“เป็นไปไม่ได้!”เทาเท่ปฏิเสธคำพูดของจอร์แดนอย่างไม่ลังเลทันที เลือกยืนฝั่งหลินจืออย่างหนักแน่น
สคริปต์ส่วนนั้นที่หลินจือเปลี่ยน มีสไตล์ที่เป็นของเธอเอง
อีกอย่าง หลินจือก็ไม่ชอบทำเรื่องสกปรกเช่นนี้
“เป็นแบบนี้ได้ไงกัน?”หลินจือที่อยู่ข้างๆก็โกรธจนเบ้าตาแดงก่ำ“ต้นฉบับที่ฉันส่งไป ใช้ใจเขียนออกมาทีละตัวๆ ฉันไม่ได้กินข้าวทั้งวันเลย”
หลินจือเป็นนักเขียนต้นฉบับ และสิ่งที่น่ารำคาญที่สุดในชีวิตก็คือการลอกเลียนแบบ
แต่ตอนนี้เธอกลับถูกตั้งข้อหาลอกเลียนแบบ รู้ได้เลยว่าเธอโกรธและทำอะไรไม่ถูกมากแค่ไหน
เทาเท่เห็นเธอเสียการควบคุมอารมณ์อย่างรุนแรง ก็อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นกุมมือที่เธอวางไว้ที่ขาเบาๆ ปลอบเธอแบบนี้ เพื่อให้เธอใจเย็นลง
มีเขาอยู่เสมอ
ถ้าไม่ใช่ว่าจอร์แดนยังอยู่ตรงหน้า เทาเท่ก็คงจะเอาหลินจือมาปลอบไว้ในอ้อมแขนแล้ว
จอร์แดนเหลือบมองเขาที่ทำตัวสนิทสนมแบบนี้ ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เขาก็ไม่รู้ว่าทำไม มักจะรู้สึกว่าเทาเท่ทำแบบนี้ต่อหลินจือทำให้ในใจเขานั้นไม่สบายใจ ไม่ถูกชะตากับเทาเท่แปลกๆ
เทาเท่ปล่อยมือที่ตัวเองจับหลินจือไว้ หันไปถามเธอเสียงทุ้มต่ำ:“ช่วงนี้คอมคุณได้รับจดหมายอะไรแปลกๆบ้างไหม?คุณได้เปิดดูเปล่า?”
หลินจือต้องไม่พูดคุยกับซูซีและเนมาว่าเธอจะเปลี่ยนบทอย่างไรแน่ๆ และไม่ไปเจอพวกเขาแน่
เทาเท่วิเคราะห์ ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือซูซีกับเนมาหาคนมาใช้ไวรัสคอมบุกคอมของหลินจือ จากนั้นขโมยต้นฉบับของเธอไป
ภายใต้การตักเตือนของเทาเท่ หลินจือก็คิดออก:“ได้รับอีเมลสองสามฉบับจริงๆ กล่องจดหมายของฉันจะได้รับอีเมลปกติ แล้วปกติแล้วฉันก็จะกดเปิดดู ไม่มีอะไรก็จะลบ”
เทาเท่ก็มั่นใจทันที พวกซูซีจะต้องใช้วิธีนี้ขโมยต้นฉบับของเธอแน่
คอมของเธอถูกเฝ้าระวังจากทางไกล เธอเขียนเสร็จก็ไม่ได้ส่งให้จอร์แดนทันที แต่ส่งให้เจเทาวน์กับเทาเท่ดูก่อน รอคำวิจารณ์ของพวกเขา
ส่วนซูซีกับเนมาใช้ช่องว่างนี้ ได้ต้นฉบับมาก็ส่งให้จอร์แดน เร็วกว่าพวกเขาครึ่งชั่วโมง
เรื่องนี้จะโทษหลินจือที่เปิดเมลมั่วไม่ได้ เพราะปกติเธอก็ทำแบบนี้
พูดได้แค่ว่าความคิดและจิตใจของซูซีกับเนมานั้นโหดร้ายมากไป หลินจือที่ไร้เดียงสาไม่ใช่คู่ต่อสู้พวกเขาเลย
ไม่น่าล่ะสองคนนั้นถึงเพิ่งบอกว่าให้พวกเขาโชคดี ไม่น่าล่ะถึงตามาจากเมืองเจสเวิร์ด พวกเขาสองคนต่างมีท่าทีของชัยชนะ
ชนะด้วยวิธีสกปรกเช่นนี้ พวกเขารู้สึกมีศักดิ์ศรีเหรอ?
