ตอนที่ 302-2 เมืองเปี้ยนแตก

ชายาเคียงหทัย

​ข้าง​กาย​ของ​เขา​ จั​๋​วจิ​้ง​ยิ้ม​พลาง​พูด​ ​“​ท่าน​อ๋อง​กับ​พระ​ชายา​ไว้ใจ​พวกเขา​มาก​ไม่ใช่​หรือ​ขอรับ​”

​ม่อ​ซิว​เหยา​พยักหน้า​ ​เงยหน้า​มอง​ไป​บน​กำแพงเมือง​ที่​ไกล​ออก​ไป​ ​และ​พูดเสี​ยง​ขรึม​ ​“​เตรียมพร้อม​ ​บุก​เมือง​!​”

​“​ขอรับ​!​”

​เมื่อ​เสียง​ที่​แหบ​ต่ำ​ดัง​ขึ้น​กลางอากาศ​ท่ามกลาง​ท้องฟ้า​ที่​ปลอดโปร่ง​ไร้​เมฆ​ ​ไม่นาน​ก็​มีพ​ลุ​ที่​งดงาม​แตก​กระจาย​ขึ้น​บน​ท้องฟ้า​ตามมา​อย่างรวดเร็ว

​ใน​บรรดา​ทหาร​ซี​หลิง​ที่​เฝ้า​อยู่​ใน​เมือง​ก็​ต้อง​ตกใจ​เมื่อ​พบ​ว่า​ ​หลาย​ทิศทาง​ด้านนอก​เมือง​ไม่รู้​ปรากฏ​เส้น​เชือก​ขึ้น​กลางอากาศ​ตั้งแต่​เมื่อไร​ ​จากนั้น​ ​มี​เงา​สีดำ​ไถล​ตัว​ตาม​เส้น​เชือก​นั้น​ตรง​มาที​่​เมือง​อย่างรวดเร็ว​ ​หลง​หยาง​เอง​ก็​สังเกตเห็น​สถานการณ์​นี้​เช่นกัน​ ​ตาเขา​หรี่​ลง​เล็กน้อย​พร้อม​พูดเสี​ยง​เข้ม​ ​“​ยิง​ออก​ไป​!​”​ ​ฝน​ธนู​จำนวน​มหาศาล​พุ่ง​ไป​ยัง​กลุ่มคน​ที่​ไถล​ตัว​ตาม​เชือก​เข้ามา​ ​แต่​ที่​รวดเร็ว​ไป​กว่านั​้​นคือ​ ​ภายใน​เมือง​ก็​ปรากฏ​คนใน​ชุด​ดำกลุ​่​มห​นึ่ง​ขึ้น​เช่นกัน​ ​และ​กำลัง​ใช้​คันธนู​ใน​มือ​ยิง​ธนู​ใส่​ทหาร​บน​กำแพงเมือง​อย่างไร​้​ความปราณี

​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​?​!​ทำไม​มี​คน​พวก​นี้​มาป​รากฏ​ตัว​ได้​”​ ​เงา​ร่าง​ของ​คนใน​ชุด​ดำ​ที่​เป็น​ชุด​ออกรบ​ของกอง​ทัพ​ตระกูล​ม่อ​ค่อยๆ​ ​ปรากฏ​ขึ้น​มากมาย​ภายใน​เมือง​ ​คน​เหล่านี้​ไม่​เหมือนกับ​ทหาร​ตระกูล​ม่อ​ธรรมดา​ทั่วไป​ ​หากแต่​เมื่อ​เทียบ​กับ​ทหาร​ตระกูล​ม่อ​แล้ว​ ​พวกเขา​เก่งกาจ​และ​แข็งแกร่ง​กว่า​มาก​เห็นได้ชัด​ ​ทหาร​กลุ่ม​ละ​กว่า​สิบ​คน​หลาย​กลุ่ม​ ​ทุกที่​ที่​พวกเขา​ไป​ล้วน​ทำให้​ทหาร​ซี​หลิง​บาดเจ็บ​ล้มตาย​ ​ในขณะเดียวกัน​พวกเขา​ยัง​ต้อง​คอย​ระวัง​กงอ​ทัพ​ตระกูล​ม่อ​ที่​กำลัง​โจมตี​เต็มกำลัง​อยู่​ที่​นอกเมือง​เปี้ยน​อีก​ ​พอ​ห่วงหน้าพะวงหลัง​แบบนี้​ก็​ทำให้​ทหาร​รักษาการ​ของ​ซี​หลิง​เกิด​สับสนวุ่นวาย​กัน​ขึ้น​มาทัน​ที

