หลินฟานค่อยๆหันหลังไปมองที่ต้นเสียง

ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาหาเขา ผิวของเธอขาวราวกับหยก รูปลักษณ์ของเธอช่างวิจิตรงดงามราวกับเครื่องลายคราม ชุดเดรสลายลูกไม้สีขาวครีมช่วยเน้นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเธอออกมา (OYO)

แม้แต่หลินฟานเองก็ยังรู้สึกสดชื่นขึ้นทันทีหลังจากที่ได้มองสาวงามตรงหน้าเขา

ในเวลาเดียวกัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับผู้หญิงที่เขารู้จัก

รูปลักษณ์ภายนอกของเธอก็พอจะเทียบได้กับอาจารย์เทียนเถียน

แถมตรงนั้นยังยิ่งใหญ่กว่าผู้หญิงทุกคนที่เขารู้จัก

หรือนี่อาจจะเป็นสาวงามล้มเมืองในตำนาน!

จากนั้น หลินฟานก็อดไม่ได้ที่จะมองเธอด้วยดวงตาแห่งความจริง

【คะแนนรูปร่างหน้าตา: 98】

【คะแนนความชอบ: 60】

คะแนนสูงถึง 98!

แน่นอนว่าคะแนนที่ปรากฏขึ้นนี้เทียบได้กับอาจารย์เทียนเถียนเลย!

ทันใดนั้น สาวสวยคนนั้นก็พูดขึ้น “ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้น ฮัวจือดีของเราคงจะเกิดปัญหาไปแล้ว”

หลินฟานพูด “เรื่องเล็กน้อยครับ ที่สำคัญกว่านั้น น้ำหอมของฮัวจือดีก็ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์คุณภาพต่ำ”

หลังจากหยุดไปชั่วครู่ หลินฟานก็พูดต่อ “ยังไงก็เถอะ คุณเป็นพนักงานของร้านนี้ด้วยหรอ”

คนสวยยิ้มและพูด “ไม่ใช่หรอก ฮัวจือดีเป็นแบรนด์ที่ฉันสร้างขึ้นมาเอง”

“ขอแนะนำตัวก่อนนะ ฉันชื่อชูหยุนเยว่ ดีใจที่ได้พบคุณ”

ขณะพูด เธอก็ยื่นมือที่ขาวราวกับหยกออกมา

หลินฟานผงะไปครู่หนึ่ง

เขาไม่เคยคิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นเจ้าของแบรนด์ฮัวจือดี

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ยื่นมือออกมาและจับไปที่มือของเธอ

“ผมชื่อหลินฟาน” หลินฟานแนะนำตัว

ชูหยุนเยว่อดไม่ได้ที่จะถาม “คุณหลิน ฉันอยากรู้นิดหน่อยว่า … ขอโทษนะ ช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหม ว่าคุณรู้ได้อย่างไร เกี่ยวกับเรื่องที่เอากลิ่นของดอกเฟิ่งเซียน เยว่เซียร่ง และ เอสยี มาผสมกันแล้วจะเกิดกลิ่นเหม็นขึ้น”

ชูหยุนเยว่เป็นผู้ก่อตั้งฮัวจือดี เธอจึงมีความรู้ในเรื่องน้ำหอมเป็นอย่างดี

แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่ได้คาดหวังว่ากลิ่นของน้ำหอมทั้งสามจะออกมาเป็นแบบนี้หลังจากที่ผสมกัน

จากนั้นหลินฟานก็ตอบแบบง่ายๆ “แค่ดมก็รู้แล้ว”

แค่ดมก็รู้แล้วหรอ?

ช่างน่าตลกจริงๆ!

ชูหยุนเยว่คิดว่าหลินฟานไม่อยากบอกความลับเรื่องนี้ให้กับตัวเอง

ดังนั้นเธอจึงไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก

ชูหยุนเยว่พูดขึ้นอีกครั้ง “คุณหลิน สนใจลองน้ำหอมของทางเราหรือเปล่าคะ?”