เทาเท่ระงับความโกรธที่อยากจะเอาซูซีกับเนมาถึงตาย เงยมองไปที่จอร์แดนแล้วพูด:“ในเมื่อคุณเห็นต้นฉบับทั้งสองเล่มนั้นแล้ว ว่าตามเหตุผลแล้วน่าจะคัดพวกเราที่ส่งภายหลังออกสิ ทำไมยังเรียกพวกเรามาด้วยล่ะ?”
จอร์แดนหัวเราะเบาๆ:“ครั้งที่แล้วพวกเราเจอกันแล้ว ผมไม่เชื่อว่าจากตัวตนและสถานะของคุณ จะต้องใช้วิธีการทุจริตโดยลอกสคริปต์คนอื่นมาเอาลิขสิทธิ์นี้ไป”
“แทนที่จะทำเรื่องไร้คุณธรรมแบบนี้ สู้คุณไปจ้างนักเขียนบทคนนั้นมาที่บริษัทคุณด้วยเงินที่สูงกว่าไม่ดีกว่าเหรอ”
ทั้งสองต่างเห็นด้วยเหมือนกัน การวิเคราะห์ของจอร์แดนนี้แม่นยำอย่างมาก
เทาเท่รู้สึกชื่นชมจอร์แดนที่ตัดสินตัวเองออกมาอย่างถูกต้อง:“ก็จริง”
สายตาของจอร์แดนมองไปที่ใบหน้าหลินจือที่ตาแดงก่ำอยู่ข้างๆ:“วันนี้เจอสาวน้อยนักเขียนบทคนนี้ ผมก็แน่ใจว่าใครกันที่ลงมือทำสิ่งไม่ดี”
“ดวงตาของเธอนั้นชัดเจน แค่มองไปก็รู้ว่าเธอเป็นคนที่สวยงาม”ตอนที่จอร์แดนพูดคำนี้ น้ำเสียงนั้นจริงใจและเป็นมิตร
หลินจือที่ในใจกำลังทุกข์ทรมาน พอได้ยินคำพูดของจอร์แดนก็น้ำตาไหลทันที
เธอขอบคุณจอร์แดนอย่างสะอึกสะอื้น:“ขอบคุณที่คุณเชื่อใจฉันค่ะ”
ตอนที่คนๆหนึ่งถูกหมิ่นประมาทว่าลอกเลียนแบบ และตอนที่มีคนสนับสนุนตัวเองยืนหยัดอยู่ข้างกาย เธอจะไม่ประทับใจก็คงไม่ได้ ไม่น้ำตาไหลก็คงไม่ใช่
เทาเท่พูดเสียงขรีมอีกว่า:“คุณจอร์แดน พวกเราก็ไม่สามารถให้คุณมาตัดสินความบริสุทธิ์ของเธอไปเลยได้หรอก ความบริสุทธิ์ของเธอ ควรจะใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองมาพิสูจน์”
หลินจือพยักหน้าอย่างแรง สื่อว่าเห็นด้วยกับเทาเท่
เธอไม่เคยคิดเลยว่า เทาเท่จะมีวันที่เข้าใจเธอแบบนี้
เธอไม่พอใจจริงๆที่ถูกกล่าวหาว่าลอกงาน ถึงแม้จอร์แดนจะเชื่อเธอ แต่เธอยังอยากพิสูจน์ตัวเองใหม่อีกครั้ง ก็แค่เธอคิดไม่ถึงว่าเทาเท่จะพูดคำพูดในใจเธอออกมาก่อน
จอร์แดนถามเทาเท่:“คุณคิดจะทำอย่างไร?”
