ตอนที่ 509

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ไม่! ไม่!” เฟิงหยางตะโกน มันยังไม่อยากตาย มันยังไม่อาจตายตอนนี้ได้!

มันครอบครองสายเลือดสัตว์อสูรโบราณและมีโอกาสที่จะกลายเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น มันยังไม่ได้แก้แค้นให้กับการตายของน้องชายและขาที่มันต้องสูญเสียไปเลย นี่มันกำลังจะตายด้วยน้ำมือของศัตรูของมันจริงๆงั้นรึ?

ไม่ยอมรับ มันไม่อาจยอมรับได้!

“เอาล่ะ มาจบความบาดหมางนี่กันเถอะ!” หลิงฮันกล่าว “ในตอนที่เจ้าฆ่าและทำร้ายผู้คนอย่างโจ่งแจ้ง เจ้าเคยแม้แต่จะคิดหรือไม่ว่าคนที่ถูกกลั่นแกล้งนั้นรู้สึกยังไง? ดังนั้น เจ้าจะต้องเผชิญสิ่งเดียวกันกับที่เจ้าเคยทำลงไป มันมักจะมีคนที่สามารถทำโทษเจ้าได้อยู่เสมอ!”

“และเจ้านั้นโชคร้ายมากที่ได้พบกับข้า!”

“จงเป็นคนดีในชีวิตหน้า…ยังไงก็ตาม สิ่งที่เจ้าทำลงไปในชีวิตนี้ เจ้ายังอยากเป็นมนุษย์อีกงั้นหรือ? เจ้าควรจะเกิดเป็นหมูเสียดีกว่าและชดใช้บาปของเจ้า!”

หลิงฮันกระทืบเท้าอย่างรุนแรง หัวทั้งหัวของเฟิงหยางจมลงไปในกองโคลนทันที แขนขาของมันชักกระตุกอย่างชั่วครู่ ก่อนที่จะแน่นิ่งไป

เห็นได้ชัดว่าเฟิงหยางตายแล้ว

“หลิงฮัน! หลิงฮัน! หลิงฮัน!” จือเฮอชุนคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวอยู่บนท้องฟ้า มันรู้สึกโกรธหลิงฮันสุดขีด

“เข้ามาถ้าเจ้ามีความกล้ามากพอ นายท่านผู้นี้ยินดีที่จะต่อสู้กับเจ้าสามร้อยรอบ!” หลิงฮันท้าทาย

จือเฮอชุนไม่กล้าที่จะยอมรับคำท้า หากเข้าไปหาหลิงฮันมีแต่มันจะได้รับแรงกดดันจากซากศพพระเจ้าเท่านั้น

หลิงฮันหัวเราะออกมาเสียงดังและพูดว่า “ถ้าพวกเจ้าไม่ยอมเข้ามา ข้าคงต้องขอตัว! นอกจากนี้พวกเจ้าควรขบคิดให้ดี ถ้าพวกเจ้าต้องการไล่ล่านายท่านผู้นี้ บางทีมันอาจทำให้ชีวิตของพวกเจ้าต้องจบสิ้น”

หลิงฮันเดินออกไปและโบกมือ แล้วเก็บซากศพระเจ้าเข้าไปในหอคอยทมิฬ แต่แรงกดดันที่หนักหน่วงก็พุ่งเข้ามาหาเขาทันทีจนเกือบทำให้เขากระอักเลือดออกมา

….เขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระภายใต้แรงกดดันของตัวตนระดับพระเจ้า แต่การสัมผัสซากศพของพระเจ้านั้นยังคงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

หลิงฮันพยายามต่อต้านมันด้วยความยากลำบากและไม่แสดงให้ใครเห็นถึงมัน

“ถ้าพวกเจ้าต้องการไล่ล่านายท่านผู้นี้ก็จงมา!” หลิงฮันจ้องมองไปที่อ้าวเฟิงอีกครั้ง ตอนนี้มันรู้สึกตัวแล้ว “เจ้ายังตายไม่ได้ ชีวิตของเจ้านั้นท่านพ่อของข้าจะเป็นคนตัดสิน มิฉะนั้น ท่านพ่อของยังคงมีความรู้สึกเสียใจหลงเหลืออยู่”

