ณ สถานที่ต้องห้ามด้านหลังภูเขาของสำนักหนานหัว
อาจารย์จากตระกูลเฟิงมองดูเงาที่ปรากฎตัวขึ้นจากความว่างเปล่า สายตาของเงาร้ายดูโลภและโหดร้ายราวกับว่ามันไม่ใช่สายตาของมนุษย์แต่มันคือสายตาของปีศาจที่กระหายเลือด
“เสร็จแล้วหรือ?”
“จบแล้ว” เสียงของหญิงผู้ไร้ร่องรอยตอบ “หรือเราควร ..”
วิญญาณนักฆ่าสายตาของเธอฉายแววเยือกเย็นออกมา
“ไม่ต้องไปสนใจเขา!” เสียงนั้นช่างดูเย็นชา “เมื่อข้าตื่นขึ้นและได้รับอิสระภาพของข้าคืนทุกอย่างจะตกเป็นทาสของเรา จากนั้นเขาเองก็จะเป็นของเราเช่นกัน!”
เสียงหัวเราะดังขึ้นจากความมืดดูโศกเศร้าและแค้นเคืองในเวลาเดียวกันดังขึ้น
“สถานการณ์ในสำนักหนานหัวเป็นอย่างไรบ้าง?” เสียงในความมืดถาม
“สาวกหลายคนมาสมทบกับเรา” หญิงคนนั้นตอบพร้อมฉีกยิ้มเย็นชา “ข้ากลัวว่าน้องสาวและน้องชายของข้าจะหลงลืมสิ่งนี้ไป”
“อืม .. ดีมาก!”
“ถึงอย่างนั้น” หญิงสาวพูดต่อ “ศิษย์พี่ที่ควรจะอยู่ภายใต้การควบคุมของข้า แต่ด้วยเหตุบางอย่างเขากลับไม่ได้ปรากฎตัวข้าสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นหรือมีอุบัติเหตุ?”
“ไม่ต้องกังวล” เสียงจากความมืดตอบว่า “เขาจะเข้าร่วมกับเราไม่ช้าก็เร็ว! เขาไม่สามารถควบคุมความปรารถนาในตัวเองได้อีกต่อไป เนื่องจากเขาได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกับเราแล้วไม่จำเป็นต้องกังวล”
“ใช่ .. นี่อาจเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อย”
เสียงที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดกล่าวต่อว่า “รับสาวกของสำนักหนานหัวบอกพวกเขาให้เข้าร่วมกองกำลังของเราให้เร็วและเพิ่มจำนวนขึ้นข้าจะได้ออกจากสถานที่ที่น่ากลัวแห่งนี้ได้เร็ววัน จากนั้นเจ้าจะได้เป็นหัวหน้าสำนักนี้!”
“หัวหน้าสำนัก ..” หญิงสาวเลียริมฝีปากสีเลือดด้วยความรู้สึกหอมหวาน
…
มันเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้วหลงยี่ใช้เวลาไปมากกว่าหนึ่งชั่วโมงจากเมืองครึ่งเพื่อกลับจากยังสำนักหนานหัว
“ไม่!” การแสดงออกของหลงยี่ดูผิดหวัง
“มีอะไรผิดปกติ?” ยือหยันและคนนอื่นๆ ถามเขาอย่างสงสัย
“ข้าพลาดบางอย่างที่ใหญ่มากขณะที่กำลังเล่นเกมและดูหนัง” หลงยี่โกรธตัวเอง
“อะไรจะสำคัญไปกว่าการเล่นเกมและได้ดูหนัง?”
หลงยี่ย้อนคิดถึงตัวเองในตอนที่อยู่ ณ ร้านต้นกำเนิดคาเฟ่อินเตอร์เน็ตตอนที่เขาอยู่ที่นั้นเขาสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งในการฝึกฝนได้เรียนรู้คาถาที่สุดยอดในเกือบทุกประเภทแม้กระทั่งการแลกเปลี่ยนสูตรยาอายุวัฒนะที่มีค่าทุกชนิด .. เขายังต้องการอะไรอีก
นอกจากนี้เขายังได้มีเวลาอ่านหนังสือสวรรค์และทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับเทคนิคของหนานหัวมากกว่าเดิม แม้เขาจะเป็นผู้ฝึกฝนที่มีความแข็งแกร่งในระดับปานกลางแต่ก็สามารถสัมผัสถึงกฎของโลกและความจริงขั้นสุดท้ายที่มีอยู่ในหนังสือ!
