ตอนที่ 439 อันซย่าซย่า เธออยากตายหรือไง?
หลีชั่นซิงหัวเราะเยาะเย้ย “คนบางคนนี่ก็หน้าหนายิ่งกว่ากำแพงเมืองจีนอีกนะ พวกเราจะทำยังไงกันดีล่ะ?”
“แม่งเอ๊ย! ถ้าใครกล้าพูดขึ้นมาอีกประโยคนึงล่ะก็ เชื่อไหมแม่จะฆ่าให้ตายเลยคอยดู?” ซูเสี่ยวโม่โมโหแล้ว เธอตบโต๊ะพร้อมกับลุกขึ้นมา ภายในชั่วขณะเสียงนกเสียงกาในห้องเรียนก็เงียบหายไป
อันซย่าซย่ามองซูเสี่ยวโม่ด้วยความซาบซึ้งใจ
ในเวลานี้ครูประจำชั้นอย่างไป่จื่อเย่ว์ก็เข้ามาในห้องเรียนได้ทันเวลาพอดี เธอมองอันซย่าซย่าด้วยความเป็นห่วง
หนานกงจิ่งยกมือขึ้นพร้อมกับพูดอย่างมีเลศนัย “คุณครูครับ อันซย่าซย่าไม่ได้เข้าเรียนตั้งเดือนกว่าๆ ถึงตาเธอต้องเป็นคนนำอ่านแล้ว”
ไป่จื่อเย่ว์ลังเลสักพัก “นักเรียนอัน งั้นเธอขึ้นมาอ่านบทความให้เพื่อนๆ เถอะ”
หนานกงจิ่งขยิบตาให้ทุกคนในชั้นเรียน ทุกคนต่างเข้าใจความหมายที่สื่อกันดี
พอถึงเวลานั้น ทุกคนไม่ให้ความร่วมมือก็จะทำให้อันซย่าซย่าขายหน้า!
อันซย่าซย่าหยิบหนังสือออกมาจากกระเป๋านักเรียนและเดินขึ้นไปยืนอยู่บนแท่นอย่างไม่เกรงกลัว!
สีหน้าของเธอเป็นไปด้วยความสงบ หน้าตาที่สวยงามบอบบางมีกลิ่นอายของความเยือกเย็นเพิ่มเข้ามาเล็กน้อย
พอเปิดหนังสือ น้ำเสียงอันไพเราะเสนาะหูและหนักแน่นของหญิงสาวก็ดังออกมา——
“หากฉันรักเธอ——”
จะไม่เป็นไม้เลื้อยอย่างดอกรุ่งอรุณ
ที่ใช้กิ่งสูงของเธอโอ้อวดตน
หากฉันรักเธอ——
จะไม่เรียนรู้ความลุ่มหลงจากนกเหล่านั้น
ที่เอาแต่ขับขานเพลงซ้ำซากเพียงเพื่อร่มเงาไม้
จะไม่เป็นดั่งน้ำพุ
ที่ให้ความเย็นสบายตลอดทั้งปี
และไม่เป็นหุบเหว
ที่เพิ่มความสูงเพื่อขับให้เธอดูน่าเกรงขาม
……
เราร่วมทุกข์กระแสลมหนาว พายุและฟ้าฟาด ทั้งอัสนีบาต
เราเสพสุขเมฆบาง หมอกจาง และสายรุ้ง
ราวกับแยกห่างกันตลอดกาล
แต่กลับพึ่งพากันชั่วชีวิต
นี่คือความรักที่ยิ่งใหญ่
ซื่อสัตย์จงรักอย่างแน่วแน่ ณ ที่แห่งนี้
รัก——
ไม่ได้รักเธอเพียงเพราะเธอคือต้นไม้ใหญ่
รักเธอเพราะหนักแน่นที่จะอยู่ตรงนี้
ภายใต้ผืนดินเดียวกัน”
หลังจากอ่านบทกวี อันซย่าซย่าก็สะบัดผมสีดำของเธอที่สวยราวกับม่านน้ำตกแล้วกลับไปนั่งที่อย่างสงบเสงี่ยม
ในระหว่างที่อ่าน เธอไม่ได้หยุดชะงักรอให้ทุกคนอ่านตามพร้อมกัน เหมือนกับว่าเธอเดาความคิดของทุกคนในห้องเรียนออก เธอจึงอ่านเสียงดังด้วยตัวเอง!