​บน​กำแพงเมือง​ ​หลง​หยาง​กับ​เหลย​เถิง​เฟิ​งมี​สีหน้า​คร่ำ​เครียด​ ​“​ท่าน​แม่ทัพ​อาวุโส​…​”

​หลง​หยาง​กัดฟัน​พูด​ ​“​จับ​คน​ของ​ต้า​ฉู่​และ​ซี​เป่ย​ที่อยู่​ใน​เมือง​ทั้งหมด​ขึ้น​มาบ​นกำ​แพง​เมือง​!​”

​“​ท่าน​แม่ทัพ​อาวุโส​!​”​ ​เหลย​เถิง​เฟิง​ได้ยิน​ดังนั้น​ ​สีหน้า​ก็​เปลี่ยนไป​โดยพลัน​ ​เขา​ย่อม​รู้​ว่า​หลง​หยาง​คิด​จะ​ทำ​อะไร​ ​จริงๆ​ ​แล้ว​ ​การ​ที่​ทั้งสอง​เมือง​ทำศึก​สงคราม​กัน​ ​การกระทำ​เช่นนี้​เกิดขึ้น​บ่อยครั้ง​ ​แต่​ที่​เหลย​เถิง​เฟิง​สงสัย​มากกว่า​ก็​คือ​ ​การ​ทำ​เช่นนี้​จะ​ได้ผล​ลัพธ์​มาก​น้อย​แค่ไหน​ ​เหลย​เถิง​เฟิ​งกัด​ฟัน​นิ่ง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​แล้ว​หันหลัง​เดิน​ออก​ไป​ ​แม้ว่า​ภายใน​เมือง​จะ​ปรากฏ​ทหาร​ตระกูล​ม่อ​จำนวน​ไม่น้อย​ที่​ไม่รู้​มาจาก​ที่ไหน​ ​แต่​อย่างไรก็ดี​ภายใน​เมือง​เปี้ยน​ยัง​มีท​หาร​รักษาการณ์​ซี​หลิง​อยู่​อีก​หลาย​แสนนาย​ ​จึง​ยาก​นัก​ที่​ทหาร​ตระกูล​ม่อ​จำนวน​น้อย​นิด​เหล่านี้​จะ​สร้าง​ผลกระทบ​อะไร​ต่อ​สถานการณ์​โดยรวม​ ​ไม่​ถึง​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ​ทหาร​ซี​หลิง​ก็​จับ​คน​จาก​ต้า​ฉู่​ทั้งหมด​ใน​เมือง​เปี้ยน​ขึ้น​มาบ​นกำ​แพง​เมือง

