ตอนที่ 303-1 ประชาชนผู้บริสุทธิ์

ชายาเคียงหทัย

​“​ติ้ง​อ๋อง​ ​เป็นเกียรติ​ที่​ได้​พบ​”​ ​หลง​หยาง​มองดู​ผู้ชาย​ตรงหน้า​เป็นเวลา​นาน​ ​แล้ว​ในที่สุด​ก็​พูด​ออกมา​ช้าๆ

​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​หลง​หยาง​ได้​พบ​กับ​ติ้ง​อ๋อง​ผู้​โด่งดัง​ไป​ทั่ว​ใต้​หล้า​คน​นี้​ ​หาก​ดู​จาก​บาง​เรื่อง​แล้ว​ ​ชื่อเสียง​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​อาจจะ​สู้​กับ​ชื่อเสียง​ของ​ม่อ​หลิว​ฟาง​ผู้​เป็น​บิดา​ ​ที่​ความสามารถ​ด้าน​บุ๋น​ก็​เก่งกาจ​จน​สามารถ​บริหาร​แคว้น​ ​ความสามารถ​ด้าน​บู๊​ก็​แข็งแกร่ง​จน​สามารถ​รักษา​ความสงบ​ไว้​ได้​ ​ทั้ง​ยัง​เคย​สร้าง​คุณูปการ​ให้​แก่​ต้า​ฉู่​มาก​่อน​ ​เพราะว่า​เขา​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​หลาย​ต่อ​หลาย​รุ่น​ไม่เคย​ทำ​มาก​่อน​ ​นั่น​ก็​คือ​ ​การ​ตัดขาด​ความสัมพันธ์​อย่างเด็ดขาด​กับ​ต้า​ฉู่​ ​ทำให้​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​และ​ติ้ง​อ๋อง​หลุด​ออกจาก​โซ่ตรวน​ของ​ต้า​ฉู่​ ​และ​นับแต่​นั้น​ก็ได้​กลายเป็น​หนึ่ง​ใน​ฝ่าย​ที่​มีอิทธิพล​ใน​การครอบครอง​แผ่นดิน​โดยแท้จริง​ ​หลังจากนี้​ไม่ว่า​ชื่อเสียง​หรือ​ชื่อเสีย​ของ​ต้า​ฉู่​ก็​จะ​ไม่มี​ความเกี่ยวข้อง​อะไร​กับ​พวกเขา​อีกต่อไป

​บุรุษ​ตรงหน้า​เขา​ที่อยู่​ใน​ชุด​ขาว​บวก​กับ​เส้น​ผม​สีขาว​ราว​หิมะ​ที่​ยาว​ทิ้งตัว​พริ้ว​ไหว​ ​ช่าง​ดู​ขาวสะอาด​ตัด​กับ​กลิ่นคาว​เลือด​ใน​สนามรบ​โดยสิ้นเชิง​ ​แต่กลับ​ทำให้​หลง​หยาง​รู้สึก​ถึง​ความ​อันตราย​บางอย่าง​ ​หลง​หยาง​เชื่อ​ใน​สัญชาตญาณ​ของ​ตัวเอง​ ​ถึงแม้​เขา​จะ​ไม่ได้​เข้าร่วม​สงคราม​เป็นเวลา​กว่า​ยี่สิบ​ปี​แล้วก็​ตาม​ ​บุรุษ​ที่อยู่​ตรงหน้า​เขา​คน​นี้​ ​ไม่ได้​สุขุม​สงบเงียบ​ดังที่​แสดงออก​มา​ ​ภายใต้​สีขาว​ที่​ดู​สะอาดสะอ้าน​ราว​หิมะ​กลาง​หุบเขา​นั้น​ ​ก็​มีกลิ่น​คาวเลือด​ที่​ทำให้​คน​ต้อง​รู้สึก​หวาดกลัว​ซุกซ่อน​อยู่

​ม่อ​ซิว​เหยา​มองดู​หลง​หยาง​ด้วย​ความสงบ​นิ่ง​ ​มือ​ข้าง​หนึ่ง​ถือ​ถ้วย​กระเบื้อง​ลายคราม​เล่น​ ​พลาง​พูด​ขึ้น​เรียบๆ​ ​ว่า​ ​“​เดิมที​ ​ข้า​ก็​อยาก​จะ​พูดคุย​ดี​ๆ​ ​กับ​แม่ทัพ​หลง​และ​แม่ทัพ​จู​ ​แต่​แม่ทัพ​หลง​ ​ข้า​คง​ต้อง​บอกว่า​…​ตอนนี้​ข้า​กำลัง​อารมณ์ไม่ดี​อย่างมาก​ ​แม่ทัพ​หลง​น่าจะ​ทราบ​ดี​ว่า​สิ่ง​ที่​ข้า​เกลียด​ที่สุด​ใน​ชีวิต​คือ​อะไร​”

