หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมา

เย่เจียเจียและคนอื่นๆก็ถูกสมาชิกครอบครัวอบรบสั่งสอนอย่างรุนแรง ถูกกักบริเวณ ต้องอยู่บ้านอย่างเชื่อฟัง ไม่สามารถที่จะใช้อุปกรณ์ของเครือข่ายเสมือนจริงเพื่อล็อกอินเข้าไปได้อีก

ทว่าผู้อาวุโสของตระกูลที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ต่างก็ไม่ได้มีความสุขแม้แต่น้อย แต่ละคนต่างก็มีสีหน้าที่หม่นหมองอย่างถึงที่สุด

“จบสิ้น จบสิ้นกัน หลานชายในตระกูลเฉินของข้าดื้อรั้นเกินไป ไม่ทันได้เริ่มสั่งสอน เพิ่งที่จะเริ่มตีเขา เขาก็บอกว่าช่วงเวลาชีวิตไม่แน่นอน ย่อมมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเสมอ ไม่คาดคิดว่าจะรังแกเด็กตัวเล็กๆเช่นนี้ สิบปีแก้แค้นก็ยังไม่สาย อีกทั้งยังโต้เถียงกับพ่อของตนเองอย่างไม่เชื่อฟัง”

ชายชราผมสีเงินได้กัดฟันพูดออกมา

“หลานชายของข้าก็เป็นเช่นกัน ปกติแล้วเวลาข้าตีเขานั้น เขาควรที่จะหวาดกลัวและร้องไห้วิ่งหนีออกไป ทว่าตอนนี้กลับไม่มีปฏิกิริยาเช่นนั้น ยืนอยู่ที่จุดๆเดิม ตะโกนออกมาบอกว่าเป็นลูกผู้ชายทำผิดก็ต้องยอมรับโทษของตนเอง ยืนให้ตีโดยที่ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย นี่มันทำให้ข้ารู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก มีเวลาอื่นมากมายให้แสดงความกล้า ทว่าเขากลับแสดงความกล้าออกมาในช่วงเวลาเช่นนี้”

ชายชราที่สวมใส่ชุดสีดำคนหนึ่งก็โมโหจนเจียนตาย

“พวกเจ้ายังดี หลานในตระกูลข้านั้นยังไม่ทันได้ตีเขาด้วยซ้ำ ก็เริ่มตะโกนออกมาว่ามันผู้ใดไม่รุกรานข้า ข้าก็จะไม่รุกรานมันผู้นั้น แต่ผู้ใดมารุกรานข้า ข้าจะรุกรานกลับไปอย่างทวีคูณแน่นอน”

ชายชราหัวโล้นได้พูดออกมาอย่างโมโห รู้สึกว่าอนาคตของตระกูลตนเองมืดมน

“ใช่ หากเป็นกรณีนี้ หลานสาวของข้าก็ตะโกนออกมาบอกว่าในอนาคตต้องการที่จะเป็นราชากองโจรเช่นกัน จะต้องปล้นชิงคนรวยเพื่อช่วยเหลือคนจน” หญิงชราพูดออกมาอย่างสิ้นหวัง

“แม่เจ้า ลูกชายของข้าก็พูดเช่นเดียวกัน บอกว่าในอนาคตจะไม่แต่งงานมีภรรยาคนเดียว ทว่าจะต้องฉุดชิงคนอื่นๆมาเช่นกัน”

ชายชราที่ใส่ชุดคลุมสีขาวได้กัดฟันพูดออกมา เขาไม่รู้ว่าควรที่จะพูดออกมาอย่างไร มีสีหน้าที่พูดอะไรไม่ออก

“เหมือนกัน ทายาทในตระกูลข้าก็เหมือนกัน”

“อันที่จริงพวกเขาไปเรียนรู้คำพูดเหล่านี้มาจากที่ใดกัน แต่ละคนเริ่มที่จะขัดขืนต่อต้านพวกเรา”

