บทที่ 709 ถูกทรมานอีกแล้ว / บทที่ 710 มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 709 ถูกทรมานอีกแล้ว

หนุ่มหน้าสวยโอดครวญด้วยความน้อยใจ “คุณหนูใหญ่เหมือนกับอยู่ๆ ก็หายไปจากโลกนี้ ร่องรอยอะไรก็ไม่มี ตอนนี้เบาะแสอย่างเดียวคือรูปถ่ายใบหนึ่ง แถมเป็นเมื่อสี่ปีก่อน ตอนนี้ไม่รู้ว่าหน้าตาเธอเป็นยังไง เป็นหญิงหรือชาย ไม่แน่อาจแปลงเพศไปแล้วก็ได้…คนมีเป็นล้าน จะไปตามหาจากที่ไหน?”

เวลานี้ โทรศัพท์สีดำตรงเอวของเนี่ยอู๋หมิงพลันดังขึ้นมา ราวกับเสียงมารสะท้านหู

ทุกคนพลันเกร็งตัว ถอยจากม้านั่งยาวก้าวหนึ่งอย่างพร้อมเพรียง พยายามทำตัวให้ไม่มีตัวตน

เนี่ยอู๋หมิงขมวดคิ้ว แม้ว่าจะอารมณ์ไม่ดีสุดๆ แต่ก็ไม่กล้าอิดออด รับโทรศัพท์ทันที “ฮัลโหล…”

“เจอแม่ผมยัง?” เสียงเด็กที่คุ้นเคยดังมาดังมาจากปลายสาย ไร้เดียงสาแต่ก็เย็นเยียบจนน่ากลัวเป็นพิเศษ

เนี่ยอู๋หมิงสูดหายใจลึก “ฉันว่า…ทุกครั้งที่แกโทรศัพท์หาฉัน ให้เปลี่ยนประโยคทักทายหน่อยจะได้ไหม?”

“เจอพ่อผมรึยัง?”

เอาเหอะ คิดซะว่าฉันไม่ได้พูดแล้วกัน

“คุณลุง คุณลุงยังเหลือเวลาอีกครึ่งเดือนนะ ถ้าถึงเวลาแล้วยังไม่มีข่าวพวกเขา ผมมีแต่ต้องไปประเทศ Z ด้วยตัวเองแล้ว”

เนี่ยหู่หมิงได้ยินประโยคนี้ หนังศีรษะชาขึ้นมาทันที “เฮ้ย! แกอย่ามาวุ่นวายนะ ถ้ามาแล้วเกิดเรื่องจะทำยังไง!”

ถ้าหลานสุดที่รักคนนี้เกิดเรื่องขึ้น พ่อกับแม่เอาเขาตายแน่!

ยิ่งไปกว่านั้นจอมมารน้อยตนนี้ ขนาดอยู่ไกลเป็นพันลี้ก็ยังทรมานเขาจนไม่อยากอยู่ต่อได้ ถ้ามาที่ประเทศ Z เขาจะทำยังไง!

“งั้นได้แต่ต้องโทษที่ผมมีลุงไม่ได้เรื่องแบบนี้”

เนี่ยอู๋หมิงหัวเสีย แกจะทำร้ายกันแบบนี้เหรอ?

เนี่ยอู๋หมิงกัดฟัน กล่าวอย่างน่าขนลุก “แกรู้ไหม แกทำตัวไม่น่ารักแบบนี้ จากนี้ต่อให้หาพ่อกับแม่แกเจอ พวกเขาก็ไม่ต้องการแกหรอก!”

“ลุงห่วงตัวเองดีกว่า ก่อนหน้านั้นแดดดี้กับหม่ามี้ของลุงจะไม่ต้องการลุงก่อน”

เนี่ยอู๋หมิงสบถ “เชี่ย…”

สี่คนที่อยู่รอบโต๊ะแค่มองเห็นสีหน้าของเนี่ยอู๋หมิงก็รู้แล้ว…

เฮ้อ หัวหน้าโดนเล่นอีกแล้ว!

ทั้งๆ ที่รู้ว่าทุกครั้งต้องถูกเล่นงาน แค่ยอมหยุดดิ้นรนก็ได้แล้ว ทำไมถึง…

เนี่ยอู๋หมิงวางโทรศัพท์ลง กวาดมองสี่คนที่อยู่รอบๆ โต๊ะด้วยสายตาอ่อนแรง “ครึ่งเดือนหลังจากนี้ ถ้ายังไม่เจออีก จอมมารน้อยจะมาประเทศ Z ด้วยตัวเอง”