​เมือง​เปี้ยน​เป็น​เมือง​ใหญ่​อันดับ​สอง​ของ​ซี​หลิง​ ​ระดับ​ความรุ่งเรือง​ไม่​ยิ่งหย่อน​ไป​กว่า​เมืองหลวง​ของ​ซี​หลิง​เลย​ ​จึง​มี​คน​จาก​หลาย​แคว้น​อาศัย​อยู่​ที่นี่​ไม่น้อย​ ​ใน​บรรดา​คน​จาก​ต่าง​แคว้น​ ​มี​คน​ของ​ต้า​ฉู่​อาศัย​อยู่​มาก​ที่สุด​ ​และ​หนึ่ง​ใน​นั้น​ก็​ยัง​มี​ประชาชน​จาก​ซี​เป่ย​ที่อยู่​ภายใต้​การ​ดูแล​ของกอง​ทัพ​ตระกูล​ม่อ​อยู่​ด้วย​ ​คน​เหล่านี้​ถูกจับ​ขึ้น​มาบ​นกำ​แพง​เมือง​ ​และ​ถูก​ใช้​เป็น​โล่​ป้องกัน​ที่​ริม​กำแพงเมือง​เปี้ยน​ ​หาก​ทหาร​ตระกูล​ม่อ​ทาง​ด้านล่าง​อยาก​จะ​ขึ้น​มาก​็​จำต้อง​ข้าม​พวกเขา​ให้​ได้​ก่อน​ ​อยาก​จะ​ยิง​ธนู​ก็​จำเป็นต้อง​ยิง​ฆ่า​พวกเขา​ก่อน​ ​คน​ส่วนใหญ่​นี้​ล้วน​เป็น​ชาวบ้าน​คนธรรมดา​ ​การ​ต้อง​เผชิญ​กับ​สงคราม​โดย​ไม่ทัน​ตั้งตัว​ก็​เพียงพอ​ที่จะ​ทำให้​พวกเขา​อกสั่นขวัญแขวน​กัน​แล้ว​ ​ตอนนี้​ยัง​จะ​ถูกจับ​ขึ้น​มาบ​นกำ​แพง​เมือง​เพื่อ​ใช้​เป็น​โล่​กัน​ธนู​ของกอง​ทัพ​ตระกูล​ม่อ​อีก​ ​คน​มากมาย​ต่าง​ร่ำไห้​ ​ร้อง​โหยหวน​เสียงดัง​ด้วย​ความตกใจ

​“​หลง​หยาง​!​ ​ไอ้​แก่​หน้าไม่อาย​!​”​ ​เมื่อ​เห็น​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​อวิ​๋น​ถิ​งก​็​อด​ไม่ได้​ ​หลุดปาก​ด่าทอ​อย่าง​หยาบคาย​ออกมา​ในที่สุด​ ​เฉิน​อวิ​๋น​และ​คนอื่นๆ​ ​ก็​หน้านิ่วคิ้วขมวด​ ​อย่า​ว่าแต่​ประชาชน​พวก​นี้​จะ​เป็น​คน​ต้า​ฉู่​กับ​ซี​เป่ย​เลย​ ​ต่อให้​เป็น​ประชาชน​ของ​ซี​หลิง​ ​แต่​แค่​การ​เอา​ประชาชน​มา​เป็น​โล่​กำบัง​ธนู​ก็​ถือเป็น​เรื่อง​ที่​น่าอับอาย​และ​เสียเกียรติ​ของ​แม่ทัพ​มาก​แล้ว

​“​ตอนนี้​จะ​ทำ​อย่างไร​ดีล​่ะ​”

​“​ข้า​จะ​ไปรู​้​ได้​อย่างไรเล่า​ ​ไปรา​ยงาน​ท่าน​อ๋อง​!​”​ ​เฉิน​อวิ​๋​นพูด​ ​อย่างไร​พวกเขา​ก็​ยัง​ไม่ใช่​คน​ใจแข็ง​ ​การ​ที่​แม่ทัพ​สอง​คน​สู้รบ​กัน​อย่างเอาเป็นเอาตาย​บน​สนามรบ​ถือเป็น​ความสามารถ​ของ​พวกเขา​ ​แต่​หาก​จะ​ต้อง​ยิง​ประชาชน​ธรรมดา​ที่​ไม่มีทาง​สู้​เหล่านี้​ให้​ตาย​แล้ว​ ​พวกเขา​ก็​ยัง​ลำบากใจ​ที่จะ​ต้อง​ตัดสินใจ​ทำ​เช่นนั้น​อยู่

