ตอนที่ 441 รอไม่ไหวที่จะเผยธาตุแท้ออกมาแล้วเหรอ?
เขากวาดสายตามอง เยี่ยม ใบหน้าอันซย่าซย่าไม่ได้รับบาดเจ็บ ชุดนักเรียนก็ยังอยู่ในสภาพดี ดูไม่ได้เสียเปรียบอะไร
หลีฝานซิงยังมีสภาพอนาถมากกว่าอันซย่าซย่าเสียอีก ผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้ายับยู่ยี่ ผมที่เปียกยังส่งกลิ่นแปลกๆ …
ฉีเหยียนซีใช้ฝ่ามือพัดที่หน้าจมูกของตัวเอง “เหม็นมาก…”
เพิ่งผ่านน้ำชักโครกมาจะไม่ให้เหม็นได้ยังไง?
หลีฝานซิงหน้าซีดเผือด ไม่มีเลือดฝาดแม้แต่น้อย
อันที่จริงเธอก็ไม่ได้ชอบฉีเหยียนซีมากมายอะไรขนาดนั้น แต่พอถูกฉีเหยียนซีหัวเราะเยาะแบบนี้ เธอก็รับไม่ได้จริงๆ!
นักเรียนที่อยู่ข้างนอกถือโอกาสนนี้วิ่งมาข้างหน้า พอได้เห็นฉากในห้องน้ำชัดๆ เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างไม่ปรานี
เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายคนที่อยู่ข้างนอกต่างก็ปิดปากหัวเราะกัน
หลีฝานซิงที่มักจะเป็นพระจันทร์ในหมู่ดาวเคยได้รับความอัปยศอดสูแบบนี้ที่ไหนกัน? เธอกัดฟันอย่างเอาเป็นเอาตาย เธอสลัดความคิดอย่างรวดเร็วและพูดด้วยคำพูดเชือดเฉือน “อันซย่าซย่า เธอเพิ่งพูดไปนี่ว่าจะตอบตกลงคำสารภาพรักของฉีเหยียนซี? หึ เธอเพิ่งเลิกกับเซิ่งอี่เจ๋อไม่ใช่เหรอ ถ้าเธอตอบตกลง นั่นก็เท่ากับว่าเธอทรยศเซิ่งอี่เจ๋อ! แต่ถ้าเธอไม่ตอบตกลง นั่นก็เท่ากับว่าเธอกำลังล้อเล่นกับฉีเหยียนซี?”
หลีฝานซิงช่างร้ายกาจจริงๆ!
อันซย่าซย่าขมวดคิ้ว เธอไม่รู้ว่าฉีเหยียนซีอยู่ข้างนอก จึงจงใจพูดคำพูดเหล่านั้นเพื่อทำให้หลีฝานซิงโมโห
ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรดี
จะพูดอย่างไรก็ดูเหมือนจะผิดไปซะทุกอย่าง
คิ้วและตาของฉีเหยียนซีกระตุก ร่างกายมีกลิ่นอายแห่งการสังหาร “เรื่องของฉัน เธอยุ่งอะไรด้วย?”
หลีฝานซิงหน้าแดง เห็นได้ชัดว่าถูกทำให้โกรธ
“คุณชายฉี…ฉัน…แต่ว่าอันซย่าซย่าใช้ชื่อคุณมาทำร้ายคนอื่นแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เห็นคุณอยู่ในสายตา!” กล่าวโดยสรุป ตอนนี้หลีฝานซิงใช้กลวิธีนี้เพื่อทำลายภาพลักษณ์อันซย่าซย่าที่อยู่ในใจฉีเหยียนซี!
ฉีเหยียนซีเหลือบมองเธอเหมือนคนงี่เง่า “เธอก่อกรรมทำชั่วแล้วมันยังไง? ฆ่าคนวางเพลิงแล้วมันยังไง? สำหรับคนที่ฉันชอบ ฉันเต็มใจยอมรับ เธอจะยุแยงอะไรอีก?”
หลีฝานซิงหายใจไม่ออกแม้แต่ครั้งเดียว เธอโงนเงนและล้มลงกับพื้น
คำพูดเหล่านี้ของฉีเหยียนซีเจาะหัวใจเสียดแทงเข้ากระดูกเธอจนเจ็บปวดโดยไม่ต้องสงสัย!
เขาพูดออกมาแล้ว…คนที่เขาชอบคืออันซย่าซย่า คืออันซย่าซย่าจริงๆ ใช่ไหม?
