ตอนที่ 199 หญิงสาวในชุดคลุม
การเคลื่อนไหวนิ้วมือของเขา…ออร่าของเขา…คนๆนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญพิณชั้นยอด! ดูจากเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่เขาเป็นศิษย์ชั้นนอกจากวิหารแก่นมังกร?!” ใบหน้าที่ถูกปกปิดด้วยหน้ากากหยกดํา และเสื้อผ้าที่สวมใส่หยวนส่วมใส่ ทําให้ผู้คนสงสัยว่าทําไมเขาถึงไม่เข้าร่วมนิกายดนตรีสวรรค์แทน
ด้วยความสามารถของเขา เขาสามารถกลายเป็นศิษย์หลักที่นิกายดนตรีสวรรค์ได้เลยทีเดียว เผลอๆจะได้เป็นผู้อาวุโสของนิกายด้วยซ้ํา! ทําไมถึงตัดสินใจเข้าร่วมกับนิกายวิหารแก่นมังกรที่ไม่ได้มีผู้เชี่ยวชาญด้านพิณ? เหตุผลอะไรที่ทําให้เขาตัดสินใจโง่ๆแบบนี้! เขาทําให้พรสวรรค์ของเขากําลังเสียไปอย่างสูญเปล่า!”
ร่างนิรนามในชุดคลุม ไม่ยอมรับว่าวิหารแก่นมังกรสมควรได้รับผู้เชี่ยวชาญพิณที่ยอดเยี่ยมเช่นหยวน และรู้สึกอิจฉาพวกเขาเล็กน้อย
ทันใดนั้นร่างนิรนามในชุดคลุมกําลังเดินเข้าไปหาหยวนเพื่อบอกให้เขาออกจากวิหารแก่นมังกรและเข้าร่วมกับนิกายดนตรีสวรรค์แทน แต่เมื่อเขาสังเกตเห็นการปรากฏตัวของผู้อาวุโสซวนและผู้อาวุโสชานที่นั่งอยู่ไม่ไกลเขาจึงต้องหยุดความคิดนั้นทันที…
“ผู้อาวุโสชวนและผู้อาวุโสชานผู้ยิ่งใหญ่…พวกเขามาทําอะไรที่นี่? พวกเขาติดตามศิษย์คนนั้นมางั้นเหรอ? ไม่สิดูเหมือนจะมาเพื่อคุ้มกันเสียมากกว่า? นี่มันเป็นไปได้ยังไง…”
ร่างนิรนามไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน ผู้อาวุโสระดับสูงสองคนกําลังปกป้องชายที่สวมหน้ากากซึ่งเป็นเพียงศิษย์ชั้นนอกเพียงคนเดียว…
หลังจากนั้นหยวนก็เล่นจบเพลงที่สองผู้ชมส่งเสียงเชียร์และปรบมือกันทันที
“เล่นเพลงอื่นอีกๆ!”
“เล่นอีกๆ!”
หยวนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเงยหน้าขึ้นและเห็นฝูงชนจํานวนมากปรบมือชื่นชมเขา
“ตกลง…ข้าจะเล่นเพลงอื่นอีก” หยวนพูดกับพวกเขาและเพิ่มความตื่นเต้น
ในขณะที่เขาเตรียมที่จะเล่นเพลงต่อไป บุคคลินิรนามในเสื้อคลุมก็กระโดดมาจากด้านหลังและปรากฏตัวด้านหน้าของเขา
“คะ…ใครกัน?”
ฝูงคนจ้องมองผู้มาเยือนด้วยความสงสัย…
“ให้ตายเถอะ! ใบหน้าสวยงามที่อยู่ภายใต้ชุดคลุมนั่น!”
“เจ้ารู้ได้ไงว่าเธอสวย เจ้าเพียงแค่เห็นคอของเธอเท่านั้น ถ้าเธอสวยจริงทําไมเธอถึงต้องเสื้อคลุมหน้าละ!?”
“หุบปาก! ข้ารู้ดีถึงความงามนั่นถึงแม้ข้าจะไม่ได้เห็นหน้าก็ตาม!”
