“ขับรถ” ยือหยันยืนคิดแล้วพูดว่า “ข้าว่าศิษย์พี่หลงควรไปลองสัมผัสวิธีพิเศษนี้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในการฝึกฝน นอกจากนี้ท่านยังสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันของท่านได้อีก ข้ารับประกันเลยว่าท่านสามารถจัดการกับเหล่าศัตรูของท่านในการแข่งปีนี้ได้แน่นอน!”
“ถ้าท่านต้องการข้าสามารถพาท่านไปได้เลยตอนนี้ ท่านว่าไง?” ยือหยันแอบกังวลเล็กน้อยเพราะทุกครั้งที่เจอขับรถมักจะถูกตำหนิโดยโมเซียนเสมอจึงทำให้รู้สึกไม่ดี แต่ตอนนี้เธอต้องทำตัวเป็นนักขับผู้ชำนาญเพื่อชักชวนให้คนอื่นมาเล่น
เธอต้องแสดงความสามารถให้เขาเห็นถึงตัวเกมและหนังเพื่อให้เขาได้ตื่นตาตื่นเต้นกับทักษะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและทักษะที่เธอได้รับ อย่างงานปล้นธนาคารฟลีก้านั้นใช้ผู้เล่นเพียงสองคนเธอต้องแสดงกระบวนการให้เขาเห็นทั้งหมดโดยที่เขาไม่ต้องทำอะไรเพื่อสร้างความไว้ใจ
“อืม ..” การแสดงออกของหลงยี่ดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขากำลังคิดว่าจะเป็นไปได้มั้ยในสิ่งที่ศิษย์น้องได้พูดโอ้ออกมา
เขากำลังสับสนว่าเขาควรจะไปดีหรือไม่ ท่านอาจารย์บอกให้เขาไปพบตอนห้าทุ่ม ..
“ตกลง!” หลงยี่พูดพร้อมพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปกับเจ้าเพื่อพิสูจน์ว่าดีอย่างที่เจ้าบอกมั้ย”
ยังคงพอมีเวลาเหลือกว่าจะห้าทุ่ม เขาจึงเลือกใช้เวลาว่างเพื่อค้นหาในสิ่งที่เธอพูดถึง!
…
หลังจากนั้นไม่นานหลงยี่ก็ตั้งใจถามอย่างใจจดจ่อว่า “นี่ศิษย์น้องเจ้าไม่ได้หลงใช่มั้ย?”
“ข้าแน่ใจ” ยือหยันกล่าว “แค่ตามข้ามา มีเส้นทางอื่นอีกหรอ?”
“ออก?” หลงยี่กำลังคิดว่านี่เราไม่ได้กำลังเดินทางไปยังภูเขาต้องห้ามด้านหลังใช่มั้ย? แล้วทำไมเรากำลังออกไปข้างนอก?
พวกเขามาถึงยังจตุรัสหนานหัวแล้ว
“เฮ้! ศิษย์พี่ยือหยัน?” สาวกหญิงสองคนเดินสวนเธอ
“ศิษย์น้องอันหยัน ศิษย์น้องเจียงหยัน?” ยือหยันดูประหลาดใจเล็กน้อย “พวกเจ้าก็กำลังจะออกไปข้างนอกหรือ?”
นอกจากสองสาวแล้วยังมีสาวกอีกสี่คนเดินตามพวกเธออยู่ข้างหลัง
“ใช่แล้ว!” อันหยันตอบด้วยความประหลาดใจ “ศิษย์พี่กำลังจะพาพี่อาวุโสออกไปเช่นกันหรือ?”
เธอตอบพลางหัวเราะ “เราควรไปด้วยกันมั้ย?”
“หืม? เจ้าด้วยหรอ?” หลงยี่มองดูพวกเธอ เขารู้สึกสับสนเล็กน้อย “พวกเจ้าคิดว่าเราควรพูดคุยกันอย่างเปิดเผยดีมั้ย?”