หลินฟานพยักหน้า จากนั้นเขาก็ชี้ไปยังขวดน้ำหอมที่มีลวดลายของนางสนมโบราณและพูดว่า “คุณช่วยเอาน้ำหอมขวดนั้นมาให้ผมดูหน่อยได้ไหม”

ชูหยุนเยว่มองไปในยังขวดน้ำหอมที่หลินฟานชี้อยู่ และดูเหมือนว่าเธอจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาในหัว มันทำให้ร่างกายที่บอบบางของเธอสั่นขึ้นมาในทันที

จากนั้นเธอก็พูด “ได้ค่ะ”

หลินฟานเปิดฝาน้ำหอมและสูดดมเบา ๆ

ทันใดนั้นกลิ่นที่หรูหรา เงียบสงบ และคุ้นเคยก็ค่อยๆลอยเข้ามา

อาจารย์เทียนเถียน!

หลังจากนั้นไม่นาน หลินฟานก็นึกออกว่าทำไมเขาถึงคุ้นเคยกับกลิ่นนี้

ก็เพราะว่า ครูเทียนเถียนมีกลิ่นแบบนี้

ปรากฎว่าเธอชอบใช้น้ำหอมชนิดนี้

จากนั้น หลินฟานก็ชี้ไปยังน้ำหอมขวดสีเหลืองอ่อนที่อยู่ไม่ไกลและพูด “ขอขวดนั้นด้วยครับ”

ชูหยุนเยว่ยิ้มก่อนจะพูด “น้ำหอมนี้มีชื่อว่าเหลียนซิน เป็นน้ำหอมตัวใหม่ของทางร้านเรา”

“ชุดน้ำหอมเหลียนซิน มีทั้งหมด 7 กลิ่นเหมือนกับสีสันของสายรุ้ง และกลิ่นทั้งหมดนั้นก็จะแตกต่างกันออกไป”

หลินฟานพยักหน้าเล็กน้อย แล้วดมน้ำหอมเบาๆก่อนจะพูด “เบญจมาศ สายน้ำผึ้ง ออสมันตัส…”

เมื่อชูหยุนเยว่ได้ยินในสิ่งที่หลินฟานพูด ดวงตาที่สวยงามของเธอก็ถึงกับเป็นประกาย

เพราะชื่อดอกไม้ที่หลินฟานกล่าวมา เป็นดอกไม้ที่นำมาทำน้ำหอมเหลียนซินทั้งหมด!

เพียงแค่เขาได้กลิ่นมัน เขาก็สามารถรู้ทุกอย่างแล้วงั้นหรอ!

นี่… ไม่น่าเชื่อจริงๆ!

ก่อนหน้านี้ หลินฟานพูดเอาไว้ว่า แค่ดมก็รู้แล้ว ว่าถ้าเอาส่วนผสมของน้ำหอมทั้งสี่กลิ่นมาผสมกันก็จะเกิดกลิ่นเหม็นขึ้นมา ตอนนั้นชูหยุนเยว่คิดว่าเขาแค่ล้อเล่น

แต่ตอนนี้ชูหยุนเยว่ตระหนักแล้วว่าสิ่งที่หลินฟานพูดออกมาเป็นความจริง!

ความเข้าใจของหลินฟานเกี่ยวกับน้ำหอมต่างๆ คงไปถึงระดับที่เหนือจินตนาการของคนทั่วไปแล้ว

ขณะนั้นเอง หลินฟานก็ได้เปิดน้ำหอมอีกขวดและทำการเขย่าเบาๆเพื่อปลุกกลิ่น

จากนั้นเขาก็สูดดมอย่างช้าๆแล้วพูดว่า “ดอกมะลิ ลิลลี่ กล้วยไม้…”

เป็นอีกครั้งที่หลินฟานสามารถระบุส่วนผสมของน้ำหอมได้อย่างละเอียดและถูกต้อง!

ครั้งแรกอาจจะแค่เดาถูก!

เดาถูกครั้งที่สองก็ยังพอเป็นไปได้!

แต่ถ้าต้องมาเดาสามครั้งติดต่อกัน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตอบถูกทั้งหมด!

นี่คือความสามารถ!

ดวงตาที่สวยงามของชูหยุนเยว่จ้องไปที่หลินฟานโดยไม่กระพริบ

เธอมองดูหลินฟานที่ค่อยๆปลุกกลิ่นของน้ำหอมแล้วดม…

ในสายตาของชูหยุนเยว่ หลินฟานดูไม่เหมือนว่ากำลังดมกลิ่นน้ำหอมอยู่เลย แต่เขาเหมือนกับเทพที่อยู่ท่ามกลางดอกไม้ในทุ่งดอกไม้ คอยดูแลดอกไม้เหล่านั้นจนเบ่งบาน มากกว่า

ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอม เสน่ห์ไร้ขีดจำกัด!