“จะต้องเป็นไอ้ลูกหมาอู๋ตี่อย่างแน่นอน หากไม่ใช่เป็นเพราะเจ้าบุคคลชั่วร้ายนั้นที่ยุยงพวกเขา เป็นไปได้อย่างไรที่หลานชายและหลานสาวที่น่ารักน่าชังของพวกเราจะมีพฤติกรรมเช่นนี้ เป็นความผิดของเจ้าบัดซบนั่นทั้งหมด”

“เจ้าบัดซบอู๋ตี่ การที่ชี้นำเด็กตัวเล็กไปในทางที่ผิดเช่นนี้ อย่าให้ข้าได้รู้สถานะที่แท้จริงของเจ้าเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นต่อให้จะอยู่อีกฟากหนึ่งของจักรวาล ข้าก็จะต้องจับเจ้าบัดซบนั่นมาให้ได้”

ผู้อาวุโสจำนวนมากที่กัดฟันกันอย่างแน่น เดือดระอุกันอย่างแท้จริง

เห็นได้ชัดว่าเจ้าบัดซบนั่นล่วงรู้ว่าเด็กเหล่านี้อายุยังน้อย ไม่เข้าใจโลกที่แท้จริง ไม่คาดคิดว่าจะปลูกฝังความคิดแย่ๆให้กับพวกเขา นี่เห็นได้ชัดว่าต้องการที่จะทำลายอนาคตของพวกเด็กตัวน้อย พวกเขาต่างก็ต้องการที่จะสังหารใจจะขาด

อย่างไม่ต้องสงสัย การที่หลานชายและหลานสาวที่น่ารักน่าชังของพวกเขามีพฤติกรรมเช่นนี้ จะต้องเป็นความผิดของเจ้าอู๋ตี่อย่างแน่นอน เจ้าบัดซบนั่นจะต้องเป็นผู้ที่ยุยงอย่างแน่นอน

“ทว่าเจ้าเด็กนั่นเหมือนกับกำเนิดขึ้นมาจากอากาศก็ว่าได้ บิดปังสถานะที่แท้จริงของตนเองไว้อย่างแนบแน่น เป็นเรื่องยากมากที่สืบหาสถานะของเขาได้”

“จักรวาลนั้นกว้างใหญ่เกินไป การที่ต้องการจะหาคนๆหนึ่งนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เป็นเหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทรก็ว่าได้”

“ไม่ต้องกังวลไป เจ้าเด็กนี่เป็นผู้ที่ควบแน่นร่างจักรพรรดิพงไพรได้ บุคคลเช่นนี้เป็นไม่ได้ที่จะหลบซ่อนไปตลอดกาล สักวันเขาจะต้องปรากฏตัวขึ้นมาในโลกแห่งความจริง”

“ถูกต้อง เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ในเครือข่ายเสมือนจริงไปตลอดชีวิต จะต้องมีสักวันที่เขาปรากฏขึ้นมาในที่ใดสักแห่งภายในจักรวาลอย่างแน่นอน”

“เมื่อใดที่เห็นใครแสดงร่างจักรพรรดิพงไพรออกมา ไม่จำเป็นที่จะต้องคิดใดๆทั้งสิ้น เป็นเจ้าอู๋ตี่อย่างแน่นอน”

“เหอะ พรสวรรค์เช่นนี้หาพบได้ยากมาก พบเห็นเมื่อไหร่ก็กระโจนเข้าไปทันที ค่อยพูดกันภายหลัง”

พวกเขาต่างก็ถ่ายทอดคำสั่งออกไปให้กับลูกน้องทันที วางแผนที่จะใช้อิทธิพลของตระกูล บดขยี้เจ้าอู๋ตี่ให้ได้

เชื่อว่าด้วยอิทธิพลของพวกเขานั้น ตราบใดที่มีข่าวใดๆของเจ้าเด็กนั่นปรากฏขึ้นมา ไม่สามารถที่จะหลบหนีไปจากแวดวงเครือข่ายของพวกเขาได้อย่างแน่นอน

……….

