บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 202 ถ่วงเวลา
“ท่านเจ้าอาวาส ถ่วงเวลาเอาไว้รอให้พวกอาจารย์ของข้าขึ้นเขามาก็พอ”อู๋หมิงตะโกนพลางพุ่งตัวเข้าหาเม่าประทับสวรรค์ ด้วยความเร็วของอู๋หมิงและไป๋จูเหวินทําให้สามารถจํากัดพื้นที่เคลื่อนไหวของเฒ่าประทับสวรรค์เอาไว้
ฉีกก่อนที่เฒ่าประทับสวรรค์จะใช้ฝ่ามือประกายอัสนีออกมา อิหมิงก็ชิงแทงเข้าที่ไหล่ของมันอย่างจังเพื่อหยุดกระบวนท่าเอาไว้ เรียกได้ว่ากระบวนท่าในตําราของพยัคฆ์อัสนีนั้นเพียงเดินพลังเซียนอู๋หมิงก็สามารถอ่านออกจนหมดแล้ว
ตูม! เห็นอู๋หมิงสะกัดการโจมตีของเฒ่าประทับสวรรค์เอาไว้ได้ ไป๋จูเหวินก็ชิงโอกาสนี้ชัดฝ่ามือเพลิงพิโรธในทันที แม้จะรู้ดีว่าไม่ค่อยได้ผลนักแต่อย่างน้อยก็สร้างความเสียหาย ให้อีกฝ่านได้บ้าง
“กรรร”เม่าประทับสวรรค์คํารามลั่นก่อนจะเคลื่อนไหวอ ย่างรวดเร็วเพื่อตรงเข้ามาเล่นงานหยงเวย
เปรี้ยง! อิหมิงที่ความเร็วเหนือกว่าเล็กน้อยชิงมายืนขวางเอาไว้แล้วโจมตีใส่จุดอ่อนกระบวนท่าอย่างรวดเร็ว
ตูม!! เฒ่าประทับสวรรค์คราวนี้ไม่ได้อ่อนแอเหมือนคราวก่อนที่อู๋หมิงเคยสู้ แม้จะโจมตีเข้าจุดอ่อน แต่เมื่อพลังเซียนของเฒ่าประทับสวรรค์หลั่งไหลออกมา แม้จะเป็นจุดอ่อนก็ไม่อาจทําลายได้ ทําให้หยงเวยต้องยกดาบมรกตขึ้นมาป้องกันเสียเอง
แกรักๆๆๆ อยู่ๆในมือของหยงเวยก็ปรากฏโซ่มรกตเส้นหนึ่งออกมา ซึ่งโซ่เส้นนี้จําเป็นต่อการใช้วิชาที่เฒ่าประทับสวรรค์เคยให้มันมาก่อนหน้านี้
ครึก! โซ่มรกตตรงเข้ารัดร่างของเฒ่าประทับสวรรค์เอาไว้ ก่อนที่หยงเวยจะดึงโซ่เพื่อดึงร่างของเม่าประทับสวรรค์เข้ามาหาตัวเอง
เปรี้ยง! ดาบมรกตของหยงเวยเฉือนเข้าที่คอของเฒ่าประทับสวรรค์ แต่น่าเสียดายที่กําลังของหยงเวยไม่อาจเจาะทะลุพลังคุ้มกันของเฒ่าประทับสวรรค์ได้ แม้ดาบมรกตจะคมจนน่ากลัวแต่ก็ทําได้แค่กรีดผิวหนังเท่านั้น
แกรัก..หยงเวยผูกโซ่เข้ากับดาบมรกตพลางเปลี่ยนจากถือด้ามดาบมาถือโซ่แทน ก่อนที่มันจะควงโซ่ที่ติดดาบเอาไว้ตรงปลายเป็นวงกลม
เปรี้ยง! หยงเวยควงโซ่มรกตอย่างรวดเร็วก่อนจะเหวี่ยงดาบมรกตเข้าไปโจมตีอย่างรุนแรง แต่ดูเหมือนเฒ่าประทับสวรรค์จะอ่านทางออกมันเลยใช้สองมือประกบรับดาบเอาไว้อย่างทันท่วงที
ตูม! ไป๋จูเหวินใช้ฝ่ามือเพลิงผลาญคล้อยสํานึกที่รวบรวมพลังอยู่ครู่หนึ่งโจมตีใส่ร่างของเฒ่าประทับสวรรค์ในทันที คราวก่อนนั้นมันสามารถต้านแรงของฝ่ามือนี้ได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้ไปัจูเหวินพัฒนามามากแล้วทําให้ร่างของเฒ่าลอยออกไปตามแรง
