“ติ้ง ตรวจพบว่าโฮสต์ได้รับบาดเจ็บสาหัสและพลังชีวิตของโฮสต์ลดลงอย่างรวดเร็ว ระบบจะหัก 100,000 แต้มโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาโฮสต์!” ในใจของเสี่ยวหลัว มีเสียงของระบบที่ไร้อารมณ์ดังขึ้น
เสี่ยวหลัวที่เกือบจะเป็นลมหมดสติจากความรู้สึกแสบร้อนที่เกิดขึ้นจากบาดแผลที่หลังของเขา แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกสบายมากเหมือนกับว่า มีมือที่อ่อนโยนเข้ามาลูบสัมผัสช่วยบรรเทาบาดแผลที่เจ็บปวดของเขาในตอนแรก
“หัก 100,000 แต้ม เพื่อรักษา?”
เสี่ยวหลัวยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ระบบมันสามารถบังคับให้หักแต้มได้โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเขา ซึ่งสิ่งนี้มันทำให้เสี่ยวหลัวเกือบที่จะสถบสาปแช่งออกมา แต่หลังจากที่ครุ่นคิดอีกครั้ง มันมีค่าใช้จ่ายเพียง 100,000 แต้ม ในการรักษาบาดแผลจากกระสุนปืน ซึ่งสิ่งนี้มันยอดเยี่ยมมาก และมันก็คุ้มค่ากับแต้มที่เสียไปแล้ว
ตอนนี้มันเป็นเวลากว่าเที่ยงคืนแล้ว บนภูเขาในสวนสาธารณะยังคงเย็นเย็บและเงียบสงบ แม้แต่ไฟส่องทางบนเส้นทางบนภูเขาก็ถูกปิดลงไปเพื่อประหยัดพลังงาน
เสี่ยวหลัวนอนบนม้านั่งหินภายในศาลา และหลับตาลงปล่อยให้ระบบทำการรักษา
ไกลออกไปในเมืองมีเสียงไซเรนของรถตำรวจดังอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งสิ่งนี้มันไม่ได้สร้างภัยคุกคามทางจิตใจใดๆต่อเขาเลยแม้แต่น้อย ก่อนหน้านี้เขาได้วางแผนเส้นทางการหลบหนีก่อนที่จะลงมือแล้ว เส้นทางการหลบหนีของเขามันเป็นจุดบอดของระบบสกายเน็ตของตำรวจ และพวกตำรวจมันจะไม่มีวันค้นพบเบาะแสใดๆจากการเฝ้าติดตาม สิ่งเดียวที่เขากังวลก็คือบาดแผลของกระสุนปืนที่ด้านหลังของเขาเท่านั้น
กู่ กุ้ยหลิน เริ่มสงสัยเขาแล้ว นอกเหนือจากการป้องกันไม่ให้เขาฆ่า เหอ หร่วนเหลียง แล้วการยิงนี้มันก็ควรที่จะมีเหตุผลที่สำคัญกว่านี้ นั่นก็คือการทิ้งหลักฐานที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ไม่เช่นนั้น กู่ กุ้ยหลิน ก็คงจะยิงมาที่อวัยวะสำคัญเขาแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าเธอวางแผนที่จะไว้ชีวิตเขาโดยเจตนา
“มันจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ไหม” เสี่ยวหลัว ถาม
เห็นได้ชัดเลยว่า คำถามนี้พุ่งตรงไปที่ระบบที่ผสานเข้ากับร่างกายของเขา
“ติ้ง! การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นโดยโอตส์ มันไม่จำกัดแต่เพียง บาดแผลที่เกิดจากกระสุนเปิด บาดแผลที่เกิดจากมีด แผลไฟไหม้ หรืออาการบาดเจ็บที่ใกล้ถึงแก่ชีวิต เป็นบาดแผลที่ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของโฮสต์ ความสามารถในการรักษาจะถูกเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ และแต้มจะถูกหักออก บาดแผลสำหรับโฮสต์จะสามารถหายได้อย่างถาวรโดยที่ไม่ทิ้งร่องรอยใดๆเอาไว้”
รักษาแบบถาวรโดยที่ไม่ทิ้งร่องรอยใดๆเอาไว้?
เสี่ยวหลัวอดไม่ได้ที่จะพูดล้อเลียน: “ฟังดูอย่างกับขายผลิตผลิตภัณฑ์โฆษณา”
ระบบไม่ตอบสนอง ราวกับว่าระบบมันไม่สามารถตอบสนองต่อคำสั่งดังกล่าวได้
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันมีแต้มน้อยกว่า 100,000 แต้ม”
“ติ้ง! ฟังก์ชันการรักษาจะไม่สามารถเปิดใช้งานได้”
เป็นไปตามคาด!
