ตอนที่ 303-2 ประชาชนผู้บริสุทธิ์

ชายาเคียงหทัย

​ม่อ​ซิว​เหยา​เลิก​คิ้ว​แสยะ​ยิ้ม​ ​“​ข้า​จะ​กลัว​เวรกรรม​ไป​ไย​เล่า​ ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​จงรักภักดี​ต่อ​แผ่นดิน​กัน​มาทุ​กรุ่น​ ​แล้ว​ได้รับ​ผลดี​อะไร​บ้าง​”

​“​อย่า​บอก​นะ​ว่า​พระ​ชายา​กับ​ซื่อ​จื่อ​ก็​ไม่​กลัว​เช่นกัน​”​ ​หลง​หยาง​พูด​ ​เมื่อ​ถ้อยคำ​นี้​ดัง​ออก​ไป​ ​ม่อ​ซิ่ว​เหยา​ก็​ขมวดคิ้ว​ ​ไอ​รอบกาย​เย็นยะเยือก​ดั่ง​หยดน้ำ​ค้าง​ที่​เกาะ​ตัว​กัน​โดยทันที​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​พลัน​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​หลง​หยาง​ ​สายตา​ที่​ราวกับ​เปลวเพลิง​โลหิต​ทำให้​หลง​หยาง​รู้สึก​สั่น​วาบ​อย่าง​อด​ไม่ได้​ ​ทันใดนั้น​ ​เสียง​ที่​ดุร้าย​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ก็​ดัง​ขึ้น​ ​“​ประหาร​ซะ​!​”​ ​จากนั้น​ม่อ​ซิว​เหยา​ก็​หันหน้า​มอง​ไป​ทาง​หลง​หยาง​ ​และ​พูด​อย่าง​เฉยชา​ ​“​ทาง​ที่​ดีเจ​้า​อวยพร​ให้​อา​หลี​มีชีวิตรอด​ปลอดภัย​จะ​ดี​เสีย​กว่า​ ​มิฉะนั้น​…​ข้า​จะ​ให้​คน​ทั้ง​แผ่นดิน​ตาย​ตกไป​พร้อมกับ​นาง​!​”

​ได้ยิน​คำสั่ง​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ ​คนที​่​อยู่​ใน​ลานประหาร​ก็​ยก​ดาบ​ใน​มือขึ้น​อีกครั้ง​…

​“​หยุด​เดี๋ยวนี้​!​”​ ​เสียงกังวาน​ใส​ของ​ผู้หญิง​คน​หนึ่ง​ดัง​ชัด​ขึ้น​จาก​ด้านหลัง​ ​ทันใดนั้น​ทุกคน​ก็​เห็น​ร่าง​ที่อยู่​ใน​ชุด​สีขาว​ดั่ง​ก้อน​เมฆลอย​ลงมา​กลาง​ลานประหาร​ ​เยี​่ย​หลีก​้​มม​อง​รอย​เลือด​สี​คล้ำ​ใต้เท้า​ ​พลาง​ขมวดคิ้ว​ ​จากนั้น​เมื่อ​หันไป​เห็น​เหล่า​ประชาชน​ที่​ถูก​มัด​ ​กำลัง​ร้องไห้​คร่ำครวญ​อยู่​รอบ​ๆ​ ​ลานประหาร​ ​นาง​ก็​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​ในที่สุด​ก็​มาทัน​…

​“​อา​หลี​่​ ​เจ้า​มา​ได้​อย่างไร​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ชะงัก​ไป​ ​สีหน้า​ที่​เย็นชา​พลัน​อ่อนโยน​ขึ้น​ใน​ทันใด​ ​เขา​ลุกขึ้น​ ​มองดู​ร่าง​ใน​ชุด​สีขาว​กลาง​ลานประหาร​ ​พร้อม​กล่าว​ถาม​ด้วย​เสียง​นุ่มนวล​ ​เยี​่ย​หลี​เงยหน้า​มอง​บุรุษ​ผม​ขาว​ที่​สวม​ชุด​ขาว​ราว​หิมะ​อยู่​บน​แท่น​สูง​ ​บน​ใบหน้า​ที่​หล่อเหลา​เจือ​แวว​อบอุ่น​และ​อ่อนโยน​บาง​ๆ​ ​แตกต่าง​กับ​เสียง​ที่​โหดร้าย​ไร้ความปราณี​ดั่ง​อสูร​ร้าย​เมื่อ​ครู่​โดยสิ้นเชิง

