หลานเยวี่ยหรูตื่นตระหนก นางกำลังจะพูดอันใดบางอย่าง ทันใดนั้น ฮูหยินมี่ก็วิ่งมาด้านหน้าซูจิ่นซี “พระชายา ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นหม่อมฉันที่ทำเองเพคะ ไม่เกี่ยวข้องกับเยวี่ยหรูแม้แต่น้อย บุตรสาวของหม่อมฉัน เยวี่ยหรูไม่รู้อันใดเลยจริงๆ ขอพระชายาได้โปรดปล่อยเยวี่ยหรูไปเถิด! ”
“ฮูหยิน… ” หลานเสวียนหมิงขมวดคิ้วมุ่นด้วยความประหลาดใจ
“ฮูหยินมี่มีหลักฐานอันใดยืนยันได้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับหลานเยวี่ยหรูเล่า? อย่างไรก็ตาม ทั้งหมอเทวดาหวาและหมอหลวงอวิ๋นต่างตรวจพบยาพิษนี้จากเล็บสีแดงของนางไม่ใช่หรือ”
“พวกท่านตรวจพบสารพิษที่เล็บสีแดงของเยวี่ยหรูก็จริง แต่นางไม่รู้ความจริงของเรื่องนี้ ล้วนเป็นหม่อมฉันที่หลอกใช้นาง… เป็นหม่อมฉันที่หลอกใช้เยวี่ยหรูเพคะ”
“โอ้…? ”
ซูจิ่นซีแสดงท่าทางรอคอยคำพูดต่อไปของฮูหยินมี่
“หม่อมฉันเกรงว่าหลังจากเยวี่ยหลีกลับมาอยู่ที่จวนแล้วจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของเยวี่ยหรู จึงได้วางแผนทำร้ายนางเพคะ หม่อมฉันแอบใส่ยาพิษที่เล็บสีแดงของเยวี่ยหรูโดยที่นางไม่รู้ตัว จากนั้นก็สั่งให้นางนำขนมผิงไปให้เยวี่ยหลี เมื่อเยวี่ยหรูหยิบขนมผิง เล็บที่ทาสีแดงจะกระจายยาพิษไปที่ขนมผิง ด้วยวิธีนี้เยวี่ยหลีจึงถูกพิษเพคะ”
“อย่างนั้นหรือ? ”
เป็นเรื่องปกติที่ภรรยาเอกในตระกูลชนชั้นสูงจะทำร้ายบุตรสาวนอกสมรส ไม่ต้องพูดถึงหลานเยวี่ยหลีซึ่งเป็นลูกสาวนอกสมรสของแม่ทัพหลานที่เขาแอบเลี้ยงดูอยู่ด้านนอก หากนางกลับมาอยู่ในจวน คงยากที่จะหลีกเลี่ยงการถูกทำร้ายจากภรรยาเอกและบรรดาพี่น้อง แต่ไม่ว่าอย่างไร ซูจิ่นซีก็มองไม่ออกว่า ฮูหยินมี่เป็นคนประเภทที่ทำร้ายบุตรสาวนอกสมรสได้
ทว่าฮูหยินมี่ยังคงยืนกรานอย่างหนักแน่น
“เพคะพระชายา ทั้งหมดนี้ หม่อมฉันเป็นคนทำเองทั้งสิ้น”
“หากเป็นจริงอย่างที่ท่านพูดมาทั้งหมด ท่านไม่กลัวว่าตอนที่หลานเยวี่ยหรูยื่นขนมผิงให้หลานเยวี่ยหลี นางจะรับประทานขนมผิงเสียเองจนทำให้ตนเองถูกพิษตายหรือ? ”
ท่าทางฮูหยินมี่มั่นคงยิ่งนัก “เมื่อคืนวาน ตอนที่หม่อมฉันให้เยวี่ยหรูนำขนมผิงไปให้เยวี่ยหลี เยวี่ยหรูได้รับประทานขนมผิงชนิดเดียวกันไปแล้ว และหม่อมฉันยังกำชับนางไปหลายครั้งว่าห้ามแอบรับประทานขนมนี้”
ถึงกระนั้นก็ยังมีข้อสงสัยอยู่มากมาย อย่างไรก็ตาม ซูจิ่นซียังคงรู้สึกว่าฮูหยินมี่เป็นผู้บริสุทธิ์ นางไม่ได้เป็นคนทำ
ซูจิ่นซีไม่ได้พูดอันใด ทันใดนั้นนางก็หันหลังเดินไปทางห้องหนึ่งทางทิศตะวันตก
“พระชายา! ” ฮูหยินมี่รีบเดินไปด้านหน้า ขวางทางซูจิ่นซีไว้ “ทุกอย่างเป็นหม่อมฉันกระทำเองทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับเยวี่ยหรูแม้แต่น้อย พระชายา ได้โปรดลงทัณฑ์หม่อมฉันเถิด! ”
รีบเข้ามาขอร้องให้ลงทัณฑ์เช่นนี้ หากพูดว่านางไม่ได้จงใจปิดบังอันใด ผู้ใดจะเชื่อ!
