บทที่ 209 การค้นพบที่น่าตกตะลึง

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา

“เดี๋ยวก่อน…” วูดส์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “หมีดำเพิ่งค้นพบแร่พิเศษทางตอนใต้ ข้าจำได้… มันมีคุณลักษณะคล้ายกัน”

ขณะเขาเดินไปยังเสาที่แขวนหมวก หมวกทรงสูงสีดำและเสื้อนอกทรงยาวของวูดส์ก็ลอยออกมาตรงหน้าเขา วันนี้ เขาดูเร่งรีบยิ่งกว่าครั้งก่อนเสียอีก

หลังจากออกจากลิฟท์และก้าวขึ้นไปบนรถม้า วูดส์ก็มาถึงด้านหน้าของหอคอยเวทมนตร์รูปร่างแปลกตาที่มีเขาสองข้างอยู่บนยอด

‘หมีดำ’ หรือชื่อจริงๆ ก็คือ ‘โอดอนคอร์’ แต่วูดส์มักจะแอบเรียกเขาอยู่ในใจว่า ‘หมีดำ’ เป็นนักเวทระดับสี่ ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง ‘การแปลงกาย’ และ ‘การอัญเชิญ’ ปู่ของเขาเป็นจอมเวทที่ร่ำรวยมากและยังชื่นชอบการเดินทางและการสะสมของวิเศษนานาชนิด แม้ว่าอันที่จริง เขาแทบไม่ได้สนใจในการศึกษาวิจัยอย่างจริงจัง

วูดส์รีบกระโดดลงจากรถม้าและวิ่งไปยังประตูของหอคอยเวทมนตร์หลังนั้น

“นี่ สหาย… เจ้าจะรีบไปไหน?” วงเวทของโอดอนคอร์เตือนเขาว่าวูดส์กำลังมาหาเขาด้วยท่าทีร้อนรน

โอดอนคอร์มีลักษณะท่าทางเหมือนหมีดำจริงๆ เนื่องจากธรรมเนียมตระกูลของพวกเขาเจาะจงการศึกษาเรื่องการแปลงกายที่มีต้นกำเนิดมาจากการศึกษาหมี และญาติของเขาทั้งหมดก็ดูท่าทางคล้ายหมีเช่นกัน

วูดส์หายใจหอบก่อนตอบไป “หมีดำ… ไม่ ไม่ โอดอนคอร์ ขายแร่ ‘แฟลช’ ให้ข้าสักหน่อยเถอะ แร่แปลกๆ ที่จะค้นพบทางตอนใต้!”

ณ สวนกุหลาบ

หลังจากแกสตันมาถึง นักเวทชั้นสูงอีกหลายคนก็มาถึงไล่เรียงกัน ในจำนวนนี้รวมถึง ‘ราเวนติ’ นักเวทระดับเก้า สมาชิกคณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานา และรองประธานแห่งกลุ่มเจตจำนงแห่งธาตุ และ ‘โอเวรี’ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานาเช่นกัน และยังเป็นผู้อำนวยการกลุ่มเจตจำนงแห่งธาตุ นอกเหนือจากสมาชิกผู้ทรงอิทธิพลอีกสามคน

แน่นอน มีนักเวทอีกจำนวนมากกว่าห้าคนนี้ที่เชี่ยวชาญพอที่จะตรวจสอบบทความวิจัยสาขาเวทธาตุ แต่พวกเขาเป็นกลุ่มที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้มากที่สุด

นอกเหนือจากจอมเวทชั้นอาวุโสระดับสูงและระดับผู้นำของกลุ่มเจตจำนงแห่งธาตุยังคงมีนักเวทระดับสูงอีกสามสิบสองคน อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มนี้มีเพียงยี่สิบคนเท่านั้นที่มีระดับอาร์คานาสูงกว่าระดับหก

