ตอนที่ 199

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 199: สังหาร!

 

อี้เทียนหยุนมองไปยังหลินหลี่ที่กองอยู่กับพื้นอย่างเย็นชา ความเจ็บปวดทำให้หลินหลี่ถึงกับหลั่งเหงื่อเย็นเยียบออกมาทั่วร่าง ใบหน้าบิดเบี้ยว แต่เขาไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย มีเพียงแค่ความโกรธเกรี้ยวเท่านั้น

 

ดีที่วันนี้กลับมาเร็ว ไม่อย่างพวกอี้อวี่เหว่ยคงตกอยู่ในอันตรายแล้ว

 

“จะดวลตัวต่อตัวกับข้าไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ลุกขึ้นมาล่ะ!” อี้เทียนหยุนร้องออกมา ความโกรธที่อัดแน่นในใจไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย

 

หลินหลี่ถูกโจมตีจนอยู่ในสภาพครึ่งเป็นครึ่งตาย จะไปมีปัญญาลุกขึ้นมาได้ยังไง ใบหน้าของเขาซีดขาว บนใบหน้าเต็มไปด้วยความอับอายอย่างถึงที่สุด ทั้งยังมากไปด้วยความแตกตื่น เขาไม่คิดว่าพลังของอี้เทียนหยุนจะน่าสะพรึงขนาดนี้ ถ้าเขารู้ เขาจะไม่โจมตีอี้เทียนหยุนอย่างแน่นอน

 

“พลังของเจ้า ทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้…..” ลำคอของเขาแห้งผาก น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแหบจนฟังไม่ได้

 

อี้เทียนหยุนไม่ตอบเขา เดินเข้าไปสองก้าว พร้อมกับยื่นมือออกไปคว้าแขนอีกข้างของหลินหลี่ แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “มือนี้สินะที่คิดจะตบคนของข้าเมื่อกี้นี้!”

 

จากนั้น เขาก็บิดมันอย่างแรง พร้อมกับกระชากแขนจนขาด หลินหลี่ร้องโหยหวน เมื่อแขนขาด เขาในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากขยะ

 

“ฆ่า ฆ่าข้าซะ วังเสินเหวินจะทำให้เจ้าเสียใจ!” หลินหลี่กู่ร้อง เขารู้ว่าต่อให้ร้องขอความเมตตาไปก็ไร้ประโยชน์ ยังไงอี้เทียนหยุนก็ต้องฆ่าเขาอย่างแน่นอน

 

“วางใจเถอะ ถ้าวังเสินเหวินมาหาเรื่องข้า ข้าก็จะบดขยี้มันเช่นเดียวกัน!” อี้เทียนหยุนพูดอย่างเย็นชา

 

“บดขยี้วังเสินเหวินอย่างงั้นเหรอ ฮ่าๆๆ….. ฝีมืออย่างเจ้า หรือว่าจะผู้ช่วยนั่น? ฮ่าๆ เจ้ามันอวดดีเกินไปแล้ว เจ้าคิดว่าวังเสินเหวินของข้าไร้น้ำยาหรือยังไง?” หลินหลี่ร้องออกมา สีหน้าเต็มไปด้วยความยั่วยุ

 

“ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไง ต่อให้จะไม่สามารถบดขยี้ได้ ข้าก็จะเล่นกับมันอย่างช้าๆ เวลาของข้ายังมีอีกมาก!” อี้เทียนหยุนชูมือขึ้น พร้อมกันนั้นก็มีเปลวเพลิงผุดขึ้นมา นี่คือเปลวเพลิงนิรันดร์ เป็นเปลวเพลิงที่มีความร้อนสูง มันขับไล่ความเย็นออกไปจากถ้ำแห่งนี้ได้โดยสมบูรณ์

 

“เจ้า เจ้า…..” เมื่อเผชิญหน้ากับความตาย ร่างของหลินหลี่ก็สั่นสะท้าน

 

“สุดท้ายนี้ ข้าจะให้เจ้าตายภายใต้เปลวเพลิงนี้ ถ้าเกิดชาติหน้า อย่าได้หาเรื่องข้าอีก….. ไม่อย่างนั้นจะต้องตายอย่างน่าสมเพชอย่างนี้!” อี้เทียนหยุนโยนไฟในมือออกไป ปลดปล่อยเปลวเพลิงนิรันดร์ซึ่งน่าสะพรึงให้แผดเผาหลินหลี่ที่เบื้องหน้า

 