ซูจิ่นซียังคงไม่พูดอันใด ทำเพียงเดินไปทางห้องนั้น
ทันใดนั้น ดวงตาฮูหยินมี่แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา เต็มไปด้วยไอสังหารรุนแรง นางพลิกฝ่ามือทำเป็นกรงเล็บ โจมตีด้านหลังศีรษะของซูจิ่นซีด้วยความเร็วดั่งพายุ
แทบจะเป็นเวลาเดียวกับที่ระบบถอนพิษแจ้งเตือนว่ามีพิษ
ทุกคนมีท่าทางตึงเครียด โดยเฉพาะอวิ๋นจิ่นกับหมอเทวดาหวาที่อยู่ใกล้ซูจิ่นซีมากที่สุด
ทว่าพวกเขาไม่มีวรยุทธ์ อวิ๋นจิ่นวิ่งเข้าไปด้านหลังซูจิ่นซี ใช้ร่างกายของตนขวางซูจิ่นซีไว้ ทว่าไม่ทันการณ์เสียแล้ว
ในขณะที่กรงเล็บเรียวยาวทาชาดสีแดงของฮูหยินมี่ กำลังจะตะปบไปที่หลังศีรษะซูจิ่นซี ทันใดนั้น จี้หยกอันหนึ่งก็กระแทกไปที่ข้อมือของฮูหยินมี่จนเกิดเสียงดัง ขัดขวางมือของฮูหยินมี่
เป็นการลงมือของเยี่ยโยวเหยา
การแสดงออกของหลานเสวียนหมิงเต็มไปด้วยความตกตะลึงจนไม่สามารถตกตะลึงไปมากกว่านี้ได้อีก
เหล่าองครักษ์และบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาในจวนสกุลหลานต่างคุกเข่าตามหลานเสวียนหมิง และหันไปทางเยี่ยโยวเหยาทันที
ซูจิ่นซียังคงสงบนิ่งมั่นคง กระทั่งคิ้วก็ไม่ขยับ นางค่อยๆ หันไปมองฮูหยินมี่ที่ผงะถอยหลังไปสามก้าวด้วยแววตาจริงจัง พลางยืนกุมมือและยกยิ้มมุมปากด้วยความเย็นชา
“ฮูหยินมี่ ท่านช่างโง่เขลาเสียจริง”
มารดาปกป้องบุตรนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่มีผู้ใดโง่เหมือนฮูหยินมี่ที่คิดลงมือกับซูจิ่นซีต่อหน้าคนมากมาย
จะเกิดอันใดขึ้นหากนางสังหารซูจิ่นซี?
นางกับหลานเยวี่ยหรูยังสามารถหลบหนีไปได้อีกหรือ?
เวลานี้ ภายในใจซูจิ่นซีคิดว่าฮูหยินมี่โง่ยิ่งกว่าฮั่วซื่อจากจวนสกุลซูเสียอีก
หลานเสวียนหมิงตกใจจนไม่อาจตกใจไปมากกว่านี้ได้อีก นัยน์ตาของเขาปรากฏความรู้สึกเหลือเชื่อ พลางมองฮูหยินมี่ด้วยความผิดหวัง
ฮูหยินมี่ย่อมรับรู้ความรู้สึกของหลานเสวียนหมิง ทว่านางตั้งใจไม่มองไปที่เขา
ซูจิ่นซีไม่พูดอันใดอีก ทำเพียงหันไปเปิดประตูห้องทางทิศตะวันตก
ภายในห้องมีสิ่งของวางซ้อนกันมากมายเหมือนห้องในเรือนฮูหยินมี่ก่อนหน้านี้ นอกจากสิ่งของที่ไม่ใช้เหล่านี้แล้ว ก็ไม่มีอันใดอีก
สกุลหลานย้ายมาที่เมืองตี้จิงได้ไม่นาน ทว่าสิ่งของจำนวนมากที่ใช้การไม่ได้เหล่านี้มาจากที่ใด?