อันซย่าซย่ามองฉีเหยียนซีอย่างตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก ฉีเหยียนซีเลิกคิ้วให้เธอและโอบเธอออกไป
ฝูงชนหลีกทางให้พวกเขาสองคน เด็กสาวหลายคนมองมาทางอันซย่าซย่าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉา
สยบปีศาจร้ายฉีได้ เก่งกาจจริงๆ!
เด็กสาวคนหนึ่งเข้ามาช่วยพยุงหลีฝานซิงด้วยความตื่นตระหนก “ฝานซิง เธอไม่เป็นไรนะ?”
หลีฝานซิงกลอกตา ยัยโง่! เดิมทีทุกคนก็มองไปทางฉีเหยียนซีกับอันซย่าซย่าแล้ว พอยัยโง่คนนี้เรียกขึ้นมาก็ดึงดูดสายตาทุกคนหันกลับมามองอีกครั้ง
ด้วยความจนปัญญา หลีฝานซิงจึงต้องแสร้งทำเป็นเป็นลมเพื่อไม่ให้อับอายมากไปกว่านี้
–
ประเทศ M
สภาพอากาศต่างแคว้นแดนไกลที่ดูเข้าท่า ท้องฟ้าเมฆขาว สิ่งก่อสร้างสไตล์ยุโรป ฝูงนกพิราบขาวที่บินอยู่เป็นระยะทำให้ซ่งชิงเฉินรู้สึกสบายอกสบายใจ
เธอดีดนิ้วที่มียาผงซ่อนไว้ในนั้น
เมื่อมองไปที่ชายหนุ่มรูปงามในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงขายาวที่อยู่ตรงหน้า เธอก็โค้งริมฝีปากและวางแผนว่าอีกสักพักจะใช้กลอุบายเดิมในการวางยาเซิ่งอี่เจ๋อ
บรรยากาศโรแมนติกบวกกับความรู้สึกเคลิบเคลิ้มหน่อยๆ จะทำให้เซิ่งอี่เจ๋อตกลงแต่งงานกับเธอ เมื่อเป็นไปตามแผนทุกอย่างก็จะสำเร็จ!
เธอเดินไปประชิดตัวเซิ่งอี่เจ๋อและพูดอย่างอายๆ “พี่อาเจ๋อ เนคไทของคุณเบี้ยวหมดแล้ว มาให้ฉันช่วยผูกเถอะ…”
เธอเขย่งเท้าแล้วค่อยๆ เลื่อนนิ้วเข้าไป แต่ยังไม่ทันทำเสร็จก็ถูกเซิ่งอี่เจ๋อจับไว้
“ซ่งชิงเฉิน รอไม่ไหวที่จะเผยธาตุแท้ออกมาแล้วเหรอ?”
ตอนที่ 442 เธอไม่ได้อยู่ในความทรงจำของฉันอีกต่อไป
ซ่งชิงเฉินตกตะลึงพรึงเพริด เธอแสร้งทำหน้าโง่และพูดออกมาว่า “พี่อาเจ๋อ คุณพูดอะไร ฉันก็แค่อยากผูกเนคไทให้…”
เซิ่งอี่เจ๋อหัวเราะและจับข้อมือบางของเธออย่างแรง เขาลดศีรษะลง นิ้วเรียวยาวทั้งสิบของซ่งชิงเฉินมีแสงสว่างอยู่บนเล็บ
“ที่วางยาฉันคราวที่แล้วก็คือยานี่สินะ” พอเขากางมือซ่งชิงเฉินก็พบว่ามีผงยาหลุดออกมาจากเล็บจริงๆ
ซ่งชิงเฉินใจเต้นรัว เขารู้แล้วใช่ไหม?
ไม่นะ…
“พี่อาเจ๋อ ยาอะไรคะ คุณเอาแต่พูดในสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจ” ซ่งชิงเฉินกลืนน้ำลายและฝืนยิ้มเกร็งๆ
เซิ่งอี่เจ๋อลูบผมเธออย่างอ่อนโยน “ตอนที่คนเราพูดโกหกมักจะหลบสายตา กลืนน้ำลายและแสดงอาการประหม่าออกมาโดยไม่รู้ตัว ซ่งชิงเฉิน เธอไม่ผิดไปแม้แต่ข้อเดียว”
สีหน้าของซ่งชิงเฉินย่ำแย่ขึ้นเรื่อยๆ เซิ่งอี่เจ๋อเขี่ยผงยาออกมาจากเล็บของเธอพร้อมกับยิ้มอย่างเย็นชา “ถ้าเดาไม่ผิด นี่น่าจะเป็นยาที่ทำให้คนประสาทหลอนได้สินะ”
แม้ว่าเขาจะจำเหตุการณ์ในวันนั้นไม่ได้ แต่เขาก็จำได้ลางๆ ว่าตัวเองตกอยู่ในภาพแห่งความฝันอันแปลกประหลาด พิลึกกึกกือ
ซึ่งเห็นได้ว่านั่นไม่ใช่อาการของคนเมาเหล้า แต่เป็นเพราะถูกวางยา!
