บทที่ 705 ไม่ขัดกับกฎสักนิดเดียว / บทที่ 706 พวกสันตินิยิม

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 705 ไม่ขัดกับกฎสักนิดเดียว

ชายที่แต่งเป็นหญิงพิจารณาเยี่ยหวันหวั่นที่แต่งเป็นชายด้วยจริตจะก้าน พึมพำอย่างสนใจว่า “ต๊าย สหายร่วมทาง…”

เยี่ยหวันหวั่นมองเสี่ยวเฉิง เอ่ยว่า “เสี่ยวเฉิง เธอไปทำงานของเธอ คนพวกนี้ให้ฉันจัดการเอง”

“หา แบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ!” แก้มของเสี่ยวเฉินพลันแดงกว่าเดิม

“ง่ายเหมือนปลอกกล้วยน่ะ”

“นี่! เสี่ยวเฉิน” ตอนนี้ ด้านตรงข้ามมีคนมาตามตัวเสี่ยวเฉินพอดี

“งั้น…งั้นก็ได้ค่ะ! รบกวนด้วยนะคะพี่เยี่ย คนพวกนั้นหาเรื่องเองแท้ๆ ถ้าฟังกันไม่รู้เรื่องล่ะก็ เดี๋ยวฉันจะพาร.ป.ภ. มาไล่ไปเอง!” เสี่ยวเฉินขอบคุณพร้อมกับรีบร้อนจากไป

“ได้”

หลังจากเสี่ยวเฉิงไปแล้ว คนทั้งสามก็หนักแหน่นเหมือนภูผา ยึดครอง ‘ฮวงจุ้ยดี’ ต่อ ไม่คิดจะย้ายที่ไปไหน

“ว้าย ร.ป.ภ.? น่ากลัวจังเลย! ขนาดเทศกิจฉันไม่ยังไม่กลัว ยังต้องกลัวร.ป.ภ.เหรอ!”

เยี่ยหวันหวั่นเห็นดังนั้นก็หัวเราะ “อยากหาเงินเหรอ? ทางฉันมีงานที่จ้างพวกคุณได้พอดี”

หนุ่มหน้าสวยคาบฟางไว้เส้นหนึ่ง ทำหน้าเย็นชาเย่อหยิ่ง แค่นหัวเราะด้วยสีหน้ารังเกียจ “ตายแล้ว ได้ยินอะไรรึเปล่า คิดจะจ้างพวกเราเหรอ? ปากดีจริงๆ นะ!”

นักพรตใจบริสุทธิ์ถอนใจยาว “เยี่ย…น้องชายระวังคำพูดด้วย ไม่ว่าพวกเราจะเป็นใครก็ไม่ใช่คนที่นายจะซื้อตัวได้ทั้งนั้น”

เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “อ้อ งั้นถ้าจะจ้างพวกนายต้องจ่ายเท่าไรล่ะ?”

หนุ่มหน้าสวยส่งเสียงจุ๊ปาก “ฉันไม่เคยรับงานที่เงินต่ำกว่าหนึ่งร้อยล้าน”

นักพรตใจบริสุทธิ์หัวเราะ “เจ้ากะเทยนี่ทำวางท่าอะไร ร้อยล้านสุดยอดมากเหรอไง สถิติสูงสุดของฉันคือพันล้าน!”

พูดจบก็ถูมือ กล่าวกับเยี่ยหวันหวั่นว่า “พวกเราสามคน ต่อให้เป็นคนที่นอนอยู่ตรงนั้นก็ไม่ต่ำกว่าห้าสิบล้าน”

เยี่ยหวันหวั่นมุมปากกระตุกขณะฟังสองคนคุยโว “ต่อรองกันหน่อยเป็นไง ลดอีกหน่อยได้ไหม?”

หนุ่มหน้าสวยทำหน้าหยิ่ง “ฉันไม่รับต่อราคา”

นักพรตใจบริสุทธิ์หัวเราะ “ถ้าเป็นเช็คของสาวงาม จะลดให้สักสิบเปอร์เซ็นต์แล้วกัน”

เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “อ้อ หนึ่งคนหนึ่งร้อยหยวน จะทำไหม?”