ภายในห้องเรียนเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจ ตอนนี้ทุกคนยังไม่หายจากอาการช็อก
บทกวีนี้เป็นบทกวีรักของสำนักกวีเหมิงหลงที่มีชื่อเสียงในการถ่ายทอดความเท่าเทียมของหญิงชายในเรื่องความรักและการแสวงหาเสรีภาพ!
ตอนที่อันซย่าซย่าอ่านบทกวีนี้ด้วยเสียงดังๆ นั้น ทำให้คนไม่กล้ามีใจดูหมิ่น!
ด้วยการโต้กลับที่เรียบง่ายและทรงพลังเช่นนี้ทำให้นักเรียนในชั้นมัธยมปลายปีที่หนึ่งห้องสามมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้นนั่นคือ…อันซย่าซย่าไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกกล่าวไว้ในโพสต์นั้นอย่างแน่นอน!
เธอกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวและหนักแน่น ไม่ใช่ผู้หญิงที่ยึดติดกับผู้ชายหรืออยากแต่งงานเข้าตระกูลดัง!
แม้แต่ฉีเหยียนซีก็ถึงกับนิ่งอยู่กับที่ เขาตกอยู่ในภวังค์สิ่งที่อันซย่าซย่าเพิ่งท่องไปเมื่อกี้นี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น
เป็นเวลานานกว่าเขาจะหัวเราะออกมา
ไม่แปลกใจที่ยัยผู้หญิงคนนี้คือคนที่เขาชอบ
–
พอถึงเวลาเลิกเรียน อันซย่าซย่าก็ไม่ได้สนใจการวิพากษ์วิจารณ์ตลอดทางเดิน เธอเดินขึ้นไปชั้นสาม
โดยชั้นสามเป็นที่ตั้งของชั้นมัธยมปลายปีที่สามห้องหนึ่ง เมื่อเธอเดินไปถึงชั้นมัธยมปลายปีที่สามห้องหนึ่ง เธอก็พูดกับหญิงสาวคนหนึ่งที่หน้าประตูอย่างสุภาพ “รบกวนช่วยเรียกหลีฝานซิงให้หน่อยค่ะ”
พอหญิงสาวเห็นว่าคนที่มาคือเธอ ก็กลอกตามองอันซย่าซย่าอย่างดูถูก “เฮ้อ หลีฝานซิง มีคนมาหาแน่ะ!”
หลีฝานซิงเงยหน้าขึ้นจากที่นั่ง เธอจัดผมตัวเอง ลุกขึ้นอย่างสง่างามและเดินมาตรงหน้าอันซย่าซย่า “มีเรื่องอะไร?”
“มีเรื่องอยากคุยกับรุ่นพี่หน่อยน่ะ” อันซย่าซย่ายิ้มสวยล่มเมืองจนทำให้เด็กหนุ่มที่อยู่ในห้องเรียนหลายๆ คนตะลึง!
หลีฝานซิงเกลียดที่อันซย่าซย่าแย่งความสนใจไปจากเธอ จึงกลอกตา “ตามฉันมา”
เธอพาอันซย่าซย่าไปยังห้องน้ำชั้นหนึ่งที่อยู่ห่างออกไป มีน้อยคนที่จะมาที่นี่
ผลักประตูเปิดออก เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ข้างใน ทั้งสองคนก็ล็อคประตู
“มาหาฉันมีเรื่องอะไร?” หลีฝานซิงทำท่าแคะเล็บตัวเองด้วยท่าทางเฉยเมย
“ก็ไม่มีอะไร ฉันแค่อยากจะคุยเรื่องชีวิต แลกเปลี่ยนอุดมคติกับรุ่นพี่สักหน่อย แล้วก็…ทะเลาะด้วยเล็กๆ น้อยๆ” พอพูดเสร็จ อันซย่าซย่าก็กระชากผมหลีฝานซิงไปที่ชักโครกภายใต้สายตาตกตะลึงของเธอ พออันซย่าซย่ากดปุ่มล้างชักโครกก็มีเสียงน้ำกระเซ็น ทันใดนั้นหลีฝานซิงก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา!
