บทที่ 210 ลูเซียน อีวานส์ เอ็กซ์ คือใคร?

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา

ณ สวนกุหลาบ ข้างทะเลสาบสวอน

การประชุมใหญ่เข้าสู่ช่วงครึ่งหลัง ผู้อภิปรายทุกคนต่างได้รับเสียงปรบมืออย่างอุ่นหนาฝาคั่ง หลังจากทุกคนได้กล่าวรายงานผลการวิจัยของแต่ละคน ก็จะมีรอบการอภิปรายและการแสดงความเห็นจากนักเวทชั้นอาวุโสเพื่อให้แรงบันดาลใจกับผู้นำเสนอรายงานต่อไป

หลังจากอาหารกลางวัน การศึกษาของแลร์รี่ว่าด้วยเรื่องจำนวนอะตอมทำให้เกิดการอภิปรายที่ดุเดือดที่สุดเท่าที่ผ่านมา และหลังจากแลร์รี่ ก็มีจอมเวทอีกหลายคนรอให้ถึงตาของตัวเองได้ขึ้นเวที แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยถึงสิบหกนาฬิกาแล้วก็ตาม

ยูลิสิสเดินด้วยท่าทีองอาจขึ้นไปบนเวทีและเปิดวงเวทซึ่งทำหน้าที่เสมือนเครื่องโปรเจคเตอร์ฉายภาพเหตุการณ์ เขากำลังเผยแพร่ข้อมูลการศึกษาล่าสุดของเขากับเหล่าจอมเวทที่เข้าร่วมประชุม เขาค้นพบว่าตอนที่กำลังสร้างเวทมนตร์ระดับห้า ‘เมฆพิษ’ ของแกสตัน เมื่ออุณหภูมิสูงกว่าปกติ ไม่ว่าจะเพิ่มแรงดันมากขึ้นขนาดไหนก็ตาม ก๊าซไม่สามารถถูกเปลี่ยนเป็นของเหลวได้

จอมเวทหลายคนเห็นด้วยว่าการค้นพบครั้งนี้มีความสร้างสรรค์และมีความหมายต่อการเสนอแนะกันต่อไป แม้ลูเซียนจะรู้จักทฤษฎีนี้มาก่อนตั้งแต่โลกใบเดิม แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีสำหรับเขาที่ได้รู้ว่าหลักการเดียวกันก็สามารถใช้ได้ในโลกเวทมนตร์ นอกจากนี้ ลูเซียนยังสนใจวิธีการใช้ผลการศึกษาครั้งนี้กับการสร้างรูปแบบเวทมนตร์จริงๆ มากอีกด้วย

ตอนนั้นเอง นกฮูกสีน้ำตาลอ่อนก็บินเข้ามาจากหน้าต่างและถลาร่อนลงบนโต๊ะด้านหน้าแกสตัน เมื่อเห็นว่าแกสตันสนใจอยู่กับการอภิปรายของยูลิสิส เจ้านกฮูกก็จิกที่มือของเขาเบาๆ

ยามรักษาการณ์ด้านนอกไม่ได้ห้าม ‘แมทธิว’ บินเข้าหา เพราะมันก็เหมือนกับ ‘ผู้ส่งสาร’ ส่วนใหญ่ของกลุ่มเจตจำนงแห่งธาตุ

แกสตันรู้สึกขบขัน แล้วเขาก็ลูบขนด้านหลังแมทธิวเบาๆ แล้วแกสตันก็ดึงกระดาษออกมาจากขาของแมทธิวและวางไว้ด้านข้าง เขาตั้งใจจะดูรายงานพวกนี้หลังจากการประชุมใหญ่เสร็จสิ้น

เสร็จจากแมทธิว นกหงส์หยกของราเวนติก็บินโฉบเข้ามา หลังจากบินวนรอบตัวเจ้านายของมันสองรอบอย่างภาคภูมิใจ เจ้านกหงส์หยกก็ถลาลง และนำสารมาส่งหลายฉบับเช่นกัน

หลังจากนั้น มีนกอีกสามสายพันธุ์นำสารมาส่งให้กับสมาชิกคณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานาอีกสามคนที่อยู่ในการประชุม อย่างไรก็ตาม บรรดาจอมเวทเหล่านี้ไม่ได้รีบร้อนตรวจเอกสารรายงาน ไม่ใช่เพียงเพราะการอ่านรายงานชิ้นอื่นต่อหน้ายูลิสิสเป็นการไม่สุภาพอย่างยิ่ง แต่ก็เพราะเขารู้ดีว่าการตรวจสอบรายงานที่ซับซ้อนอาจใช้เวลานานหลายเดือน

