหาวงเวทย์ชินริคค่อยๆจางหายไปจากบนฟ้า พร้อมกัน
นั้นท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เกิดจากเวทมนตร์ก็ได้หายไปคืนกลับมาเป็นท้องฟ้าสีส้ม
ยามเย็นตามเดิม………
ส่วนทางกาเบรียลเองก็เริ่มหวนกลับคืนสู่สวรรค์ ปีกของเธอได้แตกสลาย
กลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง จากนั้นตัวเธอก็ค่อยๆหายไปตามวงเวทย์…….
จนกระทั่ง…….เธอหายไปทั้งหมด……..
วู่หยานกับคันซากิ ที่คนนึงลอยอยู่บนฟ้ากับอีกคนบนพื้นมองกาเบรียลหายไปต่าง
ก็ถอนหายใจโล่งอกพร้อมกัน
วินาทีต่อจากนั้น ตัวของวู่หยานกับคันซากิก็เรืองแสงขึ้น เมื่อแสงหายไปทั้งสอง
คนก็กลับคือสู่รูปลักษณ์เดิมของตัวเอง……..
คันซากิมองร่างกายตัวเองด้วยความดีใจ ดูเหมือนเธอจะมีความสุขมากที่ได้ร่าง
เดิมกลับมา นี่ทำให้วู่หยานที่มองอยู่ต้องยกนิ้วเกาแก้มแกรกๆ
ดูเหมือนผลกระทบของ แองเจิลฟอล จะทำให้เธอกลายเป็น สเตล ไปยังงั้นสินะ?
ตัวเองกลายเป็นลุงไปแบบนี้ก็ไม่แปลกที่พอได้ร่างคืนจะมีความสุข เรื่องปกติ อืมๆ
แต่ในสายตาเขา คันซากิไม่ได้เปลี่ยนไปเลย เธอก็ยังเป็นเธอในร่างตัวเอง
เหมือนเดิม ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รู้สึกอะไร
แน่นอนสำหรับวู่หยาน คันซากิไม่ได้มีอะไรเปลี่ยน แต่กับคันซากิการเปลี่ยนนี่
นับว่ายิ่งใหญ่มาก!
สาวน้อยที่งดงามอย่างถึงที่สุดกลับเปลี่ยนกลายเป็นผู้ชาย นี่ยังไม่เรียกว่าใหญ่อีก
เหรอ?
คันซากิมองสำรวจรูปลักษณ์ของวู่หยานบนฟ้าอย่างจริงจัง ราวกับว่าจะ
บันทึกภาพของเขาไว้ในใจให้ได้ยังไงยังงั้น!
คันซากิครุ่นคิดชั่วครู่ แล้วก้าวเดินไปด้านหน้าสามสี่ก้าว แล้วตะโกนใส่วู่หยาน
“ขอบคุณที่ช่วยนะคะ!”
ได้ยินเสียง วู่หยานก็พยักหน้าให้เล็กน้อย จากนั้นหมุนตัวบินจากไปโดยไม่พูด
อะไรแม้แต่คำเดียว……..
“เดียวก่อน!…” คันซากิยื่นมืออกไปด้านหน้า ราวกับคิดจะจับตัววู่หยานไว้ แต่
ทว่าด้วยเวลาไม่นานร่างของวู่หยานก็ได้ไปไกลจนเห็นตัวเขาเป็นแค่จุดสีดำเล็กๆ
ไปแล้ว ก่อนที่จะหายไปตรงเส้นขอบฟ้ายามเย็น……..
มองดูจุดที่วู่หยานบินหายไป ในหัวคันซากิก็มีข้อสงสัยมากมาย แต่ในเมื่อเจ้าตัว
บินหายไปแล้วเธอก็ทำได้แค่ฝังกลบความสงสัยนี้ไป…………
“เฮ้ เน่จัง”
“คันซากิ!”
เสียงตะโกนสองเสียงได้ทำลายภาพสามงามที่กำลังมองไปยังเส้นขอบฟ้าลง
หลังจากวางเงาร่างของวู่หยานไว้ในเนื้อที่บางส่วนของหัวใจ เธอก็หันกลับมา
สึจิมิคาโดะมองท้องฟ้าตอนพลบค่ำ นัยน์ตาภายใต้แว่นกันแดดเป็นประกายวิบวับ
ไม่รู้ว่าเจ้าตัวคิดอะไรอยู่ เขาเปิดปากพูดกับคันซากิ “อัครทูสวรรค์กลับไปแล้ว?”
คันซากิพยักหน้า จากนั้นมองสองหนุ่มเบื้องหน้าด้วยความสงสัย “นี่พวกคุณทำ
สำเร็จกันเร็วขนาดนี้เลยเหรอคะ? หรือว่าสถานที่ประกอบพิธีกรรมมันอยู่ไม่
ไกล?…….”
ได้ยิน สึจิมิคาโดะกับโทวมะก็หันมามองหน้ากัน จากนั้นโทวมะก็เป็นฝ่ายพูด
ขึ้นมาว่า “ไม่นะ พวกเรายังไปไม่ถึงเลย จู่ๆวงเวทย์บนฟ้าก็หายไปเฉย!”
“ว่ายังไงนะคะ!” คันซากิไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน สึจิมิคาโดะแบมือออกมาแล้ว
พูดด้วยรอยยิ้ม “ก็อย่างที่ว่าแหละเนียะ!”
“ถ้างั้น…..ใครเป็นคนไปทำลายพิธีกรรมหยุดยั้ง แองเจิลฟอล ไว้ล่ะคะ?”คันซากิ
ขมวดคิ้วแน่น แล้วถามสึจิมิคาโดะกับโทวมะ
“ทางนี้เองก็อยากรู้เหมือนกันเนียะ……..” สึจิมิคาโดะ ยกมือดันกรอบแว่นขึ้น
แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ “รู้ถึง แองเจิลฟอล และยังค้นพบสถานที่ทำพิธีกรรม
ก่อนใครอีก ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่าใครกันที่มีความสามารถถึงขนาดนั้น……”
“เอาน่า ไม่ว่ายังไงสุดท้ายแล้วเรื่องมันก็จบลงด้วยดีก็ดีแล้วนี่!” โทวมะพูดออกมา
ด้วยความพอใจ ใกล้กันโทวยะเองก็พยักหน้ายิ้มๆเห็นด้วย
สองหน่อที่กำลังยิ้มแฉ่งอยู่ตอนนี้ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าบ้านตัวเองนั่นแหละที่เป็น
สถานที่ประกอบพิธีกรรม และตอนนี้บ้านหลังนั้นก็ได้โดนระเบิดหายไปหมดแล้ว
จะเหลือก็เพียงแต่…..ที่ดินโล่งๆผืนนึงเท่านั้น……. (@โดนเหล่าเมียๆของหยาน
มันบึ้มบ้านไปแล้ว(ฮา)สถานที่พิธีกรรมคือบ้านของพ่อโทวมะที่เพิ่งสร้างเสร็จ
ใหม่ๆเลย)
“โอ้ใช่ แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะเน่จัง…..” สึจิมิคาโดะถามขึ้นมา
คันซากิถอนหายใจ แล้วพูดอย่างจนปัญญาว่า “ไปแล้วค่ะ……”
“งั้นเหรอเนียะ…..” สึจิมิคาโดะยกมือจับคางตัวเอง ไม่นานนักก็พูดขึ้นมาว่า
“แล้วหน้าตาของอีกฝ่ายล่ะเนียะ เน่จังเห็นใช่มั้ย?”
คันซากิพยักหน้า แล้วอธิบายหน้าตารูปลักษณ์ของวู่หยานให้สึจิมิคาโดะฟัง เมื่อ
ได้ข้อมูลมาสึจิมิคาโดะก็หลับตาครุ่นคิดหาความทรงจำที่เกี่ยวข้อง…….
ทันใดนั้น ในหัวของสึจิมิคาโดะก็มีภาพคนๆนึงปรากฏขึ้น ทำเขาสะดุ้งเล็กน้อย
“เน่จัง แน่ใจนะว่าอีกฝ่ายมีผมสีดำนัยน์ตาสีแดงน่ะ?”
มองดูสึจิมิคาโดะที่ดูเหมือนจะนึกอะไรได้ เธอก็ถามไปว่า “คุณรู้จักเขา?”
สึจิมิคาโดะเผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา จากนั้นยักไหล่ “จะว่ารู้จักก็ไม่เชิงเพราะฉัน
เองก็เคยเจอเขาแค่ครั้งเดียว ถ้าเกิดเป็นเขาคนนั้นจริงๆกับที่ฉันคิดล่ะก็นะ……..”
ได้ยิน คันซากิก็จ้องสึจิมิคาโดะทันที ตัวตนของอีกฝ่ายที่ดูลึกลับไปหมด ทำให้คัน
ซากิไม่อาจข่มกลั้นความอยากรู้ในหัวใจตัวเองได้
“เขาเป็นใครกันคะ? ฉันเห็นเขาใช้พลังของฝั่งวิทยาศาสตร์ด้วย เขาเป็นคนของ
เมืองแห่งการศึกษาจริงงั้นเหรอคะ?”