​หลง​หยาง​มอง​ม่อ​ซิว​เหยา​แล้ว​พูดเสี​ยง​เข้ม​ ​“​ขอ​ติ้ง​อ๋อง​โปรด​สั่งสอน​”

​ม่อ​ซิว​เหยา​วาง​ถ้วย​ชาลง​ช้าๆ​ ​เสียง​ของ​ถ้วย​ชา​ที่​กระทบ​กับ​ผิว​โต๊ะ​ ​ดัง​กังวาล​ขึ้น​ใน​ห้อง​ที่​เงียบสงัด​ ​“​คือ​การถูก​ข่มขู่​ ​สิ่ง​ที่​ข้า​เกลียด​ที่สุด​ใน​ชีวิต​ก็​คือ​ ​การถูก​ข่มขู่​อย่างไร​ล่ะ​ ​อีก​อย่าง​ ​ที่​ข้า​สงสัย​มากกว่า​ก็​คือ​ ​เหตุใด​แม่ทัพ​หลง​ถึง​คิด​ว่า​ข้า​จะ​เลิกล้ม​การบุก​เมือง​เพื่อ​คน​ต้า​ฉู่​พวก​นั้น​หรือ​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​หัวเราะ​ออกมา​ช้าๆ​ ​ราวกับ​กำลัง​พูด​เรื่อง​น่าขัน​ ​หลง​หยาง​ไป​เงียบ​ครู่หนึ่ง​ ​แล้ว​ถึง​พูด​ขึ้น​ ​“​เป็น​ข้า​ที่​คิดผิด​ไป​เอง​ ​น่าจะ​เพราะ​…​พอ​แก่​แล้ว​ใจ​ก็​อ่อน​ลง​กระมัง​ ​ถ้าหาก​เป็น​สมัย​ที่​ข้า​ยัง​หนุ่ม​ ​ก็​น่าจะ​ตัดสินใจ​เช่นเดียวกับ​ติ้ง​อ๋อง​”

​ม่อ​ซิว​เหยา​พยักหน้า​ยิ้ม​ ​“​แม่ทัพ​หลง​เข้าใจ​ข้า​ดีจริง​ๆ​ ​ด้วย​สินะ​ ​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​…​แม่ทัพ​หลง​ก็​คง​เตรียม​รับ​ผล​จาก​การตัดสินใจ​ครั้งนี้​ของ​ท่าน​แล้ว​ใช่​หรือไม่​”

​ได้ยิน​ดังนั้น​ ​สีหน้า​ของ​หลง​หยาง​ก็​เปลี่ยนไป​ ​“​ติ้ง​อ๋อง​ ​ในเมื่อ​เจ้า​ก็​ตีเมือง​เปี้ยน​แตก​แล้ว​ ​แล้วยัง​จะ​ฆ่า​ล้าง​เมือง​อีก​หรือ​ ​เรื่อง​นี้​เป็นการ​กระทำ​ของ​ข้า​แต่เพียง​ผู้เดียว​ ​หากว่า​ติ้ง​อ๋อง​โกรธ​ ​ท่าน​ก็​เอาชีวิต​ของ​ข้า​นี้​ไป​เลย​ก็แล้วกัน​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เผย​รอยยิ้ม​บาง​ๆ​ ​ไม่​แสดงท่าที​อัน​ใด​ ​“​ลืม​บอก​แม่ทัพ​หลง​ไป​ ​แม้ว่า​เมื่อคืน​แม่ทัพ​หลง​จะ​ปล่อย​ประชาชน​ใน​เมือง​ไป​ครึ่งหนึ่ง​แล้ว​ ​แต่ว่า​…​ทหาร​ตระกูล​ม่อ​ก็​จับ​ทหาร​ของ​ซี​หลิง​ไว้​ได้​ไม่น้อย​ ​น่าจะ​พอ​…​เอา​มาทด​แทน​จำนวน​ประชาชน​ที่​หนี​ไป​ได้​ละ​มัง​”

​“​ติ้ง​อ๋อง​…​”​ ​หลง​หยาง​หลับตา​ลง​ด้วย​ความเจ็บปวด​ ​“​ข้า​ทำ​คนเดียว​ ​ข้า​ควร​รับ​คนเดียว​ ​ถึง​ติ้ง​อ๋อง​จะ​เอา​ข้า​ไป​หั่น​ไป​ชิ้นๆ​ ​ข้า​ก็​จะ​ไม่​พูด​อะไร​แม้แต่​คำ​เดียว​ ​ติ้ง​อ๋อง​โปรด​…​ปล่อย​ประชาชน​กับ​ทหาร​ที่​บริสุทธิ์​ไป​เถิด​”