ซ่งชิงเฉินพยายามชักมือกลับอย่างสุดชีวิต เธอกัดริมฝีปากจนเลือดซึม
เขาสังเกตเห็นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน…ไม่ใช่เป็นเพราะอยากอยู่กับเธอก็เลยยอมมาต่างประเทศกับเธอหรอกเหรอ?
ทำไม? นี่มันอะไรกันแน่?
“ฉัน…ฉันไม่ได้…” เธอแก้ตัวอย่างอ่อนแรง แต่กลับไม่รู้ว่าทั้งหมดนั้นไร้ประโยชน์ในสายตาเซิ่งอี่เจ๋อ
น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นอืดอาดเล็กน้อย “ฉันเชื่อใจเธอมาโดยตลอด เชื่อว่าเธอยังเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสาที่โง่งมคนนั้น แต่มันกลับไม่ใช่ ซ่งชิงเฉิน เธอโตแล้วและเธอก็ไม่ได้อยู่ในความทรงจำของฉันอีกต่อไป”
คนเราย่อมเปลี่ยนแปลงกันได้ เขาเข้าใจ
ทว่าซ่งชิงเฉินกลับใช้แผนการเลวร้ายพวกนี้ เขาจะไม่มีวันปล่อยไปเด็ดขาด!
“เธอคงไม่รู้สินะว่าบ้านตระกูลซ่งมีกล้องวงจรปิดอยู่กี่แห่ง” เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มมุมปาก “ฉันได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดดูแล้วก็พบว่าเธอใส่ยาลงในไวน์ ซึ่งมันน่าจะเป็นยาที่ทำให้คนหมดสติได้สินะ? เพราะฉะนั้นวันนั้นคุณอาซ่งถึงได้เมาเหล้า…”
พอพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ เซิ่งอี่เจ๋อก็หยุดชะงักพลางขมวดคิ้วสวย
หลังจากเมาแล้ว ยังเกิดอะไรขึ้นอีก…
ดูเหมือนจะเป็นเงาคลุมเครือคล้ายกับภาพวาดภาพหนึ่ง
แต่เนื้อหาที่อยู่บนภาพนั้นเหมือนมีโมเสคชั้นหนาๆ มองไม่ออกเลยสักนิด…
ให้ตายเถอะ! คิดไม่ออก!
ซ่งชิงเฉินยืนโงนเงน เธอไม่เคยอยู่บ้านตระกูลซ่งมาก่อนและยังคิดว่าตัวเองหาที่พลางตัวได้ดีแล้ว ไหนจะรู้ได้ล่ะว่าโดนกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้!
“แต่พวกเรา พวกเรา…” ซ่งชิงเฉินก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเองด้วยหน้าตาท่าทางเขินอาย
ถึงจะวางยาแล้วยังไงล่ะ ตอนนี้ทุกคนต่างก็เข้าใจผิดว่าพวกเขามีอะไรกันแล้ว…ตราบใดที่เธอกัดไม่ปล่อยก็ไม่เป็นไรอย่างแน่นอน!
เซิ่งอี่เจ๋อยกคางเธอขึ้นด้วยท่าทางแข็งกร้าว “อยากรู้ว่าทำไปแล้วหรือไม่ มันจะยากอะไร? ถ้าไม่อย่างงั้นเราก็ไปนอนด้วยกันอีกสักรอบดีไหม?”
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ซ่งชิงเฉินคงยอมนอนกับเขาไปแล้ว!
แต่ตอนนี้…เธอจะกล้าได้อย่างไร…
แค่มีอะไรกัน เธอก็จะถูกเปิดเผย…
เธอย่ำเท้าด้วยความลำบากใจ “ใช่แล้ว ฉันเป็นคนวางยาเอง ในเมื่อคุณมีหลักฐาน ทำไมไม่แฉฉันมาตั้งแต่แรกล่ะ?”
ทันใดนั้นรอยยิ้มของเซิ่งอี่เจ๋อก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เขามองซ่งชิงเฉินด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความน่าสมเพช
“หึ…เธอคิดว่าฉันดูกล้องวงจรปิดจริงๆ น่ะเหรอ?”
ตอนก่อนหน้า
กลับหน้าเรื่อง
ตอนต่อไ