เมื่อทบทวนแล้วมันก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ “ข้าคิดว่าพวกเจ้าพูดถูก!”
เขาตบหน้าผากตัวเองด้วยความตื่นเต้น “ใช่! ข้าทำตัวเหมือนคนปัญญาอ่อน ถ้าข้าสามารถฝึกฝนที่นั้นเป็นเวลาร้อยปีได้ข้าก็สามารถทำได้มากกว่าศิษย์พี่ลี่แน่!”
เขาถามด้วยความตื่นเต้น “ศิษย์น้องร้านเปิดแปดโมงเช้าใช่มั้ย?”
“ใช่!”
“ถ้างั้น .. พรุ่งนี้เราไปแต่เช้ากันเถอะ!”
“แต่ .. นั้น” หลงยี่ส่ายหัว “นั้นอะไร? ทำไมข้ารู้สึกถึงพลังแปลกๆ จู่ๆ ก็จำไม่ได้”
เขาจำได้คับคล้ายคับคลาว่าเหมือนมีคนพยายามกำลังจะบอกบางอย่างกับเขา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ชัดเจนมันเหมือนกับความฝัน เเขารู้สึกเหมือนเพิ่งตื่นจากความฝันและจำอะไรไม่ได้ มันแปลกมาก
…
หน้าร้านขณะนี้มีคนกำลังคำรามซ้ำแล้วซ้ำอีกราวกับว่าเขากำลังปลดปล่อยความหงุดหงิดที่ถูกคุมขัง
“ข้าผ่าน! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าข้าจะมาบรรลุการฝึกฝนที่นี่หลังจากฝึกฝนอย่างนักมานับสิบปี!”
“หยุดกรีดร้องเหมือนผีได้แล้ว!” ป้าจากร้านข้างๆ ตะโกน “อย่าคิดว่าข้าจะทนกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเจ้า ถ้าเจ้าตะโกนอีกครั้งวันพรุ่งนี้เจ้าไม่ได้กลับมาที่นี่แน่!”
เขาทำหน้าเหนียมอายทันที
เอาละ! ศิษย์พี่เครื่องบินเป็นเพียงกล่องเหล็กที่ไม่ได้ใช้สาระสำคัญทางจิตวิญญาณ ข้าสงสัยว่ามันบินอย่างไรนอกจานี้คาถาเปลี่ยนรูปสามารถเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตได้อีก ส่วนหนังสือสวรรค์นั้นช่างยอดยเยี่ยมข้าสงสัยว่าใครเป็นคนเขียนมันขึ้นมา ..
อาจารย์อาวุโสผู้ไร้ตัวตนยังคงพูดพล่ามไปตลอดทางจนถึงสำนักหนานหัว
ขณะเดียวกันเขาไม่ได้แสดงร่องรอยหรือการเบี่ยงเบนไปในทางที่แย่แม้ว่าจะยังคงมีร่องรอยปีศาจหลงเหลือในร่างกายเขาก็ตาม เขากลับดูกระปรี้กระเปร่าและสดชื่นมากขึ้น “ช่างเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้นเปลี่ยนสาระจิตวิญญาณที่ยุ่งเหยิงของข้าให้กลับมาบริสุทธิ์อีกครั้ง หลังจากที่ข้าได้อ่านหนังสือสวรรค์ทั้งสองเล่มข้าตระหนักได้ว่าข้ามีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเทคนิคการฝึกฝนมันน่าเหลือเชื่อจริงๆ ที่หนังสือพาข้าไปสู้การสร้างวิธีฝึกฝนที่ใหม่โดยอาสัยความผิดพลาดของตัวเอง”
เห็นได้ชัดว่าเขามองเห็นถึงความก้าวหน้าและการแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเอง ไม่มีอะไรจะดีเท่ากับความจริงที่ว่าเขาสามารถสร้างวิธีการฝึกฝนของเขาโดยเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ได้รับ