หนุ่มหน้าสวย “…”

นักพรตใจบริสุทธิ์ “…”

“หนึ่งร้อยหยวน! กำลังดูถูกพวกเราอยู่หรือไง?” หนุ่มหน้าสวยร้องเสียงแหลม

สีหน้าของนักพรตหนุ่มบิดเบี้ยว “นี่น้องเยี่ย ฉันรู้สึกว่าเธอจะไม่ค่อยเข้าใจคำว่า ‘ต่อราคา’ เท่าไรนะ”

“ไม่เอาเหรอ? งั้นก็ตามใจ…” เยี่ยหวันหวั่นหมุนตัวเดินไปทันที

พริบตาที่เยี่ยหวันหวั่นหันไป ร่างของนักพรตก็มาปรากฏด้านหน้าเธอด้วยความเร็วสูงสุด “รอเดี๋ยว! น้องเยี่ย ฉันทำๆ! ขอแค่ไม่ผิดหลักเต๋า ไม่ใช้วรยุทธ์ ก็ไม่ขัดกับกฎ!”

เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะ “อยู่ในกลุ่มนักแสดง เป็นตัวประกอบที่ออกมาไม่กี่นาที งานง่ายมาก ทั้งยังเป็นการเล่นละคร ไม่ได้ใช้วรยุทธ์ ตรงกับความต้องการของนายพอดี ไม่ขัดกับกฎสักนิดเดียว”

นักพรตตาเป็นประกาย รีบเอ่ยว่า “ตกลง! ทำงานเมื่อไหร่ จ่ายเงินตอนไหน เลี้ยงข้าวรึเปล่า?”

“เฮ้ย! เจ้าบ้านี่! อย่าเล่นสกปรกกับฉันนะ!” หนุ่มหน้าสวยร้องตามหลัง “เถ้าแก่ อย่าไปฟังเขา ฉันค่าตัวน้อยกว่าเขาอีก แค่แปดสิบหยวนเอง!”

ครั้งนี้มีเสียงอ่อนๆ ดังมาจากบนเปล “เถ้าแก่ ต้องการคนตายไหม? ห้าสิบนอนได้หนึ่งวัน”

เยี่ยหวันหวั่นหมดคำจะพูด

ครั้งก่อนได้เห็นนักพรตคนนั้นอัดพวกหยวนเซิงโดยไม่ได้ตั้งใจ แค่ดูฝีมือก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ ดูจากตอนนี้แล้วน่าจะไม่ธรรมดาจริงๆ

ไม่ใช่คนบ้าธรรมดาๆ จริงๆ…

———————————————

บทที่ 706 พวกสันตินิยิม

ตอนที่เยี่ยหวันหวั่นพาพวกเขาสามคนเข้าไป ทางจางหวาก็ยังไม่เจอกลุ่มนักแสดงที่เหมาะสม กำลังถูกซ่งจินหลินเร่งจนกระวนกระวายพอดี

ตอนซ่งจินหลินโกรธน่ากลัวเกินไป ไม่มีนักแสดงตัวประกอบกล้ารับงานแล้ว

“พี่จาง ได้คนรึยังครับ” เยี่ยหวันหวั่นพาคนทั้งสามเข้าไป

“ยังไม่ได้เลย! เฮ้อ…”

“ลองทดสอบสามคนนี้ดูเป็นไงครับ คนที่แต่งตัวแบบนักพรตคนนี้น่าจะไหว ถ้าขาดศพล่ะก็ คนไว้ผมยาวคนนี้ก็เอาไปถมจำนวนได้เหมือนกัน”

“โอ้ ขอบคุณคำแนะนำของผู้อำนวยการเยี่ยมาก! เดี๋ยวฉันจะให้พวกเขาลองดู!” ครั้งนี้จางหวาหาคนไม่ได้จริงๆ พอดีเยี่ยหวันหวั่นแนะนำให้สามคน ดังนั้นจึงไม่คิดมากความ รีบร้อนขอบคุณแล้วลองให้ยากับม้าตายดู ทดลองก่อนค่อยว่ากัน

ส่วนคนแสดงเป็นคนตายก็เอามาถมจำนวน ถือว่าให้เกียรติผู้อำนวยการเยี่ย ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร

จางหวาให้ความสนใจอีกสองคนที่เหลือ มองพวกเขาพร้อมถามว่า “ก่อนหน้านี้พวกคุณสองคนเคยแสดงละครมาก่อนไหม?”