และในที่สุด หลินฟานก็วางน้ำหอมที่อยู่ในมือลง เขาพยักหน้าแล้วพูด “น้ำหอมไม่เลวเลย”

หลังจากที่ชูหยุนเยว่ได้ยินเสียงของหลินฟาน เธอก็ได้สติขึ้นมาแล้วพูด “ขอบคุณสำหรับกาคำติชมเกี่ยวกับน้ำหอมของทางเรา”

เธอหยุดชั่วครู่แล้วพูดต่อ “ว่าแต่คุณพอจะมีคำแนะนำอะไรสำหรับน้ำหอมของทางเราหรือเปล่า”

หลินฟานคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูด “ถ้าให้แนะนำ น้ำหอมขวดแรกมีกลิ่นที่ค่อนข้างลึกลับ…มันน่าจะอยู่ในระดับเดียวกับแบรนด์ชาแนลได้เลย แต่มันยังขาดแรงดึงดูดและเสน่ห์อยู่นิดหน่อย…”

“เหลียนซินขวดที่สองมุ่งเน้นไปที่คนหนุ่มสาว มันยังขาดความมีชีวิตชีวาและความสดชื่น…”

เมื่อชูหยุนเยว่ได้ฟังคำพูดของหลินฟาน ความคิดของเธอก็สับสนไปหมด

เพราะหลังจากที่ลองคิดอย่างละเอียดแล้ว เธอพบว่าหลินฟานพูดถูก

นี่เป็นข้อบกพร่องจริงๆ!

พรสวรรค์, นี่คือคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมาทั้งหมด!

ชูหยุนเยว่รีบพูด “ฮัวจือดีของเรายังขาดผู้อำนวยการด้านเทคนิคอยู่ ฉันไม่รู้ว่าคุณสนใจไหม แต่ฉันสัญญาว่าคุณจะพอใจกับเงินเดือนที่ทางเราให้อย่างแน่นอน”

ผู้อำนวยการด้านเทคนิค?

หลินฟานยังต้องการงานอะไรอีก?

เหตุผลที่เขาไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเจียงเป่ยก็เพื่อประสบการณ์ชีวิตในวัยเรียน

สำหรับเงินเดือน?

เดือนละเท่าไหร่? หนึ่งแสน? หนึ่งล้าน?

ก็ไม่น่าสนใจเลย

หลินฟาน สามารถสร้างรายได้ 1.4 ล้านหยวนเป็นอย่างต่ำของทุกวัน!

และในอนาคต…เงินก็จะเพิ่มมากกว่านี้อีก!

หลินฟานจึงตอบกลับไปตรงๆว่า “ขอโทษที ผมไม่สนใจงานนี้”

จากนั้นเขาก็หยุดไปสักครู่แล้วพูดต่อ “ตอนนี้ผมยังเป็นนักศึกษาอยู่”

“นักศึกษา?” ชูหยุนเยว่ตกตะลึง

หลินฟาน เรียนน้ำหอมไปถึงระดับนั้น แต่ยังเป็นแค่นักศึกษาอยู่หรอ?

นี่มัน… อยู่เหนือจินตนาการของเธอ

อย่างไรก็ตาม ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้ว ดูเหมือนเขาจะยังเป็นนักศึกษาอยู่จริงๆ

หลินฟานพยักหน้าและพูด “ใช่ครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเจียงเป่ย”

เมื่อพูดถึงมหาวิทยาลัยเจียงเป่ย ดวงตาของชูหยุนเยว่ก็สั่นไหวนิดหน่อย

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็พูดขึ้น “กลายเป็นว่าคุณยังเป็นนักศึกษาอยู่…ถ้างั้นก็ควรให้ความสำคัญกับกับการเรียนก่อน”

หลินฟานพยักหน้า เขาเลือกน้ำหอมมาสองสามขวดและกำลังจะจากไป

ทันใดนั้น ชูหยุนเยว่ก็รีบพูด “หลินฟาน ขอเพิ่มข้อมูลติดต่อของคุณหน่อยได้ไหม?”

หลินฟานพยักหน้าตกลง แล้วจากนั้นก็ได้เพิ่มเพื่อนกันในวีแชท