บทที่ 112 เกิดปัญหาขึ้น
เรื่องที่บริษัทเซียวซื่อถูกตี้เหากรุ๊ปขึ้นบัญชีดำถูกแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว
รับรู้กันทั่วเมือง ในขณะที่ตระกูลเซียวกำลังจะจบเห่ ก็ได้มีข่าวลือว่านายหญิงใหญ่เซียวโกรธจนกระอักเลือดถูกหามส่งโรงพยาบาล
หลังจากที่พ่อตาของเย่เฉินเซียวฉางควนรับรู้ข่าวนี้เข้า ไร้การเคลื่อนไหวใดๆ
เขาพูดกับลูกเขยและลูกสาวว่า “นิสัยของคุณแม่ ที่ต้องควบคุมคนอื่นไม่ชั่วชีวิต การเสียเปรียบเป็นเรื่องช้านานเท่านั้น ไม่มีอะไรที่จะต้องเห็นใจ ให้ท่านคิดทบทวนที่โรงพยาบาลไปเถอะ บางทีท่านอาจจะคิดได้บ้างว่าชีวิตนี้เธอพลาดตรงไหน”
สำหรับเย่เฉิน พ่อตาของเขาเป็นคนสับสนไร้สติ ยากนักที่จะเห็นความจริงของเรื่องราว
ในขณะที่ทั้งครอบครัววางใจขึ้นมาบ้าง ภรรยาของเขาเซียวชูหรันกำลังหางานใหม่อย่างเงียบเชียบ
หัวค่ำ เมื่อเย่เฉินเพิ่งทำอาหารเสร็จ ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้น
เขาหันหลังกลับไป ก็ได้พบกับเซียวฉางควนที่เดินเข้าบ้านมาด้วยสีหน้ายินดี ฝีเท้าหนักแน่น
เย่เฉินอดถามไม่ได้ เมื่อเห็นทีท่าที่ดีใจของเซียวฉางควน เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “พ่อครัวท่านออกไปเจอเดินเล่น มีเรื่องดีๆ อะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอครับ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า วันนี้โชคดีเป็นบ้า” เซียวฉางควนสีหน้าเบิกบาน “หลังจากที่ฉันกินยาที่แกให้เข้าไป ไม่เพียงแต่หายเจ็บปวด แถมยังรู้สึกสดชื่นอีกต่างหาก เป็นยาที่วิเศษจริงๆ เลย”
“นี่ไง ออกไปเดินเล่น แกลองเดาสิว่าฉันได้เจอใครมา?”
“ใคร?” เย่เฉินชะงักไปเล็กน้อย หรือว่าพ่อตาของเขาถูกใครหลอกมา ถูกเชือดเป็นแกะอ้วนอีกแล้วเหรอ?
เขาพิจารณาเซียวฉางควน ก่อนถอนหายใจอย่างโล่งอก
ยังดี ที่สองมือของเซียวฉางควนนั้นว่างเปล่า ไม่ได้ถืออะไรมาด้วย
เซียวฉางควนยกน้ำชาขึ้นจิบ ก่อนเอ่ยอย่างเป็นนัย “ไอ้ลูกเขย แกยังจำคนที่ชอบหลอกลวงคนอื่นไปทั่วอย่างจางเอ้อเหมา ตอนที่เราไปถนนขายของเก่าไหมได้ไหม?”
“จำได้สิ ทำไมเหรอ?”
“ฮ่าฮ่า วันนี้ฉันเจอกับไอ้หมอนั่นด้วย!”
เย่เฉินตื่นตระหนก “พ่อครับ อย่าบอกนะว่าท่านซื้อของจากเขาอีกแล้ว?”
“เปล่า” เซียวฉางควนสะบัดแขน เอ่ยอย่างเบิกบาน “ไอ้จางเอ้อเหมา ตอนนี้เขารู้แล้วว่าฉันเป็นพ่อตาของแก เขาไม่กล้าหลอกฉันหรอก ไม่เพียงแต่ให้หยกโบราณกับฉันมา แถมยังช่วยฉันขายยานั่นอีกด้วย”
เย่เฉินหน้าบูด หยกที่จางเอ้อเหมาให้กับพ่อตาของเขา ก็คงจะเป็นของปลอมอีกเช่นเคย แต่การที่เขาช่วยพ่อตาขายยา น่าประหลาดเสียจริง
“ยาอะไร?”
