ตอนที่ 332 เพื่อนสนิท
ตอนที่ 332 เพื่อนสนิท

“ก็ต้องแบ่งอยู่แล้ว เหมือนกับดาราที่อยู่ในนิตยสารแฟชั่นพวกนั้นไง พวกหล่อนต่างก็ดูดีกันมาก แต่มันเกี่ยวอะไรกับผมล่ะ!”

“แล้วถ้าวันหนึ่งต้องเกี่ยวกันล่ะ? ยกตัวอย่างเช่นพวกคุณมีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน คุณจะชอบพวกหล่อนหรือเปล่า?”

“ไม่มีทาง”

“ทำไมล่ะ?”

 

“ก็ผมมีภรรยาแล้วนี่นา” เย่หมิงเป่ยพูดไปตามเหตุและผล

โจวหมิ่นเห็นท่าทางมึนงงและจนปัญญาของเย่หมิงเป่ย จู่ ๆ ก็เข้าใจขึ้นมา คำถามและคำตอบของพวกเขาไม่ได้อยู่ในช่องทางเดียวกันอีกแล้ว

 

นี่เป็นความแตกต่างทางความคิดของผู้ชายและผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ?

  

โจวหมิ่นคิดถึงความคิดของตัวเองแล้วก็รู้สึกขบขันอย่างมาก ผู้ชายไร้เดียงสาไม่ได้เข้าใจเรื่องความรักคนนี้ หล่อนยังต้องเป็นกังวลอะไรกัน เป็นแบบนี้ก็ดีมากเลยไม่ใช่เหรอ? อย่างไรก็ดีกว่าผู้ชายที่คิดแต่เรื่องโรแมนติกและความตื่นเต้นทั้งวันพวกนั้นไม่ใช่เหรอ?

อย่างน้อย ๆ ก็สำหรับหล่อน

“หมิงเป่ย ฉันผิดเอง ฉันไม่ควรถามคำถามพวกนั้นกับคุณเลย” โจวหมิ่นอิงเข้ากับอ้อมกอดของเย่หมิงเป่ย ขณะกล่าว

 

“ไม่เป็นไรเลย หมินหมิ่น ผมรู้ คุณไม่มีความสุขที่ผมไปกินข้าวกับหล่อน ผมเองก็ไม่มีความสุขเหมือนกัน แต่สถานที่แห่งนั้นเหมาะกับที่คุณต้องการมากจริง ๆ ตอนนี้ก็เรียบร้อยแล้ว ได้สถานที่มา หลังจากนี้ก็ไม่ต้องติดต่อกับหล่อนแล้ว” เย่หมิงเป่ยโอบกอดโจวหมิ่นขณะกล่าว

 

“แต่หล่อนทำอสังหาริมทรัพย์นะ จะตกแต่งสถานที่ก็ต้องติดต่ออยู่ดี หลังจากทำงานที่นั่น คุณก็ยังต้องติดต่ออยู่” โจวหมิ่นแค่นเสียงจากลำคอ

 

ในเมื่ออ่านใจออก หล่อนจึงทำตัวง่าย ๆ ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำแล้ว

“ไอ้เรื่องตกแต่งผมตกแต่งไม่เป็นก็จริง แต่มีนักออกแบบอยู่ ตอนที่ทำงานก็ยังมีคุณ จริงสิ หมินหมิ่น รอให้คุณได้ติดต่อกับหล่อนก็จะรู้เองว่าหล่อนพูดเก่งขนาดไหน!” เย่หมิงเป่ยบ่นเรื่องที่คุณเฉิงพูดมากอีกครั้ง

โจวหมิ่นกลับหัวเราะอยู่ในใจ จะพูดมากนั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าใคร

คุณเฉิงทางฝั่งนี้จัดการงานครู่หนึ่งแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกยังหมายเลขหนึ่ง หลังจากทางฝั่งนั้นกดรับสาย คุณเฉิงจึงเอนตัวไปด้านหลังพูดด้วยท่าทางเกียจคร้าน “ทำอะไรอยู่?”

“จะทำอะไรได้ล่ะ ทำงานน่ะสิ! เถ้าแก่ของพวกฉันนี่น่ารำคาญจริง ๆ ให้งานมาอีกกองแล้ว!” เสียงผู้หญิงที่อยู่ปลายสายบ่น “เธอทำอะไรอยู่ล่ะ?”

“เวลานี้ฉันจะทำอะไรได้ ก็เหมือนเธอนั่นแหละ สะสางงานอยู่ ฉันจะบอกอะไรให้ สถานที่ที่ว่างอยู่ชั้นสองปล่อยเช่าได้แล้วนะ เพิ่งเซ็นสัญญาเมื่อกี้เลย”

“จริงเหรอ ยินดีด้วยนะ โบนัสเดือนนี้คงหนีไม่พ้นแล้วสิ!” หญิงสาวที่อยู่ปลายสายพูดด้วยรอยยิ้ม “ถึงเวลานั้นเลี้ยงข้าวฉันด้วยล่ะ!”

