ตอนที่ 204 ถึงที่ (1)

ยอดหญิงอันดับหนึ่ง

ความเห็น​หรือ​ ​ไม่มี​อัน​ใด​นอกเหนือจาก​รบ​กับ​ไม่​รบ

​ความป่าเถื่อน​ของ​พวก​เหมิง​หนู​มี​ให้​เห็น​อย่างชัดเจน​ ​ศึก​ครานี​้​ไม่ช้าก็เร็ว​เกรง​ว่า​จะ​ต้อง​เกิดขึ้น​แน่นอน​ ​ทว่า​…​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ใจ​กระตุก​เล็กน้อย

ซ​ย่า​โหว​ซื่อ​ถิง​เห็น​นาง​มอง​ตน​อยู่​ก็​เอ่ย​ถาม​โดย​ไม่ทัน​คิด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เรื่อง​ของ​ทางเหนือ​ ​เจ้า​คิดเห็น​เช่นไร​”

​นาง​นึกไม่ถึง​ว่า​เขา​จะ​ถาม​ความเห็น​จาก​นาง​ ​น้ำเสียง​เช่นนี้​มิใช่​เอ่ย​ถาม​ตามอำเภอใจ​หรือ​ล้อ​กัน​เล่น​ ​แต่​แฝง​ไว้​ด้วย​ความจริงจัง​เป็นอย่างมาก

​เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​การทูต​และ​การทหาร​ของ​ทั้งสอง​เมือง​ ​ไม่​เหมือนกับ​เหตุการณ์​ความ​ไม่​สงบ​ภายใน​เยี​่​ยน​หยาง​ ​ช่าง​ร้ายแรง​นัก​ ​เหตุใด​จึง​พูด​มั่วซั่ว​ตามอำเภอใจ​เช่นนี้​ ​พอ​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ถูก​เขา​ถาม​ก็​เริ่ม​จะ​หายใจ​ลำบาก

​สตรี​นางใน​ไม่​ยุ่งเกี่ยว​กับ​การเมือง​มา​แต่ไหนแต่ไร​ ​เพราะ​เกรง​ว่า​จะ​มีคำ​ครหา​ว่า​เป็น​แม่​ไก่​มา​ขัน​ตอนเช้า[1] ​พอ​พวกเขา​เห็น​นาง​สนอกสนใจ​ต่อ​การเมือง​ก็​ต่าง​ทำท่า​ราวกับ​เห็น​เสือ​เห็น​หมาป่า​ก็​มิ​ปาน​ ​ดูแล​นาง​อย่างมิดชิด​เข้มงวด​อยู่​ใน​ห้อง​หอ​ ​ปกป้อง​คุ้มครอง​อย่าง​อบอุ่น​อ่อนโยน​พลาง​ดัดนิสัย​ของ​นาง​จน​ความสนใจ​นั้น​ค่อยๆ​ ​สูญสลาย​หาย​ไป​ตาม​กาลเวลา​ ​นับได้ว่า​มีบุญ​คุณ​และ​ให้​ความเคารพ​ต่อนา​งอย​่าง​สูง​ที่สุด​แล้ว

​ทว่า​แววตา​เขา​เยือกเย็น​สุขุม​ ​น้ำเสียง​ก็​ส่งเสริม​อย่างจริงใจ​ ​ใน​ยาม​นี้​เขา​ไม่สน​ทั้ง​นิสัยใจคอ​และ​ฐานะ​ของ​นาง

​นาง​ไม่​ให้​เขา​คอย​นาน​ ​ริมฝีปาก​บาง​ก็​ขยับ​ ​“​ข้า​ไม่รู้​แน่ชัด​ว่า​สถานการณ์​ทางเหนือ​เป็น​เช่นไร​ ​แต่​ได้​ฟัง​เพียง​คำบอกเล่า​ของ​เยี​่​ยน​อ๋อง​เมื่อ​ครู่​ ​ข้า​ก็​ทราบ​ได้​ว่า​ต่อให้​ต้อง​สู้​กัน​ขึ้น​มา​จริงๆ​ ​ก็​ไม่แน่​ว่า​จะ​ต้อง​เป็น​ครั้งนี้​”

