นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 478 หมากไร้ค่า
“สวัสดีค่ะ เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกันเลย ฉันไม่ได้ยินว่าพี่หลินหนานจะแต่งงาน เลยไม่ได้เตรียมของขวัญไว้ให้ เดี๋ยวไว้ฉันมาเยี่ยมน้าหลินครั้งต่อไปจะเอามาให้นะคะ” แม้ว่าเฉินซินอ้ายจะริษยา แต่เธอก็ยังพูดอย่างใจกว้าง
เธอทำเหมือนไม่สนใจ และไม่ขาดอะไรทั้งนั้น
ยวี๋น่าเห็นดวงตาของเด็กสาวมองหลินหนานตลอดเวลา ใจก็เกิดความสงสัย เธอรู้สึกโดยสัญชาตญาณว่าเฉินซินอ้ายชอบหลินหนาน
“ไม่เป็นไรหรอก พวกเขายังไม่ได้แต่งงานกันเลย” แม่หลินจับมือเฉินซินอ้ายแล้วพูดช้าๆ “น้ายังจำได้ว่าตอนเด็ก ๆ เธอมาเล่นกับหลินหนานที่บ้าน แถมยังบอกว่าจะแต่งงานกับพี่หลินหนานตอนโตด้วย”
แม่หลินจงใจพูดถึงเรื่องนี้ต่อหน้ายวี๋น่า
“คุณน้า นั่นมันเรื่องตอนเด็กนะคะ” เฉินซินอ้ายพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ตอนนี้พี่หลินกับฉันโตแล้วนะคะ”
เฉินซินอ้ายแสร้งทำเป็นว่าบริสุทธิ์และใจดีก่อนจะมองไปทางหลินหนาน
“ซินอ้ายยังเขินง่ายเหมือนตอนเด็กเลยนะ” หลินหนานที่เห็นเพื่อนที่โตมาด้วยกัน ก็นึกถึงเรื่องตอนเด็กและอดพูดออกมาไม่ได้
เฉินซินอ้ายที่เห็นหลินหนานเริ่มพูดกับตัวเองก่อน ก็รีบพูดต่อ “จริงสิ พี่หลินหนาน พี่ยังจำตอนเด็กที่เราจัดงานแต่งงานกันในสวนได้ไหม ตอนนั้นเมื่อฉันใช้มุ้งกันยุงมาเป็นชุดแต่งงาน แล้วก็โอบแขนพี่เดินอยู่บนพื้นหญ้า ทั้งยังมีคนร้องเพลงในงานแต่งงานด้วย…”
รอยยิ้มอันแสนหวานของหญิงสาวเบ่งบานอยู่บนใบหน้าที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสา
มุมปากของหลินหนานกระตุกเล็กน้อยและพยักหน้า “พริบตาเดียวก็ผ่านไปหลายปีแล้ว ตั้งแต่เธอไปเรียนต่อต่างประเทศ เราสองคนก็ไม่ได้ติดต่อกัน”
เมื่อเห็นหลินหนานกับเฉินซินอ้ายพูดคุยกันอย่างมีความสุข ใบหน้ายวี๋น่าก็ฉายแววผิดหวังเล็กน้อย เธอพลาดความทรงจำมากมายในชีวิตของหลินหนาน
แม่หลินที่สังเกตเห็นความผิดหวังบนใบหน้าของยวี๋น่า เธอก็ยังคงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พวกลูกสองคนนี่ยังสนิทกันเหมือนเดิมเลยนะ พอคุยกันก็ลืมแม่ไปเสียแล้ว ไม่สนใจใครเชียว”
เฉินซินอ้ายถูกแม่หลินล้อก็เขินอาย “คุณน้า อย่าล้อเล่นสิกันคะ เดี๋ยวพี่หลินหนานก็หัวเราะเยาะฉันอีกหรอก”
ตอนเธอพูดไปนั้นก็แอบดูปฏิกิริยาของยวี๋น่าเป็นครั้งคราวด้วย
ยวี๋น่าสูดหายใจเข้าลึกๆ “หลินหนาน ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย ขอกลับไปพักที่ห้องก่อนนะ”
หลังจากพูดจบ ยวี๋น่าก็ลุกขึ้นเดินขึ้นไปชั้นบน