“ก็ยาที่แกให้ฉันไง ที่เอาไว้รักษาอาการบาดเจ็บจากเหล็กอะไรนั่น ที่ชื่อว่ายาช่วยหัวใจ” เซียวฉางควนตบเข่าฉาด เอ่ยอย่างดีอกดีใจ “อาการบาดเจ็บของฉันหายแล้ว หลังจากที่ฉางเอ้อเหมาได้ยินความมหัศจรรย์ของมัน ก็เลยบอกว่าเขามีวิธี ที่จะช่วยฉันขายยาออกไปได้ ฉันก็เลยให้เขาไปสองเม็ด ไม่คิดเลยว่าจะขายออกไปได้จริงๆ!”
เย่เฉินพูดไม่ออก
ยานั่นไม่ใช่ของล้ำค่าอะไรหรอก พ่อตาของเขาทานไม่หมดก็มีแต่จะทิ้งไป แต่นายจางเอ้อเหมานี่ลู่ทางเยอะใช่ย่อย แม้แต่ยาที่พ่อตาของเขาทานเหลือ ยังมีวิธีขายออกไปได้
“พ่อครับ ยานั่นรักษาไม่ถูกจุด จะขายออกไปยังไง”
เซียวฉางควนเอ่ย “อันนี้ฉันเองก็ไม่รู้ แต่จางเอ้อเหมาช่วยฉันขายยาออกไปจริงๆ แกลองเดาสิว่าเท่าไหร่”
“ห้าพันกว่า?”
“ราคาแค่นี้ ศูนย์น้อยเกินไป” เซียวฉางควนยกมือขึ้นอย่างได้ใจ “สองล้านกว่า!!”
“พุฟ!”
เย่เฉินที่กำลังดื่มน้ำอยู่ พ่นออกจากปาก
เขาไม่อยากจะเชื่อ ยาที่ต้นทุนไม่ถึงร้อย แต่พ่อค้าจอมโกหกจางเอ้อเหมา ขายไปได้สองล้านกว่า?
ไอ้งั่งที่ไหนกันแน่ที่ซวยได้ถึงขนาดนี้ ที่ถูกไอ้พ่อค้าจอมลวงโลกนี่ต้มจนเปื่อย?
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “ไอ้พ่อค้าลวงโลกนั่นขายให้กับผู้โชคร้ายคนไหนกันแน่?”
“อันนี้ฉันก็ไม่รู้หรอกนะ จางเอ้อเหมาบอกว่าเขามีจรรยาบรรณในการค้าขาย ความลับของลูกค้าไม่สามารถเปิดเผยได้”
จบคำ เซียวฉางควนส่ายหน้าอย่างระอาสองล้านกว่านี้ เขาโอนเข้าบัญชีฉันทุกบาททุกสตางค์ บอกว่าเพื่อตอบแทนแก ฉันว่าจะแบ่งค่าเหนื่อยให้กับเขาสักหน่อย แต่เขากลับปฏิเสธ นายจ้างเอ้อเหมานี่มีพรสวรรค์ในการค้าขายจริงๆ สักวันหากเขาเลิกขายของปลอม ฉันจะต้องเกลี้ยกล่อมเขาให้ไปทำงานจริงๆ จังๆ”
เย่เฉินส่ายหน้า
คนอย่างจางเอ้อเหมา คือสุนัขที่ไม่สามารถเปลี่ยนไปจากการเลียอึได้!
เขาหลอกลวงมาตั้งแต่เล็ก จนกลายเป็นความเคยชิน หากให้เขาไปทำงานจริงๆ จังๆ ขึ้นมา คงได้ทรมานแย่
เขาไม่มีทางไปทำงานสุจริตจริงจังได้หรอก และไม่มีทางเป็นไปได้ทั้งชีวิต
แต่ว่า ในเมื่อยานั่นถูกพ่อตาขายไปในราคาแพง ก็ถือซะว่าเป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้านแล้วกัน
ยังไงซะช่วงนี้ตระกูลเซียวได้หลุดออกมาจากบริษัทเซียวซื่อได้แล้ว เซียวชูหรันก็คงต้องอยู่บ้านไปอีกสักพักหนึ่ง ส่วนเงินปันผลที่บริษัทเซียวซื่อของพ่อตาก็คงไม่ได้รับ เงินก้อนนี้ใช้ฝ่าวิกฤตได้พอดี
ได้สองล้านกว่ามาอย่างฟรีๆ เซียวฉางควนที่ค่อนข้างสลดในทีแรกเป็นประกายขึ้นมา พลันฮัมเพลงตำนานโคมแดงเดินเข้าไปในห้องนอน ยิ้มออกได้เสียที
เย่เฉินกลับเข้ามาที่ห้อง เล่าเรื่องทั้งหมดนี้ให้กับเซียวชูหรันฟัง
เซียวชูหรันแทบเด้งลุกขึ้นบนเตียง เอ่ยอย่างร้อนรน “คนอื่นซื้อยานั่นไปด้วยราคามหาศาล เรื่องเงินไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าหากทานเข้าไปแล้วเป็นอะไรขึ้นมา เราจะรอดไปได้เหรอ?”
