ตอนที่ 437 ฉันก็ไม่ได้แย่ไปกว่าเซิ่งอี่เจ๋อ
ตามคำที่กล่าวไว้ว่า ด่าคนจะต้องไม่เผยจุดอ่อน
เนื่องจากอันซย่าซย่าโดนอันอี้เป่ยกล่อมเกลามาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว เธอจึงมีความถนัดในการพูดแทงใจดำ!
ก็อยากทะเลาะไม่ใช่เหรอ? เอาสิ เจอฉันได้ทุกเมื่อ!
ซ่งชิงเฉินเคยเห็นพลังการต่อสู้ของอันซย่าซย่ามานานแล้ว ในเวลานี้เธอจึงได้แต่อดทนไว้
ไม่ผิด เธอเป็นมือที่สาม เธอเสแสร้งไร้เดียงสา ร้องไห้สะอึกสะอื้น ทั้งหมดนี้ไม่สามารถลบล้างได้
“ตอนนี้เขาเป็นของฉัน!” แววตาซ่งชิงเฉินเป็นประกายดุร้าย อันซย่าซย่ายักไหล่ “อืม เป็นของเธอ ยินดีด้วยที่เธอเป็นมือที่สามได้สำเร็จ สวัสดีซ่งมือที่สาม ลาก่อนซ่งมือที่สาม!”
ฉีเหยียยนซีพูดคำเชือดเฉือนเพิ่ม “น้องมือที่สาม วันหลังถ้ากลับประเทศมาบ่อยๆ ฉันจะแนะนำผู้ชายที่มีเมียแล้วให้เธอได้ฝึกฝีมือนะ”
พอพูดเสร็จ ทั้งสองก็เชิดหน้าไหล่พึงเดินออกไปอย่างสงบโดยทิ้งซ่งชิงเฉินโมโหจนเลือดลมสูบฉีดอยู่กับที่
–
หลังจากที่พาอันซย่าซย่ากลับบ้าน ฉีเหยียนซีก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะไปไหน เขาถูนิ้วตัวเองแล้วถือโอกาสตอนที่อันซย่าซย่าไม่ทันระวังตัวผลักเธอติดกับกำแพง จากนั้นก็เอามือดันกำแพงไว้
“ฉีเสี่ยวฮัว นายทำอะไรน่ะ?” อันซย่าซย่าผลักเขาด้วยความงุนงง
ฉีเหยียนซีก้มศีรษะลงใกล้หน้าผากเธอโดยห่างกันเพียงหนึ่งถึงสองเซนติเมตร จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆ ของฝ่ายตรงข้าม
“จะไม่พิจารณาฉันสักหน่อยเหรอ? ฉันก็ไม่ได้แย่ไปกว่าเซิ่งอี่เจ๋อหรอกนะ” น้ำเสียงของเขาแหบพร่า นัยน์ตาสีดำอันลึกซึ้งคู่นั้นจ้องมองอันซย่าซย่า
ราวกับว่าในสายตาเขา ในใจเขา และในโลกของเขาล้วนมีเพียงอันซย่าซย่าแค่คนเดียว!
อันซย่าซย่าเบี่ยงหน้าหนีด้วยความอึดอัด “ฉีเสี่ยวฮัว นายอย่าทำแบบนี้…ความรู้สึกมันจะเปรียบเทียบกันได้ที่ไหนล่ะ ฉันไม่ได้คิดอะไรกับนาย นายดีกับฉัน ฉันก็ดีใจมากและปลื้มใจแบบเด็กผู้หญิงอยู่หน่อยๆ แต่ฉันตอบตกลงกับนายไม่ได้ หรือไม่สามารถให้คำตอบคลุมเครือได้เพราะมันจะเป็นการผูกติดนายไว้ ความสัมพันธ์คลุมเครือมันไม่ยุติธรรมกับนายและเป็นการดูหมิ่นนายด้วย”
ฉีเหยียนซียกมุมปากที่เต็มไปด้วยความขมขื่น ยัยโง่คนนี้ลำบากใจแล้วยังต้องมาอธิบายหลักการพวกนี้ให้เขาฟังซะใหญ่โต
เขาจะไม่เข้าใจหลักการพวกนี้ได้อย่างไร? แต่ไม่ว่าจะเข้าใจมากแค่ไหน เขาก็ยังคงทำมันไม่ได้อยู่ดี
“ซย่าซย่า…” เขาพึมพำเบาๆ พลางใช้ปลายนิ้วหยาบลูบไล้ริมฝีปากชมพูของเธอ ลังเลอยู่นานสองนาน แต่ไหนแต่ไรมาเขายังไม่เคยจูบเธอเลย
“แม่งเอ๊ย…” เขากร่นด่าเสียงต่ำพลางบีบแก้มอันซย่าซย่า “อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนี้!”
ใสสะอาดเกินไป บริสุทธิ์เกินไปจนทำให้เขาไม่มีใจคิดทำเรื่องสกปรก ทำไม่ลงเลยจริงๆ!
