บทที่ 139 ลอกเลียนแบบ

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

โดนเทาเท่กวนแบบนี้ หลินจือก็ไม่มีอารมณ์กินข้าวแล้ว

แต่ต่อมาเธอก็คิดได้อีกว่า ทำไมต้องทรมานร่างกายตัวเองเพราะคนไม่สำคัญด้วย?

เธอต้องกินอิ่มนอนหลับ แบบนี้พรุ่งนี้ก็จะมีจิตใจและร่างกายรับมือกับการสัมภาษณ์ไม่ใช่เหรอ?

ดังนั้น เธอจึงนั่งลงตรงหน้าโต๊ะอาหารอีกครั้ง กินไปคำใหญ่ๆ

ต้องยอมรับว่า อาหารของโรงแรมหรูแบบนี้อร่อยมากจริงๆ หลินจือกินจนหยุดไม่ได้

กินอิ่มแล้วอารมณ์แย่ๆของเธอเมื่อกี๊ก็ถูกย่อยไปด้วย เธอคิดเล็กน้อยจึงหยิบโทรศัพท์ส่งข้อความหาเทาเท่ที่อยู่ห้องข้างๆ:“ประธานเทาเท่ คุณจะกินอะไรหน่อยไหม?”

พรุ่งนี้พวกเขาต้องไปเผชิญหน้ากับการสัมภาษณ์ของจอร์แดนด้วยกัน ถ้าเขาปวดท้องทรุดลง เธอกลัวว่าเธอจะรับมือไม่ไหว

แป๊บเดียวเทาเท่ก็ตอบเธอ:“ห่วงผมขนาดนี้เชียว?”

หลินจือสูดหายใจลึกๆแล้วตอบ:“เพื่อที่งานวันพรุ่งนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่น”

หมายความว่า ท้องของคุณอ่อนแอแค่ไหน ตัวเองน่าจะรู้ดีนี่?

หลินจือส่งเสร็จแป๊บเดียวเทาเท่ก็มาเคาะประตูของเธอ หลินจือเปิดประตูเชิญเขาเข้ามา

เทาเท่มองอาหารบนโต๊ะ ก็อดไม่ได้ที่จะถาม:“อย่างอื่นคุณกินไปเหรอ?”

“ใช่”หลินจือตอบไปตรงๆ

เทาเท่กัดฟันส่งเสียงฮึดฮัด:“คุณนี่กินเก่งจริงๆ!”

เขาเพิ่งโกรธจนหมดอารมณ์กินข้าวแล้วออกไปเลย เธอก็ดันกินได้ซะเยอะแบบนี้?

ถึงเขาไม่อยากยอมรับว่าตอนนี้ตัวเองส่งผลกระทบอะไรต่อหลินจือไม่ได้เลย แต่ความเป็นจริงก็ได้สอนเขา

หลินจือ:“……”

คิดดูแล้วไม่มีผู้หญิงที่ไหนอยากฟังหรอกคำว่า “คุณนี่กินเก่งจริงๆ”

เหอะ สมควรแล้วที่เขาแต่งงานแล้วหย่า มีแฟนก็เลิก

“เชิญคุณทานให้อร่อยนะคะ” หลินจือไม่อยากสนเขา พูดคำนี้เสร็จก็กลับไปที่ห้องนอน

เห็นหน้าบ่อยๆจะหงุดหงิดได้

เพราะว่าดึกมากแล้ว ดังนั้นเทาเท่กินข้าวเสร็จก็ออกไปเลย

เช้าวันถัดมาทั้งสองเดินทางไปที่พักของจอร์แดน ตั้งอยู่ที่เรือนสี่ประสานตรงที่ดินอันทรงเกียรติในเมืองเวลฟ์

เป็นครั้งแรกที่หลินจือมาสถานที่อย่างนี้ บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยต้นไผ่สูงตระหง่าน ทำให้คนรู้สึกมีคุณธรรมสูงส่งอย่างอธิบายไม่ถูก

หลินจือมองไปรอบๆอย่างสงสัย แล้วจู่ๆก็ได้ยินเทาเท่ที่อยู่ข้างๆถามเธอว่า:“คุณอยากได้เรือนสี่ประสานแบบนี้เหรอ?”