“หืม​?​”​ ซ​ย่า​โหว​ซื่อ​ถิง​แววตา​สั่น​ระริก​ราวกับ​พบ​ความสนุก​ขึ้น​มา

​เยี​่​ยน​อ๋อง​กลืน​แป้ง​ม้วน​ทอด​กรอบ​ลงคอ​แล้ว​กลั้นหายใจ

​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​เอ่ย​อย่าง​ช้าๆ​ ​ว่า​ ​“​เหมิง​หนู​ชิง​ลงมือ​ก่อน​เพื่อ​ความได้เปรียบ​ ​ซ้ำ​ยัง​ปล่อยข่าว​ไป​ทั่วทุกสารทิศ​ว่า​พวก​นั้น​คือ​นักโทษ​หลบหนี​ไร้​สัญชาติ​ที่​ถูก​ขับไล่​ให้​ออกจาก​หมู่บ้าน​ ​อีกทั้ง​ผู้สืบทอด​ของ​อีก​ฝ่าย​ก็​รีบ​นำ​ของกำนัล​มา​ขอโทษ​ถึงที่​ ​การกระทำ​ทั้งหมด​นี้​เป็นไป​อย่างรวดเร็ว​ ​หาก​ต้า​เซ​วี​ยน​สกัดกั้น​ความขุ่นเคือง​คับแค้นใจ​นี้​ไว้​ไม่อยู่​แล้ว​เปิดศึก​ก่อน​ล่ะ​ก็​ ​จาก​ผู้ถูกกระทำ​ก็​จะ​กลายเป็น​คน​ใจไม้ไส้ระกำ​ ​ตั้งใจ​ท้าทาย​กับ​ไฟ​ ​มิได้​รับ​ความ​สนับสนุน​และ​เห็นใจ​จาก​เมือง​อื่น​ในที่สุด​ ​พอ​เหมิง​หนู​ได้รับ​การ​สนับสนุน​จาก​เมือง​อื่น​ก็​จะ​ยิ่ง​มี​ความมั่นใจ​เพิ่มมากขึ้น​ ​ข้อพิพาท​กัน​ระหว่าง​เหมิง​หนู​กับ​ต้า​เซ​วี​ยน​เกิดขึ้น​ทุกปี​ ​จะ​หา​ต้นสายปลายเหตุ​ก็​มิใช่​เรื่อง​ง่าย​ ​ดังนั้น​ที่​ยัง​ไม่​เปิดศึก​เช่นนี้​ก็เพราะว่า​ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​กำลัง​หา​สถานการณ์​ที่​เอื้อประโยชน์​ต่อ​ตน​แล้ว​ค่อย​เปิดศึก​ ​เห็น​ๆ​ ​กัน​อยู่​ว่า​ครานี​้​ยัง​มิใช่​โอกาส​ที่​ดี​ต่อ​ต้า​เซ​วี​ยน​ ​แล้ว​จะ​รีบ​เปิดศึก​ไป​เพื่อ​การ​ใด​”

​ภายใน​ห้อง​หนังสือ​เงียบกริบ

​ห่าง​ออก​ไป​นับ​พัน​ลี้​ ​นาง​ฟัง​แค่​คำบอกเล่า​ของ​เยี​่​ยน​อ๋อง​ก็​มอง​สถานการณ์​ของ​เหมิง​หนู​ออก​ ​นี่​เป็น​สิ่ง​ที่ซ​ย่า​โหว​ซื่อ​ถิ​งมิ​เคย​นึกถึง​มาก​่อน

