เทาเท่กับโซเมนคิดไม่ถึงว่าเจเทาวน์จะลงมือทำร้ายคนอื่น ใบหน้าเทาเท่ก็โดนหมัดของเจเทาวน์ไปหนึ่งหมัดอย่างไม่ทันตั้งตัว
เทาเท่ก็ไม่ใช่คนที่จะยอมให้ถูกทำร้ายเฉยๆ เมื่อบวกกับที่เขาไม่พอใจต่อเจเทาวน์แล้ว พอได้สติคืนมาก็สู้กลับอย่างไม่เกรงใจ ทั้งสองจึงตะลุมบอนอยู่ในห้องคนไข้
ดีที่เจเทาวน์หาห้องคนไข้ VIP ให้หลินจือ แค่หลินจือไม่ห้าม พื้นที่ในห้องก็กว้างพอที่จะสู้
ไม่งั้นสองคนนี้ที่คนหนึ่งเป็นนักแสดงรุ่นเก๋าอีกคนเป็นท่านประธานฟอเรนากรุ๊ป ก็จะขึ้นเสิร์ชหาสุดร้อนแรงว่าทะเลาะเบาะแว้งจนถึงขั้นลงไม้ลงมือในห้องคนไข้
โซเมนพยายามห้ามอยู่ข้างๆ:“นี่ฉันบอกว่า พวกนายหยุดได้แล้ว!”
“เท่!”
“เจเทาวน์!”
โซเมนตะโกนอยู่หลายครั้ง แต่ทั้งสองได้สะสมความโกรธต่อกันและกันจนถึงขั้นสุดแล้ว พอได้ระเบิดออกมาจะใจเย็นลงได้อย่างไร
โซเมนโดนหมัดที่เข้ามาอย่างรวดเร็วจนตกใจถอยหลังไปก้าวหนึ่ง เขาโกรธจนไม่ห้ามอีก กอดอกอยู่ตรงด้านข้าง มองสองคนที่สู้กันด้วยความเสียสติอย่างเย็นขา
โซเมนมองเทาเท่ที่นัยน์ตาแดงก่ำปล่อยหมัดไปมา ก็อดไม่ได้ที่จะตะลึง
เขารู้จักเทาเท่มาหลายปี เป็นครั้งแรกที่เห็นเทาเท่ต่อสู้อย่างเสียสติแบบนี้
พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ในแวดวง ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีคนขัดใจพวกเขา แต่พวกเขาต่างใช้วิธีที่“สง่างาม”แอบให้อีกฝ่ายได้รับโทษอยู่เสมอ เรื่องที่ทำตรงๆแบบนี้ เป็นครั้งแรกที่โซเมนเห็นเทาเท่ทำ
ที่จริงเจเทาวน์ไม่ชอบคนหยาบคายแบบนี้ เขาอยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปี มีชื่อเสียงจากความเข้าถึงได้และอบอุ่นมาเสมอ บวกกับอายุและประสบการณ์ของเขาก็เท่านี้แล้ว ปกติไม่มีอะไรทำให้เขาขุ่นเคืองได้เลย
แต่วันนี้หลินจือเผชิญกับเรื่องนี้ ให้เขาไม่ปล่อยหมัดสักหน่อยก็คงไม่ได้
ตอนเช้าที่เขาโทรหาหลินจือก็ฟังความผิดปกติของหลินจือออก หลังจากวางสายจึงให้คนไปสืบ สุดท้ายรู้ว่าหลินจือถูกพินอินจับตัวไป และยังเกือบผู้ชายสองคนทำร้ายอีก
เจเทาวน์โกรธจนตัวสั่น จึงซื้อไฟล์ทที่เร็วที่สุดรีบกลับมา
รีบไปบ้านหลินจืออย่างเหน็ดเหนื่อย ตอนที่เห็นหลินจือแก้มแดงสั่นตรงหน้าตัวเอง เจเทาวน์ก็คิดอยากฆ่าคน
ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ตอนที่เทาเท่ปรากฏในห้องคนไข้อย่างไม่ได้รับการต้อนรับ ความโกรธของเขาจะมากแค่ไหน