“อันซย่าซย่า เธออยากตายหรือไง? แคกแคกแคก…ปล่อยฉัน!”
อันซย่าซย่ากล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ถึงจะตายก็ให้รุ่นพี่ตายต่อหน้าฉันก่อนได้ไหม? หลีฝานซิง ไม่สิ หรือฉันควรจะเรียกเธอว่า…ไอซ์เลมอนดี?”
ตอนที่ 440 ยัยตัวดีทะเลาะวิวาท
“ฉันไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพูดถึงอะไร!” หลีฝานซิงพยายามดิ้นหนีออกมาจากชักโครก ทั้งหน้าทั้งผมเปียกไปด้วยน้ำในสภาพอเนจอนาถ
อันซย่าซย่ารั้งผมเธอไว้และกระแทกไปที่ประตูอย่างโหดร้าย!
“เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว เธอยังจะเสแสร้งอะไรอีก? ตอนแรกคนที่ปล่อยภาพพวกนั้นก็คือเธอไม่ใช่เหรอ? ในระยะใกล้ขนาดนั้น นอกจากคนในกองถ่ายแล้ว คนนอกก็ไม่มีทางถ่ายได้หรอก! คนที่รู้เรื่องระหว่างฉัน เซิ่งอี่เจ๋อและซ่งชิงเฉินดี และรู้จักภูมิหลังเซิ่งอี่เจ๋อ รวมไปถึงถ่ายรูปใกล้ชิดสนิทสนมพวกนั้นในโรงเรียนได้…รวมเบาะแสทั้งหมดแล้ว ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใคร?”
อันซย่าซย่าโมโหแล้ว คนที่วางแผนทำร้ายและใส่ร้ายเธอตลอดมาก็คือหลีฝานซิง!
หลีฝานซิงเป็นคนตั้งกระทู้พวกนั้นเพราะไม่อยากให้เธอมีที่ยืนในฉีซย่า
แต่กลับเป็นการเปิดโปงตัวเอง!
เสียรู้เพราะฉลาดมากเกินไป!
เมื่อหลีฝานซิงโดนเปิดโปง เธอก็ยิ้มด้วยรอยยิ้มสดใสสะเทือนใจคน “ใช่ ฉันเอง! แล้วจะทำไม? เซิ่งอี่เจ๋อกับซ่งชิงเฉินไปต่างประเทศแล้วนี่ เธอก็อยู่โรงเรียนนี้ด้วยชื่อเสียงป่นปี้ เธอคิดว่าเธอตกอยู่ในสภาพแบบนี้แล้วฉีเหยียนซียังจะชอบเธอได้เหรอ?”
อันซย่าซย่าช็อก “ที่เธอทำไปก็เพราะฉีเหยียนซี?”
“ฮึ!” หลีฝานซิงพยายามรั้งแขนอันซย่าซย่า แต่อันซย่าซย่ากลับมีกำลังมากจนทำให้คนตกใจ
คนเรามีอารมณ์อยู่ในตัวอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับคนที่โมโหจัด? ในเวลานี้จักรวาลเล็กๆ ของอันซย่าซย่าได้แตกเป็นเสี่ยงๆ จนอยากทะเลาะกับหลีฝานซิงให้ตายกันไปข้างหนึ่ง!
