ตอนที่ 33 ดินเนอร์แห่งศตวรรษ

The rise of the white lotus

ตอนที่33 ดินเนอร์แห่งศตวรรษ

เมื่อได้ยินคำพูดที่น่าไม่อายนั่นของเขา เล็กซี่ก็มองไปทางเขาด้วยสายตาเอาเรื่อง แต่มันกลับทำให้อารมณ์ของอีธานลู่สว่างเจิดจ้า ในขณะเดียวกันซีอีโอถังและชูรู ก็ยิ้มราวกับเจอเรื่องสนุกสนานด้วยความคิดแบบเดียวกัน

ไม่นานผู้เป็นเจ้าภาพของงานประธานหญิงของ เยว่ อินเตอร์เนชั่นแนลเอ็มไพรส์ คนใหม่ เซราฟิน่า เยว่ และซีอีโอของบริษัทผู้สนับสนุนนวัตกรรม แอล-เทค ทานากะเร็น ก็มาถึงห้องอาหารอันโอ่อ่า

” ฉันต้องขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องรอ เราเริ่มกันเลยไหม ” เซราฟิน่าเยว่พูดด้วยความสง่างามและทรงอำนาจ ซึ่งแขกของเธอทุกคนเห็นด้วย ในความคิดของเล็กซี่ในฐานะนักธุรกิจพฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้น่าชื่นชมในหลาย ๆ ด้าน ไม่น่าแปลกใจที่ทานากะเร็นจะนับถือเธอมากกว่าใคร ๆ

ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงเข้าที่นั่งตามลำดับ สำหรับงานเลี้ยงอาหารค่ำแห่งศตวรรษ ใช่มันเป็นคืนที่น่าจดจำ ในการรวบรวมผู้มีชื่อเสียงยิ่งใหญ่ไว้ในที่เดียวไม่ว่าจะเป็นบริษัทคู่แข่งหรือเป็นพันธมิตร สิ่งนี้ทำให้เธอประหลาดใจว่าทำไมตระกูลหลิวถึงไม่ได้รับเชิญ หรือถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมพวกเขาไม่ขอเข้าร่วม? ท้ายที่สุดแม้แต่ตระกูลฮั่นก็ส่งตัวแทนมาเพื่อแสดงความเคารพต่อตระกูลเยว่ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน

เล็กซี่เจาะลึกถึงความคิดและความประหลาดใจของตัวเองโดยที่เธอไม่ได้สังเกตว่าคนที่นั่งข้างเธอคืออีธานลู่ เมื่อเห็นว่าเธอกำลังใช้ความคิด ริมฝีปากของอีธานลู่ก็คลี่ยิ้มเล็กน้อยก่อนที่เขาจะแตะพื้นผิวที่ว่างของโต๊ะตรงหน้าเธอ

“ อย่าเหม่อสิ ” อีธานลู่เข้ามาใกล้เธออีกเล็กน้อยและกระซิบ ลมหายใจของเขาเป่าระต้นคอเล็กซี่ ทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย ดวงตาของเธอเบิกกว้างและรีบหันหัวไปทางขวาที่อีธาน นั่งอยู่ เธอจ้องมองเขาอย่างตระหนก เนื่องจากการกระทำที่ไม่น่าเชื่อของเขา แต่เธอเลือกที่จะไม่พูดออกไป

‘ ผู้ชายคนนี้ … เขาคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่? ‘

“ เขาดูเจ้าชู้นะจุ๊ ~!” บุคคลเพียงคนเดียวที่ได้ยินความคิดภายในหัวของเธอตอบด้วยความตลกขบขัน ขณะที่เธอยกนิ้วโป้งสองนิ้วขึ้นพร้อมกับมือเล็ก ๆ ของเธอที่ขยับขึ้นลง

‘ ไม่เขาแกล้งฉัน และมันทำให้ฉันรำคาญ! ‘ ความอดทนของเล็กซี่ กำลังลดน้อยลงเนื่องจากการสมรู้ร่วมคิดของชูรู ที่ไม่ยอมอยู่ข้างเธอ เอนเอียงไปฝั่งตรงข้าม พวกเขาเป็นพี่น้องกันใช่ไหม เธอเหมือนจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้องสำหรับอีทานลู่อย่างนั้นเหรอ?

‘ อัปยศที่สุด!’

“โอ้โห เล็กซี่ปฏิเสธคุณซะแล้ว~ หนทางยังอีกยาวไกลนะนายภารกิจแรก! นี่มันไม่ง่ายเลยชู ~!” อย่างไรก็ตามชูรูดูเหมือนจะไม่สนใจการประท้วงของเธอ ในขณะที่เธอบินไปบนไหล่ของอีธานทันทีและส่งเสียงเชียร์เขา ความซุกซนของชูรูทำให้ไหล่ของเล็กซี่ตกลงอย่างพ่ายแพ้

‘ พระเจ้า… เธอไม่ฟังฉันเลย ‘

ในขณะที่จิตวิญญาณภายในของเล็กซี่กำลังหลุดลอยและสะท้อนภาพความเป็นพี่น้องของเธอกับชูรู เธอก็กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง เมื่อได้ยินชื่อของเธอถูกใครบางคนเอ่ย เล็กซี่หันไปยิ้มอย่างอ่อนโยน

” ผมได้เห็นมุมใหม่ๆของซีอีโอทานากะแล้ว ไม่เพียงเขาจะแนะนำให้รู้จักกับ ประธานหญิงเยว่เท่านั้น แต่ยังรวมถึง คุณหนูน้อยตระกูลหยางด้วย ฮ่าฮ่า!”