​อันที่จริง​ไม่ต้อง​ให้​พวกเขา​รายงาน​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ที่อยู่​ด้านหลัง​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​ตลอด​ ​ก็​ย่อม​เห็น​สถานการณ์​ที่เกิด​ขึ้น​ จั​๋​วจิ​้ง​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​เขา​ขมวดคิ้ว​ ​ก่อน​จะ​พูด​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​เช่นนี้​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​พวกเขา​ไม่ได้​คิด​เลย​ว่า​หลง​หยาง​จะ​มา​ไม้​นี้​ ​แต่ว่า​สมัย​ที่​หลง​หยาง​ยัง​หนุ่ม​ ​ก็ได้​ชื่อว่า​เป็น​เทพ​สังหาร​แห่ง​ดินแดน​ตะวันตก​ ​ใน​ตอนนั้น​ ​ดินแดน​ตะวันตก​ก็​มี​การสังหาร​ประชาชน​คนธรรมดา​ไม่น้อย​ ​การกระทำ​เช่นนี้​ถึงแม้​จะ​อยู่​นอกเหนือ​ความคาดหมาย​แต่​ก็​ถือ​พอ​เข้าใจ​ได้

​ม่อ​ซิว​เหยา​ลุกขึ้น​ยืน​ ​จ้อง​ไป​บน​กำแพงเมือง​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​อย่างสงบ​ ​และ​พูด​ ​“​เขา​อยาก​จะ​ยื้อ​พวกเรา​ไว้​ก่อน​ ​เพื่อ​กำจัด​หน่วย​กิเลน​ที่อยู่​ใน​เมือง​”​ ​เมือง​เปี้ยน​จัดการ​ระบบ​การป้องกัน​ไว้​อย่างดี​ ​พวกเขา​เสียเวลา​ไปมาก​ขนาด​นี้​ ​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​ที่สามา​รถ​เข้า​เมือง​เปี้ยน​ได้​มี​จำนวน​ไม่​ถึง​หนึ่ง​พัน​นาย​ ​ถ้าหาก​เทียบ​กับ​ทหาร​รักษาการณ์​ซี​หลิง​หลาย​แสนนา​ยก​็​ไม่​นับว่า​มีชัย​ชนะ​อัน​ใด​ ​หลง​หยาง​ไม่​อยาก​รับศึก​จาก​สอง​ฝั่ง​ ​จึง​จำเป็นต้อง​กวาดล้าง​ทหาร​ฝ่าย​ศัตรู​ที่​เข้ามา​ใน​เมือง​พวก​นี้​เสียก่อน​ ​และ​หา​สาเหตุ​ให้​แน่ชัด​ว่า​พวกเขา​เข้ามา​ใน​เมือง​ได้​อย่างไร​ ​ซึ่ง​เรื่อง​นี้​จำเป็นต้อง​ใช้เวลา

​“​ไปดู​สักหน่อย​”

​เนื่องจาก​ประชาชน​บน​กำแพงเมือง​ ​ทำให้​สถานการณ์​การบุก​เมือง​ของกอง​ทัพ​ตระกูล​ม่อ​จำต้อง​หยุด​ลง​ชั่วคราว​ ​แต่​ทหาร​และ​ม้า​ของ​ทั้งสอง​ฝั่ง​ยังคง​ตื่นตัว​อยู่​ตลอดเวลา​ ​แล้ว​อยู่​ๆ​ ​กองทัพ​สีดำ​แห่ง​ตระกูล​ม่อ​ก็​แหวก​แถว​ออก​ ​ก่อน​ชายหนุ่ม​ผม​ขาว​ใน​ชุด​ขาว​จะ​ค่อยๆ​ ​ก้าวเดิน​ออกมา​ ​ ​ทาง​ด้านหลัง​ตามติด​มาด​้ว​ยอง​ครั​กษ​์​และ​แม่ทัพ​อีก​จำนวน​หนึ่ง​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เงยหน้า​มอง​ประชาชน​ที่​ถูก​ผลัก​ให้​กัน​อยู่​ริม​กำแพงเมือง​ ​แล้ว​พูดเสี​ยง​ขรึม​ ​“​แม่ทัพ​ผู้ยิ่งใหญ่​แห่ง​ซี​หลิง​ ​เป็นเกียรติ​ที่​ได้​พบ​”

