“ถ้าอย่างนั้น ดาวเคราะห์ดวงนี้ก็ไม่มีข้าวคริสตัลอย่างนั้นหรือ นี่พวกเรามาผิดที่หรือ?”

เซี่ยปิงขมวดคิ้ว

“อาจจะไม่ใช่เช่นนั้น”

แมวนักปราชญ์พูดออกมา “บางทีกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงอาจจะทำบางอย่างอยู่เบื้องหลัง ตั้งใจที่จะใช้ความครึกครื้นของดาวเคราะห์ที่ไร้กฎหมายแห่งนี้เพื่อตบตาผู้อื่น”

“เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วใครกันที่จะจินตนาการได้ว่าดาวเคราะห์ที่ไร้กฎหมายเช่นนี้จะซ่อนข้าวคริสตัลและผืนดินเก้าสวรรค์ไว้ นี่คือจุดบอดที่ผู้คนคาดไม่ถึง”

“ยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่ของดาวเคราะห์ดวงนี้ก็กว้างใหญ่อย่างมากเช่นกัน ต่อให้พื้นที่ส่วนหนึ่งจะกลายเป็นเมืองค้าขายที่รุ่งเรือง ทว่ามันก็ยังคงมีพื้นที่อีกมากที่อาจจะใช้เป็นฐานเพาะปลูกได้”

“การที่ข้าวคริสตัลจะถูกปลูกอยู่ในดาวเคราะห์ดวงนี้นั้น มันก็มีความเป็นไปได้อยู่”

มันได้คาดเดาออกมา

เซี่ยปิงก็พยักหน้า เขาก็เห็นด้วยกับคำพูดของแมวนักปราชญ์ สิ่งที่สำคัญก็คือว่าไม่ว่าดาวเคราะห์ดวงนี้จะซ่อนข้าวคริสตัลไว้จริงๆหรือไม่นั้น ตราบใดที่เขาออกไปทำการสืบหาก็จะรู้ได้เอง

“นี่คือดาวเคราะห์ที่ไร้กฎหมาย อนุญาตให้อาชญากรเข้าไปเท่านั้น ดังนั้นพวกเราจะต้องปลอมตัวเป็นโจรสลัดจักรวาลหรือไม่ก็อาชญากรประเภทอื่นๆ ไม่อย่างนั้นบางทีอาจจะถูกโจมตีตั้งแต่ที่ยังไม่ได้เข้าไปใกล้ด้วยซ้ำ”

แมวนักปราชญ์เสนอความคิดเห็นของตนเองออกมา

“นี่เป็นเรื่องที่เรียบง่ายมาก”

ในตัวของเซี่ยปิงมีหน้ากากปลอมตัวอยู่จำนวนหนึ่ง สามารถที่จะพรางตัวเป็นโจรสลัดจักรวาลได้อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นยานดาราจักรก็มีความสามารถในการเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้อย่างอิสระเช่นกัน นี่คือหนึ่งในความสุดยอดของยานอวกาศระดับเซนต์ลำนี้

เชื่อว่าด้วยวิธีการตรวจจับต่างๆของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเหล่านี้ คงจะไม่สามารถค้นพบความจริงของยานดาราจักรได้

…………..

หลังจากนั้นไม่กี่นาที ยานดาราจักรก็ได้มาถึงที่ท่าอากาศยานของดาวคริสตัล ลงจอดในสถานที่แห่งนี้

ทันใดนั้นเซี่ยปิงและคนอื่นๆก็ได้เดินออกมาจากยานอวกาศ จากนั้นเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งก็ได้เดินเข้ามาสอบถามในทันที

เห็นได้ชัดว่าต่อให้ที่นี่จะเป็นพื้นที่ที่ไร้กฎหมาย ทว่ามันก็ยังคงมีกฎระเบียบอยู่ในระดับหนึ่ง เพราะว่าถึงอย่างไรแล้วหากมันโกลาหลวุ่นวายจนเกินไป ไม่มีกฎระเบียบใดๆทั้งสิ้นนั้น แม้แต่อาชญากรก็คงจะไม่ต้องการมาที่นี่

บางครั้งความโกลาหลและความเป็นระเบียบนั้นก็รวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้

“พวกเจ้าเป็นใคร? มาที่ดาวคริสตัลแห่งนี้เพื่ออะไร?”