เขาไม่สนว่าเทาเท่เป็นใคร และไม่สนว่าตัวเองเป็นใคร ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สนด้วยว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร แค่อยากต่อย
ทั้งสองสู้กันอย่างมืดฟ้ามัวดิน ทางเดินด้านนอกมีพยาบาลได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก็พยายามเข้ามาดู แต่ถูกโซเมนโน้มน้าวให้กลับไป
เพราะจากตัวตนของเทาเท่กับเจเทาวน์แล้ว เรื่องนี้ไม่มีใครรู้จะดีกว่า
อาจเพราะว่าทั้งสองก่อเรื่องเสียงดังมากไป หลินจือที่อยู่บนเตียงจึงพยายามลืมตามา
โซเมนเห็นจึงตะโกนทันที:“ไม่ต้องตีกันแล้ว หลินจือฟื้นแล้ว”
ที่เขาตะโกนนี้ ทำให้เทาเท่กับเจเทาวน์หยุดลงอย่างรวดเร็ว แต่ใบหน้าทั้งสองก็เต็มไปด้วยเลือด ท่าทางแต่ละคนก็ดูอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากและกระอักกระอ่วน
เสื้อเชิ้ตที่เดิมทีแต่งอย่างดูดีก็ถูกดึงจนหมดสภาพ ผิดรูป ฉีกขาดไปหมด
ใบหน้าเจเทาวน์มีเลือด มุมปากเทาเท่ก็เขียว
เจเทาวน์ไม่สนใจพวกนี้ มาที่ข้างเตียงของหลินจือเป็นอย่างแรก มองเธอแล้วถามอย่างเป็นห่วง:“รู้สึกเป็นไงบ้าง?ดื่มน้ำไหม?”
หลินจือยังไข้สูง ร่างกายยังอ่อนแอมาก
แต่หลังจากเห็นแก้มบวมที่มีเลือดและผมกับเสื้อที่ยุ่งเหยิงของเขาแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นอย่างประหลาดใจ
“คุณ——”หลินจือไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
เจเทาวน์นี่……ตีกับคนอื่นเหรอ?
รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติในห้องคนไข้ หลินจือหันหน้าไปอีกด้านอย่างลำบาก ก็เห็นผ้าก๊อซที่หน้าผากและมุมปากที่เขียวของเทาเท่ ดูอนาถสุดๆ
หลินจือเข้าใจหน่อยๆว่าเกิดอะไรขึ้น สองคนนี้คงไม่ได้ตีกันหรอกใช่ไหม?
หลินจือดิ้นรนอยากลุกขึ้นมา:“นี่พวกคุณทำอะไร?”
เจเทาวน์กดเธอไว้:“คุณยังมีไข้ นอนเถอะ”
เทาเท่ที่อยู่ข้างๆพูดอย่างเซ็งๆ:“เธอจะลุกขึ้นมาก็ให้เธอลุกเถอะ คุณจะไปครอบงำอะไรทำไมกัน”
เจเทาวน์โกรธจนอยากจัดอีกที แม่เอ๊ย เขานี่นะทำตัวครอบงำ?
เธอทำเพื่อหลินจือชัดๆ และเธอยังมีไข้อีก นั่งขึ้นมาจะมึนหัวไม่ใช่เหรอ?
เทาเท้จองเจเทาวน์กลับอย่างไม่ยอมแพ้ หลินจืออยากทำอะไรก็ให้เธอทำไปสิ เจเทาวน์จะไปยุ่งมากอะไรอย่างนั้น?หลินจืออยู่กับเขา จะมีอิสระบ้างไหม?
ทั้งอสงต่างไม่มีใครยอมใคร หลังจากสบตากันความคุกรุ่นก็พรั่งพรูออกมาจะลงมืออีกครั้ง
โซเมนกลัวจริงๆ จึงรีบเข้าไปตรงกลางแยกพวกเขาแล้วพูด:“ขอร้องล่ะท่านทั้งสอง รวมอายุพวกนายเข้ากันแล้วก็เจ็ดแปดสิบกันแล้ว ใจเย็นกันหน่อย คิดถึงภาพลักษณ์ตัวเองและบริษัทกันบ้าง OK?”