“เชี่ย” คนทั้งสี่ที่กำลังสมน้ำหน้าคนอื่น สีหน้าแปรเปลี่ยนไปพร้อมกัน

ในช่วงนี้ชีวิตของเยี่ยหวันหวั่นเป็นไปอย่างไร้อุปสรรค

ที่โรงเรียนก็ทำคะแนนได้ดีเลิศอย่างราบรื่น ผลงานของกวงเย่ามีเดียก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยการจัดการของเยี่ยหวันหวั่น หลังจากคดีกลั่นแกล้งในครั้งก่อน คำวิจารณ์กงซวี่ก็พลิกกลับ สร้างภาพลักษณ์ปากไวใจกล้า หยิ่งยโสสง่างามสำเร็จ ส่วนกระแสตอบรับของเรื่องมังกรผงาด 2 ก็พุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง ฮิตถล่มทลาย ถึงแม้ว่าจะเป็นพระรอง ก็เหนือกว่าหลิงเส่าเจ๋อที่เป็นพระเอกได้ โฆษณา แบรนด์แอมบาสเดอร์ นิตยสาร และวาไรตี้โชว์ประดังประเดเข้ามาเหมือนสะเก็ดหิมะ

นี่เป็นไปตามแผนและความคาดหมายของเยี่ยหวันหวั่น สิ่งที่ทำให้เธอปลื้มใจที่สุดคือเยี่ยมู่ฝาน ตอนแรกยังเป็นห่วงว่าเขาจะลุกขึ้นสู้ไม่ไหวหรือล้มเลิกกลางคันอีก ยังดีที่ครั้งนี้เขาฮึดสู้ในที่สุด และพาฝ่ายสไตลิสต์เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ ‘ออกมาจากสายการผลิต’ ของศิลปินกวงเย่าที่ทุกคนเคยชินโดยสมบูรณ์

หลังจากหนังเรื่อง Prosperous Dynasty ออกฉายแล้ว ก็ได้รับคำวิจารณ์แง่บวกมากมาย การดีไซน์เสื้อผ้าก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวในโลกแฟชั่นไม่น้อย

อาศัยแค่ละครเรื่องนี้ เยี่ยมู่ฝานก็ได้รางวัลทั้งเล็กทั้งใหญ่สิบกว่าอย่าง เช่นรางวัลนักออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมของงานประกาศรางวัลไป๋ฮวาในครั้งนี้ กลายเป็นม้ามืดของโลกแฟชั่น ได้รับคำชื่นชมจากมู่เหวินชิงประธานสมาคมแฟชั่น ถึงกับได้ตำแหน่งรองประธาน และประสบความสำเร็จในวงการ

——————————————————–

บทที่ 710 มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ

กวงเย่ามีเดีย ห้องทำงานของเยี่ยมู่ฝาน

“รายละเอียดความร่วมมือที่เกี่ยวข้องได้รับการตรวจสอบเรียบร้อย คุณเสิ่นยังมีอะไรอยากถามอีกไหมครับ?” เยี่ยมู่ฝานคีบบุหรี่มวนหนึ่งไว้ในมือ กวาดมองหญิงสาวที่อยู่บนโซฟาพลางเอ่ยถาม

หญิงสาวใส่ชุดเดรสสีดำ ใบหน้างดงาม ทรวดทรงร้อนแรง ได้ยินดังนั้นก็ค่อยๆ ลุกขึ้น เดินเข้ามาหาเยี่ยมู่ฝานทีละก้าว

หญิงสาวหยุดยืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงานของเยี่ยมู่ฝาน จากนั้นโน้มกายลง กล่าวเสียงหวานว่า “ผู้จัดการเฟลิกซ์…”

เยี่ยมู่ฝานปัดควันบุหรี่ มองอีกฝ่ายอย่างไม่สะทกสะท้าน

หญิงสาวจงใจบิดเอว ชุดชั้นในลูกไม้สีดำบริเวณทรงอกโผล่ให้เห็นวับแวม

“ยังมีเรื่องอะไรอีกเหรอครับ?” เยี่ยมู่ฝานถามโดยแสร้งทำเป็นไม่รู้

ในอดีตถึงอย่างไรเขาก็เป็นคุณชายจอมเจ้าชู้ที่เคยอยู่ในสนามรัก การยั่วยวนลักษณะนี้เขาเห็นมาบ่อยมากแล้ว ทำไมจะไม่รู้ว่าเธอคิดทำอะไร

เป็นอย่างที่คาดไว้ เห็นเสิ่นม่านจูหยิบกระดาษฉีดน้ำหอมใบหนึ่งออกมา ส่งไปด้านหน้าเขา “นี่เบอร์โทรศัพท์ของฉันค่ะ…”