“น่าน่าโอเคไหม?” เมื่อเห็นว่าสีหน้ายวี๋น่านั้นแย่มาก หลินหนานจึงรีบวิ่งตามไป
“คุณน้าคะ ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า ทำให้พี่หลินหนานไม่มีความสุขเหรอคะ?” ดวงตาของเฉินซินอ้ายจ้องไปที่แผ่นหลังของหลินหนาน เมื่อเห็นเขาเป็นห่วงในตัวยวี๋น่ามาก เปลวไฟแห่งความริษยาก็แผดเผา
“จะเป็นไปได้ยังไง?” แม่หลินแอบโกรธที่หลินหนานกังวลเรื่องยวี๋น่ามาก ก็พูดพร้อมกับถอนหายใจ “ยวี๋น่าไม่มีมารยาทเลยสักนิด จะไปเทียบกับหนูได้ยังไง ช่างน่าเสียดายจริงๆ”
เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าหัวลูกชายของเธอมันกระทบกระเทือนอะไรหรือเปล่า ถึงได้ไปชอบผู้หญิงอายุเยอะกว่าตัวเองตั้งเยอะ
อีกทั้งเคยได้ยินว่ายวี๋น่ามีแฟนมาก่อนด้วย จะไปเทียบกับเฉินซินอ้ายได้ยังไงกัน?
…
ตั้งแต่ถังรั่วอิงหนีออกจากคุกและถูกสวีหว่านเอ๋อร์ส่งไปต่างประเทศ เธอก็ได้เช่าคอนโดเล็ก ๆ แต่ยังไงเงินที่สวีหว่านเอ๋อร์มอบให้เธอก็เพียงพอสำหรับอยู่ต่างประเทศหลายปี ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น
แต่ฮ่อหยุนเฉิงกับซูฉิงนั้นเป็นคนที่ทั้งในและนอกประเทศต่างให้ความสนใจ รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขากำลังจะจัดพิธีหมั้น ซึ่งได้แพร่ไปยังอินเทอร์เน็ตและทางสื่อก็ได้รายงานไปอย่างกว้างขวาง
เดิมทีถังรั่วอิงที่ไม่มีอะรำถึงได้เลื่อนแพลตฟอร์มในโซเชียล แต่ก็ดันไปเห็นข่าวว่าฮ่อหยุนเฉิงและซูฉิงจะหมั้นกัน ขณะนั้นเธอก็รู้สึกไม่สบายใจ ซูฉิง ทำไมตอนนี้ซูฉิงถึงยังได้อยู่กับฮ่อหยุนเฉิงอีก?
คนที่ควรอยู่กับฮ่อหยุนเฉิงมันควรเป็นเธอชัดๆ!
ถังรั่วอิงเม้มริมฝีปาก ใบหน้านิ่งลง และเลื่อนเมาส์ไม่หยุด พอเธอเห็นคำอวยพรของชาวเน็ตในพื้นที่ให้แสดงความคิดเห็น หัวใจของเธอก็พองขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดความหึงหวงก็ไม่สามารถระงับไว้ได้ จนมันเต็มลำตัวไปหมด
สีหน้าท่าทางนิ่งลง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว และหาหมายเลขโทรศัพท์ของหลี่เฉิงหยางในสมุดโทรศัพท์
ฮ่อหยุนเฉิงกลายเป็นสิ่งที่หัวใจของถังรั่วอิงอยากได้ ตราบใดที่เขาอยู่กับซูฉิงได้ดี ตราบใดที่ซูฉิงได้อยู่กับฮ่อหยุนเฉิง ถังรั่วอิงก็ไม่มีวันได้อยู่อย่างสงบสุข…
แต่เธอหนีออกจากคุกและสวีหว่านเอ๋อร์ก็ไม่สามารถช่วยให้เธอเดินทางกลับจีนได้ คนที่ช่วยเธอได้มีแค่หลี่เฉิงหยาง
นิ้วนิ่งค้างเป็นเวลาสามวินาที ในที่สุดเธอก็กัดฟันและกดหมายเลขของหลี่เฉิงหยาง
เสียงรอสายดังขึ้นสี่ถึงห้าครั้งก่อนจะถูกรับ และเสียงที่สุภาพและห่างไกลของผู้ชายก็ดังขึ้นจากปลายสาย “สวัสดีครับ ใครครับ?”
