ตอนที่ 150

The Strongest Hokage

ภายใต้การควบคุม คาถาสายฟ้า ของ ไนโตะ ร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในตอนแรก ไนโตะ สามารถควบคุม อาภรณ์สายฟ้าขั้น 2 ได้ 5% หลังจากนั้นก็เพิ่มขึ้นเป็น 10% จากนั้นก็ 20% ร่างกายของ ไนโตะ แข็งแกร่งขึ้นทุกวินาที ในขณะที่ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ ก็ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วยเช่นกัน จนในที่สุด ตอนนี้เขาก็มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 ได้แล้ว

สำหรับ พลังสั่นสะเทือน ก็พัฒนาขึ้นไปอีกเล็กน้อย

แน่นอนว่า ไนโตะ กำลังให้ความสำคัญกับการฝึกฝน แน่นอนว่า ผู้ชายอย่างเขาจะไม่ทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แน่นอน

เป็นเวลานานแล้วที่ ซารุโทบิ ไม่ได้ให้ภารกิจหรืองานใด ๆ แก่ ไนโตะ เขาต้องการให้ ไนโตะ อยู่ใกล้ ๆ เขา ดังนั้นเขาจึงขอให้ ไนโตะ อยู่แต่ในห้องและให้ความสนใจกับการฝึกฝนเป็นสิ่งแรก

หลังจากที่ ไนโตะ ฝึกฝนมาเป็นระยะเวลานาน เขาก็หยุดและออร่ารอบตัวเขาก็หายไป

ก๊อกๆ

มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น แต่จริง ๆ แล้ว มันเป็นเสียงเคาะผนัง เพราะคนส่วนใหญ่มักเคาะบนผนังเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องหยุดเดินและเข้าไปได้ทันทีหากคนด้านในอนุญาต

ไนโตะ แต่งตัวแล้วพูดว่า “เข้ามาได้”

วินาทีต่อมา ซึนาเดะ ก็เข้ามาในห้อง

“ไนโตะ การฝึกเป็นไงบ้าง?”

ซึนาเดะ รีบเดินไปหา ไนโตะ อย่างรวดเร็ว ถ้าเธอไม่รู้ว่า ไนโตะ จะไม่สวมอะไรเลยขณะฝึก เธอคงจะพุ่งพรวดเข้ามาโดยไม่เคาะบอกก่อน

“ก็ดีครับ”

ไนโตะ พยักหน้าให้ ซึนาเดะ เล็กน้อย แต่ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “พี่ดูรีบ ๆ นะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ไม่ใช่ว่าพาความซวยมาด้วยนะ?”

“ไม่ ไม่ใช่หรอก แค่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว”

ซึนาเดะ หายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองไปที่ ไนโตะ ด้วยสายตาจริงจัง การแสดงออกของเธอแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ได้ล้อเล่น

“สงครามครั้งนี้กินเวลามาเกือบ 1 ปีแล้ว เพราะอย่างนั้นจึงทำให้ทรัพยากรทั้งกำลังคนและอุปกรณ์ถูกใช้ไปอย่างมากมาย คนระดับสูงของ โคโนฮะ จึงตัดสินใจที่จะเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับทั้ง ซึนะ และ อาเมะ เราจะต่อสู้กับทั้ง 2 หมู่บ้านนี้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!”

“ในขณะที่เรากำลังคุยกันอยู่นี้ ท่านซาคุโมะ ก็ได้กำลังนำกองทัพออกไปแล้ว”

เมื่อได้ฟังสิ่งที่ ซึนาเดะ พูด ไนโตะ ก็ขมวดคิ้วและแสดงท่าทางจริงจัง

ในที่สุดมันก็เกิดขึ้น?

การสิ้นสุดของสงครามครั้งนี้

ไนโตะ ก็รู้อยู่แล้วว่า ซึนาเดะ จะพูดอะไรต่อไป

และสิ่งที่เธอพูดต่อไปก็คือ “ฉันมาขอให้เธอไปกับฉัน กับ โอโรจิมารุ และ จิไรยะ ไปทำภารกิจที่สำคัญที่สุด ภารกิจที่จะจบสงครามครั้งนี้”

“ภารกิจของเราคือการหยุด ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์ ชายผู้นี้แข็งแกร่งมาก แม้แต่ ซาคุโมะ ก็ไม่สามารถจับเขาได้ ดังนั้นเราจึงต้องบีบให้เขาออกมา เพื่อไม่ให้เขาสามารถสั่งการกองทัพได้และรอจนกว่ากองทัพของเราจะเอาชนะในสนามรบ และแม้ว่าเขาจะแข็งแกร่ง แต่เราก็ต้องหยุดเขาไว้ให้ได้”

เมื่อ ไนโตะ ได้ยินแบบนี้ เขาก็พยักหน้าแต่เขาก็ถามเธอกลับไปว่า “แต่ดูเหมือนว่า ในสนามรบจะเป็นจุดที่สำคัญที่สุดในการยุติสงครามครั้งนี้”

ซึนาเดะ ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ กองทัพมี ซาคุโมะ อยู่ แค่เขาก็เพียงพอแล้ว เธอควรมากับฉันเพื่อรับมือกับ ฮันโซ มากกว่า ถ้าเธอไปกับกองทัพ มันอาจทำให้ ซาคุโมะ ไม่สามารถควบคุมและออกคำสั่งได้…”