เยี่ยมู่ฝานกวาดมองผู้หญิงคนนั้นแวบหนึ่ง ไม่เคลื่อนไหวใดๆ

ตอนนี้เขากลับตัวกลับใจแล้ว งานคือชีวิตของเขา ไม่มีทางหวั่นไหวเพราะผู้หญิงเด็ดขาด

เยี่ยมู่ฝานจึงปฏิเสธด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณหนูเสิ่น ขอโทษด้วย ผมไม่ใช่คนอย่างที่คุณคิด ตอนนี้ให้ความสำคัญกับงาน…”

คำปฏิเสธของเยี่ยมู่ฝานเพิ่งออกจากปาก ก็ได้ยินหญิงสาวพูดด้วยใบหน้าวิงวอน “รบกวนคุณช่วยฉันมอบให้ผอ.เยี่ยได้ไหมคะ ขอบคุณค่ะ!”

เยี่ยมู่ฝานตกตะลึง ทำหน้าเหมือนกินอุจจาระเข้าไป “แค่กๆๆ…หา เมื่อ…เมื่อกี้คุณบอกว่าให้ใครนะ?”

คนในวงการต่างเรียกชื่อภาษาอังกฤษของเขา ไม่ได้เรียกเขาว่าผู้อำนวยการเยี่ย คนที่ถูกเรียกว่าผู้อำนวยการเยี่ย มีอยู่คนเดียว…

นั่นมันน้องสาวของเขานะ…

หญิงสาวกุมแก้มด้วยใบหน้าเขินอาย “เยี่ยไป๋ ผู้อำนวยการเยี่ย! คุณสนิทกับเขาไม่ใช่เหรอคะ ช่วยฉันสานสัมพันธ์หน่อยนะ! ฉันอายจริงๆ!”

เยี่ยมู่ฝานอึ้งงัน

พระเจ้าช่วยกล้วยทอด…

มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ?

“ขอร้องล่ะค่ะ ของร้อง! ช่วยฉันส่งให้หน่อยนะ! ถ้าสำเร็จฉันจะเลี้ยงข้าวคุณเลย” นักแสดงสาวยัดเบอร์โทรศัพท์ใส่คอเสื้อเยี่ยมู่ฝาน ส่งจูบให้เขา จากนั้นก็จากไป

เยี่ยมู่ฝานมองนามบัตรที่เขียนเบอร์โทรศัพท์ไว้ใบนั้น รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวในใจ

แม่งเอ๊ย เมื่อก่อนมีแต่เยี่ยหวันหวั่นส่งต่อจดหมายรักให้เขา คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีวันที่กลับตาลปัตร…

เยี่ยมู่ฝานใช้เวลาอยู่นานถึงค่อยสะกดความเจ็บปวดได้ เก็บเบอร์โทรศัพท์ด้วยความเศร้า แล้วไปหาน้องสาวของตัวเอง

‘ก๊อกๆๆ’ แม้แต่เสียงเคาะประตูยังเศร้าตาม

“เชิญครับ!” เยี่ยหวันหวั่นคว่ำข้อมูลของซือกรุ๊ปที่กำลังอ่านอยู่

เยี่ยมู่ฝานผลักประตูเข้าไป โยนบัตรกระดาษลงบนโต๊ะของเยี่ยหวันหวั่น “เอ้า เอามาให้!”

กลิ่นหอมบนบัตรกระดาษแรงเกินไป เยี่ยหวันหวั่นสำลักจนไอออกมา “อะไรเนี่ย”

เยี่ยมู่ฝานโอดครวญอย่างริษยา “เบอร์โทรศัพท์ของผู้หญิงคนหนึ่ง หล่อนอยากจะจีบเธอ ให้ฉันช่วยสานสัมพันธ์ให้”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็ก้มหน้าหัวเราะคิกคัก วางบัตรกระดาษไว้ด้านข้าง แบมือพูดว่า “ทั้งๆ ที่พี่รู้ว่าฉันอยากทำแต่ทำไม่ได้ ก็ช่วยปฏิเสธให้หน่อยสิ!”

เห็นเยี่ยหวันหวั่นโค้งริมฝีปากเป็นรอยยิ้มบางด้วยสีหน้าเกียจคร้าน เยี่ยมู่ฝานก็เหม่อลอย

จากนั้นรู้สึกตัวอย่างทุกข์ระทมว่า เวร! น้องสาวของเขาหล่อจริงๆ…

ท่าทางจริงจังเวลาทำงานทำให้คนรู้สึกปลอดภัยมาก ท่าทางสูงส่งเกียจคร้านก็น่าดึงดูดเป็นพิเศษเช่นกัน…

เดี๋ยวก่อน ประเด็นไม่ใช่ตรงนี้ ประเด็นคือ… ‘อยากทำ’ แต่ทำไม่ได้ น้องสาวของเขาอยากจะทำอะไร…

…………………………………………