ตอนที่ 1125 ฉันเป็นมือสมัครเล่นที่เก่งที่สุด

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

“เลิกพูดถึงเรื่องมือสมัครเล่นเถอะค่ะ ฉันเป็นมือสมัครเล่นที่เก่งที่สุดแล้วนะคะ”

สิ่งที่ถังหนิงต้องการจะสื่อคือการเป็นมืออาชีพนั้นไม่ได้รับประกันถึงความสำเร็จ และมือสมัครเล่นก็ไม่ได้เทียบชั้นกับมืออาชีพไม่ได้

อย่างไรเสียก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญอีกมากมายในโลกใบนี้ที่ไม่ชอบโอ้อวด

ที่สำคัญที่สุดคือเธอได้พิสูจน์สิ่งนี้โดยยกตัวเองมาเป็นตัวอย่าง อย่างไรเธอก็เป็นมือสมัครเล่นทั้งในการแสดง การเป็นผู้จัดการ และการสร้างภาพยนตร์ แต่ดูผลงานของเธอที่ออกมาสิ!

ทุกคนเห็นในสิ่งที่เธอทำ

ด้วยคำตอบนี้ นักข่าวถึงกับนิ่งเงียบ อย่างไรก็ไม่มีใครในโลกที่น่าเชื่อถือไปมากกว่าถังหนิงอีกแล้ว

ดังนั้นจำเป็นที่ผู้คนภายนอกจะมากังวลกับความคืบหน้าของมดราชินีสองด้วยหรือ ไม่อยู่แล้ว!

ไม่ว่าถังหนิงจะเจอกับอุปสรรคอะไร เธอก็มักจะหาทางออกได้เสมอ…

ไม่นานหลังจากนั้น รุ่นพี่หลง ดาราสายบู๊ชื่อดังได้ตกลงตอบรับคำเชิญของถังหนิงไปแสดงในมดราชินีสองทำให้แฟนๆ บางคนรู้สึกตื่นเต้น การที่ถังหนิงสามารถเชิญคนคนนี้มาได้ถือว่าน่าทึ่ง

ปรสิตอาจจะเชิญนักแสดงชื่อดัง แต่มดราชินีสองก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่ากัน พวกเขามีดาราสายบู๊ชื่อดังระดับนานาชาติ! เมื่อผู้คนบนโลกออนไลน์เห็นข่าวนี้ก็แตกตื่นกันทันที

“ไม่ได้เห็นผุ้อาวุโสหลงกับท่าทางเท่ๆ ของเขามานานหลายปีแล้ว!”

“ฮ่าๆ มันจะต้องน่าสนใจสุดๆ ที่ได้เห็นศิลปะการต่อสู้ปะทะกับสัตว์ประหลาด!”

“ฉันชักสงสัยว่าเนื้อเรื่องของมดราชินีสองจะเป็นยังไงซะแล้วสิ… ตั้งตาคอยเลยนะเนี่ย!”

ถังหนิงเคยชินกับการพลิกกระดาน มันแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอไปเสียแล้ว

แน่นอนว่าการแข่งขันที่มีอยู่อาจช่วยให้แวดวงไซไฟก้าวไปข้างหน้า แต่ชุนชิวกลับใช้วิธีสกปรก ถังหนิงจึงไม่มีทางเลือกนอกจากตอบโต้กลับ

ในขณะเดียวกันลู่เช่อใช้เวลากับการตามสืบเบื้องลึกเบื้องหลังของชุนชิวอยู่นาน

“มันจะต้องซับซ้อนถึงขั้นที่นายต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์เลยเหรอ” โม่ถิงไม่พอใจกับความชักช้าของลู่เช่อ

ลู่เช่อชะงักไปเล็กน้อยขณะที่ยื่นข้อมูลในมือส่งให้ “ผมขอโทษด้วยครับ ท่านประธาน มันต้องใช้แรงเยอะมากจริงๆ ครับ!