​ผู้​ที่​มี​ความสามารถ​โดดเด่น​ด้าน​การเมือง​นั้น​มีอยู่​สอง​ประเภท​ ​หนึ่ง​คือ​จาก​ประสบการณ์​ที่​ขัดเกลา​และ​สะสม​มา​ ​สอง​คือ​มีพรสวรรค์​ใน​เรื่อง​นี้

​เยี​่​ยน​อ๋อง​มองซ​ย่า​โหว​ซื่อ​ถิ​งค​รา​หนึ่ง​ ​ที่​พี่สะใภ้​กล่าว​มานั​้น​เหมือนกับ​ความคิด​และ​แผนการ​ของ​พี่​สาม​เมื่อ​ครู่​ทุกอย่าง​ในขณะที่​เขา​กำลัง​คิด​อยู่​นี้​ก็​เห็น​พี่​สาม​มอง​มาทาง​ตน​อยู่​ก่อน​แล้ว​ ​“​ตอบ​สาร​อี๋​ซื่อ​อ๋อง​ไป​ ​คง​รู้​แล้ว​กระมัง​ว่า​ต้อง​ร่าง​อย่างไร​”

​“​ทราบ​แล้ว​”​ ​เยี​่​ยน​อ๋อง​ตะลึงงัน​ ​จากนั้น​จึง​ยิ้ม​กล่าว

​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ตกใจ​ยกใหญ่​ ​“​ข้า​เพียงแค่​ลอง​พูด​ดู​เท่านั้น​ ​ท่าน​อย่า​ได้​ใส่ใจ​ไป​เลย​”​ ​แต่​นาง​กลับ​ได้ยิน​เยี​่​ยน​อ๋อง​หัวเราะ​กล่าวว่า​ ​“​พี่สะใภ้​วางใจ​เถิด​ ​ข้า​เพียงแค่​ร่าง​เท่านั้น​ ​พอ​เรา​ร่าง​เสร็จ​แล้วก็​ยัง​ต้อง​ผ่าน​ความเห็น​จาก​อวี​้​เซียง​และ​จิ​่ง​หยาง​อ๋อง​อีก​”

​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​จึง​ได้​เบาใจ​ลง​ ซ​ย่า​โหว​ซื่อ​ถิง​เห็น​นาง​ตกอกตกใจ​จน​เหงื่อ​ออก​ที่​ปลายจมูก​งอน​ๆ​ ​สีชมพู​ระเรื่อ​นั่น​ ​มุม​ปาก​ก็​แย้มยิ้ม​กว้าง​ขึ้น

​เยี​่​ยน​อ๋อง​เห็นท่า​ทาง​ที่​พี่​สาม​มอง​นาง​ด้วย​สายตา​เหมือนกับ​ยาม​เมื่อ​ครู่​ที่​ตัว​เขามอง​ปอเปี๊ยะ​กุ้ง​ด้วย​ความหิวโหย​ไม่ผิด​เพี้ยน​ก็​ลุกขึ้น​ลูบ​ท้อง​ ​“​ข้า​กิน​เสีย​อิ่มหนำ​ ​ว่า​จะ​ออก​ไป​เดิน​ย่อย​เสียหน่อย​ ​อีก​สักพัก​จึง​จะ​กลับมา​ ​พี่​สาม​ให้​ข้า​พัก​หรือไม่​”

​“​อืม​”​ ซ​ย่า​โหว​ซื่อ​ถิง​เหลือบมอง​เขา​ด้วย​ความพอ​อก​พอใจ​อย่างยิ่ง

​เยี​่​ยน​อ๋อง​ยิ้ม​ตาหยี​เดิน​ออก​ไป

​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​มีเรื่อง​จะ​ถาม​ฉิน​อ๋อง​พอดี​ ​พอ​เห็น​เยี​่​ยน​อ๋อง​ออก​ไป​จึง​เดิน​เข้าไป​ใกล้​สอง​สาม​ก้าว​ ​ขณะ​กำลังจะ​เอ่ย​นั้น​กลับ​เห็น​สายตา​ที่​จ้องมอง​บน​ร่าง​นาง​ของ​เขา​อยู่​หลัง​โต๊ะ​หนังสือ​เหมือน​กำลัง​ครุ่นคิด​สิ่งใด​อยู่​ ​“​…​น่าเสียดาย​นัก​”

