บทที่ 707 ในที่สุดก็ได้เปิดธุรกิจแล้ว / บทที่ 708 ผู้ลงทุนรายใหญ่

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 707 ในที่สุดก็ได้เปิดธุรกิจแล้ว

สุดท้ายฉากนี้ก็ผ่านไป

จนกระทั่งผู้กำกับสั่งหยุด สองคนก็ยังคงกัดกันไม่ปล่อย เรียกได้ว่าเป็นมืออาชีพมาก

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะรู้สึกไปเองหรือเปล่า เยี่ยหวันหวั่นคิดว่าสองคนนี้เหมือนอัดอั้นมานานมาก อยากจะมีเรื่องกันจริงๆ

ซ่งจินหลินเผยความพออกพอใจ ยิ้มให้กับจางหวาอย่างที่หาได้ยาก “แสดงได้ไม่เลว การเคลื่อนไหวกับอารมณ์ร่วมก็ถึงเกณฑ์ สองคนนี้นายไปหามาจากไหน?”

จางหวายิ้มแฉ่ง ตอบว่า “เฮ้อ ไม่ใช่ผมหรอกครับ เป็นผู้อำนวยการเยี่ยมีความสามารถ ผมแค่พูดกับเขาไม่กี่ประโยค เขาก็หาสองคนนี้มาให้เลย สุดยอดจริงๆ ครับ!”

ซ่งจินหลินมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยความแปลกใจเล็กน้อย “รบกวนผู้อำนวยการเยี่ยซะแล้ว”

เขาประทับใจในตัวเยี่ยไป๋ไม่เลว แม้จะยังอายุน้อยแต่ก็ละเอียดรอบคอบ อ่อนน้อมถ่อมตน  ศิลปินที่อยู่ในสังกัดก็ติดดินดี

แน่นอนว่าเขาไม่นับข้อยกเว้นอย่างกงซวี่

“ไม่เป็นไรครับผู้กำกับซ่ง เรื่องเล็กเอง”

ซ่งจินหลินพยักหน้า เอ่ยปากถามว่า “มังกรผงาดภาคสองใกล้จะปิดกองแล้ว ละครเรื่องหน้าของลั่วเฉินคุณมีแพลนรึยัง?”

ตั้งแต่ลั่วเฉินเริ่มต้นการแสดงจนถึงวันนี้ก็เล่นละครมาแล้วสองเรื่องคือ มังกรผงาด 1 และมังกรผงาด 2 มังกรผงาดภาคหนึ่งทำให้เขาดังในชั่วข้ามคืน มังกรผงาดภาคสองทำให้เขาคืนวงการได้อย่างราบรื่น ละครเรื่องที่สามต่อจากนี้คือก้าวย่างสำคัญที่กำหนดว่าเขาจะตั้งตัวบนพื้นฐานนี้ได้หรือไม่ มีความสำคัญมาก ดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นต้องระมัดระวัง

ตอนนี้ฟังจากคำพูดซ่งจินหลิน ดูคล้ายจะสนใจลั่วเฉินอยู่บ้าง?

เยี่ยหวันหวั่นจึงตอบอย่างตรงไปตรงมา “ในมือมีอยู่หลายเรื่องครับ แต่ไม่ค่อยเหมาะเท่าไร ละครเรื่องหน้าของเขาจะดังไหม จะมีคนดูหรือไม่ ถือเป็นเรื่องรองลงไป คุณภาพกับคำวิจารณ์ก็ต้องออกมาดี ผมไม่อยากเขากลายเป็นคนที่ดีแต่หน้าตา แบบนั้นจะสิ้นเปลืองพรสวรรค์ของเขา”

ซ่งจินหลินได้ยินใบหน้าก็ฉายแววชมเชย “ลั่วเฉินโชคดีมากที่ได้เจอผู้จัดการอย่างคุณ ถ้าคนที่เจอเป็นคนอื่นนะ ไม่แน่ว่าพอละครเรื่องนี้ของเขาดังก็รีบกอบโกย รับเล่นหนังไม่เข้าท่าไปมั่วซั่ว ทำให้พรสวรรค์ของเขาสูญเปล่า นักแสดงแบบนี้ผมเห็นมาไม่น้อย!”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เป็นเพราะเขามุมานะ ทั้งยังมีความสามารถ ผมก็เลยกล้าทุ่มสุดตัว ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นผมคงไม่กล้า ถึงยังไงก็ต้องทำมาหากินน่ะครับ”