ในช่วงเวลานี้  ณ ตระกูลเย่

เย่เมิ่งเหยาก็โมโหน้องสาวเย่เจียเจียของตนเองอย่างมาก เธอได้บอกให้น้องสาวของเธออยู่ห่างจากเจ้านักต้มตุ๋นอู๋ตี่นั่นไว้ ห้ามอยู่ด้วยกันอีก เป็นการหลีกเลี่ยงการที่จะส่งผลกระทบในทางที่ไม่ดีต่อเธอ

ทว่าก็ไม่คาดคิดว่าน้องสาวของเธอที่เชื่อฟังมาตลอด น้องสาวที่ชาญฉลาดของเธอ กลับปฏิเสธตนเองอย่างไม่คาดคิด อีกทั้งยังบอกว่าเธอนั้นเป็นพี่สาวที่ไม่ดี ไม่ต้องการที่จะเล่นด้วยอีกต่อไป จากนั้นก็ปิดประตูห้องใส่เธออย่างกะทันหัน

“เจ้าบัดซบอู๋ตี่ ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของเจ้าบัดซบนั่น!”

เย่เมิ่งเหยากัดฟันอย่างแน่น เธอและน้องสาวของเธอนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีมาตลอด เป็นพี่น้องที่สนิทสนมกันอย่างมาก ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกัน นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่เกิดมาซึ่งเธอและน้องสาวของเธอได้ทะเลาะกัน

อย่างไม่ต้องสงสัย เจ้าอู๋ตี่นั่นจะต้องเป็นผู้ที่หว่านเมล็ด ทำให้เธอและน้องสาวของเธอต้องผิดใจกัน เจ้านั่นคือปีศาจที่ไม่ต้องการเห็นความปรองดองของผู้อื่น

“ไม่คาดคิดว่าจะควบแน่นร่างจักรพรรดิพงไพรขึ้นมาได้? เยี่ยม เยี่ยมจริงๆ หากเป็นเช่นนั้นเจ้าก็ไม่สามารถที่จะหลบหนีได้อย่างแน่นอน” เย่เมิ่งเหยากำหมัดขึ้นมา ดวงตาที่งดงามของเธอเผยให้เห็นถึงจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัว

หากเจ้าอู๋ตี่นั่นเป็นคนปกติธรรมดาที่ไม่ได้มีพรสวรรค์ใดๆนั้น จากนั้นภายในจักรวาลที่ไร้ขอบเขต ดาวเคราะห์นับล้านๆดวง มนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วน การที่ต้องการจะหาบุคคลเช่นนี้ที่ทำการหลบซ่อนนั้น เป็นเรื่องที่ยากอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ต่อให้เป็นยอดฝีมือในระดับเซนต์ก็อาจจะไม่สามารถหาฝ่ายตรงข้ามได้พบ

ทว่าหากฝ่ายตรงข้ามมีลักษณะเฉพาะตัวเช่นนี้ การที่จะตามหาเขานั้นก็มีความง่ายขึ้นมาอย่างมาก

โดยเฉพาะร่างจักรพรรดิพงไพรนั้น นี่เป็นหนึ่งในร่างพิเศษของจักรวาล เป็นสิ่งที่หาพบได้ยากมาก มีผู้คนน้อยมากที่จะมีได้ เห็นได้ชัดว่าลักษณะเฉพาะตัวเช่นนี้เป็นสิ่งที่โดดเด่นอย่างแน่นอน

เรียกได้ว่าหากในสถานที่ใดมีข่าวของร่างจักรพรรดิพงไพรปรากฏขึ้นมา จากนั้นจะต้องเป็นเจ้าอู๋ตี่อย่างแน่นอนที่อยู่ในสถานที่แห่งนั้น ไม่ต้องสงสัย

นี่ไม่รู้ว่าง่ายดายยิ่งกว่าการเสาะหาอย่างไม่มีเบาะแสแค่ไหน

“ทว่าในเมื่อเขาเป็นอัจฉริยะที่สามารถควบแน่นร่างจักรพรรดิพงไพรขึ้นมาได้นั้น ก่อนหน้านี้ทำไมจะต้องทอดทิ้งระดับแกนพลังฉีของตนเองเพื่อเข้าไปในหมู่บ้านฝึกหัดกัน? นี่มันไม่ใช่การกระทำที่โง่เขลาหรือ?”