“เหอะ…เธอคิดว่าไม่มีฉันแล้วฉีเหยียนซีจะกลับไปหาเธออย่างงั้นเหรอ? ในใจของเขาไม่มีเธอมาตั้งนานแล้ว ยิ่งเธอทำแบบนี้เขาก็ยิ่งเห็นธาตุแท้ที่น่ารังเกียจของเธอชัดขึ้น!” อันซย่าซย่าพูดด้วยความหงุดหงิด
หลีฝานซิงเป็นเหมือนแมวที่ถูกเหยียบหาง เธอกรีดร้องเหมือนคนบ้าและผลักอันซย่าซย่า
ทั้งสองตบตีกันชุลมุนจนเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ และดึงดูดนักเรียนเข้ามามุงดูไม่น้อย
เด็กนักเรียนคนนั้นที่ไปเรียกหลีฝานซิงเมื่อครู่นี้พูดอย่างร้อนใจ “เกินไปแล้วนะอันซย่าซย่า! ถึงกับกล้าตีฝานซิง! พวกเรามาสั่งสอนเธอหน่อยเป็นไง!”
พรรคพวกที่ซื่อสัตย์ของหลีฝานซิงพยักหน้าตามกัน เด็กผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่หลายคนก้าวไปข้างหน้าเพื่อคิดจะใช้แรงพังประตู
“ทำอะไรน่ะ?” เสียงห้าวหานดังขึ้น เด็กผู้ชายพวกนั้นตัวแข็งทื่อไม่กล้าลงมือ
ฉีเหยียนซีผิวปากแล้วค่อยๆ เดินเข้าไป
ได้ยินมาว่ายัยทึ่มซย่าซย่าตีกับใครบางคน? หึหึ เขาจะไม่มาช่วยได้ยังไง?
“คุณชายฉี…” ทุกคนรู้ถึงความน่ากลัวของปีศาจร้ายฉีจึงถอยล่นออกไปเหมือนกระแสน้ำ
ฉีเหยียนซีขมวดคิ้วและฟังความเคลื่อนไหวที่อยู่ข้างใน ดูเหมือนว่าอันซย่าซย่าจะเป็นฝ่ายได้เปรียบสินะ?
ให้ตายเถอะ! เขาจะต้องช่วยอันซย่าซย่าแล้วเอาคนคนนั้นมาต่อยจนกลายเป็นหัวหมูให้ได้!
“นังบ้า อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกให้ท่าฉีเหยียนซีมาตลอด…” สายตาของหลีฝานซิงพ่นประกายความอิจฉาริษยา เธอยื่นมือมากระชากผมอันซย่าซย่า แต่อันซย่าซย่าไหวตัวทันพร้อมกับฟาดเงื้อมือไปที่หน้าหลีฝานซิง
“เธอพูดแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการเตือนฉันขึ้นมาได้” อันซย่าซย่าจงใจพูดถากถาง “ฉันคิดว่าเธอน่าจะยังไม่รู้สินะ? ฉีเหยียนซีสารภาพรักกับฉันทุกวัน ฉันน่าจะตอบตกลงไปก็ดี แบบนี้จะได้แสดงความรักต่อหน้าเธอได้”
“เธอ…”
“เธอทำไม? ฉันชอบเวลาที่เธอรับไม่ได้แต่กลับทำอะไรฉันไม่ได้ มาสิ ตีฉันสิ เธอเชื่อไหมว่าถ้าเธอทำร้ายฉันแม้แต่นิดเดียว ฉันสามารถทำให้ฉีเหยียนซีเอาคืนเธอกว่าสิบเท่าร้อยเท่า?”
วิธีกระตุ้นแบบนี้ได้ผล หลีฝานซิงกลอกตาและแทบจะหมดสติไปด้วยความโกรธ
ประตูถูกเตะเปิดออก ฉีเหยียนซีทำหน้าเหมือนได้เปิดโลก “โอ้ ยัยทึ่มซย่าซย่า เธอเรียนรู้ที่เป็นจิ้งจอกอ้างบารมีเสือแล้วสิ!”