เมื่อพูดถึงจอมเวทระดับชั้นตำนาน มีเพียงราเวนติเท่านั้นที่เข้าร่วมการประชุมใหญ่ในวันนี้ เนื่องจากการประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสสำหรับนักเวทชั้นกลางส่วนใหญ่ในการแลกเปลี่ยนความคิดและมันสมอง อย่างไรก็ตาม พลังอันทรงอานุภาพจากเหล่าบรรดานักเวทที่มารวมตัวกันในการประชุมครั้งนี้ก็มากพอที่จะทำลายประเทศทั้งประเทศลงได้ สำนักเวทธาตุเป็นที่รู้จักกันดีในด้านพลังการทำลายล้าง

ราเวนติดูไม่เหมือนกับชายชราลักษณะทั่วไปคนอื่นๆ และวันนี้เขาสวมชุดสีดำปักสัญลักษณ์ห้าสิบหกชิ้น ซึ่งแสดงถึงธาตุที่ไม่มีอยู่ทั้งหมดในปัจจุบัน หลังจากเขากล่าวเปิดการประชุมสั้นๆ และได้ใจความ การประชุมใหญ่ก็เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ

คนแรกที่ขึ้นมาเสวนาตามบทความวิจัยของตัวเองก็คือ ‘ทิโมธี’ อัจฉริยะแห่งอาร์คานาศาสตร์ผู้โด่งดังจากกลุ่มเจตจำนงแห่งธาตุ

ทิโมธีมีผมและตาสีดำ สวมแว่นตากรอบสีทองวางอยู่บนจมูก เขาดูทรงภูมิและสง่างาม ในทางกลับกัน หัวข้อบทความของเขาค่อนข้างมีเนื้อหารุนแรง กล่าวคือ ‘น้ำตกระเบิด’ ด้วยการอธิบายสูตรการเล่นแร่แปรธาตุพื้นฐานของเวทมนตร์บทนี้อย่างง่าย ทิโมธีพัฒนาพลังของเวทมนตร์บทนี้ขึ้นเท่าตัว

“ว้าว… เรื่องนี้น่าสนใจมาก…” ลาซาร์ประทับใจและตื่นเต้นมาก

ลูเซียน ในฐานะแขกที่ได้รับเชิญโดยบังเอิญ ทำได้เพียงตั้งใจฟังการอภิปรายอยู่ข้างๆ เวที ขณะที่จอมเวทคนอื่นๆ กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ทรงสูง ฟังและพูดถึงบทความของทิโมธีในเชิงสถิติและคำอธิบายที่ลงรายละเอียดลึกมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เขามองเห็นคุณประโยชน์อันใหญ่หลวงจากบทความของทิโมธี ในการเผชิญหน้ากับ ‘น้ำตกระเบิด’ หากใครพยายามใช้กลยุทธ์พื้นฐานในการหลบการโจมตีนี้จากประสบการณ์การต่อสู้ที่ผ่านมา เวทมนต์บทนี้จะกลายเป็นฝันร้ายแน่นอน ลูเซียนให้ความสำคัญกับภาคส่วนการเล่นแร่แปรธาตุมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเขารู้ว่าความรู้ในเรื่องนี้จะเป็นทางลัดในการศึกษาของเขาเอง หากเขามีความเข้าใจในศาสตร์แห่งการเล่นแร่แปรธาตุลึกซึ้งมากพอในอนาคต เขาจะสามารถใช้ ‘ไนโตรกลีเซอริน’ ในการสร้างเวทมนตร์ต่างๆ ได้เพิ่มมากขึ้น

หลังจากได้แร่ ‘แฟลช’ มาแล้วจำนวนหนึ่ง วูดส์ขอใช้ห้องทดลองอันพิสดารของโอดอนคอร์ และเริ่มทำการทดลองของเขาในทันที

วูดส์สกัดสสารที่เขาต้องการจากแร่แฟลชได้ในเวลาอันรวดเร็ว แล้วเขาก็เอาสสารที่ได้มานั้นใส่ลงไปในวงเวทสเปกโตรสโคป

วงเวทค่อยๆ ทำงานอย่างช้าๆ วูดส์กลั้นหายใจ

เมื่อเขาเห็นเส้นสเปกตรัมอันสวยงามราวกับความฝันซึ่งเขาไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต วูดส์ก็หายใจหนักขึ้นๆ ใบหน้าของเขามีเลือดสูบฉีดจนเป็นสีแดงด้วยความตื่นเต้น

ธาตุใหม่! มีการค้นพบธาตุใหม่ที่นี่!

