ตอนที่แล้วตอนที่ 311 มืออาชีพ

ทั้งหมดรายชื่อตอน

ตอนถัดไปตอนที่ 313 คู่แข่งฝั่งตรงข้าม

ตอนที่ 312 บ้ามากจริงๆด้วย

วันที่สอง ในขณะที่หยางโปกำลังนั่งเปิดคัมภีร์โบราณอักษรอี๋อยู่ในร้านนั้น เขาได้ทำการแปลบันทึกออกมา และทำความเข้าใจแนวทางในการศึกษาและคำธิบายได้อย่างชัดเจน ในช่วงนี้เขายังอ่านบันทึกประวัติศาสตร์ในพื้นที่ เพื่อจะได้เข้าใจบางส่วนมากขึ้นอีกด้วย

” เถ้าแก่หยาง ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างละ ! “

เมื่อหยางโปเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบกับหลูตงซิงที่เดินเข้ามาพอดี เขาจึงรีบยืนขึ้น ก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า ” ก็ดีครับ ก็ดี ! เพียงแต่ไม่ทำเรื่องโชคร้าย อะไรๆก็ล้วนดีไปหมด ! “

หลูตงซิงนึกถึงความโชคร้ายในช่วงเวลานั้นอยู่ตลอดเวลา จึงอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ” ฉันคิดว่านายยังไม่กลับมา เมื่อวานได้รับโทรศัพท์ถึงได้รู้ “

 

” ยังไงก็ต้องขอบคุณเถ้าแก่หลูนะครับ ที่เมื่อวานช่วยผม ! ” หยางโปยิ้มพร้อมกับพูดขึ้น เมื่อวานเขาขอร้องให้อีกฝ่ายช่วยซื้อบ้านหลังหนึ่งให้อยู่เลย

หลูตงซิงโบกมือไปมา ” ถ้านายมาหาฉันเรื่องอื่น ฉันอาจจะช่วยไม่ได้ แต่ถ้ามาหาฉันเรื่องขายห้อง ก็มาถูกทางเลยละ ! “

หยางโปเองก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย หลูตงซิงประกอบการในด้านอสังหาริมทรัพย์ มีบ้านอยู่ในครอบครองมากทีเดียว และรู้จักผู้จัดการด้านอสังหาริมทรัพย์มากอีกด้วย แค่โทรหากริ๊งเดียว ทุกอย่างก็ราบรื่นแล้ว

ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างสบายๆ อยู่สักพักใหญ่ หลูตงซิงก็ได้พูดถึงจุดประสงค์ในการมาครั้งนี้ว่า ” ที่ฉันมาในครั้งนี้ ก็เพื่อจะนำเงินปันผลมาให้แก่พวกนาย เราจะได้รับเงินเกือบ 10 ล้านหยวนกันทุกคน ครั้งนี้ ฉันจะให้ 10 ล้านหยวนกับพวกนายทุกคน คืนในส่วนเกิน และชำระในส่วนที่ขาด ต่อไปก็จะได้หักในส่วนไม่เต็มทิ้งไปเลย ! “

 

หยางโปเกิดอาการประหลาดใจไม่น้อย ” 10 ล้านหยวน เถ้าแก่หลูนั้นเร็วมากเลยนะครับ ! “

หยางโปรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เงินปันผลที่หลูตงซิงพูดถึงคือการขายทองและเงินสำรวจที่ได้มาจากสุสานของหง ซิ่วเฉวียน ภานในไม่กี่เดือน หลูตงซิงก็ขายทองออกไปเป็นมูลค่ากว่า 30 ล้านหยวนแล้ว ความเร็วระดับนี้จึงถือว่าเร็วมากทีเดียว เมื่อรู้ว่า โลหะที่มีมูลค่าที่ทำการขายออกไปโดยไม่สนผีสางเทวดานั้น มันไม่ง่ายเลยจริงๆ !

หลูตงซิงหัวเราะออกมา ” ก็ดี ฉันมีลูกน้องเยอะ ดังนั้นจึงดำเนินการไปได้เร็วหน่อย เดิมทีฉันคิดว่าพวกนายจะบ่นว่าช้าเกินไปด้วยซ้ำ “

” ต่อจากนี้ เราแบ่งเงินปันผลเป็น 2 ครั้ง ในทุก ๆ ครั้งจะมีจำนวนเงินประมาณนี้ ส่วนเรื่องเวลา ฉันยังไม่กล้ารับประกัน พวกนายก็ไม่ต้องร้อนใจไปนะ ” หลูตงซิงพูดขึ้น

 

หยางโปยิ้มเล็กน้อย ” ไม่เป็นไร ลงมือขายช้า ๆ ปลอดภัยกว่า “

” ฉันตั้งใจว่าจะมาเลือกของที่นี่ของนายสักชิ้น ล้างเงินสักหน่อยจะได้ไม่ร้อนมือเกินไป ” หลูตงซิงหัวเราะพร้อมกับพูดขึ้น

หยางโปพยักหน้า เขาเข้าใจความหมายของหลูตงซิง ถ้าเงินจำนวนมหาศาลย้ายมาอยู่ในบัญชีของหยางโป จะต้องทำให้คนสงสัยอย่างแน่นอน ถ้าเป็นการซื้อขายของโบราณละก็จะง่ายมากขึ้นเยอะเลยทีเดียว ถึงหลูตงซิงจะซื้อของปลอมไป นั้นก็เท่ากับว่าเป็นการแลกของกันด้วยความเต็มใจ !