“องครักษ์ ทุบผนังตรงนั้นออก! ” ซูจิ่นซีกล่าวเสียงดัง
ทันใดนั้น องครักษ์สองสามนายก็เดินเข้ามา ใช้เวลาไม่นานนัก ผนังที่อยู่ตรงข้ามกับประตูก็พังทลายลง แววตาของทุกคนปรากฏความประหลาดใจขึ้นอีกครั้ง
เรือนของหลานเยวี่ยหรูอยู่ติดกับเรือนของฮูหยินมี่ เดิมทีผนังห้องนี้ใช้เป็นผนังร่วมกับห้องทางทิศตะวันตกที่ใช้เก็บสิ่งของในเรือนของฮูหยินมี่ ทว่าหลังจากที่ผนังถูกทุบออกไปแล้ว กลับไม่เป็นห้องเก็บของในเรือนของฮูหยินมี่อย่างที่ทุกคนคาดไว้ แต่เป็นทางแคบเส้นทางหนึ่ง
“พระชายา ท่านอ๋อง ตรงนี้มีทางลับพ่ะย่ะค่ะ”
ระบบถอนพิษของซูจิ่นซีได้ตรวจสอบทางลับด้านล่าง พบว่ามียาพิษกองอยู่จำนวนมาก แม้ไม่ได้ตรวจพบพิษเหล่านั้น นางก็ไม่คิดสนใจอันใด
ซูจิ่นซีชี้ไปที่ประตูตรงผนังเส้นทางลับ “ทุบประตูนั้นออก! ”
องครักษ์รับคำสั่ง และเดินไปทุบประตูบานนั้นออก
ด้านในประตูมีตู้อยู่หลังหนึ่ง องครักษ์ยังคงทุบต่อไป หลังจากทุบตู้นั้นแล้ว จึงพบห้องเก็บของห้องนั้นที่อยู่ในเรือนของฮูหยินมี่
ที่แท้ทางลับนี้เชื่อมต่อไปยังเรือนของฮูหยินมี่
ซูจิ่นซีมีท่าทีสงบนิ่ง แสดงออกราวกับผู้ชนะ นางเดินทีละก้าวจนไปถึงด้านข้างของหลานเสวียนหมิงที่กำลังตกตะลึงจนไม่รู้ว่าควรตอบโต้อย่างไร
“แม่ทัพหลาน เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว คิดว่าคงไม่ต้องให้ข้าพูดมากไปกว่านี้กระมัง? พิษที่อยู่ในนี้ทั้งหมดมาจากแคว้นไหวเจียง ส่วนมากคล้ายคลึงกับพิษที่หลานเยวี่ยหรูใช้วางยา ความจริงเป็นเช่นไร ท่านไปอธิบายกับท่านอ๋องเองเถิด ข้าจะไม่โต้เถียงกับท่านให้มากความ”
“แคว้น… แคว้นไหวเจียง… ”
แม่ทัพหลานจ้องมองใบหน้าซูจิ่นซีด้วยความตกตะลึง จากนั้นจึงหันไปมองฮูหยินมี่กับหลานเยวี่ยหรู และหันไปมองเยี่ยโยวเหยา เมื่อสบตากับเยี่ยโยวเหยา เขาก็โขกศีรษะกับพื้นอย่างหนัก
“ท่านอ๋อง กระหม่อมมีความผิด ท่านอ๋องกระหม่อมมีความผิด! ”
“ซูจิ่นซี ทุกคนต่างบอกว่าเจ้าเป็นตัวหายนะ เป็นดั่งที่พวกเขาว่าไว้จริงๆ วันนี้ข้าจะสังหารเจ้า แม้จะต้องไปปรโลก ข้าก็จะให้เจ้าชดใช้ด้วยชีวิต”
ทันใดนั้น แววตาของหลานเยวี่ยหรูแปรเปลี่ยนเป็นถมึงทึง นางถือดาบสั้นเล่มหนึ่ง แทงไปที่ซูจิ่นซี
แม้ซูจิ่นซีจะไม่มีวรยุทธ์ ทว่าตอนที่หลานเยวี่ยหรูตะโกนก่อนลงมือ เป็นโอกาสให้ซูจิ่นซีตอบโต้ ซูจิ่นซีหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย หลานเยวี่ยหรูจึงพลาดท่า แต่นึกไม่ถึงว่าดาบสั้นที่อยู่ในมือจะแทงไปทางที่เยี่ยโยวเหยายืนอยู่
ทุกคนต่างตกตะลึงในทันที
ไม่มีผู้ใดในสกุลหลานกล้าลงมือกับเยี่ยโยวเหยาเช่นนี้ กระทั่งหลานเยวี่ยหรูเองก็ตกใจอย่างมาก ทว่าไม่ทันการณ์เสียแล้ว กว่าที่นางจะตอบสนอง ร่างกายของนางก็พุ่งไปหาเยี่ยโยวเหยาอย่างไม่อาจหยุดยั้ง
“ท่านอ๋อง! ”
หลานเยวี่ยหรูอยู่ห่างจากเยี่ยโยวเหยาสามก้าว ขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง ทันใดนั้น หลานเยวี่ยซินก็วิ่งเข้ามาขวางด้านหน้าหลานเยวี่ยหรู ดาบสั้นในมือของหลานเยวี่ยหรูจึงแทงเข้าที่หัวใจของนาง
“ซินเอ๋อร์… ” หลานเสวียนหมิงตะโกนลั่น
“เยวี่ย… เยวี่ยหรู… ”
ในที่สุดฮูหยินมี่ก็รู้ว่าบุตรสาวของตน หลานเยวี่ยหรูไร้หนทางรอดแล้ว นางหลับตาทั้งคู่ด้วยความสิ้นหวัง
“พี่… พี่สาว… อย่าทำร้ายท่านอ๋อง… อย่าทำ… ”
หลานเยวี่ยซินกระอักเลือด มือที่เต็มไปด้วยเลือดของนางจับเสื้อผ้าของหลานเยวี่ยหรูไว้แน่น พลางกล่าวอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงไร้ซึ่งพลัง