นอกเหนือจากวงเวทที่ระบุในบทความของลูเซียน ราวกับผู้เขียนรู้อยู่แล้วว่าวูดส์จะเจออะไร บทความเขียนต่อไปว่า “ธาตุที่มีลักษณะคล้ายอะลูมิเนียมชนิดนี้สามารถค้นพบได้จากการวิเคราะห์สเปกตรัม”

วูดส์กำลังจ้องบทความดังกล่าวตาเขม็ง และเขาไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง นี่ไม่ใช่การคาดคะเน แต่เป็นการพยากรณ์! การพยากรณ์บนพื้นฐานของตารางธาตุที่ลูเซียนนำเสนอ!

หัวของวูดส์เต็มไปด้วยเสียงอื้อ

เขาสูดลมหายใจยาวเข้าปอดและเริ่มร่ายวงเวทเพิ่มขึ้น เขาจะพยายามสุดความสามารถในการกลั่นธาตุใหม่ออกมาจากสสารที่สกัดมาได้นี้

ห้องทดลองอันพิลึกพิลั่นของโอดอนคอร์ใช้งานได้ดีมาก และก่อนมื้ออาหารเที่ยง ก็มีกองผงคริสตัลสีเงินตั้งอยู่ตรงหน้าวูดส์

ไม่มีเวลาสำหรับมื้อเที่ยง ในวินาทีต่อมา วูดส์เริ่มวัดน้ำหนักธาตุใหม่และทดสอบคุณสมบัติของมัน

“น้ำหนักอะตอม… 69.8…”  หลังจากใช้วิธีวัดหลากหลายวิธี วูดส์มั่นใจว่าจำนวนตัวเลขที่เขาได้มานั้นถูกต้องแล้ว ทันใดนั้น เขารู้สึกเริ่มกลัวที่จะมองลงไปในกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเขา”

แต่ลึกลงไปในใจ เขาจำได้ว่าบทความนี้ระบุไว้อย่างชัดเจน บทความเขียนไว้ว่า

“น้ำหนักอะตอมของธาตุที่มีลักษณะคล้ายกับอะลูมิเนียมนี้ควรมีน้ำหนักประมาณ 68 ถึง 70”

วูดส์ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นรุนแรงและรวดเร็วจนเหมือนมีเสียงกลองดังก้องอยู่ในหู ขณะที่ริมฝีปากขบปิดแน่นสนิท วูดส์ทำการทดลองต่อไปเพื่อวัดคุณสมบัติด้านอื่นของธาตุใหม่นี้

“น้ำหนักเฉพาะ… 5.94…”  วูดส์พึมพำด้วยเสียงสั่นเครือ

ในบทความ ก็เขียนไว้

“น้ำหนักเฉพาะ ประมาณ 5.9 ถึง 6.0”

“ไม่ระเหย… สามารถละลายในกรดและน้ำละลายด่างอย่างช้าๆ” เสียงของวูดส์สั่นเครือ

บทความเขียนว่า

“ไม่ระเหยในอุณหภูมิปกติ ละลายได้ในกรดและน้ำละลายด่าง”

การทำนายที่ลูเซียนนำเสนอทั้งหมดล้วนถูกต้อง

วูดส์รู้สึกตื่นเต้น เขาประหลาดใจเกินกว่าจะพูดอะไรออกมา ปากของเขาอ้าได้เพียงบางส่วน มือของเขาสั่น

หมายความว่าอย่างไร?

หมายความว่าอย่างไร!

ณ ตอนนี้ วูดส์ไม่เหลือความสงสัยหรือความลังเลใจอีกต่อไป เขารู้ว่าบทความชิ้นนี้เป็นหมุดหมายสำคัญในวงการธาตุ… ไม่สิ ในประวัติศาสตร์โลกเวทมนตร์ทั้งใบเลยทีเดียว!

