“หนึ่ง สอง สาม สี่!”

“สอง สอง สาม สี่!”

“พยายามหน่อย กระโดด!”

เสียงของชายชราเผยร่องรอยความตื่นเต้น ทะลวงผ่านพื้นที่มืดมิดอันว่างเปล่า

ชายชราหัวล้านร่ายรำอย่างกระตือรือร้นตรงหน้า กู่ฉิงซานตามหลังขณะมองและเรียนรู้ ทั้งสองเหงื่อออกมาก

ท่วงท่าการเต้นของพวกเขาจะไม่เข้ากับสภาพแวดล้อมตอนนี้ แถมไม่ช่วยป้องกันการปรากฏตัวของตัวตนแปลกประหลาดจากความว่างเปล่า

กู่ฉิงซานมองไม่เห็นพวกมัน

ทว่า ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์ผู้มีสัมผัสวิญญาณยอดเยี่ยม กู่ฉิงซานสามารถสัมผัสถึงตัวตนของพลังจำนวนมากในความมืดได้

พลังเหล่านี้คือตัวตนที่กู่ฉิงซานผู้อยู่ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์ไม่สามารถเข้าใจได้แม้จะผ่านมาสองรุ่นแล้วก็ตาม

ขณะร่ายรำ กู่ฉิงซานค่อยๆ พบบางสิ่งในใจ

ชายชราหัวล้านผู้ร่ายรำตรงหน้าคือชายแข็งแกร่งคนแรกของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในยุคโบราณ

ชายชราหัวล้านชื่นชมว่า “ระบำสังเวยชีพ” เป็นพลังยิ่งใหญ่ของฝั่งแปลกประหลาดและลี้ลับ

หากประเมินจากตัวบุคคลที่มีพลังยิ่งใหญ่เช่นนี้ เช่นนั้นการร่ายรำนี่ก็ต้องเป็นความสามารถสูงสุดต่อให้จะอยู่ในยุคโบราณก็ตาม

ส่วนวิธีการพิสูจน์ข้อสันนิษฐานนี้…

กู่ฉิงซานมองเข้าไปยังความว่างเปล่า

ตัวอักษรโลหิตขนาดเล็กปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบบัญญัติราชามาร

“ท่านเริ่มเรียนรู้ระบำสังเวยชีพ (ฉบับปรับแต่งเบื้องต้น)”

“การกระทำของท่านตอบสนองกับกฎเกณฑ์ลี้ลับ”

“การกัดกร่อนของพลังมังกรมารถูกระงับมากขึ้น”

“ท่านได้รับเศษเสี้ยวของพลังมังกรมาร ความเร็วการตอบสนองของร่างกายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย”

“ท่านได้รับเศษเสี้ยวของพลังมังกรมาร ระยะทางการสำรวจของจิตเทพเพิ่มขึ้นสิบเมตร”

“โปรดทำการร่ายรำต่อไป”

นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

ขณะกู่ฉิงซานยังคงเต้น บางสิ่งที่มองไม่เห็นได้ร่ายรำกับเขาในความว่างเปล่า

“ตูม!”

มีเสียงอู้อี้ดังขึ้นมา

เขาเห็นว่าฝ่ามือสีดำขนาดยักษ์สัมผัสเข้ากับบางสิ่ง เลือดเนื้อทั้งหมดกระจายออกทันที เหลือไว้เพียงกระดูกซีด

นี่คือทักษะหุบเหวจากผู้ถักทอชีวิตหุบเหว: แมงมุมพันมือ!

แม้กระทั่งอาวุธเทพมารเบื้องต้นก็ไม่สามารถเป็นอิสระจากแมงมุมพันมือได้ แต่ตัวตนลี้ลับที่ถูกระบำสังเวยชีพเรียกมากลับสัมผัสมือนั่นจนทำให้กลายเป็นกระดูกทันที!

ตัวตนลี้ลับคล้ายกับไม่คิดมากแม้แต่นิดเดียว มันยังคงร่ายรำตามฝีเท้าของกู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานยังเผยสีหน้าเรียบเฉยขณะรักษาท่วงท่าการเต้น แต่ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ไม่ว่าจะมองยังไง การร่ายรำแห่งโชคชะตานี้มันก็น่าทึ่งเกินไป

เขาค่อยๆ ปล่อยวางความเสียใจขณะตั้งใจทำการร่ายรำอย่างเต็มที่

“สุดท้าย บิด! บิด! บิด!”

ชายชราหัวล้านตะโกนอย่างมีชีวิตชีวา

“เจ็ด แปด เก้า โบกมือ!”

“จบแล้ว!”