​นาง​เดิน​นำ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​ขึ้นไป​บน​แท่น​สูง​ ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​สัมผัส​ได้​ถึง​แววตา​ที่​ราวกับ​คม​มีด​ซึ่ง​ส่ง​มาจาก​ท่าน​อ๋อง​ของ​ตน​ ​จึง​ถู​จมูก​อย่าง​ช่วยไม่ได้​ ​แล้ว​เขยิบ​ไป​ยืน​อยู่​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ ​พระ​ชายา​กลับมา​ในเวลานี้​พอดี​ ​ไม่เกี่ยว​กับ​เขา​เสียหน่อย

​“​อา​หลี​ ​เจ้า​มา​ได้​อย่างไร​ ​เหนื่อย​มาตั​้ง​หลาย​วัน​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่​กลับ​ไป​พักผ่อน​เล่า​”​ ​เมื่อ​เห็น​ความเหนื่อย​ล้า​ที่​ยาก​จะ​ปิดบัง​บน​ใบหน้า​ของ​เยี​่ย​หลี​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ก็​เอ่ย​ถาม​เสียง​เข้ม​อย่าง​ไม่สบอารมณ์

​เยี​่ย​หลีก​รอก​ตา​ใส่​เขา​อย่าง​จนปัญญา​ ​นาง​กลับ​ไป​พักผ่อน​ไม่ได้​ก็เพราะว่า​ใคร​กัน​ล่ะ

​“​นี่​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​ทำไม​จู่ๆ​ ​ก็​…​”​ ​เยี​่ย​หลีก​ระ​ซิบ​ถาม​ ​ถ้าหากว่า​เป็นไปได้​ ​นาง​ก็​ไม่​อยาก​ถาม​ม่อ​ซิว​เหยา​ตรงนี้​ ​ทว่า​ตอนนี้​กลับเป็น​เวลา​ที่นาง​เลือกไม่ได้​ ​จึง​เกิด​ความลังเล​เล็กน้อย​ ​แต่​ไม่อย่างนั้น​ศีรษะ​ของ​คน​หลาย​แสน​คน​อาจจะ​ต้อง​หลุด​จาก​บ่า​ ​แม้​จะ​กลับชาติมาเกิด​ ​แต่​เยี​่ย​หลีก​็​ยังคง​มีสาย​เลือด​ความ​เป็น​ทหาร​อยู่​ ​นาง​ไม่​เกรงกลัว​การสู้​รบ​ ​และ​ไม่​หวาดหวั่น​ต่อ​ความตาย​ ​แต่​การ​ฆ่า​ทหาร​และ​ประชาชน​ผู้บริสุทธิ์​ไม่อยู่​ภายใต้​ขีดจำกัด​ด้านศีลธรรม​ของ​นาง​อย่างแน่นอน​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​มัน​จะ​เป็นผล​เสีย​ต่อ​ชื่อเสียง​ของกอง​ทัพ​ตระกูล​ม่อ​และ​ม่อ​ซิว​เหยา​เอง​ด้วย​ ​ช่วง​หลาย​ปีก่อน​ที่​ม่อ​ซิว​เหยา​สังหาร​ทหาร​ต้า​ฉู่​ที่​ซี​เป่ย​จำนวนนับ​พัน​นาย​ ​ก็​ทำให้​ปัญญาชน​พากั​นวิ​พากษ์​วิจารณ์​ไปมา​กมาย​แล้ว​ ​ถ้าหาก​ยัง​จะ​มีเรื่อง​สังหาร​หมู่​ทั้งเมือง​เช่นนี้​อีก​ ​คงจะ​ไม่เป็นเรื่อง​ที่​ดี​ต่อม​่อ​ซิว​เหยา​แต่อย่างใด​จริงๆ

​ม่อ​ซิว​เหยา​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​แล้ว​พูดเสี​ยง​เข้ม​ ​“​อา​หลี​ไม่ต้อง​สนใจ​เรื่อง​พวก​นี้​หรอก​ ​กลับ​ไป​พักผ่อน​ก่อน​ดี​หรือไม่​ ​รอ​ให้​ข้า​จัดการ​เรื่อง​นี้​เสร็จ​แล้ว​ ​ข้า​จะ​กลับ​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​เจ้า​ ​พวกเรา​พักผ่อน​อยู่​ที่​เมือง​เปี้ยน​กัน​สัก​สอง​วัน​ก็ได้​”