  

“ถึงเวลานั้นทำไม คืนนี้ฉันเลี้ยงข้าวเธอเลย ว่ามาเลย ไปไหนดี?”

“จริงเหรอ เยี่ยมไปเลย! ฉันอยากกินเป็ดย่าง”

 

“กินเป็ดย่างตอนกลางคืนอ้วนจะตายไป เธอไม่กลัวอ้วนแต่ฉันกลัวนะ!” คุณเฉิงไม่เห็นด้วย “เปลี่ยนอย่างอื่น!”

“แต่ฉันอยากกินเป็ดย่าง” หญิงสาววิงวอน

 

“รอครั้งหน้าก็แล้วกันนะ” คุณเฉิงครุ่นคิดก่อนจะตอบ

“งั้นพวกเราไปกินบาร์บีคิวไหม?” หญิงสาวแนะนำ

“พี่สาว บาร์บีคิวก็ทำให้อ้วนเหมือนกัน ฉันยังไม่มีแฟนนะ!” คุณเฉิงเตือน

 

“นาน ๆ ทีกินสักครั้งไม่เป็นไรหรอก”

 

“แบบนั้นก็ไม่ได้ พวกเราไปกินโจ๊กแล้วกัน”

“เธอนี่น่าสนใจจริง ๆ! เลี้ยงโจ๊กฉันเนี่ยนะ!” เสียงของหญิงสาวดังเข้ามา

คุณเฉิงยิ้ม กระซิบเสียงเบาว่า “ถึงเวลานั้นฉันจะเล่าให้เธอฟัง วันนี้ฉันได้เจอลูกค้าคนหนึ่ง รวยมาก!”

“หืม? เธอมีเป้าหมายอีกแล้วเหรอ นี่เพิ่งจะเท่าไรเอง?” เสี่ยวฉงพูดราวกับไม่แปลกใจ

  

“ถ้าฉันไม่หาเป้าหมายแล้วใครจะซื้อบ้านให้ฉันล่ะ!” คุณเฉิงพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ

“ยอมเธอเลย!”

“เอาล่ะ ไว้เจอกันคืนนี้นะ”

“ไว้เจอกัน”

คุณเฉิงวางสายโทรศัพท์เอียงศีรษะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มกับตัวเอง

เมื่อช่วงค่ำมาถึง คุณเฉิงก็เลิกงานแล้วรีบเก็บของ เดินบนส้นสูงเพื่อไปเจอกับเพื่อนสนิท

หญิงสาวรูปร่างท้วม ผมยาว หน้าตาน่ารักคนหนึ่งกำลังยืนรออยู่ตรงสถานที่นัดหมาย สวมใส่เสื้อและกระโปรงผ้าขนสัตว์ ด้านนอกคลุมด้วยเสื้อคลุมกันหนาว ถ้าโจวหมิ่นอยู่ที่นี่ มองเพียงปราดเดียวก็จะมองออกแล้วว่าเสื้อและกระโปรงผ้าขนสัตว์ชุดนี้เป็นฝีมือการออกแบบของเย่ฉูฉู่

“เสี่ยวฉง!” คุณเฉิงเดินเข้ามากอดอีกฝ่ายไว้

“ไป ๆ ๆ วัน ๆ เรียกแต่เสี่ยวฉงนั่นแหละ ฟังจนฉันจะกลายเป็นหมีอยู่แล้ว!” หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าเสี่ยวฉงพูดอย่างไม่พอใจ

 

“ทีเธอบอกว่าฉันเป็นเฉิงหลิงซู่ผู้มีชีวิตรันทด ฉันยังไม่ว่าอะไรเธอเลยนะ!” คุณเฉิงโอบบ่าของอีกฝ่ายเดินไปด้านหน้า

 

“ใครใช้ให้เธอชื่อนี้กันล่ะ!” เสี่ยวฉงแค่นเสียงเบา ๆ

“แล้วใครใช้ให้เธอแซ่ฉงล่ะ!” คุณเฉิงหัวเราะคิกคัก

 

“ขี้เกียจจะสนใจเธอแล้ว! ฉันบอกไว้เลยนะ ไม่ต้องมาเลี้ยงโจ๊กฉัน!” เสี่ยวฉงพูดอย่างเด็ดเดี่ยว

 

คุณเฉิงลำบากใจอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดจึงพยักหน้ากล่าวว่า “ก็ได้ บอกมาสิอยากกินอะไร?”

“ปิ้งย่างเสียบไม้ หม้อไฟ คืนนี้อากาศหนาวชะมัด พวกเราต้องกินของร้อน ๆ สักหน่อย” เสี่ยวฉงผู้แสนฉลาดไม่ได้เลือกเป็ดย่าง

คุณเฉิงหยิกแก้มหล่อน “ดูสิอ้วนขนาดไหนแล้ว ยังจะกินอีก ก็ได้ งั้นพวกเราไปกินหม้อไฟแล้วกัน ร้อนดี”

“โอเค ๆ ฉันขอเนื้อแกะจานใหญ่สองจานเลยนะ!” เสี่ยวฉงกระโดดลอยตัว “วันนี้ฉันจะสูบเธอซะให้เต็มที่!”