ขณะที่ยูลิสิสกำลังอธิบายรายงานของตนลงรายละเอียดลึกขึ้น จอมเวทคนอื่นๆ ก็ตั้งใจฟังมากขึ้น ยกเว้นเพียงราเวนติ จอมเวทระดับเก้า และนักเวทระดับเก้า ผู้นี้เป็นอาจารย์ยูลิสิส  เนื่องจากราเวนติได้อ่านงานของยูลิสิสอย่างละเอียดรอบคอบมาแล้วก่อนการประชุม หลังจากบทความผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการ

ดังนั้น ราเวนติจึงค่อยๆ หยิบรายงานหลายฉบับที่นกฮูกของเขานำมาส่ง และเริ่มอ่านชื่อของบทความต่างๆ

ตอนนั้นเองที่ชื่อเรื่องที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์เตะตาเขา

คุณสมบัติของธาตุใหม่ที่ค้นพบตามตารางธาตุ

เขาขมวดคิ้ว เนื่องจากใครก็ตามที่พยายามค้นหากฎที่มีในตัวธาตุอยู่แล้ว ราเวนติรู้ว่าชื่อเรื่องนี้หมายถึงอะไร นั่นหมายความว่ามีตารางธาตุที่ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน และเป็นตารางธาตุที่นำไปสู่การค้นพบธาตุ!

เมื่อกางกระดาษออก ราเวนติเริ่มอ่านบทความอย่างละเอียด หลังจากผ่านไปสักพัก สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที

หูของเขาได้ยินเสียงยูลิสิสเบาลงๆ ราเวนติต้องประหลาดใจอย่างมากกับบทความชิ้นนี้

แม้หลังจากเขาอ่านบทความหน้าสุดท้ายจบ สายตาของราเวนติก็ยังจดจ่ออยู่กับกระดาษ จากนั้น เขาพยายามรวบรวมสติอย่างดีที่สุดหันไปเรียกหารีเบกกา

ตอนนั้นเอง รีเบกกากำลังตั้งใจฟังการอภิปรายของยูลิสิส และนางก็ต้องคอยสอดส่องดูความเป็นไปของทั่วทุกมุมในห้องโถงนี้ หลังจากโดนลีอันโดรตำหนิมา นางระวังตัวมากขึ้น เพราะเกรงว่าจะทำอะไรผิดพลาดอีกซ้ำสอง

ทันทีที่นางเห็นดวงตาสีเทาของราเวนติ รีเบกการู้สึกราวกับถูกโจมตีด้วยสายฟ้าฟาด ไม่รู้จริงๆ ว่าทำอะไรผิดอีกแล้ว แล้วนางก็เดินเข้ามาหาราเวนติอย่างกระวนกระวาย

“ไปหาบทความชื่อ ‘ลำดับความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติของธาตุและการคาดการณ์ธาตุใหม่ๆ’ โดยลูเซียน อีวานส์ เอ็กซ์” ราเวนติกล่าวสั้นๆ และตรงไปตรงมา

ชื่อนี้อีกแล้ว! รีเบกกาเหลือบมองลูเซียนที่ยืนอยู่ข้างลาซาร์ โชคดีที่ชื่อบทความชิ้นนี้ทำให้นางประทับใจอยู่ไม่น้อย และไม่ใช่เรื่องยาก เพราะชื่อบทความค่อนข้างยาว

“ท่านราเวนติ ท่านสามารถอ่านบทความชิ้นนี้ได้จากบทความสุดท้ายของวารสารเวทธาตุฉบับตรงหน้าท่านค่ะ” ขณะเดียวกัน รีเบกการู้สึกโล่งใจนางสามารถช่วยงานได้ในตอนนั้น

ราเวนติรีบพลิกไปที่วทความความสุดท้ายของวารสารเวทธาตุ และพูดพึมพำ “พวกบรรณาธิการวารสารเวทธาตุ ก็ไม่ได้โง่ไปเสียทั้งหมด”

อันที่จริง ความเห็นนี้เคยออกมาจากปากของ ‘เจ้าแห่งวายุ’ ด้วยน้ำเสียงประชดประชัน นี่เป็นคำชมจากจอมเวทขี้โมโหผู้นี้ หากพูดถึงเรื่องความขี้โมโห ราเวนติก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าเฟอร์นันโดสักเท่าไรนัก