ถังรั่วอิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนเรียกความกล้าออกมาแล้วพูดว่า “ฮัลโหล พี่…ฉันเอง”
“ถังรั่วอิง?” หลี่เฉิงหยางได้ยินเสียงจากทางโทรศัพท์ก็นิ่งไป ความเบื่อหน่ายปรากฏในดวงตาของเขาอย่างชัดเจน ก่อนจะแสยะยิ้มเยาะเย้ย ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้หนีออกจากคุกไปแล้ว? เขาก็นึกว่าชาตินี้ถังรั่วอิงจะไปแก่ตายที่อื่นเสียอีก
หลี่เฉิงหยางกัดฟันและกระตุกยิ้ม แต่หน้าผากได้ปรากฏรอยย่น ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงประชดและไม่สบอารมณ์ “เธอยังไม่ตายอีกเหรอ?”
ถังรั่วอิงเม้มริมฝีปากอย่างอดทน ก่อนจะพูดอย่างระมัดระวัง “ที่ฉันโทรหาพี่ในวันนี้…คืออยากให้พี่คิดหาทางช่วยฉันกลับเมือง A ฉันอยากกลับไป”
“เมือง A?” ทันใดนั้นเสียงของหลี่เฉิงหยางก็ดังขึ้นเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เป็นการพูดเสียดสีที่ยับยั้งเอาไว้ แต่ตอนนี้ไม่มีทีท่าจะปกปิด เขาคิดว่าถังรั่วอิงต้องสมองมีปัญหาแน่
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาออกมาจากพิธีหมั้นเร็วและสุดท้ายก็ให้คนจัดการเกี่ยวกับของตระกูลฮ่อกรุ๊ป ก็คงได้ติดคุกไปพร้อมกับถังรั่วอิงในตอนแรกแล้ว
“ถังรั่วอิง เธอมาบอกฉันตอนนี้ไม่คิดว่ามันสายเกินไปหน่อยหรือไง?” หลี่เฉิงหยางเยาะเย้ย “ตอนนี้เธอมีสิทธิ์อะไรมาขอข้อตกลงกับฉัน? ฉันแนะนำว่าทางที่ดีอย่ามายุ่งกับฉันอีก ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าฉันจะไปพูดอะไรที่สถานีตำรวจบ้าง”
หลี่เฉิงหยางเป็นคนเย็นชา เป็นคนที่มีนิสัยเหมือนนักธุรกิจที่ไม่ทำอะไรถ้าไม่ได้กำไร
สำหรับหมากรุกอย่างถังรั่วอิงที่ไม่คุ้มที่จะใช้งานอีกต่อไป เขาก็หมดความอดทนแล้ว หลังจากพูดจบก็กำลังจะวางสาย
ทว่ากลับมีเสียงผู้หญิงดังขึ้นจากปลายสายอย่างไม่คาดคิด “เดี๋ยวก่อน!”
“ยังมีอะไรอีก?” เสียงเยือกเย็นของชายผู้นั้นดังขึ้นอีกครั้ง ทว่ากลับเหมือนเครื่องจักร ไร้ซึ่งความอดทนราวกับวินาทีถัดไปก็พร้อมก่นด่าทันที
ถังรั่วอิงกัดฟันแน่น หัวใจของเธอเต้นแรงเพราะประหม่าและโกรธ ถ้าซูฉิงหมั้นกับฮ่อหยุนเฉิงสำเร็จ ชีวิตนี้เธอคงได้ใช้ชีวิตอย่างคนตายแน่!
ซูฉิง!
ฮ่อหยุนเฉิงเป็นของถังรั่วอิงคนนี้!!