เทาเท่คิดแล้วพูดไปว่า:“ผมหวังว่าคุณจะเลือกอีกตอนมา บอกว่าในการเลือกนักเขียนบทไม่กี่บริษัทครั้งสุดท้ายนั้น คิดว่ายอดเยี่ยมหมด อยากทดลองอีกรอบ”
เขาพูดจบก็หันไปมองที่หลินจืออีกครั้ง:“ตอนนี้คอมเธอจะต้องโดนไวรัสแน่ ใช้ไม่ได้ กลับไป คุณใช้คอมผมเขียน”
“คุณเขียนเสร็จผมจะส่งให้คุณจอร์แดนเป็นอย่างแรก จากนั้นคุณก็เขียนอีกเวอร์ชันในคอมคุณไป”
ถ้าไม่เคยจัดการไวรัสในคอมหลินจือ พวกเขาก็ยังสามารถลอกต้นฉบับเธอได้อยู่
ถ้าพวกเขาส่งมาเป็นเวอร์ชันนั้นที่หลินจือเขียนไปมั่วๆ งั้นบทสรุปก็ชัดเจน
หลินจือพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อเสนอของเทาเท่ แต่เธอก็กังวลเล็กน้อย:“งั้นสคริปต์”The Legend of Concubine Rong ”ในคอมฉัน จะไม่ถูกขโมยด้วยเหรอ?”
“นั่นไม่ต้องร้อนใจหรอก”สายตาเทาเท่ดูนิ่งและเหินห่าง“วางใจเถอะ ถ้าพวกเขากล้าขโมย งั้นก็ต้องกล้ารับผลที่ตามมา”
มีเทาเท่พูดแบบนี้ หลินจือจึงโล่งอก
จอร์แดนจึงเสนอไปว่า:“ไม่งั้นคุณก็เขียนในคอมผมตอนนี้เลยสิ แบบนี้จะปลอดภัยที่สุด”
ถึงวิธีนี้จะปลอดภัยมาก แต่ว่าหลินจือถามอย่างกังวลเล็กน้อย:“แต่ว่า แบบนี้ไม่รบกวนท่านเหรอคะ?”
หลินจือคิดว่าเดี๋ยวจอร์แดนยังนัดเจอบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์แห่งอื่นอีก และเธอกับเทาเท่มาเยี่ยมเป็นครั้งแรกก็ยังอยู่ตั้งนานขนาดนี้ มันจะรบกวนมากไป
จอร์แดนพูดด้วยรอยยิ้ม:“ไม่เป็นไร”
จากนั้นเขาจึงอธิบายอีกว่า:“ที่จริงผมนัดแค่พวกคุณสองบริษัท การแก้ของนักเขียนบทฟิลคูลผมเห็นแล้วก็พอใจเลย ไม่คิดจะหาบริษัทอื่นแล้ว ก็แค่คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้ภายหลัง”
“ดังนั้นเลยเรียกพวกคณมา สัมภาษณ์ด้วยตัวเอง”
“ที่ว่ากันว่าลักษณะของคนเกิดจากจิตใจหนุนส่งแสดงออกมา พอผมเจอหน้าซูซีกับเนมา ในใจก็รู้ว่าพวกเขาเป็นคนอย่างไรแล้ว”
จอร์แดนพูดจบก็ยืนขึ้นมาพูดกับหลินจือ:“ไปเถอะ ผมจะพาคุณไปห้องทำงาน”
หลินจือเทาเท่พยักหน้าหันไปมองที่เทาเท่ เขาพยักหน้าสื่อว่าไปทำตามที่จอร์แดนเสนอได้
จากนั้นทั้งสองก็ลุกขึ้นตามจอร์แดนไปห้องทำงานด้วยกัน จอร์แดนเดินไปพูดไปว่า:“ร่างกายภรรยาผมไม่ดี ดังนั้นห้องทำงานผมเลยอยู่ชั้นหนึ่ง แบบนี้เวลาผมเขียนงานก็จะไม่รบกวนเขา”
พูดถึงคุณหญิงแล้ว เทาเท่ก็ถาม:“วันนี้คุณวิเวียนไม่อยู่บ้านเหรอครับ?”
จอร์แดนถอนหายใจเล็กน้อย:“ช่วงนี้เธอเข้าโรงพยาบาลอีกแล้ว เดี๋ยวทางพวกคุณเสร็จแล้วผมก็จะไปอยู่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนเธอ”
หัวข้อนี้ดูหนักอึ้งไปเล็กน้อย ดังนั้นเลยไม่มีใครพูดถึงอีก