​นาง​กำลังจะ​พูด​ก็​ตกตะลึง​ไป​แล้ว​มอง​เขา​ด้วย​ความ​ฉงน​ ​แววตา​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​หาก​เจ้า​เป็น​บุรุษ​ล่ะ​ก็​ ​ข้า​จะ​เลี้ยง​เจ้า​ไว้​เป็น​ที่ปรึกษา​ ​จะ​ปลูกฝัง​ให้​เจ้า​เป็น​อย่างดี​”

​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ยก​มุม​ปาก​ขึ้น​ ​“​ดูแล​้​วท​่า​นอ​๋​อง​สาม​ยาม​นี้​ขาด​ที่ปรึกษา​นี่เอง​ ​แต่​ก็​คงจะ​จริง​ ​เป็น​ถึง​อุปราช​ราชกิจ​มากมาย​ ​อำนาจ​ก็​ยิ่งใหญ่​ ​ยุ่ง​เสีย​จน​ไม่มีเวลา​เลย​กระมัง​”

​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​เขา​จึง​ฉงน​อยู่​บ้าง​ ​เห็น​ดวงตา​เมล็ด​ซิ่ง[2]งดงาม​ของ​นาง​คู่​นั้น​แฝง​ไว้​ด้วย​ความไม่พอใจ​ ​แต่​รอยยิ้ม​ของ​เขา​ยังคง​มั่นคง​อยู่​ ​“​อืม​ ​ยุ่ง​มาก​จริงๆ​”

​“​แต่​ก็​ยัง​มี​เวลา​ไป​บุก​ร้าน​ตี​คน​ ​แล้วยัง​ตักเตือน​จิง​จ้าว​อิ่น​มิ​ให้​ตรวจสอบ​คดี​นี้​ด้วย​น่ะ​หรือ​”​ ​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ดวงตา​เป็นประกาย​ระยับ

ซ​ย่า​โหว​ซื่อ​ถิง​รอยยิ้ม​แข็งทื่อ​อยู่​บน​ใบหน้า​ ​สักพัก​จึง​เอนหลัง​พิง​กับ​เก้าอี้​ ​น้ำเสียง​อ่อนโยน​ดุจ​สายธารา​ ​“​โอ้​ ​เจ้า​หมายถึง​เรื่อง​นี้​หรอก​หรือ​”

​ไร้​ซึ่ง​ความรู้สึกผิด​แม้แต่น้อย

​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ยัง​คิด​ว่า​เขา​จะ​ลังเล​สัก​ประโยค​สอง​ประโยค​ ​หรือไม่ก็​ยืนกราน​ปฏิเสธ​หัวชนฝา​ ​อย่างไร​เสีย​ก็​ไม่มี​ผู้ใด​เห็น​ ​หลักฐาน​ก็​ไม่มี​ ​นาง​จึง​เตรียม​ที่จะ​เปิดโปง​เขา​มา​อย่างดี​ ​แต่​เขา​กลับ​หน้าด้าน​หน้า​ทน​เช่นนี้​ทำเอา​นาง​เพิ่งจะ​ได้สติ​ขึ้น​มา​ ​“​เหตุใด​ท่าน​ต้อง​ไป​พัง​ร้าน​ของ​ใต้เท้า​เฟิ​่​งด​้วย​เล่า​ ​ซ้ำ​ยัง​ทำร้าย​เขา​อีก​”