“กรรร”เฒ่าประทับสวรรค์คํารามอย่างไม่พอใจเพราะเมื่อครูใกล้จะถึงตัวหยงเวยแล้วแท้ๆ แต่กลับถูกฝ่ามือของไป๋จูเหวินพัดกลับมาอยู่ที่เดิมจนได้ เพียงแต่การต่อสู้เมื่อครู่เพิ่งจะผ่านไปไม่กี่วินาทีเท่านั้น กว่าอาวุโสเทียนหมิงกับเซียนดาบจะตามขึ้นมาทันก็ต้องใช้เวลาอีกนานที่เดียว
ฟุบ! ร่างของอู๋หมิงพุ่งเข้ามาด้านข้างของเฒ่าประทับสวรรค์ ด้วยพลังธาตุสายฟ้าทําให้มันเร็วกว่าเฒ่าประทับสวรรค์อยู่อีกใจหนึ่ง แต่ที่ทําให้อู๋หมิงโจมตีได้ง่ายคือสติของเฒ่าประทับสวรรค์นั้นจดจ่ออยู่กับหยงเวยเท่านั้น
ตูม! อยู่ๆเฒ่าประทับสวรรค์ก็หันมาโจมตีอู๋หมิง ทําเอาเจ้าตัวแทบรับมือไม่ทัน แม้จะขาดสติแต่ดูเหมือนเรื่องที่ต้องกําจัดพวกหมิงเสียก่อนถึงจะฆ่าหยงเวยได้ง่ายขึ้นนั้นยังพอเข้าใจได้
วูบ! ร่างของอู๋หมิงถูกพลังสายหนึ่งดึงออกมาจากระยะโจมตีของเฒ่าประทับสวรรค์ ทําให้มันหันไปมองไป๋จูเหวินพลางพยักหน้าเล็กน้อยราวกับจะบอกขอบคุณ
“กรรร”เฒ่าประทับสวรรค์เห็นอู๋หมิงถูกดึงออกไปก็รีบตามเข้ามาทันที พริบตานั้นฝ่ามือของมันก็จ้างไปด้านหลังเพื่อเตรียมใช้ฝ่ามือประกายอัสนี
เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ! ไม่ใช่แค่หมิง แต่ไป๋จูเหวินที่ดึงอู๋หมิงออกมาก็เข้าร่วมการปะทะครั้งนี้ด้วยทําให้ เสียงวิชาฝ่ามือประกายอัสนี 3 ชุดปะทะกันถี่ยิบจนแยกเสียงออกจากกันไม่ออก เพราะทั้งไป๋จูเหวินทั้งอู๋หมิงใช้ฝ่ามือประกายอัสนีและกระบี่ประกายอัสนีพร้อมกันทําให้จํานวนครั้งที่จู่โจมออกไป มีมากกว่าเฒ่าประทับสวรรค์ที่ใช้ออกมาคนเดียวเป็นไหนๆ ทําให้คนที่ได้รับบาดเจ็บเป็นฝ่ายเฒ่าประทับสวรรค์นั่นเอง
“…”หยงเวยถึงกับพูดไม่ออกเพราะมันแทบจะเป็นคนเดียวที่ไม่ได้ใช้ความเร็วเป็นหลัก เรียกได้ว่าพอ 3 คนประลองความเร็วกันแล้วมันแทบจะหาโอกาสโจมตีแทรกไม่ได้เลย
ตูม! อยู่ๆร่างของอู๋หมิงก็กระเด็นออกมา เพราะเฒ่าประทับสวรรค์หยุดกระบวนท่าฝ่ามือประกายอัสนี้ไว้กลางคัน แล้วใช้ท่าฝ่ามือประทับสวรรค์ของตนเองโจมตีใส่อู๋หมิงเข้าอย่างจังนั่นเอง แม้กําลังทําลายจะไม่เท่าฝ่ามือเพลิงผลาญคล้อยสํานึก แต่เพราะใช้ด้วยผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 ทําให้มันมีพลังสูงอย่างมาก