​“​ซิว​เหยา​”​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ม่อ​ซิว​เหยา​อยาก​จะ​เปลี่ยน​ประเด็น​อย่างชัดเจน​ ​เยี​่ย​หลีก​็​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ ​มอง​เขา​เงียบๆ​ ​ภายใน​ดวงตา​เผย​ความกังวล​เล็กน้อย​ ​“​ซิว​เหยา​ ​ข้า​เหนื่อย​แล้ว​ ​เจ้า​กลับ​ไป​พักผ่อน​เป็นเพื่อน​ข้า​ได้​หรือไม่​ ​แล้ว​เรา​ค่อย​ปรึกษา​เรื่อง​นี้​กัน​วันหลัง​”​ ​เยี​่ย​หลี​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​นุ่มนวล​ ​ภายใน​น้ำเสียง​มี​ความ​เปราะบาง​และ​เหนื่อยล้า

​ม่อ​ซิว​เหยา​พลัน​ใจอ่อน​ ​ก้มหน้า​มอง​เงา​คล้ำ​ใต้​ขอบตา​ของ​เยี​่ย​หลี​ ​ในที่สุด​เขา​ก็​โน้มตัว​ลง​ไป​อุ้ม​เยี​่ย​หลี​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​ ​เยี​่ย​หลี​อิงแอบ​อยู่​ใน​อ้อมอก​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ ​แล้ว​เงยหน้า​หันไป​ส่งสัญญาณ​ให้​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​ทาง​สายตา​ ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​ผงกศีรษะ​เล็กน้อย​ ​แสดงออก​ว่า​ ​ให้​เป็น​หน้าที่​เขา​เอง​ ​เยี​่ย​หลี​ถึง​ได้​วางใจ​และ​หลับตา​ลง​พิง​ศีรษะ​เข้ากับ​อ้อมอก​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ ​หลาย​วัน​มานี​้​ ​นาง​รู้สึก​เหนื่อยล้า​มาก​จริงๆ

​ม่อ​ซิว​เหยา​อุ้ม​เยี​่ย​หลี​ผ่าน​ด้าน​ข้าง​ลานประหาร​ ​สายตา​ที่​เรียบ​เฉย​กวาด​มอง​ทหาร​ซี​หลิง​ที่​คุกเข่า​อยู่​ ​นัยน์ตา​ที่​เย็นชา​แฝง​แววา​มเห​ยี​ยด​หยาม​และ​ดูถูก​ ​ใน​บรรดา​แม่ทัพ​ซี​หลิง​เหล่านี้​ย่อม​ต้อง​มี​คนที​่​แข็งข้อ​ไม่ยอม​แพ้​ ​แต่​เมื่อ​พ่ายแพ้​จน​ถูกจับ​ ​พวกเขา​ก็​เตรียมใจ​รับ​ความตาย​ไว้​แล้ว​ ​แต่​เมื่อมา​เห็น​สายตา​เยาะเย้ย​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​เช่นนี้​ ​ไหน​เลย​จะ​อดกลั้น​ไหว​ ​มี​คน​หนึ่ง​ถ่มน้ำลาย​ออกมา​ ​ยิ้มเยาะ​พลาง​พูดว่า​ ​“​ไอ​พวก​แซ่​ม่อ​ ​อยาก​จะ​ฆ่า​ก็​ฆ่า​สิ​ ​ยี่สิบ​ปี​หลังจากนี้​ข้า​ก็​จะ​เป็น​ทหาร​ผู้​กล้า​อีก​ ​ถึง​เวลา​นั้น​จะ​ไป​สังหาร​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ของ​เจ้า​ให้​สิ้น​ทั้ง​ตระกูล​เอง​!​”