รีเบกกากำลังรออยู่ด้านข้าง เมื่อรองประธานกลุ่มยังไม่สั่งให้นางออกไป นางรู้สึกสงสัยในบทความของลูเซียน อีวานส์ เอ็กซ์ เมื่อรีเบกกาเห็นราเวนติมีสีหน้าจริงจังยิ่งขึ้น

เกิดอะไรขึ้น? รีเบกกาเองก็ดูไม่ออก

“หากไม่พิจารณาน้ำหนักอะตอมที่ขาดข้อมูลการทดลองที่ถูกต้อง…” ราเวนติพูดพึมพำอีกครั้ง แล้วเขาก็รีบหันไปพูดกับรีเบกกา “ข้าต้องการธาตุบริสุทธิ์เหล่านี้…”

ว่าแล้วราเวนติก็จดรายชื่อธาตุที่เขาไม่มีในห้องทดลองแร่แปรธาตุของตัวเองมาสองสามชนิด

หลังจากนั้น ราเวนติออกคำสั่งกับ ‘แฮร์รี’ นกหงส์หยก “ไปนำแร่แฟลชมาจากโอดอนคอร์ หลานชายของหมีเทา อย่าขี้เกียจ… รีบไป แฮร์รี”

“แฮร์รีขี้เกียจเสียที่ไหน?” แฮร์รีพูดพึมพำอย่างไม่เป็นสุขแล้วก็บินจากไป

แม้ว่านางไม่เข้าใจสิ่งที่ราเวนติต้องการ รีเบกกาก็ทำตามคำสั่งของรองประธานอย่างว่าง่าย หลังจากฝากเพื่อนร่วมงานให้ช่วยดูแลการประชุมต่อ นางรีบขึ้นไปยังชั้นสองเหนือห้องโถงหลัก

ไม่มีใครสังเกตว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น เนื่องจากทุกคนกำลังฟังการอธิบายของยูลิสิสอย่างตั้งอกตั้งใจ

เมื่อยูลิสิสสิ้นสุดการอธิบาย และช่วงคำถามคำตอบกับจอมเวทคนอื่นๆ เขาก็ได้รับเสียงปรบมือดังกึกก้อง จอมเวทส่วนใหญ่ต่างรู้สึกว่าได้ความรู้จากการถ่ายทอดของยูลิสิสมากมาย

ยูลิสิสโค้งคำนับเหล่าจอมเวท และเดินลงจากเวทีส่วนกลาง

ขณะที่ลีอันโดร กำลังจะเชิญจอมเวทคนต่อไปขึ้นมาบนเวที เขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นท่านรองประธานผุดลุกขึ้นและเดินตรงมายังกลางเวทีอย่างรีบร้อน

แน่นอนว่าลีอันโดร ไม่อาจห้ามนักเวทระดับเก้าผู้ทรงอิทธิพลคนนี้ และเขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากยืนดูราเวนติกระโดดขึ้นบนเวที เปิดวงเวทสำหรับการนำเสนอ และหยิบห้องทดลองเล่นแร่แปรธาตุขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋าเวทมนตร์ของเขา และร่ายคาถาเปลี่ยนให้มันเป็นห้องทดลองขนาดปกติที่มีอุปกรณ์ครบครัน

“ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ขออภัยที่ข้าต้องขัดจังหวะการประชุม” ราเวนติพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่สุขุม เพราะผลที่แท้จริงยังคงต้องได้รับการตรวจสอบซ้ำสองด้วยการทดลองของเขา “กรุณาเปิดไปบทความสุดท้ายของวารสารเวทธาตุฉบับนี้”

เมื่อจอมเวททั้งหมดที่เข้าร่วมการประชุมเปิดวารสารและพบหน้าดังกล่าว อิกน่ารู้สึกกระวนกระวายมาก หัวใจของเขาเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เขาเกรงว่าสิ่งที่ราเวนติกำลังจะพูดคือบทความนี้ไม่มีคุณภาพพอจะตีพิมพ์ในวารสารเวทธาตุฉบับนี้ แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมราเวนติต้องลงทุนประกาศกลางที่ประชุมขนาดนี้

จอมเวททั้งหลายเห็นบทความที่ชื่อว่า ‘ลำดับความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติของธาตุและการคาดการณ์ธาตุใหม่ๆ’ ทั้งแลร์รี่และทิโมธีต่างขมวดคิ้ว เนื่องจากพวกเขาเป็นคนตรวจสอบบทความนี้ก่อนที่จะได้รับการตีพิมพ์

ราเวนติต้องการทำอะไรกันแน่?