เจ้าหน้าที่สอบถามขึ้นมาทันที

“พวกเราเป็นกลุ่มอาชญากรที่มาจากภูมิภาคต่างๆของจักรวาล โหดเหี้ยมและชั่วร้ายอย่างถึงที่สุด ครั้งนี้ที่ได้เดินทางมาที่ดาวคริสตัลนั้นก็เพื่อที่จะทำการค้าขาย” เซี่ยปิงพูดออกมา บ่งบอกว่าตนเองโหดเหี้ยมอย่างมาก ไม่สามารถที่จะดูถูกได้

เจ้าหน้าที่ที่อยู่รอบๆก็มีสีหน้าที่พูดอะไรไม่ออก นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินใครบางคนบอกว่าตนเองโหดเหี้ยมและชั่วร้ายอย่างถึงที่สุด นี่มันช่างไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย นี่มันไม่ใช่การพูดจาโอ้อวดตนเองหรือ?

อย่างไม่ต้องสงสัย คนเหล่านี้จะต้องเป็นอาชญากรมือใหม่ ต้องการที่จะสร้างชื่อให้กับตนเอง ดังนั้นจึงได้พยายามแสดงออกมาว่าตนเองโหดเหี้ยมอย่างมาก

ทว่าเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขาได้พูดออกมา “ข้าไม่สนใจว่าพวกเจ้าจะเป็นอาชญากรที่มาจากที่ใด สรุปก็คือที่นี่คือดาวคริสตัล พยัคฆ์ก็ต้องก้มหัวให้ข้า มังกรก็ต้องก้มหัวให้ข้า ผู้คนที่กล้าสร้างปัญหาที่นี่ จะไม่ได้อยู่เห็นแสงตะวันของวันพรุ่งนี้ ยิ่งไปกว่านั้นการที่ต้องการจะเข้าไปในดาวคริสตัลนั้นจำเป็นที่จะต้องจ่ายภาษีค่าเข้าเช่นกัน เป็นค่าใช้จ่ายต่อหัว ทุกๆคนจะต้องจ่ายคนละหนึ่งพันเหรียญจักรวาล”

น้ำเสียงของเขานั้นดุร้าย

“อะไรนะ?!”

ได้ยินเช่นนี้ เฟิงเหอตังก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป เขาก็ได้ล่วงรู้ถึงข้อมูลของดาวคริสตัลจากปากของเซี่ยปิงเช่นกัน “อย่างมากทุกๆคนที่เข้ามาในดาวคริสตัลก็ต้องจ่ายภาษีคนละหนึ่งร้อยเหรียญจักรวาลเท่านั้น เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเราจะต้องจ่ายเงินคนละหนึ่งพันเหรียญจักรวาล นี่มันเพิ่มขึ้นมาถึงสิบเท่า พวกเจ้าต้องการที่จะฉ้อโกงพวกเราหรือ?!”

เขาคิดว่ากลุ่มคนเหล่านี้กำลังเอาเปรียบพวกเขาอยู่ ต้องการที่จะขูดเลือดขูดเนื้อพวกเขา

“หุบปาก!”