​แววตา​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​เย็นวาบ​ขึ้น​โดยพลัน​ ​แล้ว​พูด​เรียบๆ​ ​ว่า​ ​“​เมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​ ​ข้า​ก็​จะ​สงเคราะห์​เจ้า​เอง​ ​ประหาร​มัน​ให้​หมด​!​”​ ​พูด​จบ​ ​ก็​ไม่สน​ใจ​คนตรง​หน้า​อีก​ ​อุ้ม​เยี​่ย​หลี​เดิน​ออกจาก​ลานประหาร​ไป​ช้าๆ​ ​ทิ้ง​ให้​ผู้คน​ทำได้​เพียง​มองหน้า​กัน​ ​ใน​ความหมาย​ของ​พระ​ชายา​ ​แน่นอน​ว่า​ก็​คือ​ห้าม​ไม่​ให้​ประหาร​ ​ทว่า​ท่าน​อ๋อง​กลับ​ให้​ประหาร​ทุกคน​ ​จะ​ประหาร​หรือไม่​ประหาร​นี้​กลายเป็น​ปัญหา​ไป​เสีย​แล้ว​ ​ตาม​หลัก​เหตุผล​แล้ว​ ​พวกเขา​ย่อม​ควร​ฟัง​คำสั่ง​ของ​ท่าน​อ๋อง​ ​แต่ว่า​หลาย​ปี​มานี​้​ ​ท่าน​อ๋อง​ไม่เคย​ขัด​ความประสงค์​ของ​พระ​ชายา​เลย​ ​นอกจากนี้​ ​ทหาร​ตระกูล​ม่อ​ล้วน​เป็น​ทหาร​ที่​เก่งกาจ​ที่สุด​ ​ทุกคน​ต่าง​มี​ความภาคภูมิใจ​ใน​การ​เป็น​ทหาร​ ​การ​ฆ่า​คนใน​สนามรบ​ก็​เป็นเรื่อง​หนึ่ง​ ​แต่​การ​ต้อง​สังหาร​หมู่​ประชาชน​ธรรมดา​ที่​ไร้​เรี่ยวแรง​ต่อต้าน​เช่นนี้​ ​พวกเขา​กลับ​ทำใจ​ลงมือ​ไม่ได้​จริงๆ​

​“​แม่ทัพ​เฟิ​่ง​ ​เรื่อง​นี้​ควร​ทำ​อย่างไร​หรือ​ขอรับ​”​ ​ทหาร​เพชร​ฆาต​เดิน​เข้ามา​สอบถาม

​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​ลูบ​คาง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​แล้ว​พยัก​เพยิด​ไป​ยัง​กลุ่มคน​ที่​กำลัง​คุกเข่า​อยู่​บน​ลานประหาร​ ​“​พวก​นั้น​ ​ประหาร​ให้​หมด​เสีย​ ​ส่วนที่เหลือ​ก็​ปล่อยไป​ก่อน​แล้วกัน​”​ ​ก็​ท่าน​อ๋อง​บอก​ให้​ประหาร​ให้​หมด​ไม่ใช่​หรือ​ ​คนที​่​หมิ่น​เกียรติ​ ​ด่าทอ​สาปแช่ง​ติ้ง​อ๋อง​ก็​ย่อม​สมควร​ตาย​ ​สงสาร​ก็​แต่​คน​ร้อย​กว่า​คนที​่​อยู่​พร้อมกับ​เขา​นั่น​ ​คง​ทำได้​แค่​คิด​ว่า​พวกเขา​โชคร้าย​เอง​เสีย​แล้ว​ ​คนที​่​คุกเข่า​อยู่​กลาง​ลาน​ต้อง​ประหาร​แน่​แล้ว​ ​ส่วน​คนที​่​เหลือก​็​…​แน่นอน​ว่า​คง​ต้อง​รอคำ​สั่งของ​ท่าน​อ๋อง​กับ​พระ​ชายา​ ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​คิด​เงียบๆ​ ​ใน​ใจ

​ทหาร​เพชร​ฆาต​ไป​ทำตาม​คำสั่ง​ด้วย​ความพอใจ​ ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​เห็น​หลง​หยาง​ที่​ใบหน้า​ราวกับ​ไร้​ดวงวิญญาณ​ก็​ลอบ​ส่ายหน้า​ ​หลง​หยาง​เอง​ก็​ทำผิด​ต่อม​่อ​ซิว​เหยา​อย่าง​มหันต์​ ​ที่​คิด​จับ​ประชาชน​ต้า​ฉู่​มา​เป็น​โล่​เนื้อ​กำบัง​ ​หาก​ม่อ​ซิว​เหยา​ถอยทัพ​ไป​ครั้งนี้​ ​ทหาร​ซี​หลิง​ต่อจากนี้​ก็​จะ​เลียนแบบ​ทำตาม​อีก​ ​และ​ที่​สำคัญ​ไป​กว่านั​้น​ ​เวลา​นั้น​ยัง​มีท​หาร​หน่วย​กิเลน​อีก​เกือบ​พัน​คนที​่​เข้า​เมือง​มาก​่อน​แล้ว​ ​ถ้าหากว่า​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​สั่ง​ให้​ถอยทัพ​จริงๆ​ ​หลง​หยาง​ก็​คงจะ​ลงมือ​กับ​ทหาร​ภายใน​เมือง​เปี้ยน​ ​และ​ทหาร​หน่วย​กิเลน​เกือบ​พัน​คนที​่​เข้า​เมือง​ไป​ก่อน​เหล่านั้น​คง​ต้อง​ลำบาก​อย่างแน่นอน​ ​เพียงแต่ว่า​…​ครั้งนี้​ท่าน​อ๋อง​โมโห​มาก​ไป​หน่อย​รึเปล่า​นะ