“หนังสือสวรรค์ประกอบไปด้วยเทคนิคและเรื่องจริงขั้นสุดของโลกใบนี้” เห็นได้ชัดว่าความเข้าใจเกี่ยวกับหนังสือสวรรค์ของอาจารย์ซีชินั้นลึกซึ้งยิ่งกว่าเขา “แม้แต่ถนนที่เจ้ามองว่ามันสุดสายหรือผิดพลาดก็เป็นส่วนหนึ่งของบทเรียนในโลก มันอาจจะผิดสำหรับเรา แต่สำหรับคนอื่นแล้วมันอาจมีเหตุผลที่จะมีอยู่บนโลกนี้”
“ท่านพูดถูก” อาจารย์อาวุโสผู้ไร้ตัวตนพยักหน้า
“ในความคิดของข้า เราควรให้สาวกของเราเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการฝึกฝนเช่นนี้มากขึ้น” อาจารย์อาวุโสผู้ไร้ตัวตนกล่าวว่า “อย่างน้อยเราควรให้สาวกชั้นสูงของสำนักเราได้ฝึกฝน”
“ที่เจ้าพูดมีเหตุผล” อาจารย์ซีชิกล่าวว่า “แต่อาจารย์และผู้อาวุโสของสำนักเราจะไม่เข้าใจน่ะสิ เราไม่ควรทำให้เรื่องมันใหญ่มิฉะนั้นพวกเขาอาจจะเข้าใจผิดและห้ามปรามไม่ให้พวกเราไป เราควรแจ้งเหตุผลที่ชัดเจนให้พวกเขาได้เข้าใจ แต่ก่อนอื่นข้าจะบอกให้เหล่าสาวกชักชวนเพื่อนๆ ไปที่ร้านอินเตอร์เน็ต”
“ข้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง” เขาพยักหน้าและเห็นด้วยกับสิ่งที่พี่สาวพูด
เวลาเดียวกัน ณ สถานที่ต้องห้ามหลังภูเขาสำนักหนานหัว
“เหล่าสาวกข้าคิดว่าพวกเจ้าและผู้อาวุโสที่นี่พวกท่านส่วนมากล้วนปรารถนาที่จะมีพลังที่แข็งแกร่งกว่านี้ใช่มั้ย” เสียงในความมืดกล่าว “ใครก็ตามที่ต้องการแรงปรารถนานี้จะผลักดันพวกเขา!”
ในคืนนี้ที่สำนักหนานหัวนั้นดูมืดราวกับท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยหมอกดำหนา
มันเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้วแต่เหล่าสาวกบางคนไม่ได้เข้านอนตามเวลาพวกเขาเลือกที่จะฝึกฝนล่วงเวลาต่อไป กระแสลมนั้นแรงกว่าปกติราวกับว่ามีภูติผีปีศาจกำลังผุดขึ้นจากใต้ดิน นอกจากนี้อากาศภายนอกยังคงหนาวกว่าทุกวัน
สาวกที่กำลังฝึกฝนจำนวนมากดูเหมือนว่าพวกเขาสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง
“นี่มันอะไรกัน!?”
“เจ้าเป็นใคร?”
“เจ้าต้องการความแข็งแกร่งที่มากขึ้นหรือไม่?” เสียงจากความมืดเอ่ยถามน้ำเสียงของมันดูล่อลวงความต้องการในจิตใจพวกเขา
“เจ้าต้องการได้รับความแข็งแกร่งที่มากขึ้นหรือไม่? อย่าปฏิเสธมันเลย จงทำตามเสียงหัวใจ ..”
…
เพียงไม่ถึงเสี่ยววิพวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้านอกประตู
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “ศิษย์พี่ศิษย์น้องทุกคนเปิดประตูที! ข้าจะพาพวกท่านไปฝึกฝนยังสถานที่ที่สนุกและดีมาก ข้ามั่นใจว่าการฝึกฝนของพวกท่านจะเติบโตขึ้นมากหลังจากที่ท่านได้ลองไปยังสถานที่ที่ข้าแนะนำ”
“!!??”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้สาวกทั้งหมดที่กำลังทำธุระของตัวเองต่างกระโดดลุกขึ้นทันที พวกเขาเกิดคำถามในใจว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น!