​เขามอง​นาง​ด้วย​แววตา​เป็นประกาย​ไร้ค​วาม​ลังเล​ใด​ ​ราวกับ​ผู้บริสุทธิ์​ยิ่ง​เสีย​กว่า​คนที​่​ถูก​ตีนอ​นอยู​่​บ้าน​อย่าง​ใต้เท้า​เฟิ​่ง​เสียอีก​ ​“​ก็​เพราะ​ขัดหู​ขัดตา​ข้า​น่ะ​สิ​”

​นี่​ยิ่ง​ทำให้​นาง​โมโห​กว่า​การยอ​มรั​บอ​อก​มาตรง​ๆ​ ​เมื่อ​ครู่​เสียอีก​ ​ยัง​ไม่ทัน​ได้​กล่าว​คำ​ใด​เขา​ก็​เอ่ย​เสริม​ขึ้น​ว่า​ ​“​อีกทั้ง​ ​ข้ามิ​ได้​ให้​คน​ไป​ตี​เขา​ ​จุด​นี้​อย่า​ได้​ใส่ร้าย​ข้า​”

​“​แต่​ระยะนี้​เขา​มิได้​ไป​ที่​ร้าน​แล้ว​ ​ผู้ดูแล​ร้าน​บอกว่า​ใต้เท้า​เฟิ​่ง​ถูก​ตี​จน​บาดเจ็บ​ ​นอน​พัก​รักษาตัว​อยู่​ที่​บ้าน​ตลอด​ ​คนที​่​ท่าน​อ๋อง​สาม​ส่ง​ไป​ทุบ​ร้าน​ล้วน​เป็น​ทหาร​ฝีมือดี​ทั้งสิ้น​ ​พละกำลัง​อย่าง​กับ​กระทิง​ ​ตอน​กำลัง​ทุบ​ร้าน​อยู่​ทำ​เขา​โดน​ลูกหลง​ใช่​หรือไม่​”

​คงจะ​เป็น​เช่นนั้น​ ​เขา​ทนไม่ไหว​จึง​โจมตี​กลับ​ไป​อย่างไร​้​ศีลธรรม​ว่า​ ​“​หน้าตา​ก็​อย่าง​กับ​สตรี​ ​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​จะ​เจอ​เข้า​เล่า​ ​นึกไม่ถึง​ว่า​คน​แดน​ตะวันตก​ผู้​นั้น​จะ​เล่น​ละคร​ให้​เห็นอกเห็นใจ​เช่นนี้​ได้​ ​หาก​รู้​แต่​เนิ่นๆ​ ​คงจะ​ตี​ให้​ตาย​ไป​แล้ว​”​

​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​เอ่ย​อย่าง​จนใจ​ว่า​ ​“​ใต้เท้า​เฟิ​่​งก​็​นับว่า​เป็น​สหาย​ข้า​ ​เคย​ช่วย​ข้า​ไป​ไม่น้อย​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ต่อไป​ท่าน​อ๋อง​สาม​ก็​อย่า​ได้​ไป​ยุ่ง​กับ​หอ​ชุน​หม่าน​และ​เขา​อีก​”

​สหาย​?​ ​เฮอะ​ ​สหาย​กับ​ผี​น่ะ​สิ​ ซ​ย่า​โหว​ซื่อ​ถิง​เปิด​สาร​ออก​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​นิ่ง​ ​“​เรื่อง​ภายหลัง​ก็​ให้​ว่า​กัน​ภายหลัง​”

​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​เบะ​ปาก​ ​นี่​ไม่​เรียกว่า​ปัด​จะ​ให้​เรียกว่า​อย่างไร​ ​นาง​จึง​ทำ​ยอบ​กาย​คำนับ​แล้ว​ยก​หีบ​เดิน​ออก​ไป​ด้านนอก​ ​ประจวบเหมาะ​ที่​เยี​่​ยน​อ๋อง​กลับ​เข้ามา​หลังจาก​เดินเล่น​ที่​หลัง​เรือน​เสร็จ​พอดี