“ต่อให้ข้าต้องกลายเป็นวิญญาณร้าย ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไป!” หลินหลี่ตะโกนพูดสุดท้ายออกมา

 

“วิญญาณร้ายอย่างงั้นเหรอ ถ้ามีปัญญาก็เข้ามา สิ่งที่ข้าไม่กลัวที่สุดก็คือวิญญาณร้ายนี่แหละ!” อี้เทียนหยุนหัวเราะเยาะ

 

พร้อมกับเสียงโหยหวน หลินหลี่ก็ถูกเผาจนตาย เขาไม่ได้กลายเป็นวิญญาณร้าย แต่ถูกทำลายทิ้งโดยสมบูรณ์

 

“ติ๊ง ท่านสังหารหลินหลี่สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 170,000, ค่าความคลั่ง 2,400, ค่าความชำนาญในการสลักอาคม 500, ได้รับฝ่ามือเมฆาสวรรค์(ระดับปฐพีขั้นต่ำ), ได้รับกระดาษวาดอาคม(ชั้นสูง), เม็ดยาพลังงาน”

 

จริงอย่างที่คิด เมื่อสังหารนักสลักอาคม ก็จะได้รับค่าความชำนาญมา ถ้าเกิดสังหารวังเสินเหวิน มันคงจะเป็นเรื่องง่ายที่จะสะสมค่าความชำนาญในการสลักอาคม แน่นอนว่าเขาหวังว่าวังเสินเหวินจะไม่มาตอแยเขา ไม่อย่างนั้น เขาก็ไม่รังเกียจที่จะทำลายวังเสินเหวินทิ้งไป!

 

จากนั้น อี้เทียนหยุนก็มองไปยังซากศพพวกนั้นด้วยความไม่สบอารมณ์ พร้อมกับหมุนตัวเดินออกไปข้างนอก

 

“ผู้อาวุโสอี้ ขอบคุณมากที่ช่วยพวกเราไว้” เมื่ออี้อวี่เสวียนกับพวกออกมาพร้อมกับอี้เทียนหยุน พวกเธอก็ทำการขอบคุณเขาในทันที

 

“ไม่ คราวนี้เป็นข้าที่ทำให้พวกเจ้าต้องมาพัวพันด้วย แทบจะก่อให้เกิดความผิดพลาดที่ไม่อาจแก้ไขได้!” ความโกรธในใจอี้เทียนหยุนยังไม่สลายไป เขาไม่มีปัญหาหากอีกฝ่ายจะมาหาเรื่องเขาโดยตรง แต่เอาเพื่อนของเขามาเกี่ยวด้วย นี่มันหมายความว่ายังไง?

 

เมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์นี้ ในใจของเขาจึงโกรธมาก เมื่อข้ามขีดอดทนของเขามา สิ่งที่พวกมันต้องจ่าย ไม่เรียบง่ายแค่นี้แน่

 

“ไม่เป็นไรหรอก ตราบเท่าที่พวกเราปลอดภัยก็พอแล้ว…..” ในใจของเธอรู้สึกพอใจ แต่ก็ยังเป็นกังวลอยู่

 

อี้อวี่เหว่ยรู้ว่าอี้เทียนหยุนนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ก็กลัวว่าเขาจะต้องติดกับ โดยเฉพาะถูกบีบบังดับด้วยตัวประกัน ถ้าเขายอมเชื่อฟังโดยไม่ต่อสู้ นั่นก็เท่ากับตายสถานเดียว

 

“ข้าจะต้องมาแน่ นี่เป็นปัญหาที่ข้าก่อ เพราะงั้นข้าจะต้องมาอย่างแน่นอน” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง “ตอนนี้พวกเจ้ากลับไปก่อน จะไม่มีใครไปก่อปัญหาให้พวกเจ้า ข้ามีที่ที่ต้องไปจัดการก่อน!”

 

อี้อวี่เหว่ยมองไปที่เขาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา ร่างแบบบางของเธอก็อดสั่นขึ้นมาไม่ได้ แต่ก็พยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ได้ ข้าจะกลับไปรอท่านที่โรงเตี๊ยม…..”