เจ้าหน้าที่คนนั้นตะโกนออกมาอย่างโมโห “ภาษีค่าเข้าคนละหนึ่งร้อยเหรียญจักรวาลนั้นเป็นราคาของเมื่อวาน เริ่มจากวันนี้จะต้องจ่ายคนละหนึ่งพันเหรียญจักรวาล”

“หากไม่ต้องการจ่าย ก็ไสหัวออกไปซะ ออกไปจากดาวคริสตัล หากพวกเจ้าต้องการที่จะสร้างปัญหาที่นี่ล่ะก็ พวกเราก็จะทำให้พวกเจ้าได้รู้จักสิ่งที่เรียกว่าการมีชีวิตอยู่อย่างตายทั้งเป็น”

น้ำเสียงของเขานั้นเผด็จการอย่างมาก ขับไล่เซี่ยปิงและคนอื่นๆที่ไม่ยอมจ่ายออกไปทันที หากกล้าที่จะต่อต้าน พวกเขาก็จะลงมือสังหารโดยตรง ไม่มีการพูดคุยใดๆทั้งสิ้น

“เจ้า!”

เฟิงเหอตังและคนอื่นๆต่างก็กัดฟันอย่างแน่น เห็นได้ชัดว่ากลุ่มคนเหล่านี้เห็นพวกเขาเป็นแกะตัวอ้วน ต้องการที่จะเฉือนเนื้อของพวกเขา

เซี่ยปิงก็หรี่ตามอง เผยให้เห็นแสงที่อันตราย เขาไม่ได้วางแผนที่จะลงมือ เพราะว่าการที่เขาเข้ามาที่ดาวคริสตัลดวงนี้นั้นก็เพื่อที่จะสืบหาผืนดินเก้าสวรรค์และข้าวคริสตัล ตอนนี้มันจะเป็นการดีที่สุดหากไม่สร้างปัญหาขึ้นมา

ทว่าเรื่องนี้เขาจะจดจำไว้ ไม่มีใครที่จะสามารถรีดไถ่เขาโดยที่ไม่ต้องชดใช้!

“ช้าก่อน”

ทันใดนั้น ก็มีเสียงของคนๆหนึ่งดังขึ้นมา จากนั้นชายหนุ่มที่สวมใส่ชุดสูทก็ได้เดินเข้ามาทันที

ชายหนุ่มคนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีสถานะที่ธรรมดาๆ จะต้องเป็นบุคคลที่ร่ำรวยและมีอิทธิพล ข้างกายของเขาก็มีผู้ติดตามจำนวนนับสิบ เดินเหมือนมังกร ก้าวเหมือนเสือ เต็มไปด้วยออร่าที่ชั่วร้าย เป็นเหมือนกับลูกสมุนของบุคคลที่ยิ่งใหญ่

ยิ่งไปกว่านั้นพลังอำนาจของผู้ติดตามเหล่านี้ก็แข็งแกร่งพอสมควร อย่างน้อยก็อยู่ในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่ชายชราผมสีเงินคนหนึ่งก็อยู่ในระดับหล่อหลอมสมบัติ เขาแสดงสีหน้าที่อ่อนโยนออกมา เหมือนกับว่าจะไม่เป็นพิษภัยต่อทั้งมนุษย์และสัตว์

“นายน้อยซู”

เห็นชายหนุ่มคนนี้ที่ปรากฏตัวขึ้นมา เจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็ดูเหมือนกับหนูที่เผชิญกับแมวก็ว่าได้ แต่ละคนต่างก็หวาดกลัว ก้มหน้าก้มตาไม่กล้าที่จะสบตา

“พวกเจ้ากำลังทำอะไรกัน?”

นายน้อยซูพูดออกมาอย่างนิ่งเฉย “ถึงแม้ว่าดาวคริสตัลจะเป็นดาวเคราะห์ที่ไร้กฎหมาย ทว่าก็มีกฎระเบียบอยู่ อีกทั้งกฎระเบียบเหล่านี้ก็เป็นกฎเหล็กที่ไม่มีใครสามารถฝ่าฝืนได้ ไม่อย่างนั้นใครกันที่จะต้องการเดินทางมาที่ดาวคริสตัลของพวกเราอีก”