​ม่อ​ซิว​เหยา​ทำ​ราวกับ​ไม่ได้​ยิน​ ​โบกมือ​ให้​กับ​คนที​่​อยู่​หน้า​ประตู​ ​และ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​พา​แม่ทัพ​หลง​หยาง​ไปดู​สักหน่อย​…​”

​ด้านนอก​ประตู​ จั​๋​วจิ​้ง​โบกมือ​ให้​องครักษ์​สอง​คน​เข้ามา​พา​หลง​หยาง​ออก​ไป​ ​ภายใน​ห้อง​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ปิด​ตาล​งอย​่าง​ช้าๆ​ ​ผ่าน​ครู่ใหญ่​ ​เสียงทุ้ม​ต่ำ​ก็​ดัง​ออกมา​ใต้​เส้น​ผม​ที่​ขาว​ดั่ง​หิมะ​ ​“​คน​พวก​นี้​…​น่ารังเกียจ​นัก​!​ ​ท่าน​พ่อ​ ​พี่ใหญ่​…​รอ​ให้​ข้า​สังหาร​พวกเขา​ให้​หมด​เสียก่อน​ ​พวก​ท่าน​ก็​จะ​ได้​ตาย​ตา​หลับ​กัน​เสียที​…​และ​จะ​ไม่มีใคร​มาทำ​ร้าย​อา​หลี​ได้​อีก​…​”

​เยี​่ย​หลี​พอ​จัดการ​เรื่อง​ใน​สนามรบ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ก็​พา​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​และ​คนอื่นๆ​ ​กลับมา​ถึง​เมือง​เปี้ยน​ ​ทหาร​ตระกูล​ม่อ​ภายใน​เมือง​กำลัง​ทำความสะอาด​สนามรบ​ ​ใน​อากาศ​อบอวล​คละคลุ้ง​ไป​ด้วย​กลิ่นคาว​เลือด​ ​คณะ​ของ​พวก​นาง​เดิน​ไป​ตาม​ถนน​ใน​เมือง​ ​ระหว่างทาง​ก็​มีท​หาร​ที่​กำลัง​ทำความสะอาด​ถนน​เข้ามา​ทำความเคารพ​เป็นระยะๆ

​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​ขมวดคิ้ว​ ​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความสงสัย​ ​“​นี่​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​เหตุใด​ใน​เมือง​ถึง​ไม่มี​ประชาชน​เลย​แม้แต่​คนเดียว​”​ ​แม้​สงคราม​จะ​เพิ่ง​เสร็จสิ้น​ ​ประชาชน​อาจจะ​หวาดกลัว​จน​ไม่กล้า​ออกมา​นอกบ้าน​ ​ทว่า​ ​ไม่น่า​จะ​ถึงขนาด​ที่​ไม่มี​แม้แต่​คนเดียว​อย่างนี้​ ​แม้กระทั่ง​หน้าต่าง​ตาม​ตึก​ตลอด​สอง​ข้าง​ถนน​ก็​ไม่ได้​มี​ใคร​แอบมอง​เลย​ ​นอกจาก​ทหาร​ที่​ทำความสะอาด​แล้ว​ ​ทั้งเมือง​ก็​เงียบสนิท​จน​คล้าย​กับ​ว่า​เป็น​เมืองร้าง

​ทหาร​ตรงหน้า​ลังเล​และ​มอง​เยี​่ย​หลีกับ​คนอื่นๆ​ ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ถึง​จะ​กล่าว​รายงาน​ ​“​เรียน​พระ​ชายา​และ​แม่ทัพ​เฟิ​่ง​ ​ท่าน​อ๋อง​เพิ่งจะ​สั่ง​ว่า​ให้​จับ​ประชาชน​ทั้งหมด​ไป​ที่​ด้านนอก​เมือง​ฝั่ง​ตะวันตก​ขอรับ​”

​เยี​่ย​หลี​ขมวดคิ้ว​ถาม​ ​“​จับ​ไป​ที่​ฝั่ง​ตะวันตก​ของ​เมือง​หรือ​ ​จับ​ไป​ทำ​อะไร​กัน​”

​“​นอกเมือง​ฝั่ง​ตะวันตก​…​เป็น​ลานประหาร​ของ​เมือง​เปี้ยน​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