 

“อืม คุณหนูเริ่น เจ้าก็กลับไปด้วยกันกับพวกเธอด้วย รอฟังข่าวจากข้าอยู่ที่นั่น” อี้เทียนหยุนสีหน้าเย็นชา ครั้งนี้เขาอยากจะไปคนเดียว

 

“ทราบแล้ว ท่านพี่” เริ่นจื่อโหรวพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

 

จากนั้น พวกเธอก็จากไปอย่างรวดเร็ว หลังจากพวกเธอจากไป อี้เทียนหยุนก็เรียกมังกรดำออกมา พร้อมกับบินไปยังตระกูลหวังอย่างรวดเร็ว ความเร็วที่ใช้พลังพุ่งมาถึงขีดสุดในทันที!

 

ตระกูลหวังตั้งอยู่ที่ไหนเขาไม่รู้แน่ชัด แต่แค่หยาบๆ ล่ะก็เขาพอรู้ ถ้าไม่ได้ทำลายตระกูลหวังทิ้ง ความโกรธในใจของเขาก็คงไม่อาจทุเลาลง

 

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ในตระกูลหวังก็ได้มีการเปลี่ยนแปลง

 

“ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ทางฝั่งหลินหลี่เป็นยังไงบ้าง ไม่รู้ว่าจะสังหารเจ้าเด็กนั่นได้แล้วหรือยัง? ถ้าปล่อยมันไว้ มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต” เจ้าตระกูลหวังขมวดคิ้วมุ่น เขาหวังว่าหลินหลี่คงจะไม่ทำพลาด

 

“ครั้งนี้พวกเราส่งผู้อาวุโสหวังชิงไปด้วย ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าเด็กนั่นจะหนีไปจากเงื้อมมือเขาได้” ผู้อาวุโสหวังเส้าหัวที่อยู่ใกล้ๆ พูดกลั้วหัวเราะขึ้นมา

 

“มันแน่นอนอยู่แล้ว ส่งกระทั่งผู้อาวุโสหวังชิงไป นี่เป็นการเชือดไก่ด้วยมีดฆ่าวัวชัดๆ!” เจ้าตระกูลหวังสีหน้าเย็นชา “ตราบเท่าที่ขวางหน้าข้า ขัดขวางความก้าวหน้าของเขา มันผู้นั้นก็ต้องถูกกำจัด ต่อให้เป็นตระกูลจู้ก็ตาม!”

 

ขณะที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่นั้น ทันใดนั้นก็มีเสียงดังจากข้างนอกส่งเข้ามา “เปรี้ยง!” จากนั้นก็มีเสียงร้องโหยหวนดังตามมาไม่หยุด ทำให้พวกเขาต้องรีบลุกขึ้น พร้อมกับพูดขึ้นด้วยความสงสัย “เกิดอะไรขึ้นข้างนอก พวกเราไปดูกัน!”

 

เจ้าตระกูลหวังสัมผัสได้ถึงลางที่ไม่ดี ดังนั้นจึงได้พาผู้อาวุโสของตระกูลหวังวิ่งออกไปที่ด้านนอก และเมื่อออกจากห้องมา เขาก็พบว่าด้านนอกถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง เปลวเพลิงลุกท่วมตระกูลเขาราวกับฟืนท่อนใหญ่ เสียงโหยหวนดังออกมาจากทุกพื้นที่ไม่หยุด

 

ศิษย์ในตระกูลหลายคนพากันวิ่งหนีจากด้านนอกเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีบางคนที่ตัวติดไฟ พริบตาก็ถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่าน ไม่มีปัญญาจะต่อต้านเปลวเพลิงที่น่าสะพรึงนี้

 

“นี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน?” พวกเขาพากันเบิกตากว้าง ทำไมตระกูลหวังของตนถึงได้กลายเป็นทะเลเพลิงไปแล้วล่ะ นี่ทำให้พวกเขาตกใจมาก ยิ่งกว่านั้น เปลวเพลิงนี้ดูแล้วไม่น่าใช่เปลวเพลิงธรรมดา แต่เป็นเปลวเพลิงที่มีพลังน่าสะพรึงอย่างถึงที่สุด

 

หลังจากนั้น ก็ได้มียามวิ่งมาจากข้างนอก พร้อมกับรายงานด้วยร่างที่ชุ่มเหงื่อ “ท่านเจ้าตระกูล ข้างนอกมีคนพามังกรดำเข้ามาสังหารคนตระกูลของเรา!”

 

“มังกรดำ!?” พวกเขาพากันตกตะลึงอีกครั้ง นี่มันระดับสัตว์เทวะเลยนะ แน่นอนว่าต้องเป็นสำนักที่มีอิทธิพลอย่างมาก แล้วนี่พวกเขาไปตอแยสำนักที่มีอิทธิพลขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?