ตอนที่ 151

The Strongest Hokage

ไนโตะ เบะปากเมื่อเขาได้ยินคำพูดของ จิไรยะ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขายังคงคิดเรื่องของ โอโรจิมารุ ต่อไป

เป็นเรื่องปกติที่นินจาส่วนใหญ่จะสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างรวดเร็วในระยะแรก อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พัฒนาไปจนถึงระดับ คาเงะ แล้ว มันจะเป็นเรื่องยากมากที่จะก้าวไปสู่ระดับต่อไป นินจาจำนวนมากจะมาถึงจุดสูงสุดของพลังของพวกเขาเมื่ออายุได้ 30 หรือ 40 ปี และจะคงอยู่อย่างนั้นตลอดไป

โอโรจิมารุ ก็เช่นกัน เขายังคงพัฒนาต่อไป แต่มันคงต้องใช้เวลามากขึ้นนับจากนี้ ไนโตะ คิดว่าเขาน่าจะถึงจุดสูงสุดของพลังของเขาได้ในช่วง มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3

หลังจากนั้น เขาก็น่าจะสามารถโจมตี โคโนฮะ โดยลำพัง

แน่นอนว่านี่เป็นภาพสะท้อนจากอีกด้านหนึ่งว่า ซารุโทบิ แข็งแกร่งแค่ไหน ที่สามารถหยุด โอโรจิมารุ เอาไว้ได้

ในการ์ตูน ซารุโทบิ ถือได้ว่าเป็น โฮคาเงะ ที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่ง เขารู้วิชาคาถาทั้งหมดใน โคโนฮะ

สำหรับความแข็งแกร่งของ ซารุโทบิ…เขาสามารถควบคุมคุณสมบัติจักระได้ทั้ง 5 ธาตุ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังรู้วิชาลับและวิชาต้องห้ามทั้งหมดของหมู่บ้าน เขาแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่า ดันโซ

คนที่แข็งแกร่งเหนือระดับของ คาเงะ นั้น หาได้ยากมากในโลกนี้

ไนโตะ ได้แบ่งระดับความแข็งแกร่งสูงสุด 2 ระดับสูดท้ายคือ ระดับ คาเงะ และ ระดับ เซียน 6 วิถี

ยกตัวอย่างเช่น เพน 6 วิถี อยู่ในระดับ คาเงะ

ระดับ เซียน 6 วิถี สูงขึ้นไปว่าระดับ คาเงะ อยู่มาก แม้แต่ ฮาชิรามะ และ มาดาระ ก็ยังไม่ถึงระดับดังกล่าว พลังของพวกเขานั้นอยู่ระหว่าง 2 ระดับนี้ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็มีพลังที่สามารถกำจัดคนทั้งหมู่บ้านได้สบาย ๆ

ระดับ เซียน 6 วิถี นั้นมันเป็นพลังที่แม้แต่ นารูโตะ และ ซาสึเกะ ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ พวกเขาทำได้แค่แบ่งพลังนั้นออกคนละครึ่งเท่านั้น

ไม่ว่าจะเป็น ระดับเซียน 6 วิถี หรือ ระดับคาเงะ ไนโตะ ก็ครอบครองพลังที่จะสามารถช่วยให้เขาไปถึงระดับนั้นได้ แต่ตอนนี้มันยังไม่เพียงพอ

หลังจากที่เขาช่วย 3 นินจา เอาชนะ ฮันโซแห่งซาลามานเดอร์ ได้แล้ว ไนโตะ ก็วางแผนที่จะเปิดประตูด่านพลังบานที่ 4 และยุติสงครามนี้

“เอาละ เราไปกันเถอะ”

หลังจากที่พูดจบ ซึนาเดะ ก็มองไปยังทั้ง 3 คน แล้วพยักหน้าให้พวกเขา จากนั้นพวกเขาทั้ง 4 คนก็เดินนำ นินจาระดับสูงจำนวนหนึ่งออกจากค่ายไป

เนื่องจากแผนนี้ใช้เพื่อถ่วงเวลา ฮันโซ ไว้เท่านั้น พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องนำนินจาจำนวนมากไปด้วย

เมื่อพวกเขาทั้ง 4 จากไป ค่ายก็ว่างเปล่าในทันที

ขณะที่พวกเขากำลังเดินออกไป ร่างสีขาวก็โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินที่เป็นโคลน

มันคือ เซ็ทสึ!

“ปล่อยมันไป เป้าหมายของเราคือ ฮันโซ…แค่เอาข้อมูลไปรายงานก็พอ”

เซ็ทสึ มองไปยังทางที่ ไนโตะ และอีก 3 คน ที่กำลังเดินคุยกัน จากนั้น เซ็ทสึ ก็หายกลับลงไปใต้พื้นดินอีกครั้ง

…..

ใต้ดินที่ไหนสักแห่งในโลกนินจา

ในส่วนลึกของความมืด ชายชราผู้ซึ่งดูเหมือนว่าเขากำลังจะตายได้ทุกเวลา ยืนอยู่ที่นั่น

ชายชราดูอ่อนแอมากและดูเหมือนว่าเขาจะล้มถ้ามีใครได้เดินไปชนเขา

ดวงตาของชายชราไม่มี เนตรวงแหวน เขามองไปที่พื้นด้วย เนตรสังสาระ ของเขา และเหมือนว่าเขาจะเห็นจุดสิ้นสุดของโลกนี้แล้ว

เขาคือ…อุจิฮะ มาดาระ!

