ตอนที่ 333 คุณเฉิงสร้างภาพมโนในหัว
ตอนที่ 333 คุณเฉิงสร้างภาพมโนในหัว

 

เสี่ยวฉงกล่าว “ทำไมฉันจะไม่เข้าใจล่ะ สถานที่ที่ฉันอยู่ก็ไม่มีห้องน้ำเหมือนกัน แต่ก็นะ เธอทำแบบนี้ต่อไปก็ไม่ได้เหมือนกัน มันอันตรายมากเลยนะ”

“ฉันไม่ได้อยากจะทำลายครอบครัวใครจริง ๆ สักหน่อย ฉันก็แค่อยากมีบ้าน หลังซื้อบ้านให้ฉันแล้ว เขาอยากจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น!” คุณเฉิงพูดด้วยความโกรธเหมือนกับเด็กน้อย

 

ปัญหานี้พูดคุยกันมาหลายครั้งแล้ว เสี่ยวฉงเองก็ไม่คิดจะพูดอีกแล้ว จึงถามไปว่า “แล้วเธอรู้ได้ไงว่าเขาจะซื้อบ้านให้เธอได้?”

 

“ก็เขามีเงินไง” ขณะพูดคุณเฉิงก็ลูบใบหน้าตัวเอง “ฉันหน้าตาดี ไม่ซื้อบ้านให้ฉันแล้วจะซื้อให้ใคร?”

เสี่ยวฉงถึงกับจนปัญญา “เธอเพิ่งเจอหน้าเขาแค่สองครั้งก็รู้แล้วว่าเขามีเงิน? อย่าเป็นบริษัทต้มตุ๋นก็แล้วกัน! ต่อให้มีเงินจริง ๆ เธอก็พูดเองว่าเขามีลูกมีเมียแล้ว เขาจะควักเงินออกมาซื้อบ้านให้เธอเหรอ? เธออย่าลืมตัวอย่างก่อนหน้านี้สิ”

 

ก่อนหน้านี้คุณเฉิงก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้แล้ว อีกฝ่ายไม่ได้ต่างจากเย่หมิงเป่ย เป็นคนมีเงิน แต่หลังจากไปมาหาสู่กับหล่อนหนึ่งปีกว่า ๆ อีกฝ่ายก็ไม่ได้ซื้อบ้านให้หล่อน ท้ายที่สุดภรรยาของผู้ชายคนนั้นก็จับได้ ทะเลาะกันยกใหญ่ ฝ่ายชายจึงตัดขาดจากหล่อนและกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม

คุณเฉิงเจ็บปวดรวดร้าวไปช่วงหนึ่ง เมื่อความกระปรี้กระเปร่ากลับคืนมาก็ตามหาเป้าหมายต่อไป

“แต่ฉันก็ได้เสื้อผ้ากับเครื่องประดับตั้งเยอะเลยนะ ยังมีกระเป๋าด้วย ของพวกนั้นเป็นของจากต่างประเทศทั้งนั้นเลย ต่อให้มีเงินก็ใช่ว่าจะซื้อได้!” คุณเฉิงไม่เห็นด้วย “ฉันใส่ออกไปข้างนอก ก็ช่วยเสริมภาพลักษณ์ขึ้นด้วย!”

คุณฉงกล่าว “คนคนนี้ชื่ออะไรนะ เย่?”

“เย่หมิงเป่ย พูดให้เธอฟังตั้งหลายรอบแล้ว เธอยังจำไม่ได้อีก!” คุณเฉิงกินลูกชิ้นปลาหนึ่งคำ

“ฉันจะจำไปทำไม เธอบอกว่าเย่หมิงเป่ยคนนี้ทำพวกเสื้อผ้า? ตอนนี้ก็มีพวกที่รับเสื้อผ้าไปขายไม่น้อยนะ ฉันเคยเห็นคนทำแบบนี้เยอะแยะ ดู ๆ ไปแล้วเหมือนจะรวยมาก แต่ความเป็นจริงไม่ได้เป็นแบบนั้นนะ” เสี่ยวฉงกล่าว

คุณเฉิงถอนหายใจ “เสี่ยวฉง เธอฟังแบบไม่ต้องใช้สมองไม่ได้เลยเหรอ ฉันไปพูดตอนไหนว่าเขารับเสื้อผ้ามาขาย? เขาทำเสื้อผ้าแฟชั่น เธอเข้าใจไหม ไม่เหมือนกับเสื้อผ้าสักหน่อย!”

 

เสี่ยวฉงกลอกตา “ต่างกันตรงไหน?”