ใบหน้าของอันซย่าซย่าเต็มไปด้วยความไร้เดียงสา พอฉีเหยียนซีมองก็ยิ่งหงุดหงิดและปล่อยเธอ เขาสาวเท้าก้าวยาวๆ เดินออกไป
ให้ตายเถอะ!
–
หลังจากถังอวี้จวินมาติวให้อันซย่าซย่าตามปกติ อันซย่าซย่าก็เสนอว่าจะกลับไปเรียนที่โรงเรียนดังเดิม แต่ถังอวี้จวินกลับมีท่าทีหลบเลี่ยง “พักอีกสักหน่อยเถอะ ฉันจะช่วยติวให้เธอเอง”
อันซย่าซย่ามองเขาด้วยแววตาสงสัยเพราะมักจะรู้สึกว่าเขากำลังปิดบังอะไรบางอย่าง
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ เธอก็โทรศัพท์หาเซิ่งอี่เจ๋อแต่ยังคงปิดเครื่อง
เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามเล่นอย่างอื่นเพื่อระบายอารมณ์
มือคลิกเปิดไป่ตู้เทียปา จากนั้นก็เสิร์ชหน้าแรกของโรงเรียนและคลิกไปที่กระทู้ยอดนิยม ทันใดนั้นสีหน้าเธอก็ดูแย่ขึ้นมา
ข่าวซุบซิบของนังหญิงร่านที่ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรงแห่งฉีซย่า
เป็นที่ทราบกันดีว่าทุกคนคงรู้ข่าวเรื่องที่หัวหน้าวงอี่เจ๋อถอนตัวออกจากวงการบันเทิงแล้ว? และวันนี้มีแฟนคลับคนหนึ่งได้โพสต์รูปภาพตอนที่หัวหน้าวงอี่เจ๋อขึ้นเครื่องที่สนามบิน โดยด้านล่างจะเป็นการเปิดเผยความลับให้ทุกคนได้รับรู้ว่านังแพศยาที่ทำร้ายหัวหน้าวงอี่เจ๋อจนมาอยู่ในสภาพแบบนี้ แท้ที่จริงแล้วคือใครกันแน่!
ทุกรูปภาพล้วนเป็นความจริง
ภาพที่อยู่ใต้ล่างคือภาพของเธอกับเซิ่งอี่เจ๋อทั้งหมด!
อันซย่าซย่ากัดริมฝีปาก เซิ่งอี่เจ๋อถอนตัวออกจากวงการบันเทิงแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ?
ตอนที่ 438 คนไร้ยางอายยังคงลอยนวล
ในรูปมีคนสองคนกินข้าวด้วยกัน ดื่มนมด้วยกัน เขาช่วยอธิบายโจทย์ให้เธอฟัง เขาลูบผมเธอ…แต่ละรูปเต็มไปด้วยความรักใคร่สนิทสนม สายตาของเซิ่งอี่เจ๋อไม่ได้เย็นชาเหมือนอยู่ต่อหน้าทุกคน แต่กลับแฝงไปด้วยความอ่อนโยนและเอาใจใส่
รูปที่ดังระเบิดคือรูปที่เซิ่งอี่เจ๋อจูบเธออย่างดูดดื่มในกองถ่ายตำนานเซียนตกสวรรค์!
อย่างไรก็ตามภาพที่แพร่กระจายบนอินเทอร์เน็ตในตอนนั้นเป็นภาพที่มีโมเสคบนใบหน้าของหญิงสาวและมีตราโรงเรียนติด แต่ภาพนี้กลับเป็นภาพชัดระดับ HD!
ใบหน้ารูปไข่ของอันซย่าซย่าแดงระเรื่อ เธอถูกเซิ่งอี่เจ๋อจูบอย่างหนักโดยพิงหลังอยู่บนเก้าอี้…ใครก็ตามที่ได้เห็นมัน จะต้องคิดว่านี่คือคู่รักร้อนแรง
โดยครึ่งหลังของโพสต์เขียนว่า: ใช่แล้ว ผู้หญิงคนนี้แหละที่ทำให้หัวหน้าวงอี่เจ๋อของพวกเราถอนตัวออกจากวงการบันเทิง! คนไร้ยางอายยังคงลอยนวล เธอหลอกล่อหัวหน้าวงอี่เจ๋อของพวกเรา ล่อลวงความจริงใจของหัวหน้าวงอี่เจ๋อแล้วทิ้งหัวหน้าวงอี่เจ๋อไปอย่างใจร้ายใจดำ! หัวหน้าวงอี่เจ๋อยังได้รับบาดเจ็บที่มือเพราะเธอและถอนตัวออกจากวงการบันเทิงไป ตอนนี้เขาจึงทำได้เพียงหนีไปต่างประเทศเท่านั้น! ทั้งหมดเป็นเพราะเธอ!