​ทั้งสอง​ทักทาย​กัน​แล้ว​เยี​่​ยน​อ๋อง​ก็​เดิน​เข้า​ห้อง​หนังสือ​ไป

​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ออกจาก​เรือน​มา​ ​นาง​ครุ่นคิด​ก่อน​จะ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​ชูซ​ย่า​ ​เจ้า​ไป​คลังเก็บของ​ช่วย​ข้า​เลือก​ของกำนัล​มาชุด​หนึ่ง​ ​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​หา​เวลาว่าง​ไป​ถนน​หลิ่ว​ถี​เสียหน่อย​”​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​คน​ก็​บาดเจ็บ​เพราะ​เขา​ ​ก็​ควรจะ​ไปดู​เสียหน่อย

พัก​หนึ่ง​นาง​ก็​หันไป​มอง​เรือน​ฮั่น​ม่อ​ครา​หนึ่ง​แล้ว​เอ่ย​เสริม​ว่า​ ​“​อย่า​บอก​เกา​จ๋าง​สื่อ​ล่ะ​”

​ชูซ​ย่า​เข้าใจ​ดี​จึง​รับคำ​ครา​หนึ่ง​ ​แล้ว​เดิน​เข้าไป​ยัง​คลังเก็บของ​ ​พึ่ง​จะ​เดิน​อ้อม​ภูเขา​จำลอง​ไป​ ​ตอน​ผ่าน​เรือน​ด้านหลัง​เห็น​หลี​่ว​์​ชี​เอ๋อร​์​เดิน​เข้ามา​ทาง​นี้​พอดี

ชูซ​ย่า​คิด​ว่านา​งอ​อก​มาทำ​งาน​จึง​มิได้​สนใจ​ ​แต่กลับ​เห็น​นาง​มอง​ไป​ยัง​เรือน​ฮั่น​ม่อ​ที่อยู่​ไม่​ไกล​แล้ว​เรียก​ตน​ไว้​เบา​ๆ​ ​“​พี่​ชูซ​ย่า​ ​เยี​่​ยน​อ๋อง​มิได้​หารือ​กับ​ท่าน​อ๋อง​สาม​ที่​ศาลา​ฮั่น​ม่อ​หรือ​ ​เมื่อ​ครู่​เขา​ออกมา​รอบ​หนึ่ง​ใช่​หรือไม่​”

​ชูซ​ย่า​จ้อง​หลี​่ว​์​ชี​เอ๋อร​์​เขม็ง​ ​“​ใช่​น่ะ​สิ​ ​เยี​่​ยน​อ๋อง​เพิ่งจะ​ออกมา​เดิน​ย่อย​”

​หลี​่ว​์​ชี​เอ๋อร​์​ดวงตา​เป็นประกาย​วาบ​ ​แต่​สีหน้า​กลับ​ทำเป็น​ไม่ใส่ใจ​ ​“​อ้อ​ ​เช่นนั้น​หรือ​ ​เป็น​เยี​่​ยน​อ๋อง​จริงๆ​ ​ด้วย​”

[1] ​แม่​ไก่​มา​ขัน​ตอนเช้า​ ​มีต​่​ออี​กว่า​บ้าน​หลัง​นี้​คงจะ​บ้านแตก​ ​เปรียบเปรย​ว่า​สตรี​ไม่​ทำหน้าที่​ของ​ตน​ ​แต่​หันมา​ทำหน้าที่​ของ​บุรุษ​แทน​ ​เช่น​ ​รบ​ทัพ​จับ​ศึก​ ​ล่าสัตว์​ ​ฝึก​อาวุธ​ ​จะ​ทำให้​ประเทศชาติ​บ้านเมือง​ล่มจม​ ​เพราะ​หน้าที่​ขัน​ตอนเช้า​เป็น​ของ​ไก่​ตัวผู้

[2] ​เมล็ด​ซิ่ง​ ​อัลมอนด์