ในขณะเดียวกันผู้อาวุโสซวนและผู้อาวุโสชานก็หรี่ตาของพวกเขาและเตรียมตัวปกป้องเต็มกําลังสําหรับการคุกคามปริศนานี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าผู้บุกรุกอยู่ระดับฝึกฝนอะไร แต่ก็บอกได้ว่าเป็ นระดับปรมาจารย์วิญญาณแน่นอน
พวกเขาไม่มีความสามารถในการต่อสู้กับปรมาจารย์วิญญาณ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็มั่นใจในความปลอดภัยของหยวนได้
“มีอะไรให้ข้าช่วยไหม?” หยวนถามหญิงสาวในชุดคลุมที่มีรูปร่างไร้ที่ติ หลังจากจ้องมองเธอสักครู่
อย่างไรก็ตามหญิงสาวนิรนามไม่ตอบคําถามของหยวนและนั่งที่โต๊ะหินข้างๆหยวนแทน
จากนั้นเธอก็ดึงพิณสีแดงจากแหวนมิติของเธอและวางไว้บนโต๊ะ
หญิงสาวที่คลุมหน้าอยู่หันไปมองหยวนและจ้องมองเขาอย่างเงียบๆราวกับว่าเธอกําลังพยายามบอกอะไรบางอย่างกับเขา
แม้ว่าจะมีผ้าผืนหนึ่งปิดกั้นใบหน้าของเธอ แต่หยวนก็สามารถมองเห็นสีหน้าของเธอและรับรู้ได้ว่าเธอกําลังท้าทายเขา
หยวนพยักหน้าและพูดว่า
“ถ้าเจ้าพร้อมก็เริ่มได้เลย”
หญิงสาวที่คลุมหน้ายกมือขึ้นและแสดงนิ้วเรียวสามนิ้วของเธอให้เขาเห็น และเริ่มงอสองนิ้วลง
หยวนรู้ทันทีว่าเธอกําลังนับถอยหลังและพยักหน้า
ในการนับครั้งที่สามทั้งหยวนและหญิงสาวที่คลุมหน้าก็เริ่มเล่นพิณพร้อมกัน
ติ้ง
ติ้ง –
โน้ตดนตรีสองตัวที่สวยงามแต่มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันปรากฏขึ้น เหมือนกับว่าพวกเขาพยายามเอาชนะกัน
ผู้ชมคาดว่าจะเสียงเพลงที่จะเกิดขึ้นจะต้องวุ่นวายอย่างแน่นอน แต่พวกเขาก็ต้องประหลาดใจอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาสามารถฟังเพลงทั้งสองพร้อมกันได้ โดยที่ดนตรีทั้งสองไม่รบกวนกันและกัน
“ปะ… เป็นไปได้ยังไง?”
ผู้ชมตกตะลึงพวกเขารู้สึกราวกับว่าพวกเขาอยู่ในสองโลกพร้อมกัน เป็นปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“นะ…นี่คือ…” กรามของเฟยยู่หยานหล่นลงกับพื้นเมื่อเธอตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ได้เห็นหญิงสาวสวมผ้าคลุมแสดงทักษะ
“แม้ว่าข้าจะไม่เคยได้ยินเธอเล่นพิณเป็นการส่วนตัวมาก่อน แต่มีเพียงคนเดียวที่ข้าคิดว่าจะสามารถเล่นพิณได้อย่างสมบูรณ์แบบขนาดนี้ ผู้อาวุโสซ่งผู้นํานิกาดนตรีสวรรค์! ข้าไม่อยากจะเชื่อ! เธอท้าทายศิษย์หยวนด้วยพิณก่อนวันก่อนการแข่งขัน!” เฟยยู่หยานร้องไห้อยู่ข้างในหัวใจของเธอหัวใจเธอเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น
“อาจารย์ข้าคิดว่านั่นคือผู้อาวุโสซ่ง…” เฟยยู่หยานกระซิบบอกผู้อาวุโสชาน ผู้อาวุโสชานหันมามองเธอด้วยดวงตาเบิกกว้างทันที
“จะ… เจ้าแน่ใจหรือเธอมาทําอะไรที่นี่…เธอมาเพื่อประลองฝีมือกับศิษย์หยวนงั้นรึ?!” ผู้อาวุโสซวนกล่าว
“มีใครอีกนอกจากผู้อาวุโสซ่งที่สามารถสร้างโน้ตดนตรีสวรรค์เช่นนี้ได้…นอกจากเธอก็มีเพียงศิษย์หยวนเท่านั้น…” เฟยยู่หยานกล่าว
“เจ้าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการแข่งขันตอนนี้” ซวนหวู่ฮั่นอดไม่ได้ที่จะถาม
“ใครจะรู้…” เฟยยู่หยานยักไหล่
“ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อเธอตระหนักว่าศิษย์หยวนเป็นผู้เข้าร่วมการแข่งขันเช่นกัน”
ทิ้ง!
ทันใดนั้นเสียงที่น่าอึดอัดก็ดังขึ้นในบริเวณนั้น ทําให้ผู้คนหันไปมองหญิงสาวภายใต้เสื้อคลุมซึ่งหยุดเล่นพิณทันที
หญิงสาวที่ใส่ชุดคลุมมองไปที่มือของตัวเองที่สั่นเล็กน้อย ดูเหมือนเธอจะไม่เชื่อว่าเธอจะแพ้การท้าทาย แล้วเธอก็หันไปมองหยวนที่ยังคงเล่นพิณโดยไม่สนใจโลกและสิ่งรอบข้างรอบๆตัวเขาเลย
เขาใช้เพลงเดียว…ไม่สิเพียงครึ่งเพลงก็ทําให้ข้าขาดสมาธิได้แล้ว…ผู้เชี่ยวชาญการเล่นพิณคนนี้เป็นใครกัน เขามาจากที่ไหน?” หญิงสาวภายใต้ผ้าคลุมพูดกับตัวเอง ความสนใจของเธอที่มีต่อหยวนถึงจุดสูงสุด มีความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถพูดออกมาเป็นคําพูดได้เกิดขึ้นภายในใจของเธอ