บางคนที่ไม่เชื่อก็ตั้งคำถาม: ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็พูดได้แค่ว่าเซิ่งอี่เจ๋ออ่อนแอเกินไป แค่โดนทิ้งก็ถึงกับหนีไปต่างประเทศ สภาพจิตใจเขาย่ำแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?
เจ้าของกระทู้ [ไอซ์เลมอน] ตอบว่า: ไม่ใช่แน่นอน ถ้าพูดถึงภูมิหลังครอบครัวของหัวหน้าวงอี่เจ๋อแล้ว พวกเธอจะต้องช็อกตายไปเลยล่ะ เพราะเขาเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลเซิ่งซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่แห่งเมืองอวี้! ถึงอย่างไรคนในตระกูลเซิ่งก็ไม่มีทางยอมรับเด็กสาวธรรมดาๆ คนหนึ่งหรอก หัวหน้าวงอี่เจ๋อทะเลาะกับครอบครัวเพราะเธอมาโดยตลอด ผู้หญิงคนนี้ก่อเรื่องขึ้นมาเอง เธอถึงขนาดพูดว่าจะเลิก ถ้าเซิ่งอี่เจ๋อไม่ให้เธอแต่งงานเข้าตระกูลใหญ่! เธอทั้งยังมีความสัมพันธ์พัวพันกับทายาทตระกูลฉีของโรงเรียนพวกเราอีกด้วย…จุ๊จุ๊ ผู้ชายคนไหนจะทนได้ล่ะ?
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ข้อความที่มีความเห็นเอนเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่งล้วนด่ามาที่อันซย่าซย่า
มีคนหยิบชื่อและชั้นเรียนของเธอออกมาโจมตีเธอทุกรูปแบบ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนรูปถ่ายของเธอให้กลายเป็นภาพงานศพแล้วนำไปเผยแพร่อย่างกว้างขวาง
อันซย่าซย่ากัดริมฝีปากอย่างเอาเป็นเอาตาย โพสต์นั้นมีความจริงเพียงแค่ครึ่งเดียว ส่วนหนึ่งก็เป็นการโหมกระพือให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตเพื่อให้แฟนคลับของเซิ่งอี่เจ๋อที่อยู่ในโรงเรียนพุ่งเป้ามาที่เธอ…
ด้วยเหตุนี้ ถ้าเธอไปเรียนที่โรงเรียน เธอจะต้องแบกรับความกดดันจากการวิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชนอย่างแน่นอน
มิน่าล่ะถังอวี้จวินถึงไม่ยอมให้เธอไปโรงเรียน!
เธอกดรีเฟรชอีกครั้งด้วยนิ้วที่สั่นเทา กระทู้เหล่านั้นหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ จากนั้นมือถือก็เริ่มดังขึ้นมาไม่หยุด
พอเธอกดรับสายก็ได้ยินเสียงหงุดหงิดของฉีเหยียนซีดังเข้ามาจากปลายสาย “ฮัลโหล? ฉันจะบอกอะไรสักหน่อยว่าอย่าเล่นเทียปาล่ะ!”
อันซย่าซย่าพึมพำ “ฉันเห็นหมดแล้ว…”
ฉีเหยียนซีตกใจอย่างเห็นได้ชัดและพูดอย่างเกรี้ยวกราด “เห็นแล้วก็เห็นไปสิ! ก็แค่คำพูดปลุกปั่นของพวกผู้หญิง เทียปาโดนฉันปิดไปแล้วและฉันก็ลบโพสต์พวกนั้นไปแล้วด้วย เธอไม่ต้องกังวล!”
“ขอบใจ”
“จะขอบใจทำไมกัน ใช่สิ คุณครูถังบอกว่าเธอจะไปโรงเรียนนี่?”
“อืม…”
“คิดดีแล้วเหรอ? ถ้าคิดดีแล้วก็ไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอก ฉันคุ้มครองเธอเอง!”
จากนั้นก็วางสาย อันซย่าซย่าถอนหายใจ อันที่จริงฉีเหยียนซีก็เป็นคนดีคนหนึ่ง เขาไม่เคยต่อต้านความคิดของเธอเลย ทั้งยังจะช่วยปกป้องเธออีก
ให้ความรู้สึกปลอดภัยที่เหนือชั้น
อย่างไรก็ตามเรื่องพวกนี้ เธอก็ต้องเรียนรู้ที่จะรับมือด้วยตัวเอง
–
วันรุ่งขึ้น
อันซย่าซย่าสะพายกระเป๋ามาถึงโรงเรียนมัธยมฉีซย่า
หลังจากเห็นเธอ หลายๆ คนต่างก็ชี้มาที่เธอพลางซุบซิบนินทา
พอมาถึงในห้อง ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็มองเธอด้วยสายตารังเกียจ
“เอ๊ะ อันซย่าซย่า เธอมาโรงเรียนทำไม?” หนานกงจิ่งถามด้วยความประหลาดใจ