เสี่ยวหลัวหยุดพูด เขาขี้เกียจเกินกว่า ที่จะมาพูดเรื่องไร้สาระกับระบบที่ปราศจากจิตสำนึกที่เป็นอิสระเช่นนี้
ครึ่งชั่วโมงต่อมากระบวนการรักษาก็สิ้นสุดลง
จิตวิญญาณและพลังงานของเสี่ยวหลัวก็ได้รับการฟื้นฟู เขาลองขยับแขนไปมาและไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไป จากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปแตะที่หลัง ตรงที่มีหลุมเลือด แม้ว่าเขาจะไม่จำเป็นที่จะต้องมองด้วยตา แต่เขาก็มั่นใจได้ว่ามันไม่มีแม้แต่รอยแผลเป็นหลงเหลืออยู่อย่างแน่นอน
“ดี!”
เสี่ยวหลัวยกย่องระบบอยู่ในใจ
ในขณะที่เขากำลังเตรียมพร้อมที่จะจากไป เขาก็หันไปเห็นคู่รักคู่หนึ่งที่กำลังเดินขึ้นมาบนภูเขา ชายคนนั้นดูเหมือนว่าจะพาผู้หญิงขึ้นไปตามทางที่สูงชัน จากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้าตรงไปยังพื้นที่ป่าข้างทาง ไม่นานหลังจากนั้นเสี่ยวหลัวก็ได้ยินเสียงครางเบาๆ และเสียงฮึดฮัดจากทั้งคู่ เห็นได้ชัดเลยว่า พวกเขาเป็นคู่รักหนุ่มสาวที่แอบออกมาในตอนกลางคืน เพื่อมาหาที่หลบภัยชั่วคราวเพื่อแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสุขด้วยกัน
เสี่ยวหลัวไม่ได้ตั้งใจที่จะวิ่งขึ้นไปดูคู่รักหนุ่มสาวนั่น แต่สายตาของเขาที่ปรับตัวจนคุ้นชินกับความมืด มันทำให้เขาสามารถเห็นร่างที่เปลือยเปล่าสองร่างที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ พวกเขาใช้ท้องฟ้าเป็นผ้าห่มและใช้พื้นดินเป็นเตียงนอน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่กลัวแม้แต่ความหนาวเย็นในยามค่ำคืนเลยแม้แต่น้อย
เสี่ยวหลัวรู้สึกอึดอัด เขาไม่ใช่พวกถ้ำมองดังนั้นเขาจึงเบือนหน้าหนีไปในทันที ก่อนที่เขาจะจากไปเขาก็ลอบหยิบเสื้อผ้าของชายคนนั้นที่ทิ้งอยู่ใกล้ๆ ในขณะที่เสื้อคลุมสีเทาของเขาถูกโยนทิ้งไว้ในถังขยะที่อยู่ใกล้ๆ
……
“หน้าหน้ากู่ เราพบเสี่ยวหลัวแล้ว เขาอยู่ในโรงพยาบาลประชาชนในเขตกวงหมิง” เสียงของผู้ใต้บังคับบัญชาดังขึ้นมาบนวิทยุสื่อสาร
อยู่โรงพยาบาล?
กู่ กุ้ยหลิน ตอบทันทีว่า“จับตาดูเขาไว้ อย่าปล่อยให้เขาหลบหนีไปเด็ดขาด มิฉะนั้นพรุ่งนี้คุณก็ลาขาดจากงานได้เลย!”
“รับทราบ!”
ตำรวจเจียงเฉิงที่อยู่อีกด้านของสาย เขาตระหนักได้ถึงความสำคัญของเรื่องนี้ จากนั้นเขาก็พูดตอบกลับอย่างหนักแน่นในทันที
“สตาร์ทรถ เราจะกลับไปโรงพยาบาลประชาชน!” กู่ กุ้ยหลิน บอกกับตำรวจที่เป็นคนขับรถ
คนขับรถโยนบะหมี่ถ้วยที่เขาเพิ่งจะกินได้ครึ่งถ้วยทิ้งลงไปในถังขยะนอกรถในทันที จากนั้นเขาก็สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วรีบเร่งขับไปที่โรงพยาบาลประชาชน
“หัวหน้ากู่ เรื่องนี้มันไม่ถูกต้อง ทำไมเสี่ยวหลัวถึงได้ไปอยู่ที่โรงพยาบาล เขาวางแผนที่จะมอบตัวงั้นเหรอ?”