” เลือกได้ตามสบายเลยครับ เลือกชิ้นไหนก็ได้หมดเลย ! ” หยางโปพูดขึ้น

หลูตูซิงทำการเลือกด้วยความเริงร่าสบายใจ ไม่นาน เขาก็หยิบเอาภาพวาดขึ้นมาภาพหนึ่ง ” นี่เป็นผลงานของจางฉือโหล่ว จางฉือโหล่วคือใครเหรอ ? “

 

” จางฉือโหล่ว เป็นหนึ่งในแปดของราชวงศ์ชิง มีความชำนาญในด้านการวาดภาพภูเขา แม่น้ำและสิ่งมีชีวิตมาก หลังจากที่ประชาชนย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในเมืองก้ายโจว ที่ปรึกษาจินหลงกุ้ยก็ได้วาดภาพให้แก่ผู้ว่าราชการมณฑลเฟิงเทียน แล้วสุดท้ายก็จบชีวิตลงในเมืองก้ายโจว ” หยางโปอธิบาย

” ภาพนี้ไม่เลวเลย เถ้าแก่หยาง ภาพนี้ไม่ใช่ของปลอมใช่ไหม ? “หลูตูซิงมองมาทางหยางโป

หยางโปยิ้ม ” ของแท้ วางใจได้เลย “

” งั้นก็ดี ! ” หลูตูซิงยิ้มออกมา จากนั้นก็เอาภาพนั้นกลับออกไป

หยางโปหยิบเช็คเงินสดจำนวน 10 ล้านหยวนขึ้นมาด้วยความรื่นเริง จากนั้นก็เก็บมันเข้าที่ตามเดิม

 

เถ้าแก่ร้านสืออี๋ถางเก่งมากจริง ๆ ร้านนี้เป็นกล่าวขานกันทั่วตลาด หลังจากที่ทำการเปิดร้านใหม่ ก็มีลูกค้าหลั่งไหลกันเข้ามาเป็นจำนวนมาก เพียงแต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนเงินที่สูงลิบลิ่วในครั้งนี้ คนจำนวนมากก็ถอยทัพกลับไป มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ได้ขอกลับไป

เพราะกล้ารับประกันคุณภาพ ดังนั้นหยางโปจึงตั้งราคาเอาไว้สูงมาก เมื่อเป็นแบบนี้ จึงสามารถลดอัตราการค้าขายแลกเปลี่ยนได้ดีที่เดียว ส่งผลให้ลดจำนวนงานของเขาลงไม่น้อย มีเงินแต่ไม่หาเงิน นี่คือนิสัยที่เอาแต่ใจตัวเองจริงๆ !

หยางโปก้มหน้าลงอ่านหนังสือต่อ ไม่นานชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในร้าน ซึ่งชายหนุ่มคนนี้น่าจะมีอายุราวๆ 26-27 ปี ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ดูหล่อเหลาเอาการเลยทีเดียว

 

ชายหนุ่มได้เดินอ้อมไปเยี่ยมชมชั้นวางที่วางของอยู่เต็มชั้นเหล่านั้นรอบหนึ่ง ก่อนจะมานั่งลงตรงหน้าของหยางโป

หยางโปเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย ” สวัสดีครับ คุณต้องการของแบบไหนเหรอครับ ? “

ชายหนุ่มหน้าหล่อเหลาก็ยิ้มมาทางหยางโปเล็กน้อย พร้อมกับแสดงท่วงท่าอย่างสง่า ก่อนจะพูดขึ้นว่า

” ฉันอยากซื้อของทั้งหมดในร้านนี้ ! “

หยางโปเบิกตากว้าง เมื่อก่อนเขาที่เคยผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน ได้ยินประโยคนี้ก็ถึงกับนิ่งงันไปในทันที เขาเพิ่งจะซื้อของมากมายขนาดนี้กลับมา และตั้งใจจะยืดระยะเวลาให้คงอยู่ต่อไป ตอนนี้ดันมีคนอยากจะซื้อของทั้งหมดในร้านนี้ คงไม่คิดจะมาคร่าชีวิตของเขาหรอกนะ ?

