กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 597
กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านผู้เฒ่าข้ารู้ว่าพวกข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า ดังนั้นการต่อสู้นี้ไม่ต้องสู้ก็ได้ พวกเรามาคุยกันเรื่องเงื่อนไขกันเถอะนะ?”

รองหัวหน้าเผ่าซือคงหรี่ตา เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อคำพูดของกู้ชูหน่วน

แม่สาวนี้ฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก

“อย่างไรเจ้าก็เห็นแล้วว่าไข่มุกมังกรนั้นอยู่ที่นี่ ผู้ใดหยิบไข่มุกมังกรมังกรไปก็เป็นของผู้นั้น ไข่มุกมังกรลูกนี้พวกข้าไม่แย่งชิงกับเจ้าแล้วมอบให้เจ้าเลย”

“หึ……เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนโง่หรือ หากว่าไข่มุกมังกรหยิบมาได้ง่ายดายเช่นนั้นเหตุใดเจ้าถึงไม่หยิบหล่ะ?”

“ข้าก็อยากหยิบสิแต่เกรงว่าพวกเจ้าจะไม่ให้ข้าหยิบ”

รองหัวหน้าเผ่าซือคงพิจารณาคำพูดของนางอย่างละเอียดถี่ถ้วน

นางต้องการให้ตนเองไปหยิบเพื่อที่เขาจะได้ต่อสู้กับอสุรกายดุร้ายหรือสัตว์มีพิษที่ไม่รู้จักของที่นี่หรอกหรือ?

หรือว่านางต้องการที่จะหยิบมาเองแล้วทำให้อสุรกายดุร้ายรับรู้จากนั้นใช้อสุรกายดุร้ายเหล่านั้นมาจัดการกับพวกเขา

“ไม่ต้องลำบาก ไข่มุกมังกรเป็นของพวกข้าเช่นไรพวกเจ้าก็ต้องตาย”

“หึ……ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก พวกเจ้าว่าเช่นไรพวกเจ้าสองคนก็เป็นผู้อาวุโสของเผ่าเพลิงฟ้า เหตุใดถึงได้รู้เรื่องเพียงเล็กน้อยแค่นี้นะ”

“เจ้าต้องการจะพูดสิ่งใด?” รองหัวหน้าเผ่าซือคงถาม

เหตุใดเขาถึงรู้สึกว่ายิ่งคุยกับผู้หญิงคนนี้มากเท่าไหร่หลุมพรางก็ยิ่งใหญ่มากขึ้นเท่านั้น

“ได้ยินมาว่ามีอสุรกายผู้พิทักษ์อยู่ใกล้ๆไข่มุกมังกร ไม่แตะไข่มุกมังกรยังดีหากว่าพวกท่านแตะไข่มุกมังกรอสุรกายผู้พิทักษ์ก็จะปรากฏตัวขึ้นเป็นแน่ หากว่าข้าเป็นพวกเจ้าสองคนจะเก็บชีวิตของพวกข้าไว้แล้วใช้พวกข้าล่ออสุรกายผู้พิทักษ์ออกมาหรือว่าให้จัดการกับอสุรกายผู้พิทักษ์ ”

รองหัวหน้าเผ่าซือคงและผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเยี่ยมองหน้ากันและทั้งคู่เห็นความสงสัยในแววตาของกันและกัน

คำพูดนี้ของนางไม่ได้ผิดปกติ

แต่เมื่อออกมาจากปากของนางเหตุใดถึงได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติอยู่ตลอด?

ผู้ใดจะรีบเร่งเป็นเหยื่อกัน?

“อย่างไรพวกเจ้าก็คิดดูเอาเองเถอะเช่นไรพวกข้าสองคนก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและก็ไม่สามารถหลบหนีจากฝ่ามืออรหันต์ของพวกเจ้าได้” กู่ชูหน่วนกางมือออกอย่างสบายๆและเกียจคร้านราวกับว่าไม่รู้เลยสักนิดว่าตนเองอยู่ในอันตราย

ผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเยี่ยถามด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “รองหัวหน้าเผ่า ท่านคิดว่าแม่สาวผู้นี้ต้องการจะบอกสิ่งใดหรือนางต้องการจะทำสิ่งใด?”