เย่เมิ่งเหยานึกสงสัยขึ้นมาอย่างกะทันหัน “ไม่ อาจจะไม่ใช่เป็นทอดทิ้งระดับแกนพลังฉีของตนเอง บางทีอาจจะเป็นการผนึกแกนพลังฉีของตนเองไว้ชั่วคราวเพื่อเข้าไปในหมู่บ้านฝึกหัด เป็นเหมือนกับข้า”

“ทว่าการที่เข้าไปในหมู่บ้านฝึกหัดนั้น เขาต้องการที่จะทำอะไรกัน? ต้องการที่จะชักจูงทายาทในตระกูลเย่ของข้าไปในทางที่ผิด? หรือว่าต้องการที่จะแสวงหาผลประโยชน์จากเย่เจียเจีย? อันที่จริงเขามีเป้าหมายอะไรกัน?!”

ยิ่งเธอคิดมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งอยากรู้ความจริงมากเท่านั้น ทุกอย่างมันดูไม่สมเหตุสมผล

“ลืมมันไปเถอะ ไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องเหล่านี้ รอให้ได้จับตัวเจ้าลูกหมานั่นมาและทรมานอย่างสาสม จากนั้นก็จะได้รู้ทุกอย่างเอง”

จิตสังหารของเย่เมิ่งเหยาเดือดดาลออกมา

………….

ในช่วงเวลานี้ เซี่ยปิงก็ได้กลับคืนสู่โลกแห่งความเป็นจริง นั่งอยู่ในห้องที่เงียบสงบภายในวิลล่าของเขาบนเกาะไจแอน

หล่ง หล่ง หล่ง~

การที่เขาได้กลืนกินสมุนไพรวิญญาณจำนวนมหาศาลจากโลกเสมือนจริง พลังฉีที่ไร้ขอบเขตก็ได้หลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของเขา ร่างกายของเขาเป็นเหมือนกับเตาหลอมก็ว่าได้ กลั่นกรองพลังงานเหล่านี้อย่างรวดเร็ว

ในช่วงเวลานี้ ส่วนลึกของพื้นที่ราชวังสีม่วง เป็นท้องทะเลที่มีคลื่นแรง พลังเวทมนตร์ที่แปรเปลี่ยนได้เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ หลั่ว หลั่ว หลั่ว ส่งเสียงดังขึ้นมา พื้นที่ของราชวังสีม่วงก็ได้ขยายออกไปเช่นกัน

หลังจากการต่อสู้นี้ เซี่ยปิงก็ยิ่งเข้าใจถึงความลึกซึ้งของระดับหล่อหลอมสมบัติมากขึ้น ในเวลาเดียวกันก็ได้กลืนกินสมุนไพรวิญญาณเป็นจำนวนมหาศาล ทำให้แกนพลังฉีของเขาพัฒนาขึ้นมาอย่างมาก

ทันใดนั้นแกนพลังฉีของเขาก็พัฒนาขึ้นมาจนถึงจุดสูงสุดของระดับหล่อหลอมสมบัติขั้นเริ่มต้น

ในช่วงเวลานี้เซี่ยปิงสัมผัสได้เหมือนกับว่าตนเองได้แตะจุดก้าวผ่าน ตราบใดที่ทำลายผ่านไปได้ เขาก็จะสามารถเลื่อนขั้นขึ้นไปในระดับหล่อหลอมสมบัติขั้นกลาง

ในตอนนี้ เสียงของระบบได้ดังขึ้นมา “ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ครั้งนี้ได้ดึงดูดความเกลียดชังมาอย่างมหาศาล ได้รับคะแนนความเกลียดชังมาทั้งหมด1.3พันล้านคะแนน หวังว่าผู้เล่นจะพยายามต่อไป”

ได้ยินเช่นนี้ เซี่ยปิงก็กลั้นหายใจ หากรวมเข้ากับคะแนนความเกลียดชังก่อนหน้านี้นั้น เขาก็จะมีคะแนนความเกลียดชังประมาณ3.8พันล้านคะแนนไม่ใช่หรือ? นี่มันช่างเป็นการร่ำรวยขึ้นมาภายในคืนเดียวจริงๆ