“ชุนชิวก่อตั้งเมื่อสิบหกปีที่แล้ว รู้จักกันในชื่อเก่าว่า…”

“เข้าเรื่องที ฉันไม่อยากได้ยินเรื่องนี้”

“ประเด็นคือบริษัทนี้ถูกลูกน้องของตระกูลหนานกงก่อตั้งขึ้นมาครับ อย่างที่คุณรู้ว่าเมื่อยี่สิบสองปีก่อน ตระกูลหนานกงมีอำนาจยิ่งใหญ่ในปักกิ่ง แต่หลังจากเกิดเรื่องซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากมาย ท่านประธานคนเก่าก็ส่งผู้อาวุโสหนานกงเข้าคุกหกปีต่อมา ลูกน้องของตระกูลหนานกง ชิวจิ่น ก็ก่อตั้งชุนชิวฟิลม์ขึ้นมาและตั้งใจอยู่เงียบๆ มาตลอด แต่เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวลือเกี่ยวกับหลานชายคนโตของตระกูลหนานกง หนานกงเฉวียน ซึ่งวางแผนจะกลับมาจากอเมริกาเพื่อมาบริหารชุนชิวครับ”

“หนานกงเฉวียนเหรอ” โม่ถิงรู้สึกคุ้นเคยกับคนคนนี้

“ครับ”

หนานกงเฉวียนอายุมากกว่าโม่ถิงราวๆ ห้าปี ทว่าตอนที่เขาอายุได้สิบขวบ เจ้าตัวก็ทั้งโหดร้ายและเลือดเย็นแล้ว เขาคงจะย้ายไปอเมริกาและถูกจับเข้าคุกอยู่ที่นั่น ใครจะไม่คิดว่าเขาจะพ้นโทษมาเสียแล้ว!

“เขาได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจที่กำลังมาแรงครับ เขาออกมาจากคุกได้สามปีแล้ว แล้วยังก่อตั้งกิจการด้านเทคโนโลยีในอเมริกาด้วยครับ เขามีผู้หญิงคนหนึ่งในชีวิตของเขา เป็นคนที่คลอดลูกสาวให้เขา แต่เธอตายไประหว่างคลอด หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้คบหาผู้หญิงคนอื่นอีก

“ท่านประธานครับ ไป๋จวินเหยี่ยกำลังพยายามเตือนเราเรื่องนี้อยู่หรือเปล่าครับ”

หลังจากได้ยินเรื่องราวทุกอย่าง แววอ่านยากฉายชัดขึ้นในดวงตาของโม่ถิง

“เขากลับมาที่ปักกิ่งแล้วเหรอ”

“เขาประกาศว่าจะกลับมาในอีกไม่กี่วันนี้ครับ แต่ผมว่าเขาน่าจะกลับมาแล้วล่ะ” ลู่เช่อตอบ

“ช่วยจัดบอดีการ์ดเพิ่มตามประกบถังหนิงตลอดเวลา ในเมื่อเขากลับมาแก้แค้น เราก็ไม่มีทางเลือกนอกจากรอการมาถึงของมัน” โม่ถิงเอ่ยเสียงเย็นเยียบ “ยี่สิบปีที่แล้วปู่ของฉันส่งปู่ของเขาเข้าคุก ยี่สิบปีต่อมาฉันก็ทำกับเขาได้เหมือนกัน!”

“รับทราบครับ ท่านประธาน!”

อย่างที่ลู่เช่อคาดการณ์เอาไว้ จริงๆ แล้วหนานกงเฉวียนกลับมาก่อนกำหนดการ เขายังได้เห็นเหตุการณ์น่าสนใจบางฉากเข้าด้วยซ้ำ รวมถึงวิธีการที่ถังหนิงไปตามเอาคืนที่โรงแรมไดนัสตี ชายผู้น่ายำเกรงพร้อมรอยสักค่อยๆ สนใจในตัวถังหนิงมากขึ้น เธอมีฝีมือที่จะตอบโต้เขากลับได้จริงๆ!

“พ่อขา หนูเหนื่อยจังค่ะ” ลูกสาวของหนานกงเฉวียนขยี้ตาพลางเอ่ยขึ้น “ตอนนี้หนูไปนอนได้หรือยังคะ”

หนานกงเฉวียนอุ้มลูกสาวของเขาขึ้นมา ช่วยเธออาบน้ำก่อนจะกล่อมเธอเข้านอน

เมื่อครั้งที่เขาเจอกับโม่ถิงตอนยังเป็นเด็ก เขาเคยคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กฉลาดที่ยิ้มยาก

ใครจะคิดว่ายี่สิบสองปีให้หลัง เขาจะได้แต่งงานกับภรรยาอย่างนี้

“พ่อขา หนูคิดถึงแม่ค่ะ…”

“ให้พ่อหาแม่ใหม่ให้หนูดีไหมครับ” หนานกงเฉวียนถามลูกสาวของเขา “เธอจะต้องรักเสี่ยวต้านเขอของพ่อแน่ๆ …”

“อย่างนั้นพ่อก็รีบหาเลยสิคะ!”