“ต่างกันมาก เสื้อผ้าแฟชั่นคือแฟชั่น ส่วนเสื้อผ้าเป็นสิ่งไว้สวมใส่เท่านั้น! ราคาก็ไม่เหมือนกัน ชุดแฟชั่นราคาต่ำสุดก็หลักพันแล้ว ส่วนเสื้อผ้าเนี่ย สิบกว่าหยวนก็ไม่เลวแล้ว” คุณเฉิงดื่มน้ำผลไม้หนึ่งคำ

“ทั้งหมดนี้คนแซ่เย่นั่นเป็นคนพูดสินะ? แล้วเธอก็เชื่อ?” เสี่ยวฉงไม่เห็นด้วย

  

คุณเฉิงชะงัก กระซิบเสียงเบาว่า “ตอนแรกฉันไม่ได้อยากจะบอกเธอหรอก แต่เธอเอาแต่พูดเชิงลบใส่ฉัน ฉันคงทำได้แค่บอกเธอแล้ว”

เสี่ยวฉงพูดด้วยความฉงน “หมายความว่าไง?”

ก่อนที่จะเล่าคุณเฉิงยังอุบเรื่องสำคัญไว้ “เธอต้องยอมรับว่าฉันตาถึงนะ?”

เสี่ยงฉงจึงต้องพยักหน้า ดูว่าผู้ชายมีเงินหรือไม่ สายตาของคุณเฉิงไม่เลวจริง ๆ อย่างน้อย ๆ ก็เก่งกว่าหล่อน แม้ว่าผู้ชายเหล่านั้นจะไม่ได้ซื้อบ้านให้คุณเฉิง แต่ก็ใจกว้างมาก ไม่ต้องพูดถึงเสื้อผ้าและเครื่องประดับ พูดถึงการกินข้าวนี่แหละ คุณเฉิงจะพึ่งพาผู้ชายเหล่านี้ให้พวกเขาเลี้ยงข้าว กินอาหารตะวันตกทั่วเมืองหลวงแล้ว! แน่นอนว่าก็มีไม่กี่ร้านหรอก แต่กินข้าวที่นั่นราคาก็แพงมาก ไม่ใช่ทุกคนที่จะไปกินได้

 

“รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงมั่นใจว่าเย่หมิงเป่ยคนนี้มีเงิน?” คุณเฉิงพูดด้วยท่าทางลึกลับ “เธอเคยเห็นเถ้าแก่ของฉันใช่ไหม พวกเขาหน้าตาคล้ายกันเป็นพิเศษเลย!”

 

เสี่ยวฉงชะงัก “คล้ายกันเป็นพิเศษ หมายความว่ายังไง?”

“แค่นี้ก็ยังไม่เข้าใจ? เถ้าแก่ของพวกฉันเนี่ย ตึกใหญ่ตึกนั้นเป็นของเขาทั้งหมดเลย! คนที่เหมือนกับเขาเธอคิดว่าจะมีเงินไหมล่ะ!”

“แต่เมื่อกี้เธอบอกว่า คนแซ่เย่คนนั้นเป็นคนจากชนบท แถมยังเป็นชนบทที่อยู่ที่อื่นด้วย เถ้าแก่ของเธอเป็นคนในเมืองหลวงนะ?” เสี่ยวฉงพูดด้วยความสับสน

  

คุณเฉิงกล่าว “เธอคงไม่รู้ เถ้าแก่ของพวกฉันก็เคยไปชนบทมาเหมือนกัน สถานที่ตรงไหนก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน ฉันเห็นเย่หมิงเป่ยคนนั้น ฉันก็เดาได้ว่าต้องเป็นบ้านของเย่หมิงเป่ยนั่นแน่เลย”

“หา! แค่ก ๆๆ!” เสี่ยวฉงสำลักอยู่นานกว่าจะพูดว่า “เธอ…เธอคงไม่ได้คิดว่าเขาเป็น…ลูกนอกสมรสของเถ้าแก่เธอหรอกนะ?”

“ฉันคิดแบบนี้แหละ!” คุณเฉิงพูดด้วยความมั่นใจ “เพราะคล้ายกันเกินไป เธอยังไม่เห็น พวกเขาดูเรียบง่าย เหมือนกับคนเดียวกันในช่วงวัยชรากับวัยรุ่นนั่นแหละ เธอว่าบนโลกใบนี้จะมีคนที่ดูคล้ายกันแบบนั้นเหรอ?”

 

ทำไมคุณเฉิงถึงได้แสดงความกระตือรือร้นต่อเย่หมิงเป่ยขนาดนั้น ก็เป็นเพราะเย่หมิงเป่ยหน้าตาคล้ายกับเถ้าแก่ของหล่อนมาก จึงทำให้หล่อนสร้างภาพมโนในหัวอย่างไร้ขีดจำกัด

“แต่…เขาแซ่เย่ไม่ใช่เหรอ?” เสี่ยวฉงยังไม่สามารถเข้าใจได้

“เธอโง่เปล่าเนี่ย ลูกนอกสมรส ก็ต้องหาพ่อเลี้ยงอยู่แล้ว พ่อเลี้ยงแซ่เย่ งั้นเขาก็ต้องแซ่เย่เหมือนกันสิ” คุณเฉิงกล่าว

เสี่ยวฉงเริ่มเกิดความสนใจขึ้นมาแล้ว “ถ้าเป็นอย่างที่เธอพูดแบบนี้ งั้นเย่หมิงเป่ยคนนี้ก็มีเงินเยอะมากเลยนะ! แต่ก็นะ ถ้าเขาเป็นลูกนอกสมรสของเถ้าแก่พวกเธอจริง ๆ ทำไมถึงต้องเติบโตในชนบท ไม่รับเข้ามาอยู่ในเมืองหลวงล่ะ?”