“วางใจเถอะ” เย่เฉินเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ยาช่วยหัวใจ เพียงแค่ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น วัตถุดิบไม่ได้หายากอะไร ต่อให้ทานแทนอาหารก็ไม่ตาย อย่างมากก็แค่กำเดาไหลสองวันเท่านั้น จะโทษก็ต้องโทษคนซื้อ ที่ไอคิวต่ำแต่เงินเยอะ”
หากแต่เซียวชูหรันก็ยังคงเป็นกังวล “แล้วคุณว่า ใครกันแน่ที่ยอมจ่ายตั้งสองล้านกว่า เพื่อซื้อยาสองเม็ดนั่น?”
เย่เฉินเอ่ยอย่างขอไปที “อาจเป็นเพราะครอบครัวเขามีคนเป็นเส้นเลือดอุดตันในสมองหรือโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันก็ได้ ยาชนิดนี้ใช้ได้ผลกับโรคพวกนี้”
เมื่อได้ยินประโยคของเขา เซียวชูหรันถึงได้สบายใจขึ้นมาบ้าง
โรคเหล่านี้เป็นโรคร้ายแรงทางการแพทย์ หากไปรักษาที่โรงพยาบาล ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่าสองล้านอยู่แล้ว
หวังว่ายาจะสัมฤทธิผล เขาจะได้ไม่ต้องใช้เงินไปอย่างเสียเปล่า
หลังอาหาร ขณะที่เย่เฉินล้างจานชามอยู่นั้น ก็ได้รับสายเรียกเข้าจากหงห้า
แม้ว่าหงห้าจะได้รับฉายาว่าเป็นราชาแห่งโลกใต้ดิน แต่หลังจากที่ได้พบกับเย่เฉิน เขาก็นอบน้อมขึ้นหลายเท่า
แม้ว่าเย่เฉินจะดูถูกเขา แต่ไม่พูดไม่ได้เลย ว่าหงห้าถือว่าเป็นคนรู้ความ ครั้งก่อนที่หวังเต้าคุนถูกรังแก ที่ห้องพักฟื้นในโรงพยาบาล เขาก็ช่วยตนแก้ไขปัญหาเล็กๆ น้อยๆ
เพราะงั้นตอนนั้นเย่เฉินให้คำมั่น ว่าจะให้โอกาสเขาได้เป็นใหญ่ ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นฝ่ายติดต่อตนมา
หลังรับสาย เย่เฉินเอ่ยถาม “หงห้า มีอะไรหรือ?”
หงห้าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณเย่! การที่ผมติดต่อท่านมาในครั้งนี้ เพราะได้ยินมาว่าคุณเป็นผู้นำวงการซวนซวน ผมมาแสดงความยินดี…..”
เย่เฉินเอ่ยอย่างเย็นชา “เลิกต่อความต่อหน้าผมได้แล้ว มีอะไรว่ามาเลย ไม่จำเป็นต้องสาวความยืด!”
หงห้าเอ่ยขึ้นทันที “คุณเย่ฉลาดจังเลยนะครับ ผมมีเรื่องเล็กๆ น้อยที่จะขอคำแนะนำจากคุณ”
เย่เฉินเอ่ยอย่างนิ่งเฉย “ยังจะพูดมากอีก?”
หงห้ารีบเข้าเรื่องทันที “เรื่องเป็นแบบนี้ครับคุณเย่ หลายปีมานี้ตระกูลซ่งดีต่อผมมาก ช่วงนี้คุณหนูใหญ่ของตระกูลซ่งเกิดปัญหาขึ้นนิดหน่อย ผมอยากจะเชิญท่านเข้าไปดูสักหน่อย”
เย่เฉินเอ่ย “คุณหนูใหญ่ตระกูลซ่ง? ซ่งหวั่นถิงงั้นเหรอ?”
“ครับ!” หงห้าเอ่ย “เกิดปัญหาขึ้นกับคุณซ่งหวั่นถิงครับ!”