“ภาษีค่าเข้าหนึ่งร้อยเหรียญก็ต้องหนึ่งร้อยเหรียญ ไม่คาดคิดว่าพวกเจ้าจะกล้าเรียกร้องถึงหนึ่งพันเหรียญ ฉ้อโกงแขกของพวกเราต่อหน้าต่อตา ความกล้าหาญของพวกเจ้าช่างใหญ่โตยิ่งนัก”

อั่ก ถึงแม้ว่าคำเหล่านี้จะไม่ได้ดูหนักหนา ทว่ามันกลับทำให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้หวาดกลัวจนคุกเข่าลงไปกับพื้นทันที สีหน้าของพวกเขาต่างก็เผยให้เห็นถึงความหวาดผวา “ข้าขอโทษนายน้อยซู ให้อภัยข้าเถอะ ข้าทำผิดไปแล้ว ข้าเพียงแค่เห็นพวกเขาที่พูดจาโอ้อวดจึงต้องการที่จะสั่งสอนพวกเขา โปรดอภัยข้าครั้งนี้ด้วยเถอะ”

“หากให้อภัยข้าครั้งนี้ ในอนาคตข้าจะตายด้วยความตายที่โหดเหี้ยมที่สุดเพื่อนายน้อยซูอย่างแน่นอน จะรับใช้จนกว่าข้าจะหมดลมหายใจ”

เขาได้โค้งคำนับลงไปที่พื้นอย่างบ้าคลั่ง กระแทกหน้าผากของตนเองจนเลือดไหลออกมา แม้แต่ร่างกายก็สั่นเทาอย่างไม่หยุดหย่อน

เจ้าหน้าที่ที่อยู่รอบๆก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา พวกเขาต่างก็ล่วงรู้ว่านายน้อยซูคนนี้เป็นบุคคลที่โหดเหี้ยมและโหดร้ายแค่ไหน

“หากไม่มีกฎระเบียบพวกเราจะอยู่ร่วมกันอย่างไร”

นายน้อยซูพูดออกมาอย่างนิ่งเฉย “การกระทำของพวกเจ้าในครั้งนี้ไม่ได้ถือว่าหนักหนาและก็ไม่ได้ถือว่าเบา เป็นความผิดที่สามารถละเว้นจากโทษประหารได้ ตัดแขนตัวเองซะ เป็นการเตือนผู้อื่นไม่ให้ทำตาม ทว่าหากมีการละเมิดกฎระเบียบอีกล่ะก็ ข้าจะสังหารพวกเจ้าและโยนให้สุนัขกิน”

เจ้าหน้าที่ที่อยู่รอบๆต่างก็ดีใจขึ้นมาทันที ทันใดนั้นก็ได้ชักดาบขึ้นมาจากเอวและตัดแขนซ้ายของตนเองอย่างกะทันหัน เลือดไหลลงไปที่พื้น

ทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น พวกเขาก็ยังคงมีสีหน้าที่ดีใจเหมือนกับตนเองได้รอดพ้นจากหายนะก็ว่าได้

เพราะว่าปกติแล้วผู้ที่ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของนายน้อยซูนั้น มักที่จะตายไปอย่างน่าอนาถ

“ข้าต้องขอโทษพวกท่านสำหรับเรื่องนี้”

นายน้อยซูไม่ได้สนใจเจ้าหน้าที่เหล่านี้อีก เขาได้หันหน้าไปมองเซี่ยปิงและกล่าวอย่างอบอุ่น “นี่เป็นความผิดของพวกเราที่อบรบคนเหล่านี้ไม่ดีพอ การที่กล้ารีดไถ่แขกผู้มาเยือนดาวคริสตัลซึ่งๆหน้าเช่นนี้ เป็นพฤติกรรมที่พวกเราไม่สนับสนุนอย่างแน่นอน”

“ข้าหวังว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้พวกท่านมองดาวคริสตัลของพวกเราเป็นสถานที่ที่ไม่เป็นมิตร ในความเป็นจริงนั้นพวกเราต้อนรับแขกผู้มาเยือนทุกคนอย่างอบอุ่นเสมอ”