“ อ่า ซีอีโอถังคะ …ฉันจะไม่เป็นอะไรกับคุณทานะกะเร็น..” เร็นทานากะไม่ปฏิเสธคำพูดของซีอีโอถัง แต่ยอมรับอย่างไร้ยางอาย และยกเก้าอี้ให้ใกล้กว่าเดิม เมื่อเห็นการกระทำของเขา เล็กซี่แทบสำลักแชมเปญที่เธอจิบ โชคดีที่เธอไม่ได้ดื่มมากไม่งั้นเธอจะพ่นเหล้าหอม ๆ ออกมาทันที

ในการพบปะสังสรรค์แบบนี้ ผู้ชายและผู้หญิงที่มีสถานะมักจะชมเชยและหยอกล้อด้วยคำพูดขี้เล่น ยิ่งกว่านั้นแม้ว่าพวกเขาจะยกยอกันไปมา แต่ก็ต้องรู้จักแสดงความถ่อมใจ ถึงกระนั้นทานากะเร็นก็ดูเหมือนจะไม่ใช่คนแบบนั้น

“ แล้ว.. ประธานหญิงเยว่คิดว่ายังไงล่ะ? ” เร็นหันหน้าไปทางเจ้าของงานในค่ำคืนนี้ โดยสัญชาตญาณ เล็กซี่ย้ายสายตาไปที่ผู้หญิงที่มีอำนาจเหนือกว่า ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเบาะหัวโต๊ะ เห็นเธอจิบไวน์ที่หายากและมีจำนวนไม่มากในโลกใบนี้ ซึ่งมีราคาถึงแสนดอลลาร์ก่อนจะยิ้มและพยักหน้าเห็นด้วย

“ อันที่จริงฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่มีแขกที่หาตัวจับได้ยาก และน่าทึ่งเช่นคุณหยาง รวมถึงคนอื่น ๆ ดังนั้นฉันต้องขอขอบคุณ คุณทานากะอีกครั้งที่ช่วยฉันเชิญชวนทุกคนมาในคืนนี้นะคะ” เซราฟิน่าเยว่ก้มศีรษะด้วยความขอบคุณ ซึ่งทำให้บรรยากาศที่เงียบสงบนั้นสดใสขึ้น

เมื่อได้สังเกตคนที่น่านับถือเหล่านี้ผ่านความรู้ของเธอเกี่ยวกับสิ่งต่างๆมากมายที่เธอศึกษาและเสียสละการนอนของเธอ เล็กซี่ก็พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้มาก ต้องขอบคุณความขยันหมั่นเพียรของเธอในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้เธอเข้าใกล้เป้าหมายหลักของเธอมากขึ้นอีกขั้นหนึ่ง คือการโน้มน้าวให้ทานากะตกลงร่วมกับ หลิว คอเปอเรชั่น

“ นอกจากนี้ผมก็ดีใจที่ได้พบกับประธานลู่…น่ายินดี น่ายินดี!” ซีอีโอถังผู้โด่งดังที่สุดในบรรดาแขกทั้งหมดจับมือกันด้วยความยินดี และยิ้มอย่างสดใสให้กับท่าทางอันน่าเคารพของอีธานลู่ เล็กซี่หันหัวไปด้านข้างโดยไม่รู้ตัวและอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยท่าทางอันชาญฉลาดของอีธานอย่างเห็นได้ชัด

ทำไมเธอต้องแปลกใจ? ท้ายที่สุดพวกเขาทุกคนต่างก็สวมรอยยิ้มทางธุรกิจ ซึ่งมีความหมายลึกซึ้งอยู่เบื้องหลัง แม้แต่เล็กซี่เองที่ยิ้มตลอดทั้งคืนก็ยังวิจารณ์คนใส่ชุดแปลก ๆ และไม่น่าดูอยู่ภายใน

โดยไม่รู้ตัว เล็กซี่กำลังจ้องมองไปที่ใบหน้าด้านข้างของอีธาน ในขณะที่เขากำลังพูดคุยด้วยถ้อยคำดอกไม้กับนักธุรกิจคนอื่น ๆ เมื่อรู้สึกถึงการจ้องมอง อีธานก็มองกลับไปที่เธอและขยิบตาให้ ซึ่งทำให้เธอเกิดอาการมึนงง

เขากระพริบตาหลายครั้ง เล็กซี่หันไปมองจากคาสซาโนว่าจอมเจ้าชู้อย่างเต็มตา คิ้วของเธอขมวด ‘อยู่ไหมชูรู?’

“ ชู?” ชูรูที่ถูกเรียกออกมาก็ตอบกลับอย่างไร้เดียงสา

‘บอกฉันที ว่าฉันเห็นสิ่งที่ฉันไม่ควรเห็น? ‘ การพริบตาที่ค่อยๆผลักเธอไปจนถึงขีดจำกัดความอดทน กลัวว่าเธอจะสติแตกก่อนเธอไปถึงจุดหนึ่ง เช่นเดียวกับที่เธอเคยทำในอดีตและทำให้เกิดความบอบช้ำจากคู่หมั้นคนก่อน

“ เล็กซี่…อ่อนไหวจังนะ นี่ไม่ใช่จุดเริ่มต้นที่พวกเขาเรียกว่า รัก กันเหรอ ~?” ชูรูที่เล็กซี่เพียงเล็กน้อยก็หัวเราะคิกคักขณะที่เธอสร้างรูปหัวใจด้วยการยืดแขนเล็ก ๆ น่ารักของเธอแล้ววางไว้ที่ด้านบนของหัว

‘ไม่นะ แต่มันอาจจะเป็นเหตุที่ทำให้ฉันอยากทำลาย ร.ะ.บ.บ. น่ะ ‘