ด้วยมือสั่นๆ ของเขา วูดส์บันทึกข้อมูลการทดลองทั้งหมดลงในรายงาน และเก็บตัวอย่างของธาตุใหม่ไว้อย่างปลอดภัยในภาชนะเวทมนตร์ วูดส์คว้าหมวกทรงสูงสีดำและภาชนะใส่ธาตุใหม่รีบวิ่งออกจากหอคอยเวทมนตร์ของโอดอนคอร์โดยไม่หยุดคิด

“นี่ สหาย! เสื้อนอกของเจ้า!” โอดอนคอร์ตะโกนเรียกวูดส์จากด้านหลัง

สายลมเย็นโชยมาช่วยทำให้วูดส์สงบสติอารมณ์ลงได้เล็กน้อย จนเขานึกขึ้นได้ว่าลืมเสื้อนอกไว้ในห้องของโอดอนคอร์ แต่วูดส์ก็ยังกระโดดขึ้นไปบนรถม้าที่รอเขาอยู่และรีบบอกกับสารถีโดยไม่รอช้า

“ไปสำนักดักลาส! ด่วน! ด่วนที่สุด!”

สารถีพึ่งแอบงีบก่อนที่วูดส์จะกระโดดขึ้นมาบนรถม้า แต่ตอนนี้เขากำลังควบรถม้าทะยานไปอย่างบ้าคลั่ง

ณ หน้าประตูเหล็กแห่งสำนักดักลาส

“อะไรนะ? อีวานส์ไม่อยู่ อีกแล้วหรือ?” วูดส์รู้สึกผิดหวังเกินกว่าจะอธิบายออกมาได้

“ขอรับ ลูเซียน อีวานส์ ไม่อยู่” โกเลมตอบนิ่งๆ อย่างใจเย็น “เขาน่าจะอยู่ที่เรนทาโตในตอนนี้ แต่ข้าไม่รู้สาเหตุ”

“อะไรวะ…?” แม้ปกติวูดส์จะสุภาพขนาดไหน เขาก็ไม่อาจห้ามคำสบถออกมาได้ “เรนทาโตอีกแล้ว?!”

ยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางสายลมเย็น วูดส์ยังไม่อยากไปไหนจนกระทั่งใบหน้าของเขาเริ่มชาจากความหนาว เมื่อเขาสงบสติอารมณ์ลงได้และกลับมาถึงห้องทำงานของตัวเอง เขาใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการเขียนรายงานการค้นพบธาตุใหม่ และการเปรียบเทียบระหว่างคุณสมบัติของธาตุใหม่กับคำทำนายที่สอดคล้องกันของลูเซียนที่ระบุอยู่ในบทความวิจัยของเขา

หลังจากนั้น เขาก็มาถึง ‘ฝ่ายบริหารจัดการนักเวท’ และส่งรายงานฉบับดังกล่าว

แม้ว่าเขาจะรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้แบ่งปันประสบการณ์การค้นพบอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้กับเหล่านักเวททั้งหลาย แต่อันดับแรก เขาต้องการตรวจสอบให้แน่ใจว่างานของเขาจะได้รับการรับรองที่ผ่านการยอมรับ

“เวทธาตุ… ถึงท่านราเวนติ ท่านแกสตัน”

‘ชีวินรสายนเวท’ หรือสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุ ใช้ชีวิตเดินตามวัฏจักรประจำวันเป็นกิจวัตร และไม่สนใจว่ารายงานฉบับนี้จะมีความสำคัญขนาดไหน

ชีวินรสายนเวทร่างสีน้ำตาลกำลังเก็บรายงานในห้องรับรองของแกสตัน

“จาก… จอมเวทระดับสี่ ท่านแกสตัน ไม่อยู่ที่นี่ในวันนี้… และบรรดาลูกศิษย์ก็ติดตามเขาไปยังสวนกุหลาบ…” ชีวินรสายนเวทพูดกับตัวมันเอง “ถ้าอย่างนั้น… ข้าควรส่งถึงท่านแกสตันโดยตรง ให้ท่านตัดสินใจว่าใครควรตรวจสอบรายงานฉบับนี้”

สถานการณ์เดียวกันนี้ก็เกิดที่ห้องทำงานของราเวนติเช่นกัน

………………