“อัก”อู๋หมิงจับหน้าอกตัวเองเอาไว้พลางลุกขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งๆที่เมื่อครู่พวกมันสามารถต้านรับเฒ่าประทับสวรรค์เอาไว้ได้ระดับหนึ่งแท้ๆ แต่พลาดเพียงครั้งเดียวพวกมันที่พลังคุ้มกันต่ํากว่าก็บาดเจ็บในทันที
เปรี้ยง!! ความเร็วของอู๋หมิงตกลงอย่างเห็นได้ชัด ทําให้หยงเวยเห็นท่าไม่ดีจึงเข้าไปแทรกระหว่างการต่อสู้
เปรี้ยงๆๆ ดาบมรกตที่ผูกโซ่มรกตเอาไว้ฟันได้ทั้งระยะ ใกล้ กลาง ไกล ทําให้การโจมตีของหยงเวยยากจะคาดเดามาก เพียงแต่ผู้ให้วิชาหยงเวยไปนั้นก็เป็นตัวเฒ่าประทับ สวรรค์เอง วิชาของมันเลยอยู่ในหัวของเฒ่าประทับสวรรค์จนหมดทําให้การโจมตีของมันกับชุดกระบวนท่าของพยัคฆ์ อัสนีใช้ไม่ค่อยได้ผลกับมันนัก
เปรี้ยงๆๆ! อยู่ๆที่ด้านหลังของพวกมันก็ปรากฏ 1 ดาบ 1 กระบี่เข้ามาโจมตีเฒ่าประทับสวรรค์ เพียงแต่ไม่ใช่เซียนดาบหรือเซียนกระบี่อย่างอาวุโสเทียนหมิงแต่อย่างไร แต่มันคือต้าชิงกับต้าเฉินที่เข้ามาช่วยโจมตีนั่นเอง
“กรรร” ต้าชิงต้าเฉินแม้จะไม่ใช่อัจฉริยะที่สามารถสู้ข้าม ระดับอย่างพวกอู๋หมิงได้ แต่ด้วยพลังระดับเทียนเซียนทําให้พวกมันทั้ง 2 คนพอจะโจมตีได้ผลอยู่มาก
“นายน้อย ท่านนํายาไปให้เจ้าอาวาสก่อน” ต้าชิงว่าพลางมองไปที่เจ้าอาวาสที่มีพลังสูงที่สุดในกลุ่มพวกมัน ไม่ทราบเพราะความชราหรืออย่างไร แต่ที่โดนเฒ่าประทับสวรรค์เหวี่ยงไปเมื่อครู่ทําเอามันแทบลุกไม่ขึ้น
“เข้าใจแล้ว”ไป๋จูเหวินว่าพลางพุ่งตัวเข้าไปหาเจ้าอาวาส เพื่อเอายาออกมาให้ท่านทาน อย่างน้อยถ้าได้กําลังของเจ้าอาวาสพวกมันคงสามารถข่มเฒ่าประทับสวรรค์เอาไว้ได้ จนพวกอาวุโสตามขึ้นทันเป็นแน่
“อากก”ไป๋จูเหวินยังไปไม่ถึงครึ่งทาง อยู่ๆหยงเวยก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด นั่นเพราะมันโดนฝ่ามือของเฒ่าประทับสวรรค์กระแทกจนกระเด็นนั้นเอง พออู๋หมิงบาดเจ็บแล้วมันก็ขัดการโจมตีได้ช้าลง ทําให้การโจมตีที่บ้าคลั่งของเฒ่าประทับสวรรค์กลับมาอีกครั้ง
ตูม! อุ้หมิงเองที่พยายามเข้าไปหยุดเฒ่าประทับสวรรค์ เอาไว้ก็โดนฝ่ามือของเฒ่าประทับสวรรค์ไปเช่นกัน ทําให้อาการบาดเจ็บของมันยิ่งมากกว่าเดิมเสียอีก
“สังหารมาร”เฒ่าประทับสวรรค์ว่าพลางเดินมายืนอยู่บนร่างของหยงเวยที่ยังลุกไม่ขึ้น
“พี่เวย” หลินหลินที่อยู่ด้านหลังเห็นเฒ่าประทับสวรรค์เตรียมจะลงมือทําร้ายหยงเวย นางก็วิ่งออกมาหมายจะเข้าไปปกป้องแต่คราวนี้เป็นการโจมตีของคนระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 หากหลินหลินไปรับไม่ทราบจะบาดเจ็บเท่าไหร่เช่นกัน