​หลง​หยาง​ปรากฏตัว​อยู่​บน​กำแพงเมือง​ ​มองดู​ชายหนุ่ม​ผม​ขาว​ใน​ชุด​สีขาว​ด้านนอก​กำแพงเมือง​จาก​ไกลๆ​ ​พยักหน้า​พูด​ ​“​ติ้ง​อ๋อง​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ ​ติ้ง​อ๋อง​อย่างนั้น​หรือ​ ​ยินดี​ที่​ได้​พบ​”

​เมื่อ​ถ้อยคำ​นี้​ดัง​ออก​ไป​ ​เหล่า​ประชาชน​ที่​ร้อง​ครวญคราง​อยู่​บน​กำแพงเมือง​ก็​อึ้ง​ไป​ทันใด​ ​พากั​นม​อง​ดู​ชายหนุ่ม​ใน​ชุด​ขาว​ที่อยู่​ด้านล่าง​กำแพงเมือง​คน​นั้น​ ​บางคน​ตื่นเต้น​จน​ร้องขอ​ความช่วยเหลือ​เสียงดัง​ ​“​ติ้ง​อ๋อง​มา​แล้ว​!​ ​ติ้ง​ออกมา​แล้ว​…​ท่าน​อ๋อง​ช่วย​พวก​ข้า​ด้วย​…​”​ ​ครั้น​มี​คน​หนึ่ง​ร้อง​ขึ้น​ ​คนอื่นๆ​ ​มากมาย​ก็​ร่ำไห้​ร้องเรียก​ตามด​้วย​ทันที​ ​บน​กำแพงเมือง​จึง​เต็มไปด้วย​เสียงร้อง​ไห้​ขึ้น​โดยพลัน

​“​แม่ทัพ​ผู้ยิ่งใหญ่​ต้องการ​สิ่งใด​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ถาม​เรียบๆ​ ​เสียง​ของ​เขา​ไม่​ดัง​และ​ไม่มี​แม้กระทั่ง​ความโกรธ​ ​แต่กลับ​ดัง​ชัด​ไป​ทั่วทั้ง​สนามรบ​อย่าง​น่าประหลาด​ ​แม้​จะ​อยู่​ท่ามกลาง​เสียงร้อง​ไห้​ที่​ดังระงม​ก็ตาม​ ​หลง​หยาง​มอง​เขา​นิ่ง​ลึก​ ​แล้ว​พูด​ ​“​ข้ามี​สถานะ​เป็น​แม่ทัพ​ ​แต่​เลือก​ใช้​วิธีการ​เช่นนี้​ ​ทำให้​ข้า​รู้สึก​ผิด​อย่างมาก​ ​แต่ว่า​…​ท่าน​อ๋อง​โปรด​ออกคำสั่ง​ให้​ถอยทัพ​ออก​ไป​สามสิบ​ลี้​เถิด​”

​ม่อ​ซิว​เหยา​ถาม​ ​“​ถ้า​ข้า​ไม่​รับปาก​จะ​เป็น​เช่นไร​”

​หลง​หยาง​ยิ้มน้อย​ๆ​ ​แล้ว​ตวัด​มือ​ไป​ทาง​ศีรษะ​ผู้ชาย​คน​หนึ่ง​ที่อยู่​ใกล้​เขา​ที่สุด​ ​ทันใดนั้น​ศีรษะ​ของ​เขา​ก็​ขาด​ออก​ ​และ​ร่วง​ลง​จาก​บน​กำแพงเมือง​ ​เลือด​สดๆ​ ​พุ่ง​ออกมา​โดยพลัน​ ​ทำให้​ประชาชน​ด้าน​ข้าง​ตกใจ​ ​กรีดร้อง​เสียงหลง​กัน​ขึ้น​มา​อีกครั้ง