เขาเป็นผู้ชายที่น่ายำเกรงแต่กลับนั่งอยู่ข้างเตียงลูกสาวด้วยท่าทีอ่อนโยนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ตอนนี้เขาเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในตระกูลหนานกงแล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ผู้อาวุโสหนานกงถูกส่งเข้าคุก ทั้งตระกูลต่างทุ่มเงินทั้งหมดที่พวกเขามี ทว่ากลับล้มเหลวในการช่วงชิงอิสระของเขามาได้ และผู้อาวุโสโม่ก็ได้รับคำขอบคุณมากมายเพราะเรื่องนั้น

เรื่องเกิดขึ้นมาหลายสิบปีแล้ว บางทีเขาเองอาจจะแก่ขึ้น หนานกงเฉวียนจึงรู้ว่าถึงเวลาที่ต้องลงมือทำอะไรสักอย่างให้เร็วที่สุด เขาไม่ได้ต้องการทิ้งเรื่องบาดหมางนี้จากรุ่นของเขาไปให้ลูกสาวของตัวเองต้องจัดการ

ดูเหมือนว่าตะกูลโม่จะดวงตกเข้าเสียแล้ว!

หลังพาลูกสาวเข้านอน หนานกงเฉวียนกลับไปหาข้อมูลประวัติของตระกูลโม่ เขาพบว่าโม่ถิงมีลูกสามคน สองคนเป็นฝาแฝดซึ่งตอนนี้กำลังอาศัยอยู่ที่บ้านของแม่ยาย

ช่างเป็นโอกาสที่ดีอะไรอย่างนี้…

ทว่าแน่นอนว่าโม่ถิงสัมผัสได้ถึงภัยอันตราย เขาจึงเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้น ทั้งที่บ้านตระกูลโม่และบ้านตระกูลถัง

ถังหนิงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เธอจึงเอ่ยถามเขาและรู้เรื่องความขัดแย้งระหว่างตระกูลโม่กับตระกูลหนานกง

“คุณปู่ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่คะ” ถังหนิงว่าขึ้น “ถ้าฉันเป็นเขา ฉันก็คงจะทำอย่างนั้นโดยที่ไม่นึกเสียใจเลย”

“ใช่ครับ ปู่ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่การที่ผู้อาวุโสหนานกงติดอยู่ในคุกก็สร้างความเจ็บปวดให้ตระกูลหนานกงมาก พ่อของหนานกงเฉวียนถูกข่มขู่ แม่ของเขาต้องอับอายขายหน้า แล้วลุงๆ ของเขาก็ทุกข์ทรมานเหมือนกัน” โม่ถิงอธิบาย “ผมเลยกลัวว่าหนานกงเฉวียนจะกลับมาจบเรื่องทุกอย่าง”

“พวกคุณเคยเจอกันไหมคะ”

“ครับ ความจริงแล้วถ้าไม่เกิดเรื่องซะก่อน เราคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ด้วยซ้ำ” โม่ถิงพูดขณะยกแขนโอบถังหนิง “หนานกงเฉวียนเป็นเด็กเงียบๆ แต่เขาก็ดูเลือดเย็นมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะครับ เขาไม่ค่อยแก้ปัญหาด้วยคำพูดแต่ชอบใช้ความรุนแรงมากกว่า!”

“ฉันไม่คิดว่าคุณปู่จะติดค้างอะไรพวกเขานะคะ…”

“แต่ว่าหนานกงเฉวียนไม่ได้คิดอย่างนั้นนี่ครับ”

นี่เป็นประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ หากยังมีเรื่องบาดหมางอยู่ในใจของใครสักคน มันย่อมถูกขุดคุ้ยขึ้นมาไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไร

“อย่างนั้นเขาต้องการอะไรล่ะคะ”

น่าเสียดายที่นี่เป็นคำถามที่มีเพียงหนานกงเฉวียนที่ตอบได้…