“ไม่ว่านางต้องการจะทำสิ่งใดสิ่งที่นางพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง”

รองหัวหน้าเผ่าซือคงยืดตัวตรงด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยการออกคำสั่ง “พวกเจ้าสองคนขึ้นไปหยิบไข่มุกมังกรลงมา”

ถ้ำน้ำแข็งนั้นก็มีขนาดใหญ่เพียงเท่านี้ไม่ว่าวรยุทธ์ของพวกเขาจะสูงสักเพียงใดและมีเล่ห์เหลี่ยมมากสักเท่าใดเมื่ออยู่ตรงหน้าพวกเขายอดฝีมือระดับหกทั้งสองคนยังสามารถต่อต้านไปได้หรือ

อย่างไรก็ตาม……

ความสามารถของเยี่ยจิ่งหานถดถอยลงยังอยู่ท่ามกลางการวนไปมาระหว่างขั้นต้นระดับห้ากับขั้นกลางระดับห้าและก็ยังรับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย

กู้ชูหน่วนคิดหนัก “งั้นหากว่าพวกข้าทำให้อสุรกายดุร้ายตื่นตระหนกแล้วจะทำเช่นไร? ได้ยินมาว่าอวสุรกายผู้พิทักษ์ข้างๆไข่มุกมังกรนั้นช่างร้ายกาจนัก”

“ร้ายกาจเพียงใดความสามารถจะไปถึงระดับหกได้หรือ?”

กู้ชูหน่วนเบะปาก “เช่นไรก็เป็นมังกรวารีระดับเจ็ด”

“ช่างน่าขัน ในโลกมีเพียงมังกรไฟระดับเจ็ดและมังกรน้ำแข็งระดับเจ็ด มังกรน้ำแข็งระดับเจ็ดนั้นตั้งนาน……ถูกฆ่าไปตั้งนานแล้ว”

ในโลกนี้ผู้ใดจะไม่รู้ว่ามังกรน้ำแข็งระดับเจ็ดถูกหัวหน้านิกายเทพอสูรฆ่าไปแล้ว

แม้แต่ในตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่เชื่อว่ากู้ชูหน่วนเป็นหัวหน้านิกายเทพอสูร

ความสามารถของนางช่างอ่อนเกินไปนัก

“จุ๊จุ๊จุ๊ ผู้ใดบอกว่ามีแค่สองตัว ข้าบอกว่าสามตัว และตัวที่สามก็อยู่ที่นี่”

“ได้ได้ได้ พวกเจ้าก็อย่าได้จ้องเขม็งแล้ว ให้ข้าไปข้าไปก็ได้ แต่หากว่ารบกวนอสุรกายผู้พิทักษ์ขึ้นมาจริงๆแล้วพวกท่านถูกอสุรกายผู้พิทักษ์สังหารก็อย่าโทษข้านะ”

เยี่ยจิ่งหานกล่าวว่า “ข้าไปเถอะ น้ำตกนั่นมีค่ายกลลึกลับซ่อนอยู่ ด้วยความสามารถของเจ้าไม่อาจทำลายได้เป็นแน่”

กู้ชูหน่วนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าและด้านหนึ่งห่างออกไปอีกด้านหนึ่งกระซิบว่า “ท่านระวังตัวด้วย หากว่านำมาไม่ได้ก็อย่าได้ฝืน”

มุมปากของเยี่ยจิ่งหานยกขึ้นเล็กน้อยบ่งบอกถึงอารมณ์อันดีของเขา

รองหัวหน้าเผ่าซือคงและผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเยี่ยยืนล้อมกู้ชูหน่วนทั้งซ้ายขวาและหาที่ลับที่หนึ่งซ่อนตัว

“ทางที่ดีเจ้าควรจะซื่อตรงหน่อย ไม่เช่นนั้นข้าก็ไม่อาจรับประกันว่าชีวิตอันน้อยของนางจะสามารถอยู่รอดได้”