​เมื่อ​เยี​่ย​หลี​ตื่น​จาก​การ​นอน​กลับ​ ​ท้องฟ้า​ด้านนอก​ก็​มืด​ลง​แล้ว​ ​หลังจาก​ลุกขึ้น​นั่ง​ ​ขยี้ตา​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​มี​อะไร​ผิดแปลก​ไป​ ​แม้ว่า​นาง​จะ​เหนื่อย​มาก​ ​แต่​ก็​ไม่น่า​ถึงขั้น​พอ​ม่อ​ซิว​เหยา​อุ้ม​ขึ้น​ ​ก็​หลับ​ไป​ทั้ง​ใน​อ้อมอก​ของ​เขา​แบบ​นั้น​ ​พลัน​นึกถึง​เรื่อง​บน​ลานประหาร​ก่อนหน้านี้​ ​เยี​่ย​หลีก​็​เงยหน้า​ขึ้น​มองผ่าน​ม่าน​กั้น​ผืน​บางที​่​วาดลวดลาย​ภูเขา​และ​แม่น้ำ​ออก​ไป​ ​จึง​เห็น​ว่า​ม่อ​ซิว​เหยา​กำลัง​นั่ง​เขียนหนังสือ​อยู่​ใต้​แสงเทียน​ ​เขา​ราวกับ​ได้ยิน​เสียง​เยี​่ย​หลี​ขยับตัว​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​จึง​วาง​ปากกา​ลง​ ​ลุกขึ้น​ยืน​ ​แล้ว​เดิน​เข้ามา​ด้านใน​พร้อม​ส่ง​ยิ้ม​บาง​ๆ​ ​ให้​ ​“​ตื่น​แล้ว​หรือ​”

​เยี​่ย​หลี​่​พยักหน้า​มอง​ม่อ​ซิว​เหยา​อย่างละเอียด​ ​ดวงตา​นาง​เป็นประกาย​ไข่มุก​ท่ามกลาง​แสง​ยามค่ำคืน​ ​แล้ว​ใบหน้า​ที่​งดงาม​ก็​เผย​รอยยิ้ม​บาง​ๆ​ ​ที่​ดู​อบอุ่น​และ​สบายใจ

​เยี​่ย​หลี​แนบชิด​อยู่​ใน​อ้อมอก​ของ​เขา​ ​เงยหน้า​มองดู​ใบหน้า​ที่​ค่อนข้าง​เหนื่อยล้า​ของ​เขา​ ​และ​กล่าว​เบา​ๆ​ ​“​เหตุใด​จึง​ไม่​พักผ่อน​สักหน่อย​ ​ไม่ใช่​ว่า​จะ​พัก​อยู่​ใน​เมือง​เปี้ยน​สอง​วัน​หรือ​ ​มีเรื่อง​อะไร​พรุ่งนี้​ค่อย​จัดการ​ก็​ยัง​ทัน​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​วาง​คาง​ลง​บน​ศีรษะ​ของ​นาง​ ​ลูบไล้​เส้น​ผม​ที่​อ่อนนุ่ม​ ​พร้อม​ยิ้ม​เรียบๆ​ ​“​นอนไม่หลับ​…​หาก​จัดการ​เรื่อง​ที่​ต้อง​จัดการ​จน​หมด​แล้ว​ ​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​ได้​อยู่​เป็นเพื่อน​เจ้า​ ​อา​หลี​ ​หลาย​วันนี้​ ​ลำบาก​เจ้า​แล้ว​นะ​”

​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ ​เยี​่ย​หลี​พลัน​นึกถึง​ท่าที​ของ​จู​หลิง​ยาม​ก่อน​ตาย​ขึ้น​มา​ ​เสื้อ​ขาวนวล​จันทร์ที​่​เต็มไปด้วย​กลิ่นคาว​เลือด​นอน​อยู่​บน​พื้นดิน​ที่​อาบ​ฉ่ำ​ไป​ด้วย​เลือด​สด​และ​ค่อยๆ​ ​เปลี่ยนเป็น​สีดำ​คล้ำ​ ​นัยน์ตา​นาง​ก็​หม่นหมอง​ลง​…​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ค่อยๆ​ ​หาย​ไป​ ​เยี​่ย​หลี​หลับตา​ลง​ด้วย​ความปวด​หัว​เล็กน้อย

​“​อา​หลี​ ​เป็น​อะไร​ไป​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เอ่ย​ถาม​เสียง​เบา