ถ้าสู้กันอีก ฮอตเสิร์ชวันนี้ได้มีแต่พวกเขาจริงๆแน่
ส่วนหลินจือก็ยกมือขึ้นดึงชายเสื้อของเจเทาวน์ เพื่อเบี่ยงเบนความโมโหของทั้งสองและพูดไปว่า:“ฉันอยากดื่มน้ำ”
เจเทาวน์หยุดโมโหทันที หยิบแก้วเก็บความร้อนและหลอดด้านข้างมา ป้อนพวกเขาดื่ม
เทาเท่ยกมือเช็ดเลือดที่มุมปากตัวเอง หันหน้าหนี
ที่จริงเขาอยากเข้าไปดูแลเธอมาก แต่เหมือนเขาจะไม่มีสิทธิ์
และก็ มองเจเทาวน์ดูแลเธอแบบนี้ ความรู้สึกในใจเขาก็แย่สุดๆ
โซเมนที่อยู่ข้างๆมองสถานการณ์อันอึดอัดของเทาเท่ต่อไปไม่ไหว จึงเดินมาพูด:“พวกเราออกไปก่อนดีไหม?”
ระหว่างที่มาโซเมนก็เตือนเทาเท่ไปแล้ว เขาไปเองโดยไม่ได้รับเชิญแบบนี้อาจไปเป็นกขคได้
เทาเท่ไม่ฟัง ตอนนี้ดูสิ เขาพูดถูกเลย
เทาเท่ไม่อยากดูเจเทาวน์กับหลินจือแสดงความรักต่อกันจริงๆ จึงเหลือบมองเจเทาวน์อย่างเยือกเย็น:“ผมมีธุระมาหาคุณ คุณเสร็จแล้วออกมาด้วย”
จากนั้น สายตาเขาก็มองไปที่หน้าหลินจือที่อยู่บนเตียงอีกครั้ง
หลินจือมองเขาอย่างเฉยเมย เขาละสายตาออกไปพูดว่า:“คุณพักผ่อนเยอะๆ”
พูดจบเขาก็ก้าวเท้ายาวออกไป หลังจากโซเมนลาเจเทาวน์กับหลินจือก็รีบตามออกไป
โซเมนพูดเสนอเทาเท่:“ฉันว่า นายไปหาชุดเปลี่ยนที่ห้องไวท์ก่อนเถอะ และแผลที่หน้านายด้วย จัดการให้เรียบร้อย”
เทาเท่ทำเย็นชาไม่สนใจ โซเมนได้แต่พูดอีกว่า:“ตอนนี้สภาพเสื้อผ้านายยับยู่ยี่แบบนี้ เหมือนไปโดนใครทำมิดีมิร้ายมาเลย”
โซเมนพูดคำนี้ออกมา เทาเท่ก็จ้องเขาอย่างไม่พอใจทันที จากนั้นก้าวเท้ายาวไปที่ลิฟต์ ไปหาชุดเปลี่ยนที่ห้องไวท์
ไม่ผิดเลยที่โซเมนพูดเว่อร์แบบนั้นไป เพราะเสื้อผ้าเทาเท่ในตอนนี้ดูอนาถมากจริง
เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เดิมทีรีดอย่างดีและเรียบร้อย ถูกดึงกระดุมไปสองเม็ด และยังยับยู่ยี่ จะทำให้คนไม่ฉุกคิดได้เหรอ?
ไวท์ที่อยู่ห้องทำงานเห็นเทาเท่เดินเข้ามาสภาพแบบนี้ ก็ตกใจอย่างมาก
แต่เขาก็เข้าใจทันทีว่า ต้องสู้กับเจเทาวน์มาแน่ๆ
เขาจึงไม่พูดอะไร หันกลับหยิบเชิ้ตสะอาดออกมาจากตู้เสื้อผ้า ให้เทาเท่เปลี่ยน
นี่อาจเป็นความเข้าใจกันโดยปริยายระหว่างเพื่อนรักอย่างพวกเขา หลายๆเรื่องไม่ต้องพูด ก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร