แดนนิรมิตเทพ บทที่ 488
นักเรียนของโรงเรียนตี้ยีแห่งอู่โจวมองเฉินโม่ด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ถ้าบอกว่าใครที่อยู่ที่นี่ตกใจมากที่สุด ก็คงจะเป็นนักเรียนเหล่านี้ โดยเฉพาะอานเข่อเยว่และคนอื่น ๆ ที่คุ้นเคยกับเฉินโม่
หากวันหนึ่งคนที่คุ้นเคยกลายเป็นผู้กอบกู้โลก อย่างเช่น สไปเดอร์แมน ซูเปอร์แมน อุลตร้าแมนเป็นต้น คนที่ตกใจและยอมรับไม่ได้มากที่สุด ก็คือคนที่คุ้นเคยกับเขามากที่สุด
หยางเชี่ยนเชี่ยนที่เป็นคนฟุ้งเฟ้อและเห็นแก่เงิน และเป็นคนที่ไม่ค่อยฉลาด ตอนนี้เธอไม่คำนึงถึงอะไร อุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น “เยี่ยมมาก ไม่นึกเลยว่าเฉินโม่จะแข็งแกร่งขนาดนี้ สามารถเอาชนะคนเลวคนนั้นและช่วยยานเอ๋อร์เอาไว้ได้!”
ไม่มีใครสนใจเธอ เจิ้งหยวนฮ่าวและจางเสี่ยนที่อยู่ด้านข้าง มองเฉินโม่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกใจและความสงสัย
“เฉินโม่กลายเป็นคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่?”
พวกเขาสองคนไม่เข้าใจ เดิมทีพวกเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่คุ้นเคยกัน แต่ตอนนี้พวกเขารู้สึกไม่คนแปลกหน้า กระทั่งราวกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนอย่างสิ้นเชิง
ขณะเดียวกัน ทั้งสองคนยังคงหวาดกลัวอยู่ เมื่อก่อนพวกเขามักจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับเฉินโม่ ตอนนี้คิดดูแล้วมันเป็นการรนหาความตาย!
เมื่อก่อนพวกเขามักคิดว่าเฉินโม่จองหอง แสดงท่าทีที่ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาอยู่เสมอ และทุกครั้งที่พวกเขาเห็นเฉินโม่ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย ตอนนี้พวกเขาถึงได้เข้าใจว่าเขาไม่ได้จองหอง แต่เขาอยู่คนละโลกกับพวกเขา คุณคิดว่าคนคนหนึ่งจะเป็นเพื่อนสนิทกับมดกลุ่มหนึ่งได้ไหม?
เมื่อสักครู่เฉินโม่บอกว่าตนเองเป็นเฉินไต้ซือ พวกเขาเลือกที่จะเพิกเฉย ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของเฉินโม่จะน่าตกตะลึง แต่พวกเขายังคงคิดว่าเฉินโม่ไม่ใช่เฉินไต้ซือ
เพราะเฉินโม่เด็กเกินไป ปกติคนที่ถูกเรียกว่าไต้ซือต้องมีอายุอย่างน้อยห้าสิบปีขึ้นไป ตามที่เคยเห็นมาก่อน
อานเข่อเยว่มองเฉินโม่ ดวงตาที่สวยงามของเธอมีความซับซ้อน ความตกใจ ความสงสัย ความเสียใจ ความไม่ยอม และสิ่งที่มีมากที่สุดคือความหดหู่!
ถึงแม้ว่าในใจของเธอจะไม่ยอมรับเฉินโม่มาโดยตลอด แต่ตอนนี้เธอต้องยอมรับว่าความแข็งแกร่งของเฉินโม่นั้นอยู่เหนือจินตนาการของเธอโดยสิ้นเชิง
“มิน่าตอนที่ฉันเตือนเขาว่าให้เลิกตามจีบยานเอ๋อร์ และบอกเขาว่ายานเอ๋อร์มีตระกูลมู่หรงสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง แต่เขายังคงแสดงท่าทางที่ไม่แยแส เขาบอกว่าฉันเป็นกบในกะลา เขามองกว้างกว่าสนใจแต่เรื่องจักรวาลและดวงดาว อยู่คนละโลกกับฉัน ถ้าฉันมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ ฉันก็จะไม่เห็นทุกสิ่งของโลกฆราวาสอยู่ในสายตาเช่นกัน และสิ่งเดียวที่สามารถทำให้ฉันแสวงหา คือความลึกลับของชีวิตกับจักรวาลและดวงดาวบนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาล”
“มันน่าขำที่ฉันหัวเราะเยาะว่าเขาไม่เจียมตัวและโอ้อวดเกินไป ตอนนี้ฉันถึงได้เข้าใจว่าฉันถึงจะเป็นคนน่าขำที่สุด เมื่อเทียบกับคนที่สามารถควบคุมความเป็นความตายของคนอื่นแล้ว สถานะของลูกชายรองนายกๆไม่มีค่าให้เอ่ยถึง!”
อานเข่อเยว่ยิ้มด้วยความขมขื่น รอยยิ้มเต็มไปด้วยความเสียใจและความไม่เต็มใจ คนที่สามารถควบคุมความเป็นความตายของคนอื่นได้ตามต้องการ เดิมทีเธอมีโอกาสคว้าเขาเอาไว้ได้ แต่เธอเป็นคนละทิ้งไปเอง
“ถ้าตอนนั้นฉันทำดีกับเขาให้มากกว่านี้ ถึงแม้ว่าจะทำแบบขอไปทีก็ตาม คงไม่ถึงกับเป็นเหมือนคนแปลกหน้าอย่างตอนนี้ ถ้าตอนนั้นฉันสามารถคว้าเขาเอาไว้ได้ ตอนนี้ บางทีฉันอาจจะมีพลังความแข็งแกร่งเหมือนเขา เพียงแค่คิดก็สามารถควบคุมความเป็นความตายของคนอื่นได้แล้ว และเพียงแค่พูดก็ทำให้คนมากมายหวาดกลัว!”
อานเข่อเยว่รู้สึกเสียใจ หงุดหงิด โกรธ และไม่เต็มใจ ทำให้ใบหน้าที่สวยงามของเธอบิดเบี้ยวเล็กน้อย แต่ทั้งหมดล้วนเกิดจากมือของเธอเอง เธอกับเฉินโม่เดินมาถึงจุดนี้ ซึ่งเธอเป็นคนเลือกเอง โทษคนอื่นไม่ได้