เยี่ยจิ่งหานสูดหายใจเข้าลึกๆโดยกำลังภายในของเขารวมมาอยู่ที่ฝ่ามือเพื่อทำลายค่ายกล เขาใช้กำลังภายในที่ง่ายดายหยาบกระด้างที่สุดซัดเข้าใส่

แม้ว่าเยี่ยจิ่งหานจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่เขาก็ยังเป็นยอดฝีมือ เนื่องจากการซัดของเขาทำให้น้ำตกส่งเสียงดังกึกก้องดังไปทั่วทั้งถ้ำน้ำแข็ง

กู้ชูหน่วนหัวเราะ

เจ้านี่ก็ช่างเกรงว่าโลกจะไม่วุ่นวายเสียจริงๆ

สีหน้าผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเยี่ยปลี่ยนไปและตะโกนด้วยเสียงทุ้มต่ำเนื่องจากเกรงว่าจะรบกวนอสุรกายผู้พิทักษ์ที่นี่ “เยี่ยจิ่งหานเจ้าอยากให้นางตายหรือ?”

“ค่ายกลนี้คือค่ายกลปรากฏการณ์ของจักรวาลอินหยาง ต้องการทำลายก็ทำได้เพียงใช้กำลังภายในที่แข็งแกร่งที่สุดซัดดวงตาของค่ายกลมิเช่นนั้นก็ไม่มีทางที่จะทำลายมันได้ รองหัวหน้าเผ่าซือคงเชี่ยวชาญในเรื่องค่ายกลไม่ใช่หรือเจ้าถามรองหัวหน้าเผ่าซือคงก็รู้แล้ว”

ผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเยี่ยมองไปยังรองหัวหน้าเผ่าซือคง

รองหัวหน้าเผ่าซือคงขมวดคิ้ว

โดยทั่วไปแล้วการจัดการกับค่ายกลปรากฏการณ์ของจักรวาลอินหยางจะต้องโจมตีซัดดวงตาค่ายกลด้วยพลังภายในอันล้ำลึกจริงๆ

แต่เหตุใดเขาถึวรู้สึกว่าค่ายกลนี้ไม่เหมือนกับค่ายกลปรากฏการณ์ของจักรวาลอินหยาง

รองหัวหน้าเผ่าซือคงเกิดความสงสัยอยู่ในใจแต่เยี่ยจิ่งหานไม่ได้ให้เวลาเขาพิจารณามากนักเขาก็ซัดฝ่ามืออันหนักหน่วงฝ่ามือหนึ่งเข้าไป

“ตูม……”

ค่ายกลถูกทำลายและแอ่งน้ำใต้น้ำตกก็เกิดระลอกคลื่นเป็นวงๆขึ้น

ในไม่ช้าระลอกคลื่นก็กลายเป็นกระแสน้ำวนและความน่ากลัวอันหนึ่งก็ลอดออกมาจากก้นสระ

กระแสน้ำวนเป็นเหมือนทางออกจากนรกและสิ่งชั่วร้ายตัวหนึ่งก็ค่อยๆคลานออกมาจากด้านใน

แม้ว่าจะไม่ได้ขึ้นจากน้ำแต่ก็ทำให้คนขนลุกซู่

สีหน้าของเสวี่ยเยี่ยและซือคงแปรเปลี่ยนไปยิ่งนัก

“พลังการสังหารรุนแรงนิ่งนัก ความสามารถของอสุรกายผู้พิทักษ์นี้อยู่ในโลกใดนะ?”

พวกเขาเป็นยอดฝีมือระดับหก

เผชิญหน้ากับสิ่งที่อยู่ใต้กระแสน้ำวนก็ทำให้รู้สึกหวาดกลัวได้ หรือว่าสิ่งที่อยู่ด้านใต้เป็นอสุรกายระดับเจ็ด?