  

คุณเฉิง “ไม่เห็นจะยากเลย ตอนนั้นเถ้าแก่ของพวกเราเป็นยุวปัญญาชนอยู่ในชนบท หลังจากนั้นก็ได้รู้จักกับสาวสวยในชนบทคนหนึ่ง แล้วก็มีลูกด้วยกัน แต่เป็นเพราะเถ้าแก่ของพวกเราไม่รู้และกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว หลังจากนั้นตอนที่สาวสวยคนนั้นรู้ว่าตัวเองมีลูก เลยต้องหาใครสักคนที่จริงใจเพื่อแต่งงานด้วย…หลังจากผ่านไปได้ยี่สิบกว่าปี เด็กคนนี้ก็เติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ แต่งงานมีลูก มาดิ้นรนถึงเมืองหลวง จากนั้น…จากนั้น…”

 

“แต่งต่อไม่ได้แล้วสินะ?” เสี่ยวฉงพูดแทรกเธอ “ฉันว่านะ ต่อให้เรื่องที่เธอพูดเป็นเรื่องจริง แต่เถ้าแก่ของพวกเธอไม่รู้ว่าเขามีลูกนอกสมรสคนนี้ เธอก็ดีใจเก้ออยู่ดี”

“ขอแค่เป็นลูกนอกสมรส ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ต้องได้เจอกัน ฉันนี่แหละที่จะเป็นคนทำให้พวกเขาได้มีโอกาสเจอกัน เธออย่าลืมสิ ตอนนี้เย่หมิงเป่ยเช่าตึกของพวกเราแล้วนะ!” คุณเฉิงพูดด้วยท่าทางราวกับประสบความสำเร็จ “เธอว่าถึงเวลานั้นเมื่อพวกเขาได้รู้จักกันสุดท้ายแล้วจะขอบคุณใครล่ะ ฉันไง! ถึงเวลานั้นฉันก็จะมีโอกาส ต่อให้เขาไม่ได้สนใจฉัน แต่ความรู้สึกขอบคุณนี้แลกกับการช่วยฉันหาบ้านสักหน่อยก็เป็นเรื่องที่ใช้ได้นะ แค่มีห้องน้ำในตัวก็พอแล้ว!”

คุณเฉิงไม่รู้ว่า หลังจากสามสิบกว่าปีให้หลัง คนที่ปรารถนาจะมีบ้านในเมืองหลวงแบบหล่อนก็ยังต้อยต่ำเช่นนี้

เสี่ยวฉงถอนหายใจ “ถ้ามันไม่ได้จริง ๆ เธอก็บอกกับผู้จัดการดูสิ บอกให้เขาช่วยหาบ้านที่มีห้องน้ำในตัวให้เธอ ต่อให้เธอต้องจ่ายเงินนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ยังได้”

  

คุณเฉิงส่ายหน้า “ฉันบอกแล้ว เขาไม่อนุมัติ”

“งั้นก็หาห้องว่างบนตึกใหญ่สักแห่งเป็นหอพักก็สิ้นเรื่อง ประหยัดค่าเช่าด้วย” เสี่ยวฉงเสนอความเห็นต่อ

“เธอคิดว่าฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้เหรอ แต่ผู้จัดการบอกแล้วว่านี่เป็นตึกทำงาน คนมาพักอาศัยไม่ได้!”

“แล้วถ้าทำกะดึกล่ะ?”

“อยู่ประจำไม่ได้!” คุณเฉิงแค่นเสียง “เธอคอยดูก็แล้วกัน ฉันต้องมีบ้านให้ได้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรฉันก็ต้องมีบ้านให้ได้!”

คำพูดของคุณเฉิงคล้ายกับกำลังสาบาน

เสี่ยวฉงได้ยินก็แอบรู้สึกกลัว รีบเปลี่ยนประเด็น “เถ้าแก่ของพวกเธอจะมาตอนไหนเธอเองก็ไม่สามารถระบุได้ แล้วเธอจะทำให้พวกเขามาเจอหน้ากันได้ยังไง?”

“ไม่ต้องห่วง ทุกสิ้นปีเถ้าแก่ของพวกเราจะจัดประชุมประจำปี เย่หมิงเป่ยถือเป็นผู้เช่าของเรา ก็ต้องอยู่ในคำเชิญด้วยเหมือนกัน ถึงเวลานั้นก็ต้องได้เจอกันอยู่แล้ว” คุณเฉิง “ตอนนี้เหลืออีกไม่กี่เดือนก็ปีใหม่แล้ว ใกล้แล้วแหละ”

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

นี่กำลังคิดพล็อตนิยายอยู่ใช่ไหมคะคุณเฉิง ดูมโนเป็นตุเป็นตะมากเลยค่ะ

ไหหม่า(海馬)