ตอนที่ 192 เทพธิดาแห่งพิณ

ติ้ง – ตั้ง – ตั้ง –

เทพธิดาโฉมงามปริศนานี้ยังคงเล่นพิณต่อไป แม้จะหยวนจะปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันต่อหน้าของเธอ หยวนยืนฟังเพลงของเธอเงียบๆ เขารู้สึกราวกับว่าทุกโน้ตดนตรีของเธอดึงความรู้สึกของเขาไป พร้อมกับบางสิ่งบางอย่างที่เขาไม่สามารถระบุได้ หรือว่านั่นคือจิตวิญญาณ

หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน เทพธิดาโฉมงามก็หยุดเล่นดนตรีในที่สุด ก่อนจะวางมือลงบนตักแล้วหันไปมองหยวนด้วยดวงตาที่สวยงามราวกับอัญมณีของเธอ

“เจ้าคิดยังไงกับเพลงของข้า” ทันใดนั้นเธอก็ถามเขา เสียงที่ชัดเจนของเธอฟังดูไพเราะราวกับเสียงพิณของเธอ

หยวนรู้สึกตัวจากความงุนงงในเสียงเพลงที่เกิดขึ้นทันที หลังจากได้ยินคําพูดของเธอเขาก็รีบพูดด้วยน้ําเสียงงั้นงง

“มัน…วิเศษมาก…ข้าไม่เคยได้ยินเพลงแบบนี้มาก่อน และข้านึกไม่ถึงว่าดนตรีจะเข้าถึงระดับนี้ได้”

หากมีคนที่มีความงามเช่นนี้อยู่จริงในโลกของเขาแล้วละก็ มันจะทําให้ชีวิตในอาชีพของเขาน่าตื่นเต้นมากขึ้นและโลกแห่งดนตรีก็จะมีชีวิตชีวามากขึ้นด้วย

โฉมงามยิ้มให้กับคําพูดของเขาจากนั้นเธอก็พูดว่า

“เจ้ารู้ไหมว่าทําไมเจ้าถึงมาที่นี่”

หยวนรีบส่ายหัว

“เพราะเจ้ามีศักยภาพในการเล่นดนตรีในระดับเดียวกับข้าหรืออาจจะดีกว่า” เธอกล่าว

“พิณบ่วงวิญญาณ…ข้าปฏิบัติกับเครื่องดนตรีชิ้นนี้ราวกับเป็นลูกน้อยของตัวเอง นับตั้งแต่ที่ข้าได้รับมันเป็นของขวัญวันเกิดจากพ่อแม่ของข้า ซึ่งน่าเสียดายที่ข้าต้องจากพิณตัวนี้ไปในเวลาต่อมาไม่นาน”

“ถ้ายังงั้นท่าน…ท่านคือเทพธิดาแห่งพิณงั้นหรอ?” หยวนถามเธอด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเล็กน้อย

“เทพธิดาแห่งพิณงั้นหรอ นั่นเป็นชื่อที่คนอื่นตั้งให้ข้า จริงๆแล้วข้าก็มีชื่อเป็นของตัวเอง”

“ถ้าท่านไม่ว่าอะไร ข้าถามได้ไหมว่าทําไมท่านถึงตัดสินใจทิ้งพิณบ่วงวิญญาณนี้ ข้าไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่ท่านออกจากสวรรค์ชั้นล่าง แต่ข้ายังสัมผัสได้ถึงความรู้สึกโดดเดี่ยวจากพิณได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ข้าเห็นมัน” หยวนอดไม่ได้ที่จะถามและพูดต่อ

“มันสําคัญสําหรับท่านใช่ไหม แล้วทําไมท่านถึงทิ้งสิ่งที่มีค่าและความทรงจํามากมายไว้ข้างหลังละ?”

เทพธิดาแห่งพิณหันไปมองที่พิณสีดําพร้อมกับความเงียบก่อนที่จะพูดในเวลาต่อมา

“เพราะข้าต้องการที่จะเลิกเล่นพิณ”

“เอ๊ะเลิก…เลิกเล่นพิณงั้นหรอ ทําไมละ?” หยวนมองเธอด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เพราะเขาไม่ได้คาดหวังคําตอบเช่นนี้จากเธอ

อย่างไรก็ตามเทพธิดาจะไม่ตอบคําถามของเขา แต่เธอถามเขาว่า

“เจ้าอยากเล่นพิณตัวนี้ไหม”

“ข้า…ข้าอยาก…แต่ไม่ว่าข้าจะพยายามแค่ไหนข้าก็ไม่สามารถทําให้มันเปล่งเสียงออกมาได้อย่างถูกต้อง” เขากล่าว

เมื่อได้ยินคําพูดของเขาเทพธิดาแห่งพิณก็ขยับไปด้านข้างเล็กน้อยแล้วพูดว่า

“มานั่งตรงนี้ข้าจะสอนวิธีเล่นพิณตัวนี้ให้กับเจ้า”