ในขณะที่พวกเขาเสียการควบคุมเยี่ยจิ่งหานกระทืบเท้าก็คว้าไข่มุกมังกรมาไว้ในมือได้แล้ว

ในเวลาเดียวกันร่างของกู้ชูหน่วนเสมือนปลาตะเพียนจากนั้นถอยไปทางด้านหลัง

เสวี่ยเยี่ยและซือคงตอบสนองขึ้นมาในทันที คนหนึ่งจับกู้ชูหน่วนเอาไว้และอีกคนหนึ่งไปชิงไข่มุกมังกร

จากนั้นก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น

ได้ยินเพียงแค่เสียงคำรามเสียงหนึ่ง มังกรวารีที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งใสใต้สระน้ำก็พุ่งขึ้นมาและร้องเสียงคำรามอันโกรธเคืองออกมา

มังกรวารีมีความยาวหลายสิบเมตรโดยมีหนามอยู่ทั่วตัวและมีกรงเล็บสี่กรงเล็บเสมือนมังกรไม่เหมือนงู

เมื่อมังกรวารีพ่นออกจากปาก น้ำในน้ำตกก็ได้กลายเป็นสิ่งมีพิษในทันทีและพ่นไปทางเยี่ยจิ่งหานและคนอื่นๆ

เยี่ยจิ่งหานโยนไข่มุกมังกรให้รองหัวหน้าเผ่าซือคงทันที

รองหัวหน้าเผ่าซือคงรับไว้โดยสัญชาตญาณ

หลังจากรับเอาไว้แล้วเขาก็รู้สึกเสียใจภายหลังเสียแล้ว

เนื่องจากมังกรวารีหันกลับมาโจมตีเขาในทันที

มังกรวารีมีขนาดใหญ่นัก สารพิษที่พ่นออกมานั้นทำให้ผนังน้ำแข็งละลายทันทีและก็เกิดฟองพิษขึ้นไม่หยุด

มันพุ่งกรงเล็บหนึ่งไป ถ้ำน้ำแข็งทั้งถ้ำก็พังทลายลงครึ่งหนึ่งโดยที่สั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง

รองหัวหน้าเผ่าซือคงขัดขืนสุดชีวิตจึงได้หลีกจากออกไปได้อย่างหวุดหวิด

เพิ่งหลีกออกได้มังกรน้ำก็โฉบเข้ามาและอ้าปากที่เต็มไปด้วยเลือดคิดที่จะกลืนเขาเข้าไปเลย

รองหัวหน้าเผ่าซือคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมังกรวารี ผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเยี่ยทำได้เพียงพุ่งเข้าไปช่วยเขาเท่านั้น

เยี่ยจิ่งหานพุ่งตัวอย่างรวดเร็วไปที่ด้านข้างของกู้ชูหน่วน กอดเอวของกู้ชูหน่วนและก้าวเท้าหนีไปในขณะที่พวกเขากำลังต่อสู้กัน

“ตูม……”

น้ำแข็งที่ด้านหลังถล่มลงมาอย่างต่อเนื่องรวมถึงเสียงคำรามอันโมโหโทโสของมังกรด้วยเสียงการสังหารดังซู่ๆและการต่อสู้อันดุเดือด

กู้ชูหน่วนด้านหนึ่งวิ่งหนีอีกด้านหนึ่งถามว่า “ไข่มุกมังกรหล่ะ?”

“วางใจเถอะอยู่ที่ข้านี่ ถูกข้าแยกกลิ่นออกไปมังกรวารีไม่สามารถได้กลิ่นได้ จะได้ก็แค่กลิ่นไข่มุกมังกรที่ปะปนอยู่ในไข่มุกมังกรปลอมที่อยู่กับรองหัวหน้าเผ่าซือคงเท่านั้น”

กู้ชูหน่วนยิ้มโดยที่ขมวดคิ้ว

“เข้าทางเซี่ยงกง ข้าชอบท่าทางหยิ่งทะนงที่ท่านได้เตรียมการเอาไว้หมดแล้วนี้นัก”

หมายเหตุ

เซี่ยงกง เป็นคำที่ภรรยายุคโบราณใช้เรียกสามีในเชิงยกย่อง