“ท่านกลัวอะไร?” น้องอันหยันกล่าว “เราไปที่นั่นกับอาจารย์และศิษย์พี่โมเซียนคงไม่มีอะไรไม่ดีหรอก”
“เจ้าหมายถึงแม้แต่อาจารย์ป้าซีชิเองก็ ..” หลงยี่ทำหน้าตกใจ เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าอาจารย์ป้าของเขาก็เข้าร่วมด้วย .. ท่านทรงพลังมากจริงๆ
เขาเป็นห่วงว่าตัวเขาอาจจะตกอยู่ในเส้นทางแห่งความชั่วร้ายแต่ตอนนี้เขารู้สึกโล่งใจที่ผู้คนมากมายไมาได้เป็นเช่นนั้น
ในไม่ช้าพวกเขาก็ขึ้นเรือจิตวิญญาณและเดินทางไปยังเมืองครึ่ง
…
“ศิษย์พี่เฉินหลิน ..” ซูจิ้งรู้สึกไม่สบายใจขณะที่มองไปยังเมืองครึ่งซึ่งที่นั้นดูน่ากลัว “เราต้องไปที่นั้นจริงๆหรอ?”
“แน่นอน!” เฉินหลินสนับสนุน “กล้าหาญเข้าไว้ หากเจ้ากลัวสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ความแข็งแกร่งในการฝึกฝนของเจ้าจะเพิ่มขึ้นได้อย่างไร”
“ตกลง!” ซูจิ้งกำลังทำตามความปรารถนาในใจเธอ ตอนนี้เธอตัดสินใจที่จะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของเธอ!
ด้านหน้าของร้านต้นกำเนิดอินเตอร์เน็ตที่บล็อคสามสิบหก
“ที่นี่หรือศิษย์พี่?” อาจารย์อาวุโสผู้ไร้ตัวตนเอ่ยหยามเนื่องจากที่นี่ดูเป็นร้านค้าทั่วๆ ไปที่เขาเคยเห็น
“ใช่แล้วน้องเย่ถัง” อาจารย์ซีชิส่ายหัว “เจ้าจะรู้เองเมื่อเดินเข้าไปข้างใน”
เขาผลักประตูเข้าไปทันทีที่ประตูเปิดขึ้นเมื่อสายตาได้เห็นพื้นที่ข้างในแล้วเขารู้สึกประหลาดใจไม่น้อยอาจารย์ซีชิอธิบายให้เขาฟังว่า “การตกแต่งภายในของที่นี่นั้นดูมีชั้นเชิงและทันสมัยกว่าโลกแห่งการฝึกฝน แถมยังมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโค้กขนมแท่งรสเผ็ดที่แสนอร่อย ไม่เพียงแค่นั้นยังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งในการฝึกฝนและฟื้นฟูจิตใจของเจ้าได้ พร้อมยังชำระล้างสาระสำคัญทางจิตใจและร่างกายได้เช่นกัน”
“แล้วหนังสือสวรรค์ที่ท่านกล่าวถึงอยู่ไหน?”
“เดี๋ยวเจ้าจะได้เห็น” อาจารย์ซีชิพาเย่ถังไปที่เคาน์เตอร์ “โมน้อยยังมีที่พอสำหรับเรามั้ย เจ้าช่วยเปิดใช้งานทุกอย่างให้น้องชายข้าที”
“ขอรับ!” ขณะที่รับคริสตัลโมน้อยชี้นิ้วและตอบว่า “ตรงโน้น! ตรงคอมหมายเลขหนึ่งร้อยสามและหนึ่งร้อยสี่ยังว่างอยู่ขอรับ”
“หะ?” อาจารย์อาวุโสผู้ไร้ตัวตนสับสน “เขากำลังพูดถึงอะไร?”