ฟังถึงตรงนี้ ซ่งจินหลินกลับรู้สึกว่าชายหนุ่มตรงไปตรงมามาก ใบหน้าเผยรอยยิ้ม “เอาแบบนี้ ละครเรื่องหน้าของลั่วเฉินให้คุณชะลอไว้ก่อน รอข่าวจากทางผม ละครเรื่องใหม่ที่ผมกำลังเตรียม ตัวละครนำชายเหมาะกับเขาพอดี…”

ซ่งจินหลินกล้าพูดแบบนี้ อย่างนั้นโอกาสที่ลั่วเฉินจะได้เล่นละครเรื่องนี้ก็มีอย่างน้อยเจ็ดส่วนขึ้นไปแล้ว

เยี่ยหวันหวั่นตาเป็นประกาย รีบพูดขอบคุณ “ผมขอขอบคุณผู้กำกับซ่งแทนลั่วเฉินด้วย จะรอข่าวจากทางคุณแน่นอนครับ!”

หัวหน้ากลุ่มนักแสดงมีประสิทธิภาพในการจ่ายเงินสูงมาก ทางนี้เพิ่งแสดงเสร็จ กลุ่มตัวประหลาดสามคนก็ได้จับเงินแล้ว คนทั้งสามได้ไปคนละหนึ่งร้อยหยวน ส่วนนักพรตกับหนุ่มตุ้งติ้งทำงานหนัก ทำผลงานได้ดีเป็นพิเศษ หัวหน้าจึงให้ซองแดงที่มีหนึ่งร้อยหยวนให้อีกอย่างใจกว้าง

ทั้งสามคนคว้างานที่เพิ่งมาถึงมือไว้ สีหน้ากระตือรือร้น

“ได้…ได้เงินแล้ว ในที่สุดก็ได้เปิดธุรกิจแล้ว”

“หรือต่อจากนี้จะเปลี่ยนมาเป็นนักแสดงดี?”

เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นเดินมา นักพรตใจบริสุทธิ์ก็ร้องเรียกให้หยุด ท่าทีในตอนนี้เปลี่ยนไปแบบหนึ่งร้อยแปดสิบองศา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความพลุ่งพล่านใจ “นี่ เถ้าแก่ มีเรื่องอย่างปรึกษาด้วยน่ะ!”

“อะไรเหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นหยุดฝีเท้า มองไปยังคนทั้งสาม

———————————————

บทที่ 708 ผู้ลงทุนรายใหญ่

“แหะๆ คือว่าอย่างนี้ ในฐานะผู้ลงทุนรายใหญ่สุดในตอนนี้ของพวกเรา ฉันว่าเถ้าแก่พึ่งพาได้มาก ต่อจากนี้ถ้ายังมีงานแบบนี้อีกก็ติดต่อเราได้ตลอดเวลาเลย! ถึงไหนถึงกัน!”

เยี่ยหวันหวั่นเหนื่อยใจ

เธอเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ของพวกเขาเลยเหรอเนี่ย คนกลุ่มนี้น่าสงสารขนาดไหนกัน?

เมื่อครู่ในสายตาของทุกคน สองคนนี้กำลังแสดงจริงๆ แต่เยี่ยหวันหวั่นเข้าใจดีว่าพวกเขาสู้กันจริง อีกทั้งเธอยังไม่เคยเห็นกระบวนท่าและการเคลื่อนไหวมาก่อน

ตามเหตุผลแล้ว ถ้ามีฝีมือแบบนี้ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่มีทางอดตาย แต่พอได้ยินคำพูดของพวกเขา ดูเหมือนว่ามีกฎประหลาดที่ใช้วรยุทธ์หาเงินไม่ได้อยู่

คนพวกนี้มองแวบแรกเหมือนคนเกียจคร้าน ไม่เอางานเอาการ บวกกับแต่ละคนยังประหลาด มีความคิดพิสดาร ปกติแล้วเถ้าแก่คนไหนจะมาใช้งานพวกเขา มิน่าถึงได้แต่ขอทาน ทำนายทายทัก ตั้งแผงเป็นจับกัง

แม้คนพวกนี้จะทำอะไรไม่เหมือนคนอื่น มีประวัติความเป็นมาไม่แน่ชัด แต่ถึงอย่างไรก็ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ ก็แค่ครั้งก่อนเธอเห็นนักพรตคนนี้จัดการพวกหยวนเซิงแล้วรู้สึกถูกชะตา วันนี้ถึงชักชวนไปตามปาก