หวัง ฮันเหียน เกาหัวของเขา เขาคิดหาเหตุผลที่สมเหตุสมผล เขาหาเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังในเรื่องนี้ไม่ได้เลย ท้ายที่สุดแล้วนอกเหนือจากการค้นหาตามหมู่บ้านของเขาแล้ว ที่ที่พวกเขาให้ความสนใจเป็นอันดับแรกก็คือโรงพยาบาล
“ใครจะรู้ว่านักฆ่าเลือดเย็นอย่างเขากำลังคิดอะไรอยู่? ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด เราก็ต้องจับตัวเขาให้ได้ในครั้งนี้” กู่ กุ้ยหลิน กำหมัดแน่นพร้อมกับกัดฟัน
หวัง ฮันเหียน พยักหน้าเห็นด้วย เมื่อนึกถึงฉากฆาตกรรมที่น่าสยดสยองของ เหอ หร่วนเหลียง ที่ลานจอดรถใต้ดินใกล้กับแม่น้ำลี่ชุย หัวใจเขาก็สั่นสะท้าน หากฆาตกรเป็นเสี่ยวหลัวจริงๆ เสี่ยวหลัวก็เป็นตัวอันตรายอย่างยิ่ง ตัวตนของเขามันเป็นเหมือนกับสัตว์ร้ายที่กำลังเดินป้วนเปี้ยนไปมาในเมือง สัตว์ร้ายนี้มันอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตผู้อื่นได้ตลอดเวลา
……
ในโรงพยาบาลซุนยู้ยังคงอยู่ในห้องฉุกเฉิน
ที่ด้านนอกของห้องฉุกเฉินตำรวจเจียงเฉิง เจ็ดหรือแปดคนกำลังเล็งปืนไปที่ด้านหน้า พร้อมกับหลังของพวกเขาที่กำลังเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็น และจิตใจของพวกเขาก็ตกอยู่ในสภาวะตึงเครียดสูงสุดในขณะนี้
เสี่ยวหลัวถือถ้วยกระดาษอยู่ในมือ และมองไปที่พวกเขาอย่างไม่สนใจ โดยที่ไม่มีร่องรอยของความตื่นตระหนกอยู่บนใบหน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม เสี่ยวรุ่ยอิง,ถังเหริน และ หู่ ซัวหรง ต่างก็ตกตะลึงและพวกเขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออกมาเสียงดัง
เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมพวกตำรวจถึงได้เล็งปืนไปที่เสี่ยวหลัว?
แล้วทำไมตำรวจพวกนี้ดูประหม่าจัง
คำถามชุดนี้ผุดขึ้นมาในความคิดของ เสี่ยวรุ่ยอิง,ถังเหริน และ หู่ ซัวหรง เมื่อพวกเขาเห็นชายคนนั้นยืนตรงและไม่ได้แสดงความหวาดกลัวออกมาเลยแม้แต่น้อย เขายืนอยู่ที่นั่นอย่างสงบนิ่ง! นั่นมันทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึงความลึกลับมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าชายคนนั้นเป็นเหมือนกับปริศนาแห่งความลับที่มีเรื่องราวมากมายที่ไม่รู้จักอยู่เบื้องหลัง!
เสี่ยวหลัวส่ายหัวและยิ้มพร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้า
“อย่าขยับ!”
หัวหน้าทีมตำรวจที่อ่อนไหว ตะโกนใส่เสี่ยวหลัว ในทันทีที่เห็นเขาขยับ
เสี่ยวหลัวชูถ้วยกระดาษที่อยู่ในมือขึ้น: “อย่ากังวล ฉันเพียงจะไปเติมน้ำใส่แก้วนี้ ตรงมุมนั้น ฉันไม่ได้จะไปไหนสักหน่อย”
ในขณะที่เสี่ยวหลัวพูด เขาก็เดินไปที่ตู้กดน้ำที่อยู่ตรงมุมห้องโดยที่ไม่ได้รอคำตอบจากพวกตำรวจ
ปืนชี้ตามเสี่ยวหลัวในขณะที่เขาเดินเคลื่อนผ่านพวกตำรวจ ตำรวจบางคนมีเหงื่อที่มองไม่เห็นไหลลงมาจากหน้าผากของพวกเขา จากข้อมูลที่พวกเขาได้รับ เสี่ยวหลัว นั้นเป็น “บุคคลอันตรายระดับ A” แม้แต่อาชญากรติดอาวุธที่ปล้นธนาคารก็อยู่เพียงระดับ B เท่านั้น ระดับ A นั้นอยู่เหนือกว่าระดับ B พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า ผู้ชายคนนี้นั้นอันตรายมากแค่ไหน
เสี่ยวหลัววางถ้วยกระดาษไว้ใต้ก๊อกน้ำร้อน และกดสวิตช์น้ำร้อน จากนั้นน้ำอุ่นๆก็ไหลลงมาในแนวตั้งลงไปในถ้วยกระดาษ ทำให้เกิดเสียงของหยดน้ำที่กำลังเติมลงไปในถ้วย เมื่อเติมได้ครึ่งถ้วยเสี่ยวหลัวก็ดื่มมันลงไปและรู้สึกร้อนเล็กน้อยในปากของเขา จากนั้นเขาก็เติมน้ำเย็นลงไป เมื่ออุณหภูมิได้รับการปรับให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว เขาก็จิบและดื่มต่อไป
เมื่อเห็นสิ่งนี้ พวกตำรวจเจียงเฉิง ก็ลอบกลืนน้ำลายของพวกเขาลงไปโดยไม่รู้ตัว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรู้สึกกระหายน้ำมากในตอนนี้
หัวหน้าทีมรู้สึกถึงความกลัวอย่างสุดซึ้ง เมื่อเขาเห็นว่าชายคนนี้จิบน้ำเปล่าอย่างสบายๆ แม้ว่ามันจะมีปืนจ่อมาที่เขาก็ตาม เขาคิดว่าคนประเภทไหนกันที่จะมีความเข้มแข็งทางจิตใจ ที่จะสงบนิ่งได้ขนาดนี้ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของความกดดันที่มองไม่เห็น ที่ถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของเสี่ยวหลัว