ตามคำแนะนำของอาจารย์ซีชิเธอพาน้องชายไปนั่งที่และเริ่มเปิดหนังกระบี่เทพสังหารให้เขาดู
“หากเจ้าต้องการอ่านหนังสือสวรรค์เจ้าต้องเลือกเปิดตอนที่สิบสองของหนังกระบี่เทพสังหาร นอกจากนี้หนังสืออีกม้วนยังอยู่ในตอนที่ยี่สิบแปดด้วย” อาจารย์ซีชิอธิบายให้เขาฟัง “อ่อ หากเจ้าอยากเข้าใจในเนื้อหาละก็ข้าแนะนำให้เจ้าดูตั้งแต่ต้น!”
อาจารย์อาวุโสผู้ไร้ตัวตนเลือกดูตอนแรกเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอาจารย์บรรพบุรุษกลุ่มใบไม้เขียวได้ออกจากการฝึกฝนอย่างสันโดษ “หืม .. ช่างทรงพลัง! เขาเป็นอมตะหรอ?”
…
เวลาเดียวกันศิษย์หญิงที่ดูเปราะบางนามว่าซูจิ้งก็เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับคนอื่นๆ
“ศิษย์พี่เรามาทำอะไรกันที่นี่!?”
“สถานที่แห่งนี้จะช่วยให้เจ้าพบวิธีฝึกฝนที่สนุกและรวดเร็ว” เฉินหลินแสดงให้เธอเห็นถึงวิธีการเข้าเกมและพูดอย่างภูมิใจว่า “ที่นี่ข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็นถึงการทำงานเพื่อที่เจ้าจะได้รับคะแนนค่าประสบการณ์ที่มากมาย”
“ประสบการณ์? ทำไมข้าต้องใช้มัน?”
อีกด้านหนึ่งหลงยี่เองที่กำลังเล่นเขาตะโกนว่า “ค่าประสบการณ์ที่มากมาย! ข้ารู้สึกได้! ข้าสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมันเพิ่มขึ้นอย่างมากเพียงเวลาอันสั้น”
“จากวิธีนี้ข้าแน่ใจว่าข้าสามารถเอาชนะพี่ลี่ในการแข่งขันครั้งต่อไปได้แน่ มันช่างยอดเยี่ยมมาก ฮ่าๆๆๆ”
ในขณะที่เขากำลังสนุกกับเกมดูเหมือนว่าเขาจะลืมบางสิ่งบสงอย่างไปจนลืมสังเกตเลยว่านี่เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว .. ในความจริงมันเกือบจะเที่ยงคืนแล้วด้วยซ้ำ
ณ สถานที่ต้องห้ามของกลุ่มหนานหัว
“ท่านอาจารย์จากตระกูลเฟงท่านทำภารกิจที่พระเจ้าได้มอบหมายเสร็จหรือยัง?” ในคืนเดือนมืดปีศาจหญิงที่มีผมสีขาวและริมฝีปากแดงเอ่ยถาม
“แน่นอน” ผู้ฝึกฝนในชุดสีเทากล่าวอย่างอ่อนโยน “ข้าหวังว่าพระเจ้าจะไม่ลืมรางวัลของข้า!”
สาวกของกลุ่มหนานหัวเดินทางมาที่นี่ทีละคน
“แน่นอน” ปีศาจหญิงมองไปรอบๆ “ทำไมคนน้อยลง?”
เธอขมวดคิ้ว ท้ายสุดเธอใช้ความพยายามอย่างมากในการล่อลวงและรวบรวมคนเหล่านี้จากกลุ่มหนานหัว แต่วันนี้มีคนน้อยลงมาก นอกจากนี้เธอยังได้จัดการกับอาจารย์อาวุโสผู้ไร้ตัวตนและหวังว่าเขาจะเป็นผู้ช่วยที่ทรงพลังของเธอ แต่ .. ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ที่นี่!!!
เธอบอกให้พวกเขามารวมตัวที่นี่เวลาห้าทุ่ม .. ข้าบอกพวกเขาผิดเวลาไปหรือ!?
เวลาเดียวกันหลงยี่เองเพิ่งจะเดินออกจากร้านก็รู้หวนคิดได้ว่า “ไม่นะ! นี่กี่โมงแล้ว!?”