“แค่ก ถ้ามีโอกาสน่ะนะ จริงสิ พวกคุณรอแป๊บหนึ่งได้ไหม อีกเดี๋ยวจะมีเลี้ยงข้าวฟรี วันนี้เป็นวันปิดกอง อาหารน่าจะโอเคเลย” เยี่ยหวันหวั่นพูดจบก็ไม่ได้อยู่ต่อ

เธอไม่รู้เลยว่าสายตาที่คนทั้งสามมองเธอกำลังเป็นประกาย เหมือนกำลังมองภูเขาทองลูกหนึ่ง

กลางดึก แผงขายของ

เนี่ยอู๋หมิงเหยียบเท้าข้างหนึ่งบนม้านั่งตัวยาว สีหน้าเคร่งเครียดจนน่ากลัว “วันนี้เป็นวันสุดท้ายของเดือนแล้ว”

คนร่างใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าควักเงินที่ได้จากการขนอิฐออกมา ทั้งหมดห้าสิบหยวน เมื่อรวมกันแล้วเป็นหนึ่งร้อยกว่าหยวนโดยประมาณ

อี้จือฮวาใช้สะโพกเบียดนักพรตใจบริสุทธิ์ออกไปแล้วแย่งความดีความชอบ “หัวหน้าๆ วันนี้ผมหาเงินได้สองร้อยหยวนเลยนะ! ในที่สุดพวกเราก็เลี้ยงหัวหน้าได้แล้ว!”

อี้จือฮวาเพิ่งเข้าใกล้ เนี่ยอู๋หมิงก็พลันขนลุกขนพอง กวาดมองรอบๆ อย่างระมัดระวัง “ไม่อยากตายก็อยู่ให้ห่างจากฉันซะ!”

เขาเป็นชายแท้!

เมื่อเห็นหัวหน้าทำสีหน้าบอกว่าถ้ายังสร้างความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็นอีก ก็จะฆ่าเขาเซ่นสรวงฟ้าเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ อี้จือฮวาเหมือนได้รับความกระทบกระเทือนครั้งใหญ่ ร้องไห้สะอึกสะอื้น “หัวหน้า คุณไปมีใหม่ใช่ไหม ฮือๆๆ…”

นักพรตใจบริสุทธิ์เบียดเข้ามาประจบ “เจ้ากะเทยนี่ เขยิบไป! หัวหน้าๆ นี่สองร้อยหยวนของผมเอง!

สุดท้าย แม้แต่หนุ่มภูเขาน้ำแข็งก็ควักเงินออกมาหนึ่งร้อยหยวนเงียบๆ

นอกจากเสี่ยวเถียนเถียนแล้ว สามคนนี้หาเงินมาได้เหรอเนี่ย? เนี่ยอู๋หมิงทำท่าทางสงสัย

“เอาเงินมาจากไหน! ไปขโมยมาอีกแล้วใช่ไหม! ค่านิยมหลักของกลุ่มเราพวกนายลืมไปอีกแล้วสินะ!” เนี่ยอู๋หมิงตวาดเสียงดุ

หนุ่มหน้าสวยรีบอธิบาย “หัวหน้า เงินนี้ไม่ขัดกับกฎแน่! นี่เป็นเงินที่เราหาได้จากการเป็นนักแสงตัวประกอบในกองละคร”

ด้วยสติปัญญาของคนพวกนี้ คิดไปเป็นนักแสงตัวประกอบเหรอ? สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือกองละครไหนจะรับพวกเขา?

“หัวหน้า น้องสาวชื่อเยี่ยโหย่วหมิงคนที่ช่วยพวกเราจ่ายหนี้นั่นเป็นคนช่วยแนะนำ! โอ๊ย ช่างมีวาสนาต่อกันจริงๆ!”

ไม่นานมานี้หัวหน้าถูกจอมมารน้อยของเขาทรมานจนตัวเองพร้อมระเบิดทุกเวลา ใครจะกล้าไม่ทำตามข้อห้ามของเขาล่ะ!

“เยี่ยโหย่วหมิง…” คราวนี้เนี่ยอู๋หมิงค่อยเชื่อคำพูดพวกเขา

เนี่ยอู๋หมิงมองปฏิทินแวบหนึ่ง เส้นตายของจอมมารน้อยใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว จิตใจว้าวุ่นไปหมด “มีข่าวคนหรือยัง?”

พอทุกคนได้ยินคำพูดนี้ ก็พลันมองหน้ากันเอง หดตัวกลายเป็นนกกระทา

……………………………………………….