เขาหันหลังมามองกู่ฉิงซานแล้วกล่าวว่า

“นี่เป็นขั้นแรกของการร่ายรำ เพราะเจ้าเพิ่งเรียนรู้ ดังนั้นเจ้าต้องร่ายรำเจ็ดครั้งติดเพื่อหยุดการกัดกร่อนของพลังมังกรมาร”

“ทีนี้เจ้าต้องกระโดดต่อ ข้าจะช่วยดูว่ามีปัญหาอะไรกับการเคลื่อนไหวหรือเปล่า”

“ได้”

กู่ฉิงซานตอบขณะยังเต้นตามการเคลื่อนไหวที่เขาได้เรียนรู้มา

จังหวะดนตรีที่เปี่ยมด้วยชีวิตดังขึ้นอีกครั้ง

ชายชราหัวล้านเดินมาอยู่ด้านข้างขณะจับแขนเพื่อตรวจสอบท่วงท่าการร่ายรำของกู่ฉิงซานอย่างละเอียด

“ยกมือขึ้นอีกหน่อย”

“หันเร็วๆ! เข้าใจแล้วใช่หรือเปล่า”

“เมื่อครู่เจ้าทำผิด ทำใหม่!”

บนลานมืดมิด ชายชราหัวล้านตะโกนเสียงดังเป็นบางครั้ง

ตอนแรก กู่ฉิงซานทำผิดพลาดมากมาย แต่เมื่อฝึกฝนซ้ำไปมา ท่วงท่าการเต้นของเขายิ่งสม่ำเสมอและชำนาญมากยิ่งขึ้น

ชายชราหัวล้านยิ่งมายิ่งพูดน้อยลง

เมื่อกู่ฉิงซานกระโดดครั้งที่สาม ชายชราหัวล้านก็ไม่ออกความเห็นโต้แย้งอะไรอีก

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ

ในที่สุด การร่ายรำเก้าครั้งก็เสร็จสิ้น

กู่ฉิงซานกำลังจะหยุดเมื่อเสียงของชายชราหัวล้านพลันดังขึ้นอีกครั้ง

“อย่าหยุด!”

“เพลงต่อไป!”

“คราวนี้เอาให้ดี จัดเต็มไปเลย!”

เสียงของเขาระแวดระวังและคาดหวังเล็กน้อย

ในเวลาเดียวกัน ในใจของกู่ฉิงซานได้ยินเสียงของชายชราหัวล้าน

“ข้าเคยบอกเจ้าแล้วนี่ว่านอกจากการยับยั้งและเปลี่ยนสภาพพลังของมังกรมารแล้ว การร่ายรำแห่งโชคชะตาอันยิ่งใหญ่นี้ยังสามารถอัญเชิญพลังลี้ลับนับไม่ถ้วนทางฝั่งแปลกประหลาดเพื่อชี้นำผลประโยชน์ให้กับเจ้าได้มาก”

“ตอนนี้ โอกาสมาถึงแล้ว”

“พลังอันเลื่องชื่อมาถึงแล้ว มันรู้สึกถึงเจ้าและคล้ายกับอยากตอบสนองด้วย”

“ดังนั้นเจ้าต้องไม่หยุด ต้องกระโดดให้สมบูรณ์แบบ!”

“เร็วเข้าสิ!”

กู่ฉิงซานเข้าใจทันทีที่ได้ยิน จากนั้นตามจังหวะดนตรีเพื่ออออกลวดลายมากมายอย่างแจ่มชัด จุดมุ่งหมายก็เพื่อออกท่วงท่าให้เป็นไปตามจังหวะ

ระบำสังเวยชีพแบ่งออกเป็นเก้าขั้น ขั้นแรกคือขั้นพื้นฐานที่สุด มันช่างเรียบง่ายนัก เขาคุ้นเคยกับมันแล้ว การกระโดดแทบไม่ต้องใช้ความพยายามอะไร เขาค่อยๆ รู้สึกถึงความคล่องตัวตามจังหวะ

ขณะการร่ายรำยังดำเนินต่อไป กู่ฉิงซานค่อยๆ สัมผัสถึงตัวตนหนึ่งได้

ตัวตนนั่นกำลังตอบสนองเขาจนรู้สึกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจในความว่างเปล่า

เขาไม่รู้ว่าตัวเองกระโดดมานานเท่าไหร่

ทันใดนั้น การตอบสนองนั่นหายไปจากกู่ฉิงซาน

“เจ้าหยุดได้แล้ว”

ชายชราตะโกน

กู่ฉิงซานหยุด

เขาประหลาดใจที่พบว่าตัวเองเหงื่อไหล

เพราะว่ามีพลังระดับสามพันโลก เพียงแค่เต้นอย่างเดียวก็มากพอจะทำให้เหนื่อยจนเหงื่อไหลได้

“น่าเสียดาย” ชายชราหัวล้านกล่าวอย่างเสียดาย “เจ้าเพิ่งเรียนรู้การเต้นขั้นพื้นฐาน ดังนั้นกฎเกณฑ์ลี้ลับจึงคงอยู่ไม่นาน… เจ้าได้ความสามารถลี้ลับหรือเปล่า”

กู่ฉิงซานนิ่งไปสักพัก

การร่ายรำทำให้ได้ความสามารถลี้ลับหรือ

หากสามารถยับยั้งพลังของมังกรมารได้ ทุกสิ่งก็คงไม่เป็นไร เขาจะได้พลังมาง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร

กู่ฉิงซานรู้สึกว่ามันน่าขันนักก่อนส่ายหน้า แต่ทันใดนั้น ทั่วร่างของเขาหยุดนิ่ง

ข้อความที่อธิบายไม่ได้ปรากฏขึ้นในจิตของเขา

กู่ฉิงซานเกิดความรู้แจ้งบางอย่าง ร่างของเขายังยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน

เมื่อเห็นดังนี้ ชายชราหัวล้านพลันสลัดสีหน้าเสียดายทิ้งไปก่อนกล่าวอย่างสนใจว่า “เจ้าได้อะไร รีบบอกข้ามา”

กู่ฉิงซานพึมพำว่า “ดูเหมือนมันจะเรียกว่า…ได้พบกันอีกครั้ง”

“ได้พบกันอีกครั้งหรือ นี่เป็นความสามารถดีในการดูดวง เดี๋ยวนะ! เจ้าเก่งการทำอาหารด้วยหรือ” ชายชราหัวล้านร้องเสียงประหลาด

“ข้าเคยทำอาหารมาก่อนน่ะ”

“ไม่สงสัยเลยว่าเจ้าได้รับความสามารถนี้”

ชายชราหัวล้านมองกู่ฉิงซานด้วยสีหน้าใหม่

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพัก จากนั้นพลันตบถุงเก็บของ หยิบหม้อ ชาม วัตถุดิบนานาชนิด น้ำมันและเกลือออกมาก่อนปรุงก๋วยเตี๋ยวอย่างรวดเร็ว

ขณะถือก๋วยเตี๋ยวเอาไว้ เขาตกตะลึงสักพักก่อนกล่าวอย่างลึกลับว่า “ความสามารถนี้คล้ายกับ…”

เขาเห็นชายชราหัวล้านคว้าชามไป หยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วเริ่มกิน

“อื้ม ใช้ได้ เจ้าไม่ได้โกหก เจ้าทำอาหารเก่งจริงๆ ”

ชายชราหัวล้านตะโกนใส่เขาขณะกิน

เขากินก๋วยเตี๋ยวด้วยความเอร็ดอร่อยก่อนวางชามลง จากนั้นเช็ดปากแล้วกล่าวว่า

“ได้พบกันอีกครั้งเป็นความสามารถพิเศษ มันไม่เกี่ยวกับการต่อสู้ แต่สามารถทำให้ผู้ที่กินก๋วยเตี๋ยวเข้าไปจมสู่ความทรงจำเพื่อตามหาคืนวันเก่าๆ ที่ซ่อนอยู่ลึกลงไป รวมถึงเพื่อดูช่วงเวลาที่ผันผ่านกับผู้คนที่เคยพบเจอเมื่อนานมาแล้ว

“ความสามารถนี้พิเศษมาก เจ้าควรถนอมมันไว้”

หลังจากพูดจบ ชายชราหัวล้านหลับตาลงก่อนจมสู่ความทรงจำของตัวเอง

หลังจากกู่ฉิงซานเห็นเช่นนี้ เขาเข้าใจความสามารถใหม่ทันที

จะว่าไป นี่เป็นความสามารถลี้ลับแรกที่เขาครอบครอง

ในเวลาเดียวกัน แถวตัวอักษรขนาดเล็กปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบบัญญัติราชามาร

“ท่านได้รับความสามารถลี้ลับทางฝั่งแปลกประหลาด”

“ชื่อ: ได้พบกันอีกครั้ง”

“วิธีใช้: ปรุงก๋วยเตี่ยวให้คนอื่นกิน คนที่กินก๋วยเตี๋ยวเข้าไปจะกลับสู่ความทรงจำในฐานะผู้สังเกตการณ์ก่อนเลือกช่วงเวลาเพื่อมองดูอย่างเงียบงัน”

กู่ฉิงซานชำเลืองมองก่อนจะอดถามไม่ได้ว่า “ข้ากินก๋วยเตี๋ยวเองได้หรือเปล่า”

“ไม่ได้”

ชายชราที่หลับตาอยู่ตอบว่า “คนที่ใช้วิชานี้ ต่อให้กินก๋วยเตี๋ยวที่ปรุงเองก็ไม่สามารถดูความทรงจำของตัวเองได้”

กู่ฉิงซานพลันตกใจเล็กน้อย

เขามีความทรงจำมากและอยากที่จะดูมันอีกครั้ง

ชายชราหัวล้านยังหลับตาอยู่ ทันใดนั้นก็พึมพำอย่างมีอารมณ์ว่า “ดีจริงๆ ที่ได้พบกันอีก สหายเก่าที่เคยร่วมรบ”

หลังจากกล่าวเช่นนี้ เขาปิดปากลง

แสงเลือนรางในความมืดสาดส่องมายังใบหน้าของชายชรา

ความเศร้าโศกและความอบอุ่นเปลี่ยนไปมาบนใบหน้า ท้ายที่สุดหลอมรวมเป็นสีหน้าแปลกประหลาด