สึจิมิคาโดะ ยกมือเกาแก้มแกรกๆ แล้วตอบอย่างไร้หนทาง “จริงๆแล้วฉันก็ไม่รู้
เหมือนกัน เขาปกปิดสถานนะจริงๆนะเนียะ ที่รู้ก็มีแค่ชื่อน่ะ เขาชื่อ วู่หยาน ตาม
ประวัติที่บันทึกในเมืองแห่งการศึกษา เขาเป็นเลเวลศูนย์……….”
“เลเวลศูนย์?” คันซากิส่ายหัวปฏิเสธอย่างไม่เสียเวลาคิด “เป็นไปไม่ได้คะ! เขา
แข็งแกร่งมากๆ เทียบกับสเตลแล้วเขายังเก่งกว่ามาก ฉันเห็นเขาใช้การโจมตี
สายฟ้าที่รุนแรงมากด้วย ไม่มีทางที่จะเป็นเลเวลศูนย์เด็ดขาด!”
“การโจมตีสายฟ้า?” ได้ยินข้อมูลให้ สึจิมิคาโดะก็พยักหน้าหงึกๆ “ถ้ายังงั้นอีก
ฝ่ายคงเป็นวู่หยานจริงๆนั่นแหละเนียะ……”
“เดียวนะเมื่อกี้นายไม่ได้เพิ่งพูดเหรอว่าเขาเป็นเลเวลศูนย์น่ะ?” ฟังมาถึงจุดนี้
โทวมะก็อดไม่ไหวอีกต่อไปจึงส่งเสียงถามออกมา อย่าบอกนะว่าคนคนนั้นก็เป็น
เลเวลศูนย์ที่มีพลังที่ยากจะอธิบายเหมือนกัน?
“จะว่ายังไงดีล่ะ ก็คลังข้อมูลของเมืองแห่งการศึกษามันบันทึกไว้อย่างงั้นนี่หว่า”
สึจิมิคาโดะ มองคันซากิ แล้วพูดด้วยน้ำเคร่งขรึม “ถึงแม้จะยังไม่ได้ข้อมูลที่เชื่อถือ
ได้มา แต่ถ้ามันไม่ผิดจากที่คาดไว้ล่ะก็ ผู้ชายคนนั้นน่าจะเป็นคนที่มีความสามารถ
เป็นศัตรูกับอเลสเตอร์และทั้งเมืองแห่งการศึกษาได้!”
คันซากิที่เตรียมใจไว้อยู่แล้วยังอดใจสั่นไม่ได้ เธอตกใจมาก “นะ…นี่…นี่มันเป็นไป
ไม่ได้หรอกใช่มั้ย? ถ้าสามารถเป็นศัตรูกับเมืองแห่งการศึกษาได้ งั้นเขาก็สามารถ
เป็นศัตรูกับทั้งNecessariusด้วยได้สิคะ?”
“เพราะงั้น ฉันถึงบอกไงว่าไม่แน่ใจ ผู้ชายคนนั้นมีปริศนาเยอะเกินไป ไม่สิต้องพูด
ว่า ลึกลับเกินไปแล้ว!”
สึจิมิคาโดะ เงยหน้าขึ้นราวกับนึกอะไรได้ “เอาแค่การที่เขาสามารถซ่อนความจริง
จากเมืองแห่งการศึกษาได้นานขนาดนี้ก็เรียกได้ว่าน่าเหลือเชื่อสุดๆแล้ว!”
“งั้นเหรอคะ?” คันซากิก้มหน้าลง แล้วพูดด้วยความกังวลนิดๆ “ถ้างั้นทางเมือง
แห่งการศึกษา กับคนลึกลับที่ชื่อวู่หยานนั้นก็จับมือเป็นพันธมิตรกันแล้ว? ถ้างั้น
พวกเรา……”
“เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงเลยเนียะ!” สึจิมิคาโดะโบกมือไปมาด้วยท่าทางไม่แคร์ “อย่าง
น้อยตอนนี้ทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่มีสัญญาณว่าจะร่วมมือกันเลยเนียะ เอาเป็นว่าเน่จัง
ช่วยแจ้งข่าวเรื่องนี้ให้อาร์คบิชอปด้วยนะเนียะ เดียวเธอก็รู้เองแหละว่าควรจะทำ
ยังไงต่อ…….”
คันซากิพยักหน้า จากนั้นหันกลับไปมองตรงเส้นขอบฟ้าอีกครั้งแล้วนึกถึงเงาร่างที่
บินหายไป
“วู่หยานสินะคะ? ฉันติดหนี้คุณหนึ่งครั้ง…….”