​“​ลานประหาร​หรือ​”​ ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​นิ่ง​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​และ​พูด​ ​“​จับ​แม่ทัพ​สำคัญ​คน​ไหน​ของ​ซี​หลิง​ได้​หรือ​ ​หลง​หยาง​หรือว่า​เหลย​เถิง​เฟิง​ล่ะ​ ​ไม่ใช่​สิ​ ​แม้ว่า​จะ​จับ​พวกเขา​ได้​ ​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​รีบ​ลงมือ​ประหาร​ตอนนี้​นี่​นา​”​ ​สังหาร​หลง​หยาง​ยัง​ถือว่า​สมเหตุสมผล​อยู่​บ้าง​ ​เพราะ​สามารถ​ทำลายขวัญ​กำลังใจ​ของ​ทหาร​ซี​หลิง​ได้​ ​แต่ว่า​สถานะ​ของ​เหลย​เถิง​เฟิง​นั้น​ ​ชีวิต​ของ​เขา​มีค่า​กว่า​การตาย​มาก​นัก​ ​คุณชาย​เฟิ​่ง​ซาน​มึนงง​ไป​ชั่วขณะ​จน​ลืม​ไป​ว่า​เหลย​เถิง​เฟิง​เพิ่งจะ​หลบหนี​จาก​เขา​ไป​ได้​เมื่อคืน

​ทหาร​มอง​เยี​่ย​หลี​และ​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​เยี​่ย​หลี​จึง​ขมวดคิ้ว​พูดว่า​ ​“​พูด​มาตาม​ความจริง​เถิด​”

​ทหาร​พูดเสี​ยง​ขรึม​ ​“​ท่าน​อ๋อง​สั่ง​ให้​จับ​นักโทษ​และ​ประชาชน​เมือง​เปี้ยน​ทุกคน​ ​และ​สังหาร​ให้​หมด​ทุกคน​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​!​”

​“​ว่า​อย่างไร​นะ​!​”​ ​เยี​่ย​หลีกับ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​พากัน​ตกใจ​ ​พวกเขา​มองหน้า​กัน​ก่อน​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​จะ​สงบจิตสงบใจ​ถาม​ว่า​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​”

​ทหาร​คน​นั้น​รีบ​เล่า​เหตุการณ์​การสู้​รบ​เกือบ​หนึ่ง​วันหนึ่ง​คืน​เต็มๆ​ ​ให้​พวกเขา​ฟัง​ ​ซึ่ง​แน่นอน​ว่า​รวมถึง​เรื่อง​ที่​หลง​หยาง​จับ​ประชาชน​ต้า​ฉู่​ใน​เมือง​เปี้ยน​มา​ขู่​ให้​พวกเขา​ถอน​ทัพ​ด้วย​ ​ขณะที่​ฟัง​ยัง​ไม่ทัน​จบ​ ​คณะ​ของ​พวก​นาง​ก็​รีบเร่ง​ฝีเท้า​มุ่ง​ไป​ยัง​ลานประหาร​นอกเมือง​ฝั่ง​ตะวันตก​ทันที

​พื้นที่​โล่ง​กว้าง​ด้านนอก​เมือง​ฝั่ง​ตะวันตก​นี้​ ​ตั้งแต่​ก่อตั้ง​เมือง​เปี้ยน​ขึ้น​มาก​็​ใช้​เป็น​ลานประหาร​มาโดยตลอด​ ​แต่กระนั้น​ก็​ไม่ต้องสงสัย​เลย​ว่า​ ณ​ ​ที่​แห่ง​นี้​ใน​วันนี้​ ​จำนวน​คนที​่​จะ​หัว​หลุด​จาก​บ่า​จะ​ต้อง​มากกว่า​จำนวน​คน​ทั้งหมด​ที​เคย​ถูก​ประหารชีวิต​ตลอด​หลาย​ร้อย​ปี​ที่​ก่อตั้ง​เมือง​เปี้ยน​มา​อย่างแน่นอน​ ​หลง​หยาง​ถูก​หน่วย​กิเลน​สอง​คน​จับตัว​เอาไว้​ ​โดย​ให้​หันหน้า​ไป​ทาง​ลานประหาร​ ​มองดู​ทหาร​ที่​ถูก​บังคับ​ให้​ก้มตัว​คุกเข่า​อยู่​บน​พื้น​อย่างไร​้​เรี่ยวแรง​ ​ใน​บรรดา​คน​เหล่านี้​ ​มี​หลาย​คนที​่​ตามตัว​ยัง​มีบาด​แผล​ ​แต่​เวลานี้​พวกเขา​กลับ​ถูก​มัด​ให้​คุกเข่า​ลง​กับ​พื้นเพื​่​อร​อรับ​ความตาย