“จริงเหรอ?” หยวนไม่รีรอรีบเดินไปนั่งข้างๆเธอ

เทพธิดาแห่งพิณหัวเราะเบาๆอย่างสง่างามก่อนจะพูดว่า

“พิณบ่วงวิญญาณเป็นเครื่องดนตรีพิเศษที่สามารถเล่นได้ด้วยเทคนิคที่เหมาะสมเท่านั้น และข้าจะสอนเทคนิคนี้ให้เจ้าในตอนนี้”

“ได้เลย…ข้าจะลองเล่นดู”

หยวนพยักหน้าและเริ่มเล่นพิณในเวลาต่อมา

ตอง…

อย่างไรก็ตามพิณยังคงส่งเสียงอู้อี้ออกมา

“อย่ากังวล เล่นมันต่อไป” เทพธิดาแห่งพิณกล่าวกับเขา

หยวนพยักหน้าและจดจ่ออยู่กับการเล่นพิณทั้งๆที่ไม่มีทีท่าว่าจะคืบหน้า

ในเวลาต่อมาเทพธิดาแห่งพิณก็ขยับตัวทันทีและด้วยความประหลาดใจของหยวน เธอวางมือที่เที่ยงตรงของเธอไว้บนมือของหยวน โดยไม่รบกวนการเคลื่อนไหวของเขา ราวกับว่ามือของหยวนและเทพธิดาแห่งพิณกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน และเธอก็เริ่มนําทางให้กับหยวนราวกับว่ามือของหยวนเป็นมือของเธอเอง

ไม่กี่นาทีต่อมาเสียงอู้อี้ที่มาจากพิณก็เปลี่ยนไป

ยิ่ง…

แม้ว่ามันจะไม่คมชัดและฟังดไพเราะเหมือนเสียงที่สร้างโดยเทพธิดาแห่งพิณหยวนก็ยังสามารถเล่นเสียงที่ชัดเจนด้วยพิณได้

“เจ้าเป็นคนเรียนรู้เร็ว ทันใดนั้นเทพธิดาก็กล่าวกับเขา

“แต่ท่านคือคนที่ควบคุมมือของข้า…” หยวนพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่น่าอึดอัดบนใบหน้าของเขา

“นั่นคือสิ่งที่เจ้าคิด แต่จริงๆแล้วการเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้เจ้าเป็นคนเคลื่อนไหวเอง ข้าแค่สอนเทคนิคให้เจ้า และเจ้าเป็นคนที่เรียนรู้และเข้าใจมัน”

หยวนพยักหน้าและตั้งสมาธิกับการเล่นพิณต่อไป

ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีของการฝึกฝนหยวนไม่เพียงแต่สามารถจับแก่นแท้ของเทคนิคได้ แต่ยังรวมเทคนิคของเขาเองเข้าด้วยกัน ทําให้เกิดเทคนิคใหม่ทั้งหมด

สิ่งนี้สร้างความตกใจให้กับเทพธิดาแห่งพิณเป็นอย่างมาก เพราะเธอไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเรียนรู้ศิลปะพิณได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถสร้างเทคนิคของตัวเองได้ในเวลาเดียวกัน

“ชายหนุ่มคนนี้เป็นอัจฉริยะด้านดนตรีอย่างแท้จริง…ถ้าเพียงข้าได้พบเขาในขณะที่ข้ายังอยู่ในสวรรค์ชั้นล่าง… เธอถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เธอไม่สามารถมีคู่แข่งอย่างหยวนในยุคของเธอได้

ในขณะเดียวกันภายนอกความคิดของหยวนเฟยยู่หยานก็จ้องมองหยวนด้วยดวงตาที่เบิกกว้างราวกับจานรอง

“เขาเล่นพิณนี้! เขาเล่นพิณตัวนี้ได้จริงๆ!!!” เฟยยู่หยานร้องไห้อยู่ข้างใน ขณะที่หยวนเล่นพิณโดยไม่รู้ตัวในแบบเดียวกับที่เขาเล่นอยู่ในใจของเขา ทําให้พิณเกิดเสียงสวรรค์ขึ้นมา

เขาทําได้ยังไง?! ไม่อยากจะเชื่อเลย! ข้าอยากถามเขา แต่ข้าไม่กล้ารบกวนเขา!” เฟยยู่หยานยังคงร้องไห้อยู่ในใจของเธอ เธอรู้สึกราวกับว่าจิตวิญญาณของเธอถูกดึงออกจากร่างกายโดยการแสดงของหยวน

ทันใดนั้นเองหยวนก็หยุดเล่นพิณและเขาก็หันไปมองเทพธิดาซึ่งนั่งอยู่ข้างๆเขาก่อนจะถามว่า

“ทักษะการเล่นพิณนี้ชื่ออะไร?”

รอยยิ้มแปลกๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเทพธิดาแห่งพิณก่อนที่เธอจะตอบว่า

“ศิลปะพิณของข้าไม่มีชื่อและเนื่องจากเจ้าได้สร้างมันขึ้นมาด้วยเทคนิคเฉพาะของเจ้าเอง เจ้าจึงสามารถตั้งชื่อเองได้”

หลังจากใช้เวลาคิดสักครูหยวนจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มที่หล่อเหลาบนใบหน้าของเขา

“ข้าเรียนรู้จากท่าน ข้าจะเรียกมันว่าศิลปะนิรันดร์ของเทพธิดาแห่งพิณ”