แบบนี้นี่เอง

ไนโตะ เข้าในว่า ซารุโทบิ จะไม่ยอมเสี่ยงที่จะให้ ไนโตะ เป็นผู้ออกคำสั่ง

มิฉะนั้น ในสนามรบกองทัพจะเชื่อคำสั่งของ ไนโตะ มากกว่า ซาคุโมะ

“งั้นก็ได้ครับ”

ด้วยเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของ ซึนาเดะ ทำให้ ไนโตะ ไม่ปฏิเสธ แต่ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มาหา ไนโตะ ยังไงเขาก็จะต้องตามไปอยู่ดี เพราะเขายังคงไม่แน่ใจว่าทั้ง 3 จะหยุด ฮันโซ ไว้ได้

เพราะหลังจากการมาถึงของ ไนโตะ ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างในโลกนี้เปลี่ยนไปมาก ไนโตะ กลัวว่า ฮันโซ จะทำอะไรบางอย่างที่จะทำให้ชะตากรรมทั้งหมดของโลกแห่งนี้เปลี่ยนไปตลอดกาล

สิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นอาจเกิดขึ้น

ฮันโซ อาจไม่เหมือนในการ์ตูน

ฮันโซ อาจฆ่าพวกเขา

โอโรจิมารุ อาจจะหนีไปได้ แต่อีก 2 คนจะถูกฆ่าอย่างแน่นอน

“ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์…”

ไนโตะ พูดออกมาเบา ๆ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ฮันโซ เป็นหนึ่งในนินจาที่ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก!

เขาน่าจะแข็งแกร่งพอ ๆ กับ 5 คาเงะ

ประวัติของเขาเป็นข้อพิสูจน์ถึงพลังของเขาได้อย่างชัดเจน เขาสามารถต่อสู้กับ 3 นินจาในตำนาน ได้อย่างง่ายดาย

พูดง่าย ๆ ว่า ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์ นั้นแข็งแกร่งและ ไนโตะ ไม่สามารถประเมินเขาต่ำได้!

“ไนโตะ พิษของ ฮันโซ อันตรายมากก็จริง แต่เราก็มียาถอนพิษที่ดีมาก ถ้าเธอโดนพิษของเขาเข้าไป เธอจะได้รับยาถอนพิษในทันที”

ซึนาเดะ รู้สึกได้ว่า ไนโตะ กำลังเป็นกังวลเกี่ยวกับพลังของ ฮันโซ ดังนั้นเธอจึงพยายามพูดปลอบใจเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“แล้วเราก็ไม่ได้พยายามที่จะเอาชนะเขา เราแค่ต้องถ่วงเวลาเขาให้ได้ระยะหนึ่ง จนกว่ากองทัพของเราจะชนะ จากนั้นเราก็จะ หนีออกมา”

“เข้าใจแล้วครับ”

เมื่อ ไนโตะ ฟัง ซึนาเดะ พูดจบ เขาก็พยักหน้าและเดินตามเธอออกจากห้องไป ที่ด้านนอกห้อง โอโรจิมารุ และ จิไรยะ ยืนอยู่ตรงนั้นเพื่อรอทั้งคู่ออกมา

เมื่อพวกเขาเห็น ไนโตะ เดินออกมา โอโรจิมารุ ก็มีรอยยิ้มแปลก ๆ บนใบหน้าของเขา แล้วเขาก็พูดว่า “ฉันคิดว่าการฝึกของเธอจะเป็นไปได้ด้วยดีนะ”

“ใช่ครับ” ไนโตะ พยักหน้าให้ โอโรจิมารุ แต่ ไนโตะ ก็ยังไม่เข้าใจเจตนาที่แท้จริงของเขา

“งั้นก็ดีแล้ว”

โอโรจิมารุ ยิ้มเยาะและหันหลังกลับ

ไนโตะ มองดูเขาด้วยความสงสัย

จักระของ โอโรจิมารุ ก็เพิ่มขึ้นในทุกวินาที แม้แต่ ไนโตะ ก็ต้องระวังตัวจากเขา

ในวินาทีนี้ดูเหมือนว่า โอโรจิมารุ จะไม่มีวันตาย.

โอโรจิมารุ…เขาไปถึงระดับของ คาเงะ แล้วงั้นเหรอ?!.

ความคิดนี้ทำให้ ไนโตะ รู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่มันก็สมเหตุสมผล.

ในการ์ตูน โอโรจิมารุ เป็นอัจฉริยะที่ 10 ปี จะมีสัก 1 คน เขามีความสามารถมากกว่า จิไรยะ และ ซึนาเดะ ตอนนี้เขามีอายุ 20 ปี แต่เขาก็มาอยู่ในจุดสูงสุดของพลังของเขาแล้ว.

ไนโตะ ขมวดคิ้วขณะที่เขามองไปที่ โอโรจิมารุ แต่เมื่อ ซึนาเดะ เห็นท่าทางของเขา เธอจึงคิดว่าเขายังกังวลเกี่ยวกับเรื่อง ฮันโซ อยู่.

แม้แต่ จิไรยะ ก็สังเกตเห็นเช่นกัน เขายิ้มให้ ไนโตะ และพูดว่า “ขนาดฉันยังไม่กลัว ฮันโซ เลย ไนโตะ เธอแข็งแกร่งกว่าฉัน เธอไม่ต้องกังวลไป ถึงยังไงเราก็ 4 ต่อ 1 !”.