​ม่อ​ซิว​เหยา​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ในที่สุด​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​ ​แล้ว​พูด​เรียบๆ​ ​“​ถ้า​เมือง​เปี้ยน​แตก​แล้ว​ ​ข้า​จะ​บดขยี้​ศพ​ของ​เจ้า​ให้​แตก​เป็น​เสี่ยง​ๆ​”​ ​หลง​หยาง​ยิ้ม​อย่าง​ไม่สน​ใจ​ ​“​ถ้าหากว่า​เมือง​เปี้ยน​แตก​ ​ชีวิต​ของ​ข้า​ก็​ถือว่า​จบสิ้น​แล้ว​ ​ในเมื่อ​ต้องตาย​เหมือนกัน​ ​ตาย​อย่างไร​จะ​ต่าง​อะไร​กัน​ ​ว่า​อย่างไร​ ​คำตอบ​ของ​ท่าน​อ๋อง​เล่า​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เลิก​คิ้ว​ยิ้ม​ ​แล้ว​พูดเสี​ยง​เข้ม​ ​“​คำตอบ​ของ​ข้า​ก็​คือ​…​”

​“​สวบ​!​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​หันกลับ​ไป​ ​คว้า​คันธนู​มาจาก​ทหาร​ด้าน​ข้าง​ ​ขึ้น​ลูกธนู​ ​ง้าง​ ​แล้ว​ยิง​ออก​ไป​ ​ท่วงท่า​ทั้งหมด​แทบจะ​ทำ​เสร็จ​ภายใน​เวลา​เพียง​ชั่วพริบตา​ ​ทุกคน​ต่าง​มอง​ธนู​ที่​ลอย​ขึ้น​สู่​ฟ้า​อย่าง​อึ้ง​ตะลึง​ ​แสง​วาบ​สีเงิน​พุ่ง​แทง​เข้า​กลาง​อก​ของ​ชายหนุ่ม​คน​หนึ่ง​บน​กำแพงเมือง​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​โยน​ธนู​กลับ​ไป​ ​แล้ว​พูดเสี​ยง​ขรึม​ ​“​บุก​เมือง​!​”

​ทันทีที่​มีคำ​สั่ง​ออก​ไป​ ​เสียง​โห่ร้อง​ก็​ดัง​ขึ้น​อีกครั้ง​ ​คนที​่​ตาย​คน​แรก​ก็​คือ​ประชาชน​บริสุทธิ์​บน​กำแพงเมือง​ ​ท่ามกลาง​เสียง​ฆ่าฟัน​และ​เสียงร้อง​ไห้​ที่​ดัง​ปะปนกัน​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​หันหลัง​เดิน​กลับ​ไป​อย่าง​เฉยชา​ ​ทิ้ง​ไว้​เพียง​แผ่น​หลัง​แล​เสียง​ที่ต่ำ​ทุ้ม​เรียบ​เย็น​ราวกับ​ริมะ​ ​“​หลง​หยาง​ ​ข้า​จะ​ฝังศพ​เจ้า​ไป​พร้อมกับ​ประชาชน​ทั้งเมือง​!​”

​สงคราม​บุก​ตีเมือง​ดุเดือด​และ​ต่อเนื่อง​ ​ทั้งสอง​ฝั่ง​ต่าง​รู้ดี​ว่า​ ​ครั้งนี้​จะ​ไม่ใช่​การปะทะ​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ดังเช่น​หลาย​วันก่อน​อีกแล้ว​ ​จะ​ต้อง​มี​ฝ่าย​หนึ่ง​ที่​แพ้​และ​ล่าถอย​ไป​ ​และ​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​ได้รับ​ชนะ​ ​มิฉะนั้น​สงคราม​ครั้งนี้​ก็​จะ​ไม่​หยุด​ลง​อย่างแน่นอน​ ​ไม่แน่​อาจ​เป็น​เพราะ​มี​ประชาชน​ต้า​ฉู่​ที่​บริสุทธิ์​หลาย​ร้อย​คน​บน​กำแพงเมือง​เป็นตัว​กระตุ้น​ ​จึง​ทำให้​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​บุก​เข้า​เมือง​อย่าง​ห้าวหาญ​ขึ้นไป​อีก​ ​หลาย​ชั่ว​ยาม​ต่อมา​ ​การต้าน​ทาน​ของ​เมือง​เปี้ยน​ ​ก็​ค่อยๆ​ ​เข้าสู่​ความ​แพ้​พ่าย​ในที่สุด