ขณะเดียวกัน แลร์รี่หันไปรอบๆ และมองหาลูเซียน สายตาของเขามีความหมายซ่อนอยู่

ลูเซียนเองก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย รู้สึกไม่มั่นใจว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อย่างไรก็ตาม อีกความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัว บางทีราเวนติอาจค้นพบธาตุใหม่ตามคำอธิบายตารางธาตุของเขา ฉะนั้น ลูเซียนจึงเริ่มรู้สึกตั้งความคาดหวังไว้ในทันที

“แม้ว่าตารางธาตุนี้จะเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และการจัดวางองค์ประกอบอย่างดี ท่านราเวนติ” ล็อกลินน์เริ่มพูดเป็นคนแรก เขาเป็นจอมเวทระดับแปดและนักเวทระดับแปด ซึ่งก็เป็นสมาชิกคณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานาด้วยเช่นกัน “แต่ช่วงท้ายที่อ้างว่ามีข้อผิดพลาดในการวัดน้ำหนักอะตอมในธาตุหลายๆ อย่างดูไม่สมเหตุสมผลเลยสำหรับข้า”

จอมเวทคนอื่นต่างเห็นพ้องต้องกัน

เมื่อเห็นว่าบรรดาจอมเวททั้งหลายได้อ่านบทความชิ้นนี้กันคร่าวๆ แล้วทุกคน ราเวนติกล่าวขึ้นด้วยเสียงอันดัง “ข้ามการอภิปรายเรื่องเทอร์มิริคและธาตุอื่นๆ ไปก่อน แล้วลองมาดูนี่”

ขณะเขากำลังพูด ราเวนติหยิบขวดธาตุกลั่นบริสุทธิ์ออกมาหลายขวด และเริ่มวัดน้ำหนักอะตอมของธาตุเหล่านั้นด้วยห้องทดลองเวทมนตร์ของเขาต่อหน้าจอมเวทที่เข้าร่วมการประชุมทั้งหลาย

แม้ว่าเหล่าจอมเวทต่างรู้สึกสับสนอลหม่าน แต่ก็ไม่มีใครต้องการไปขัดขวางผู้มีอำนาจขนาดนี้

เนื่องจากน้ำหนักอะตอมของธาตุสองสามชนิดค่อยๆ ได้รับการแก้ไขให้ถูกต้องทีละชนิด แกสตัน โอเวรี  ล็อกลินน์ และลีเดีย มีท่าทางเคร่งเครียดกว่าคนอื่น และเริ่มเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษด้วยปากกาขนนก ขณะที่นักเวทคนอื่นยังอยู่ในภาวะตกใจ

ไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่อาจมีข้อผิดพลาดในข้อมูลน้ำหนักอะตอมบางชนิด แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าข้อมูลที่ถูกต้องสามารถเทียบได้จากตารางธาตุที่นำเสนอโดยบทความชิ้นนี้เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ

แลร์รี่และมิโมธี ปาดเหงื่อบนหน้าผากพร้อมกัน รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้อ่านบทความทั้งหมดให้จบเสียก่อน ตอนนี้ทั้งสองก็ต้องการแร่เพื่อมาทดสอบว่าจะสามารถหาธาตุชนิดใหม่ออกจากสายแร่ตามที่บทความระบุไว้แทบใจจะขาด

ยูลิสิสจ้องมองตารางธาตุด้วยความมึนงง เขาเพิ่งตัดสินใจล้มเลิกความตั้งใจคิดค้นตารางธาตุเมื่อสามสัปดาห์ก่อน และเปลี่ยนมาสู่หัวข้อวิจัยที่เขาเพิ่งนำเสนอไปเมื่อสักครู่

หลังจากการทดลองของราเวนติใช้เวลาไปสี่สิบนาที จอมเวทส่วนใหญ่เริ่มอ่านบทความในมืออย่างละเอียดถี่ถ้วนมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงสับสนงุนงงอยู่ดี

ยูลิสิสเป็นคนแรกที่แสดงความเห็น “อาจารย์ราเวนติ การทดลองของท่านช่างยอดเยี่ยม แต่การชั่งน้ำหนักอะตอมให้ถูกต้องตามตารางธาตุ เราไม่มีหลักฐานชัดเจนที่แสดงว่าตารางธาตุทั้งหมดนี้ถูกต้อง เช่นเดียวกันก็ไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าข้อมูลของธาตุบางตัว เช่น เทอร์มิริค ไม่ถูกต้อง”

“แนวคิดของข้าก็คือวิธีการวัดที่เรากำลังใช้กันอยู่นี้ไม่สามารถรายงานข้อมูลที่ถูกต้องได้” ราเวนติเอ่ย

โอเวรีส่ายหน้า “นี่เป็นเพียงสมมติฐาน”

หากไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนมากที่สุด เหล่าจอมเวทส่วนใหญ่ล้วนไม่มีใครยอมเชื่อกันง่ายๆ

แน่นอน ลีอันโดรไม่ชอบหน้าลูเซียน “ข้าเห็นด้วย ท่านราเวนติ นี่มันเป็นเพียงนิทานหลอกเด็กจากจอมเวทระดับหนึ่งเท่านั้น”

เมื่อราเวนติกำลังจะตอบกลับ ‘แฮร์รี’ เจ้านกหงส์หยก ก็บินกลับมาถึงพร้อมกับภาชนะเวทแขวนอยู่รอบคอ

ราเวนติยิ้มกริ่ม “สุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ขอให้การทดลองนี้ได้บอกความจริงแก่เราเถิด”

ราเวนติหยิบแร่แฟลชออกมาจากภาชนะ เขาสกัดเอาสสารที่ต้องการออกจากแร่ชนิดนี้ตามวิธีการที่เสนอแนะในบทความของวูดส์

แล้วราเวนติก็พูดกับจอมเวททุกคน “สิ่งนี้มีลักษณะคล้ายกับวัตถุแร่ที่ระบุในบทความของลูเซียน อีวานส์ เอ็กซ์ มาก”

แกสตัน ล็อกลินน์ แลร์รี่ ยูลิสิส และจอมเวทคนอื่นๆ รู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น ขณะทุกคนกลั้นหายใจ และกำลังดูราเวนติใส่สสารบริสุทธิ์ลงในสเปกโตรสโคป

บรรยากาศภายนอกเข้าสู่ยามวิกาล นั่นยิ่งทำให้สเปกตรัมอันงดงามที่อยู่ตรงหน้าเหล่านักเวททั้งหลายมีความกระจ่างชัดและชวนมองน่าหลงใหลยิ่งขึ้น

นับเป็นสเปกตรัมที่งดงามที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน สเปกตรัมนี้เป็นเสมือนกลุ่มไฟ แผดเผาดวงตาและหัวใจของพวกเขา

มีการค้นพบธาตุใหม่! ธาตุชนิดใหม่บนโลกใบนี้!

ราเวนติไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่ยังคงควบคุมการทดลองต่อไปสกัดผงคริสตัลสีขาวออกมา

เมื่อราเวนติเริ่มวัดน้ำหนักอะตอมของธาตุใหม่นี้ จอมเวททุกผู้ทุกนามต่างกำลังรอข้อมูลจากเขา

“น้ำหนักอะตอม 69.8” ราเวนติ พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขามีความเชื่อมั่นในบทความชิ้นนี้

เหล่าบรรดาจอมเวททั้งหลายก้มลงอ่านบทความ และบทความเขียนไว้ว่า

“น้ำหนักอะตอมของธาตุคล้ายอะลูมิเนียมนี้ประมาณ 68 ถึง 70”

เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางพวกเขา และยิ่งเหมือนสายฟ้าฟาดลงซ้ำ บทความชิ้นนี้ทำนายทุกอย่างในการทดลองของราเวนติ ในฐานะจอมเวทซึ่งผ่านคุณสมบัติเข้าร่วมการประชุมใหญ่ประจำปี พวกเขาต่างรู้ดีว่านี่มีความหมายอย่างไร!

หน้าของพวกเขาเหมือนถูกเผาไหม้ เลือดในกายเดือดปุดๆ

ราเวนติตะโกนใส่บรรดาจอมเวท “ข้าจะไม่เสียเวลามาอธิบายความสำคัญของบทความชิ้นนี้หรอกนะ แต่ตอนนี้  ลูเซียน อีวานส์ เอ็กซ์ คือใคร? เขาอยู่ที่ไหน?”

…………………