  

เพียงไม่นานทั้งสองก็เข้ามานั่งอยู่ในร้านหม้อไฟแห่งหนึ่ง ตรงข้ามมีหม้อไฟที่เดือดปุด ๆ ตะเกียบของเสี่ยวฉงขยับไม่หยุด มีแค่คุณเฉิงที่กินเพียงคำเล็ก ๆ

 

“กินอย่างกับแมวดม!” เสี่ยวฉงมองดูท่าทางของคุณเฉิงก็พูดอย่างไม่สบอารมณ์

“ฉันเลี้ยง เธอกินให้สะใจก็พอแล้ว” คุณเฉิงพูดอย่างคลุมเครือ “เธอเองก็รู้ว่าฉันกลัวอ้วน”

  

เสี่ยวฉงไม่สนใจเธอ เอาแต่สนใจอยู่กับเรื่องกินของตัวเอง หลังจากกินจนพอใจ จึงวางตะเกียบลงและถามว่า “เธอบอกว่ามีเรื่องจะเล่าให้ฟังไม่ใช่เหรอ? เรื่องอะไร?”

  

คุณเฉิงแย้มยิ้ม หล่อนคีบผักชิ้นเล็ก ๆ ขึ้นมากิน กล่าวว่า “ฉันบอกเธอไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าที่ตรงนั้นปล่อยเช่าได้แล้ว วันนี้ฉันเลี้ยงข้าวตอบแทนลูกค้าคนนั้นไปแล้ว ก่อนหน้านี้เขาก็เคยเลี้ยงข้าวฉันมื้อหนึ่ง”

 

“แล้วไง ก่อนหน้านี้เธอก็เคยเลี้ยงข้าวแบบนี้มาก่อนไม่ใช่เหรอ?” เสี่ยวฉงพูดถึงตรงนี้ก็พูดกึ่งหยอกล้อ “อย่าบอกนะว่าเขาซื้อบ้านให้เธอแล้ว!”

เสี่ยวเฉิงพยักหน้า “เรื่องนั้นยัง”

เสี่ยวฉงยกนิ้วขึ้นมานับพลางกล่าว “นี่คนที่เท่าไรแล้ว คนที่สี่ หรือคนที่ห้า? นี่ถ้าคนนี้ยังซื้อบ้านไม่ได้ เธอก็ยังต้องหาต่อไปอีกสินะ?”

“พูดให้มันน้อย ๆ หน่อย คนพวกนั้นยังจะนับอีกเหรอ เป็นอดีตไปแล้วทั้งนั้นแหละ!” คุณเฉิงบุ้ยปาก

“แล้วทำไมคนนี้ยังไม่เป็นอดีตล่ะ?” เสี่ยวฉงกล่าว

“คนนี้ไม่เหมือนกัน เขารวยจริง ๆ นะ ไม่งั้นจะเช่าที่ใหญ่โตขนาดนั้นเหรอ อีกอย่างนะ เขาเช่าที่แล้วก็จะมาทำงานที่นั่นด้วย ถึงเวลานั้นมีเงินหรือเปล่า ฉันไปเยี่ยมชมสักหน่อยก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ?” คุณเฉิงพูดถึงตรงนี้ก็ถอนหายใจอีกครั้ง “เฮ้อ นี่ถ้าเขายังไม่แต่งงานยังไม่มีลูกก็คงจะดี”

 

“นี่เธอหาผู้ชายที่แต่งงานแล้วอีกแล้วเหรอ เธอหาคนที่ยังไม่แต่งงานไม่ได้รึไง?” เสี่ยวฉงส่ายหน้า “เธอยังไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์สินะ ในนั้นกำลังโจมตีพวกมือที่สามที่ทำลายครอบครัวอยู่”

“ฉันก็คือมือที่สามนั่นแหละ ฉันเป็นคนทำลายครอบครัว แล้วจะทำไม?” คุณเฉิงแค่นเสียง “เกี่ยวอะไรกับพวกเขา!”

 

“ทำไมต้องทำให้ตัวเองลำบากด้วย?” เสี่ยวฉงกล่าว

“ผู้ชายที่แต่งงานแล้วรวยนี่นา อย่างน้อย ๆ ก็มีบ้าน ฉันเบื่อที่ต้องอยู่ในบ้านโทรม ๆ นั่นเต็มทีแล้ว ตอนค่ำยังต้องไปเข้าห้องน้ำสาธารณะอีก เธอรู้ไหมทุกครั้งก่อนนอนฉันยังไม่กล้าแม้แต่จะดื่มน้ำเลย ต่อให้กระหายน้ำมากกว่านั้นก็ไม่กล้าดื่ม รสชาติชีวิตแบบนั้น เธอไม่เข้าใจหรอก!”

………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

อ่อ ลับหลังงานประจำคือรับงานกินข้าวสินะคะ หมิงเป่ยอย่าตกหลุมพรางผู้หญิงคนนี้แล้วกัน

ไหหม่า(海馬)