​ก้อนหิน​ผิว​เรียบ​ที่​เย็นเฉียบ​ได้​อาบ​ฉ่ำ​ไป​ด้วย​รอย​เลือด​สีแดง​เข้ม​ ​เห็นได้ชัด​เจน​ว่า​พวก​ที่​คุกเข่า​อยู่​ตอนนี้​ไม่ได้​เป็น​กลุ่ม​แรก​ ​หลง​หยาง​ถูก​คน​ด้านหลัง​จับ​เอาไว้​จน​ขยับตัว​ไม่ได้​ ​ดวงตา​เขา​แทบจะ​ถลน​ออกมา​ ​“​พอได้​แล้ว​!​ ​ติ้ง​อ๋อง​!​ ​พอได้​แล้ว​…​ทั้งหมด​เป็นความ​ผิด​ของ​ข้า​เอง​ ​ท่าน​ฆ่า​ข้า​ตอนนี้​เลยเถิด​!​”​ ​ดวงตา​ทั้งคู่​ของ​หลง​หยาง​แดงฉาน​ ​หน้าผาก​มี​เส้นเลือด​สีเขียว​ปูด​โปน​ขึ้น​มา​ ​เขา​คิดผิด​ไป​แล้ว​จริงๆ​ ​เจตนา​เขา​อยาก​จะ​ป้องกัน​เมือง​เปี้ยน​ ​แต่กลับ​ไป​ทำให้​เสือ​ร้าย​กระหายเลือด​ที่​จำศีล​มา​หลาย​ปี​โมโห​เข้า​โดยไม่รู้ตัว​ ​บางที​อาจ​เพราะ​สมัย​หนุ่ม​เขา​สังหาร​ผู้คน​มากเกินไป​ ​บาปกรรม​ถึง​ได้​ไป​ตก​กับ​ทหาร​และ​ประชาชน​ผู้บริสุทธิ์​เหล่านี้​ใน​ตอนที่​เขา​เข้าสู่​วัยชรา​แล้ว

​“​ติ้ง​อ๋อง​!​ ​ท่าน​ฆ่า​ข้า​เถิด​!​”​ ​หลง​หยาง​ร้อง​คำราม

​มุม​ปากขอ​งม​่อ​ซิว​เหยา​แสยะ​ขึ้น​ ​เผย​เป็น​รอยยิ้ม​บาง​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ยกมือ​ชี้​ไป​ยัง​คนที​่​อยู่​บน​กอง​เลือด​ด้านล่าง​ ​ยิ้ม​พลาง​พูด​ ​“​ข้า​จะ​ไม่​ฆ่า​เจ้า​หรอก​ ​แม่ทัพ​หลง​หยาง​จงดู​ต่อไป​ให้​ดี​เถิด​ ​ดู​ให้​ดี​ว่า​ทหาร​และ​ประชาชน​เหล่านี้​ตาย​กัน​อย่างไร​ ​เป็น​เจ้า​…​ที่​ทำร้าย​พวกเขา​ ​เมื่อมี​การสู้​รบ​ระหว่าง​กองทัพ​ทั้งสองฝ่าย​ ​ข้า​ไม่เคย​ทำร้าย​ประชาชน​เลย​ ​แต่​ครั้งนี้​…​เป็น​เพราะ​เจ้า​บีบบังคับ​ข้า​ ​หลังจาก​ผ่าน​ครั้งนี้​ไป​ ​ข้า​เชื่อ​ว่า​ ​ใน​สนามรบ​จะ​ไม่​เกิดเหตุ​การณ์​ดังเช่น​เมื่อวาน​อีก​ ​เจ้า​ว่า​จริง​หรือไม่​”

​“​ฆ่า​ผู้บริสุทธิ์​ตามใจชอบ​แบบนี้​ ​ท่าน​ไม่​กลัว​ว่า​เวรกรรม​หรือ​”​ ​หลง​หยาง​พูด​ด้วย​ความเจ็บปวดรวดร้าว​ ​หาก​เป็น​เมื่อก่อน​ ​หลง​หยาง​ก็​คง​ไม่เชื่อ​เรื่อง​เวรกรรม​เช่นกัน​ ​สิ่ง​ที่​เขา​เชื่อมี​เพียง​ชัยชนะ​และ​การ​เป็นใหญ่​ใน​แผ่นดิน​ ​แต่​เมื่อมา​ถึง​ตอนนี้​ ​เขา​กลับ​ต้อง​ยอมรับ​ว่า​ ​บน​โลก​นี้​มี​เวรกรรม​อยู่​จริงๆ