หลินจือรีบส่ายหน้า:“ไม่อยาก ไม่อยากเลยสักนิด”

เธอแค่ชื่นชมเท่านั้นเอง อยากได้ที่ไหนกัน?

อีกอย่าง ถ้าเธออยากได้เธอก็ต้องชั่งน้ำหนักตัวเองด้วย เรือนสี่ประสานแบบนี้ เป็นสถานที่ที่เธออยากได้ก็ซื้อได้เหรอไง?

เทาเท่มองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง:“ไม่ได้มีแฟนเหรอ?อยากได้ก็ให้เขาซื้อให้คุณสิ”

หลินจือโกรธจนกัดฟัน เธอรู้สึกว่าเทาเท่กำลังแอบเยาะเย้ยสภาพการเงินของเจเทาวน์อยู่

เทาเท่และฟอเรนากรุ๊ปที่อยู่เบื้องหลังเขา เงินทุนหนามาก จะซื้อบ้านลักษณะเรือนสี่ประสานแบบนี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ทางด้านการเงินของเจเทาวน์ดูเหมือนจะไปไม่ถึงจุดนี้

ไม่รู้ว่าเทาเท่เอาความเหนือกว่านี้มาจากไหน มีเงินคือทุกสิ่งทุกอย่างเหรอ?

ดังนั้น เธอคิดเล็กน้อยและตอบเขาไปว่า:“มีเงินก็ไม่ใช่ว่าจะซื้อทุกอย่างได้”

หลินจือคิดว่าเทาเท่จะไม่ชอบประโยคนี้ของเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะยอมรับความคิดเห็นนี้อย่างรวดเร็ว:“ก็เป็นแบบนี้จริงๆ”

หลินจือมองเขาแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไร

ตอนที่ทั้งสองถูกพามาผ่านหน้าบ้านภายใต้การนำทางของผู้ช่วยจอร์แดน เงยหน้าไปก็เจอซูซีกับเนมาพอดี

ชัดเจนมากว่า เวลาที่ทั้งสองคนเจอกับจอร์แดนอยู่ก่อนหน้าพวกเขา

ซูซีกับเนมาดูท่าทางพอใจ มองออกว่าพวกเขากับจอร์แดนคุยกันอย่างมีความสุข

ตอนทั้งสี่เจอกัน ซูซีพูดกับเทาเท่ด้วยรอยยิ้มก่อน:“ประธานเทาเท่ ขอให้พวกคุณโชคดีนะ”

เทาเท่ไม่มองเธอสักนิด เขาพาหลินจือออกไป

ซูซีกัดฟันเก็บรอยยิ้มบนใบหน้า เนมาที่อยู่ข้างๆปลอบเธอ:“เดี๋ยวพวกเขาก็ร้องไห้แล้ว ทำไมต้องทะเลาะกับพวกเขาที่มีความรู้ต่ำกว่าด้วย”

พอซูซีนึกถึงทุกอย่างที่เทาเท่กับหลินจือจะต้องเผชิญต่อไป ทันใดนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ

ใช่ เทาเท่รวยแล้วไง หลินจือมีความสามารถแล้วไง พวกเขามีวิธีนี่

เทาเท่กับหลินจือผ่านลานหน้าบ้านยาวๆมาที่หลังบ้าน ห้องที่หลังบ้านต่างเป็นหน้าต่างทรงสูงที่สดใส มองไปแล้วให้ความรู้สึกสงบ ในใจของหลินจือก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ช่างเป็นชีวิตที่สบายเหมือนดินแดนแห่งความฝันเลย

ใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่สงบและสวยงามแบบนี้ทุกวัน แรงบันดาลใจในการเขียนคงมีอย่างต่อเนื่องในใจแน่ๆ

จอร์แดนออกมาต้อนรับพวกเขาจากด้านในห้อง เดิมทีที่น่าจะทักทายพวกเขาอย่างปกติ

แต่จอร์แดนที่สุขุมและนิ่งมาเสมอ ตอนที่เงยมองเห็นหลินจือที่ยืนอยู่ข้างเทาเท่ ก็ชะงักไปที่เธออย่างเสียอาการ:“คุณ——”