ในกองละครมีคนแต่งตัวทุกแบบ ดังนั้นแม้ว่าสองคนนี้จะแต่งตัวประหลาดสำหรับคนทั่วไป แต่จางหวาไม่ได้รู้สึกแปลก

หนุ่มหน้าสวยใช้น้ำเสียงตกใจเอ่ยพลางโบกมือ “พวกเราเป็นพวกสันตินิยม ไม่เคยทะเลาะกับใครหรอก”

นักพรตเต๋าประนมสองมือทำท่าอย่างเต๋า “อาตมาฝึกร่างกายเคี่ยวกรำจิตใจ ไม่เคยประพฤติไม่ดี”

จางหวาได้ยินก็ร้อนใจ “โอ๊ย แบบนั้นไม่ได้นะ! อีกเดี๋ยวตอนแสดงต้องสู้กัน! ผมจะอธิบายให้ฟังก่อน อีกเดี๋ยวให้พวกคุณแยกเป็นสองฝ่ายพุ่งเข้าไปพร้อมกับฝูงชน จากนั้นพวกคุณสองคนต้องสู้กันเอง ต้องสู้กันให้ดุเดือด ให้เหมือนมีความแค้นฝังลึก ชนิดต้องการฆ่ากันให้ตายไปข้าง เข้าใจไหม?”

“ยากเกินไปแล้ว ไปขอทานดีกว่า!”

“คุณผู้ชาย ให้อาตมาทำนายให้ดีไหม”

“เหล่าจาง ทางนายเสร็จรึยัง?” ไม่ไกลออกไป ผู้ช่วยผู้กำกับเร่งมาแล้ว

“เสร็จแล้วๆ! เดี๋ยวจะให้พวกเขาประจำตำแหน่ง!” จางหวาทางหนึ่งขานรับ ทางหนึ่งมองคนที่ยิ่งมองก็ยิ่งไม่ปกติทั้งสองอย่างจนปัญญา “เฮ้อ พวกคุณ…ช่างเถอะๆ ถึงยังไงก็ลองดูก่อนเถอะ!”

หลังจากจางหวากำชับอย่างไม่วางใจอยู่นาน ในที่สุดการถ่ายทำก็เริ่มขึ้น เขาเตรียมตัวถูกด่าหูชาอีกครั้ง

“สาม สอง หนึ่ง แอคชั่น!”

เมื่อการถ่ายทำเริ่มขึ้น คนที่คลุมหน้าสวมชุดดำสิบคนเข้าตะลุมบอนกัน บนพื้นเต็มไปด้วยศพ คนอื่นๆ แค่ถมให้ครบจำนวน มีคนสองคนที่ต้องซูมเข้าไป ดังนั้นจึงมีความกดดันสูงมาก จะสู้ปวกเปียกเกินไปไม่ได้

“ย้าก…โจมตีเลย…”

เสียงกระทบกันของอาวุธดังขึ้นพร้อมกับเสียงตะโกนของกลุ่มคน

ในกลุ่มคนหนาแหน่น คนสองคนที่กล้องจับอยู่กระโดดเข้าหาฝ่ายตรงข้าม เสียงเปรี้ยงดังขึ้น หนุ่มหน้าสวยต่อยหมัดใส่ร่างนักพรต เกิดเป็นเสียงดังน่ากลัว…

คนทั้งสองถีบเท้าออกแทบจะพร้อมกัน ก่อนเข้าปะทะกันด้วยความเร็วสูง สู้กันจนฟ้าพลิกแผ่นดินพัง คู่คี่สูสี…

ทีมงานทุกคนที่มุงดูอยู่ตะลึงงัน…

ไม่ได้เห็นนักแสดงตัวประกอบมืออาชีพแบบนี้มานานแล้ว สู้กันสมจริงมาก โอ้โห แค่การเคลื่อนไหวนั้น ขนาดพวกเขาดูยังรู้สึกเจ็บแทน

ปากของจางหวาอ้าจนกลายเป็นตัวโอ นี่…นี่คือไม่เคยทะเลากับใครเหรอ?

แล้วก็ นี่มันตีกันจริงๆ หรือว่าตีกันเล่นๆ กันแน่เนี่ย?

เยี่ยหวันหวั่นจนปัญญา

แค่หนึ่งร้อยหยวนเอง ต้องทุ่มเทขนาดนี้เลยเหรอ? เธอยืนอยู่ไกลขนาดนี้ยังได้ยินเสียงกระดูกของสองคนนี้กระแทกกันเลย…พวกเขามีความแค้นอะไรกันหรือไง?

แบบนี้ยังกล้าบอกฉันว่าตัวเองรับเช็คร้อยล้านอีก? พวกนี้เอาความกล้ามาจากไหนกันแน่…

……………………………………….