เปรี้ยงๆ! กระบี่เล่มหนึ่งเข้ามาโจมตีเฒ่าประทับสวรรค์เอาไว้ก่อนที่มันจะโจมตีใส่หลินหลิน แต่กระบี่เล่มนี้ไม่ใช่ของต้าชิงหรืออาวุโสเทียนหมิงแต่อย่างไร เพราะมันคือกระบี่ของเหม่ยหลินนั่นเอง
“คุณหนูระวังด้วย”ต้าเฉินพูดด้วยท่าที่เป็นห่วง แม้พลังวิญญาณของเหม่ยหลินจะเข้าถึงขั้นก่อกําเนิดพลังเซียนแล้ว แต่พวกมันไม่อาจสัมผัสพลังอสูรของเหม่ยหลินได้ เพราะทันทีที่เข้าถึงระดับเทียนเซียนพลังอสูรในร่างของพวกมันก็หายไปหมดเสียแล้ว
ตรงกันข้าม ไป๋จูเหวินที่เห็นเหม่ยหลินออกมารับการโจมตีของเฒ่าประทับสวรรค์กลับไม่ได้เป็นห่วงนางนัก มันรีบเข้าไปป้อนยาให้เจ้าอาวาสในทันที
เครั้งๆๆๆ! กระบี่ของเหม่ยหลินวาดวิชากระบี่ดาวตกออกมาอย่างต่อเนื่อง ทําเอาเฒ่าประทับสวรรค์ต้องถอยออกมา 2 ก้าว ทําเอาพวกต้าชิงต้าเฉินต่างเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ
“สมแล้วที่เป็นบุตรสาวของหวงหลง” อู๋หมิงว่า พลางลุกขึ้นไปร่วมการต่อสู้อีกครั้ง ไม่เว้นแม้แต่หยงเวยเองยังอดประหลาดใจไม่ได้ที่หญิงสาวท่าทางบอบบางเช่นนางสามารถต้านกําลังของเฒ่าประทับสวรรค์เอาไว้ได้
“ข้าไม่เป็นไรแล้ว ไปช่วยพวกของเจ้าก่อนเถอะ”เจ้าอาวาสได้รับยาของไป๋จูเหวินก็ทุเลาอาการบาดเจ็บลงมาก ท่านรีบรวบรวมพลังเพื่อรักษาตนเองพลางบอกให้ไป๋จูเหวินกลับไปสู้ต่อ
“ขอรับ” อู๋หมิงว่าพลางหันไปมองเหม่ยหลิน แน่นอนว่านางย่อมสามารถเข้าร่วมการต่อสู้ได้อยู่แล้ว เพราะแต่เดิม นางก็ถือเป็นอัจฉริยะที่เทียบเคียงอู๋หมิงได้เลย แถมพลังของนางก็ไม่เหมือนไป๋จูเหวินอีกด้วยเพราะนอกจากพลังอสูรจะสูงมากแล้ว พลังวิญญาณของนางก็สูงมากเช่นกัน ทําให้นางนั้นสมควรมีพลังมากกว่าหยงเวยเสียอีก
เครั้ง! น่าเสียดายที่กระบี่ดาวตกไม่เหมือนวิชาของพวกไป๋จูเหวิน แม้จะเป็นยอดวิชาแต่ก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมเท่า 18 ฝ่ามือท่องแดนอสูร หรือกระบี่นิรนามที่เอาตําราของน้าพยัคฆ์เข้าไปเสริม หากเทียบกันกระบี่ดาวตกคงระดับพอๆกับวิชาดาบของหยงเวย แต่เพราะหยงเวยมีเกราะที่แข็งแกร่งและดาบที่น่าหวาดกลัว ทําให้กําลังโดยรวมเหนือกว่าเหม่ยหลินอยู่มาก
“ถ้านางฝึกฝามือของข้าจะเป็นยังไงนะ”ไป๋จูเหวินสงสัยพลางเข้าไปร่วมการต่อสู้อีกครั้ง หากถ่วงเวลาได้อีกสัก 5 นาที พวกอาวุโสเทียนหมิงคงตามขึ้นมาทันแน่ๆ