 

หยางโปกำลังจะอ้าปากปฏิเสธกลับไป อีกฝ่ายกลับเอ่ยปากว่า ” สองเท่า ฉันจะเสนอราคาให้เป็นสองเท่า ! “

หยางโปเกิดความสงสัยขึ้นมาทันที เขาเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย ” นี่…… ในสถานการณ์ ความต้องการของลูกค้าก็น้อยมาก นายซื้อวัตถุโบราณมากขนาดนี้ไปทำอะไร ? “

ชายหนุ่มยิ้มออกมา จนเผยให้เห็นฟันขาวดุจหิมะ จนร่างทั้งร่างดูเหมือนกับแสงอาทิตย์ คล้ายกับดาราในประเทศเกาหลียังไงอย่างนั้น ” ฉันอยากจะเปิดร้านขายวัตถุโบราณตรงข้ามกับนาย ! “

หยางโปอึ้งงันไป เขาเองก็สังเกตเห็นว่าร้านตรงข้ามกำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างและตกแต่งอยู่ แต่เขาไม่รู้จริง ๆว่าตรงข้ามจะเปิดเป็นร้านขายวัตถุโบราณด้วยเหมือนกัน อีกฝ่ายยังไม่เปิดร้าน แล้วการที่จะมาเอ็ดตะโรขอซื้อของทั้งหมดในร้านของตัวเอง แล้วยังเพิ่มเงินเป็นสองเท่าอีกแบบนี้ มันไม่บ้าเกินไปเหรอ ?

 

” อ่า ? จะเปิดร้านขายวัตถุโบราณเหมือนกันอย่างนั้นเหรอ ? ” หยางโปยิ้มออกมาเล็กน้อย ” งั้นก็ขออวยพรให้นายเปิดร้านรับทรัพย์มหาศาล เฮงๆรวยๆนะ ! “

เมื่อพูดจบ หยางโปก็เบี่ยงสายตากลับมาอ่านหนังสือต่อ ทำอย่างกับว่าตัวเองนั้นเจอกับคนเป็นโรคประสาทคนหนึ่งเท่านั้น

ชายหนุ่มก็ไม่ได้ขยับไปไหน ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ไหวติ่ง ” ร้านนี้ของนาย ก็ไม่มีรายได้ทางอื่นใช่ไหมละ ? นายลองบอกมาสิว่า ถ้าร้านของฉันเปิดตรงข้ามกับนาย และขายวัตถุโบราณเหมือนกัน ราคาก็ต่ำกว่านาย จะทำให้ร้านสืออี๋ถางปิดตัวลงไหม ? “

 

หยางโปเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายอีกครั้งด้วยความสงสัย เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายคงจะเกินเยียวยาแล้วจริงๆ ร้านขายวัตถุโบราณกับร้านขายของมันไม่เหมือนกัน ประการแรกคือเขาไม่ต้องพึ่งพาการขาย ประการที่สองคือไม่ต้องแข่งขันกันด้านราคา หรือพูดอีกอย่างก็คือ วัตถุโบราณที่ผลิตออกมานั้นส่วนใหญ่เป็นของที่มีคุณสมบัติที่ต่างกัน ? สิ่งที่เรียกว่ากลยุทธิ์ของอีกฝ่าย มันเป็นคำพูดที่โง่เง่ามาก !

ใบหน้าของชายหนุ่มเปี่ยมไปด้วยความั่นใจในตัวเอง ” ถือว่าฉันยังยับยั้งอยู่มากทีเดียว หากอยู่ในสถานการณ์ทั่วไปละก็ ถึงฉันจะไม่เคยฆ่าคนมาด้วยตะแกงมาก่อนก็ตาม แต่ก็เคยทำให้คนถึงขั้นพิการได้ ฉันมักจะชื่นชอบขั้นตอนนี้มากทีเดียว ! “

 

” นายบ้าไปแล้วเหรอ ! ” ในที่สุดหยางโปก็อดที่จะด่าออกมาไม่ได้

ชายหนุ่มอึ้งงันไป ดูเหมือนว่าเขาจะคาดไม่ถึงว่าหยางโปจะปากเสียใส่เขามากขนาดนี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนแบบนี้ ถึงจะพูดในเรื่องกลยุทธิ์ เรื่องการแข่งขัน ก็คงจะไม่เหมือนกับอันธพาลที่ชอบชกต่อย และด่าสาดเสียเทเสียตามท้องถนนอย่างแน่นอน ! “

ใบหน้าที่งดงามของเขาได้แสดงความโกรธเคืองออกมา ชายหนุ่มมองไปทางหยางโปด้วยความขุ่นเคืองใจ ก่อนจะพูดขึ้นว่า ” นายทำให้ฉันโกรธมาก นายทำให้ฉันไม่สบอารมณ์เอามากๆ ต่อแต่นี้ไป นายจะต้องแบกรับความโกรธเคืองของฉัน ! “

 

” บ้าจริงๆด้วย ! ” หยางโปมองไปทางอีกฝ่ายอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกอย่างจนปัญญา ราวกับกำลังมองคนประสาทไม่ดีคนหนึ่ง

” นายจำชื่อของฉันเอาไว้ดีๆ ซ่งห้าวซวน ชื่อๆนี้จะทำลายนายให้ย่อยยับ ! ” ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยความโกรธเคือง เมื่อพูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไปข้างนอกทันที

” บ้ามากจริงๆ ! ” หยางโปพูด

ซ่งห้าวซวนเดินโซซัดโซเซออกไป จนเกือบจะสะดุดช่องว่างของประตูจนเกือบล้มลงไป