หลินจือไม่สังเกตเห็นความผิดปกติของจอร์แดน ก้มลงโค้งให้อย่างจริงใจและประหม่า จากนั้นแนะนำตัวเองไปว่า:“สวัสดีค่ะคุณจอร์แดน ฉันชื่อหลินจือ นามปากกาคือฟิลคูล ดีใจมากที่ได้พบท่านค่ะ”

หลินจือแนะนำตัวเองแบบนี้ ในที่สุดก็ดึงสติของจอร์แดนกลับมาได้

หลังจากเขาตระหนักได้ถึงการเสียอาการของตัวเองไปก็สงบอารมณ์คืนอย่างรวดเร็ว ยื่นมือออกมาทางหลินจือแล้วพูดอย่างอ่อนโยน:“สวัสดีครับ”

จากนั้นก็เช็กแฮนด์กับเทาเท่:“ประธานเทาเท่ เชิญครับ”

เทาเท่พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็เข้ามาในห้องรับแขกของจอร์แดนกับหลินจือ

ที่จอร์แดนเสียอาการไปเมื่อกี๊ เพราะว่าหลินจือตื่นเต้นมากไปเลยไม่ได้สังเกตเห็น แต่เทาเท่กลับสังเกตเห็น

ในความประทับใจของเทาเท่ จอร์แดนน่าจะเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ได้ดี ทำไมพอเห็นหลินจือก็ตะลึงงันไป?

แต่ชัดเจนมากว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเจาะรายละเอียดเล็กๆนี้

จอร์แดนเชิญเทาเท่กับหลินจือนั่งตรงโซฟา คนใช้เอาชาที่เพิ่งชงใหม่มาให้ทั้งสอง

จอร์แดนทนไม่ไหว สายตานั้นมองไปที่ใบหน้าหญิงสาวตรงข้ามอีกครั้ง

ไม่รู้เป็นเพราะเขาแก่แล้วสายตาเลยไม่ดีหรืออย่างไร เขามักจะรู้สึกว่าผู้หญิงตรงข้ามนี้ หน้าตาคล้ายเพื่อนเก่าเขาเล็กน้อย

“คุณจอร์แดน พวกเราเริ่มกันเถอะ”เทาเท่พูดทำลายความเงียบก่อน

ถึงจะบอกว่าจอร์แดนเป็นผู้อาวุโสที่มีคุณธรรมสูง แต่ยังไงแล้วจอร์แดนก็เป็นผู้ชาย สายตาเขามองไปที่หลินจืออีกครั้ง ในใจของเทาเท่ไม่พอใจอย่างมาก

จอร์แดนนี้ ถึงภายนอกจะดูทำเป็นรักภรรยามากมาย แต่ที่จริงแล้วคงเป็นผู้ชายสารเลวที่ชอบสาวๆสวยๆคนหนึ่งสินะ?

จอร์แดนละสายตากลับ เอาสติดึงกลับไปที่งาน

และพอพูดถึงงาน สีหน้าของจอร์แดนก็ดูจริงจังขึ้นมาทันที เขามองไปที่เทาเท่กับหลินจือแล้วพูด:“ซูซีกับเนมาที่เพิ่งไปเมื่อกี๊ พวกคุณเห็นหรือยัง?”

ทั้งสองคนพยักหน้า:“อือ”

จอร์แดนมองสำรวจทั้งสองคนด้วยสายตาซับซ้อน จากนั้นพูดทีละคำ:“พูดตรงๆนะ ต้นฉบับที่พวกคุณให้มา กับต้นฉบับที่พวกเขาสองคนให้มาเมื่อกี๊ เหมือนกันเลย”

“อะไรนะ?”เทาเท่กับหลินจือถามย้อนอย่างไม่อยากจะเชื่อ

จอร์แดนพูดอีกว่า:“และก็ ต้นฉบับของพวกเขาส่งมาให้ฉันไวกว่าพวกคุณครึ่งชั่วโมง”

ความหมายคือ ต้นฉบับของหลินจือนั้นลอกเนมา