“สงครามใกล้จะสิ้นสุดแล้ว”

ทันใดนั้น จากความมืด เซ็ทสึ ก็ปรากฏออกมายืนต่อหน้า มาดาระ ในขณะที่เขาดูสงบมาก

“ใช้แล้วครับ สงครามกำลังจะสิ้นสุด โคโนฮะ กำลังเริ่มโจมตีครั้งสุดท้าย”

เซ็ทสึ เดินเข้าไปหา มาดาระ แล้วพูดต่อว่า “เด็กที่ท่านสนใจ เขากำลังจะไปต่อสู้กับ ฮันโซ ครึ่งเทพ”

“ครึ่งเทพ? ฮ่าฮ่าฮ่า…พูดเป็นเล่น!”

เมื่อได้ยินคำนั้น มาดาระ ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากหัวเราะ

เขากล้าเรียกตัวเองว่าเป็นพระเจ้าได้อย่างไร?!

“ขนาดตัวตลกตัวนั้นยังเรียกตัวเองว่าเป็นพระเจ้า…โลกนี้ช่างน่าเบื่อจริง ๆ แต่ก็ไม่เป็นไร มันดีสำหรับแผนของฉัน”

หลังจากที่ มาดาระ ส่ายหัว เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงต่ำ “ต้องคอยสังเกตสถานการณ์ต่อไป ถ้า ฮันโซ สามารถฆ่าเด็กคนนั้นได้ เราก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเขาอีกต่อไป แล้วก็จะไม่มีใครมาหยุดแผนการของเราได้”

“เข้าใจแล้วครับ”

เซ็ทสึ แสดงความเคารพอย่างมาก เขาพยักหน้าให้ มาดาระ จากนั้นเขาก็หายลงไปที่พื้นอีกครั้ง

……

แคว้นแห่งฝน

บริเวณเนินเขาที่เต็มเป็นด้วยโคลน

ไนโตะ และคนอื่น ๆ กำลังวิ่งไปเรื่อย ๆ

ในเวลานี้ความแตกต่างของความเร็วนั้นเห็นได้อย่างชัดเจน

เร็วที่สุดคือ ไนโตะ เขาวิ่งอยู่ข้างหน้าสุด ตามมาด้วย โอโรจิมารุ

สำหรับ ซึนาเดะ เธอวิ่งเร็วกว่า จิไรยะ นิดหน่อย

ตามในการ์ตูน จิไรยะ เร็วกว่า ไนโตะ แต่ตอนนี้เธอเชียวชาญวิชา เหยียบเวหา ทำให้เธอเร็วกว่าในการ์ตูน

ตลอดทางที่เดินทางมา ไนโตะ พยายามเร่งความเร็วอย่างตั้งใจ แต่ โอโรจิมารุ ก็ยังตามเขาได้ทันอยู่เสมอ ซึ่งทำให้ ไนโตะ มั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับวิธีที่ โอโรจิมารุ พัฒนาขึ้นมาในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้

พวกเขาวิ่งมาจนเกือบถึงป่า

ไนโตะ ชะลอความเร็วลง จากนั้น โอโรจิมารุ และคนอื่น ๆ ก็ชะลอตัวลงเช่นกัน แล้วพวกเขาก็หยุดก่อนที่จะถึงป่า

“ฉันจะสำรวจป่าแถวนี้”

โอโรจิมารุ เดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าวแล้วก็ประสานอิน จากนั้นเขาก็กดมือลงบนพื้น ทันใดนั้นก็มีงูตัวเล็ก ๆ หลาย 10 ตัว เลื้อยออกมา จากนั้นพวกมันก็เลื้อยเขาไปในป่าและหายไป ในขณะเดียวกัน โอโรจิมารุ ก็หลับตาลง

หลังจากนั้นไม่กี่นาที โอโรจิมารถถ ก็ลืมตาขึ้นและพูดว่า “ไม่มีการซุ่มโจมตี”

“โอเค ไปต่อได้”

ไนโตะ พยักหน้าและพาทุกคนเข้าไปในป่าทันที

หลังจากที่พวกเขาวิ่งผ่านป่าไป พวกเขาก็มุ่งหน้าลึกเข้าไปใน แคว้นแห่งฝน

ระหว่างทาง ถึงแม้ว่า ไนโตะ จะตื่นตัวกับสิ่งรอบตัวเขามาก แต่นินจาคนอื่น ๆ ก็ยังคงสำรวจทุกซอกทุกมุมอย่างระมัดระวัง เพราะไม่มีใครรู้ว่า ฮันโซ จะซ่อนตัวอยู่ที่ไหน

ฮันโซ อันตรายเป็นอย่างมาก และหากพวกเขาไม่ระมัดระวังให้ดี พวกเขาจะเป็นฝ่ายที่ถูกโจมตีเสียเอง