เฟิงอ้าวอยากจะชูนิ้วกลางใส่หลิงฮัน แต่เม็ดเหงื่อที่หนาวเย็นนั้นปกคลุมไปทั่วร่างกายของมัน มันไร้เรี่ยวแรงอย่างสมบูรณ์ มิฉะนั้นมันคงจะชูนิ้วกลางใส่หลิงฮันไปแล้ว

หลิงฮันรีบลงมาจากภูเขาอย่างรวดเร็ว บนท้องฟ้า สัมผัสสวรรค์ของคนเก้าคนจ้องมองมาที่เขาอยู่ตลอดเวลา แปดคนเต็มไปด้วยจิตสังหาร ขณะที่อีกคนแสดงให้เห็นถึงความเป็นมิตร

นั่นจะต้องเป็นผู้อาวุโสของตระกูลเย่วอย่างแน่นอน!

ในความเป็นจริง ยิ่งเขาทำตัวอุกอาจมากเท่าไหร่ ผู้อาวุโสตระกูลเย่วก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น เขาเป็นทายาทของตระกูลแม้จะไม่ใช่แซ่เย่วก็ตาม

อย่างไรก็ตาม จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณอีกแปดคนนั้นไม่คิดที่จะลงมือโจมตี มันอาจเป็นเพราะซากศพตัวตนระดับพระเจ้า บางทีพวกมันกำลังรอให้หลิงฮันลดการป้องกันลงและค่อยจู่โจมทีเผลอเพื่อสังหารเขา

ยิ่งไปกว่านั้น มันจะต้องเป็นปัญหาอย่างมากแน่นอนถ้านักปรุงยาระดับสวรรค์ตกตายอยู่ภายในนิกายจันทราเหมันตร์ ดังนั้นพวกมันจึงทำได้แค่รอให้หลิงฮันไปไกลก่อนแล้วค่อยลงมือ

“หลิงฮัน! หลิงฮัน!” เย่วไค่หยู่รีบพุ่งเข้ามาหา หลังจากที่ออกจากเขตแดนลี้ลับ เขาตรงกลับไปที่นิกายจันทราเหมันตร์ทันที ดังนั้นเขาจึงมาถึงที่นี่รวดเร็วกว่าหลิงฮันหลายวัน

“พี่ชายเย่วนี่เอง!” หลิงฮันหัวเราะ

“นายน้อยฮัน…อึก!” เย่วไค่หยู่รีบมุ่งหน้าเข้ามาหาและคว้าไปที่คอเสื้อของหลิงฮัน “เจ้าคนสารเลว เจ้ารู้อยู่แก่ใจว่าข้าคือลูกพี่ลูกน้องของเจ้า แต่เจ้ายังบอกให้ข้าเรียกเจ้าว่านายน้อยฮัน นายน้อยฮัน! ข้าจะปล่อยให้ท่านป้าเป็นคนตัดสินว่าใครถูกใครผิด!”

หลิงฮันหัวเราะลั่นและพูดว่า “เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าพวกเรานั้นเคยเดิมพันกันและเจ้าเป็นฝ่ายแพ้?”

“เมื่อไหร่กันที่ข้าไปเดิมพันกับเจ้า?” เย่วไค่หยู่นึกไม่ออก

หลิงฮันโยนเหรียญตราแสดงตัวตนให้เย่วไค่หยู่ได้เห็น

“ฮันหลิง!” เย่วไค่หยู่รับเหรียญตรานั้นไว้และในที่สุดก็รู้ว่าฮันหลิงแท้จริงแล้วคือหลิงฮัน! ในตอนที่พวกเขาเข้าไปในที่ซ่อนของต้วนเซิงจื้อ หลิงฮันได้เดิมพันกับเขาว่าเขาจะสามารถสังหารทหารซากศพทั้งหมดได้ทันเวลาหรือไม่ และเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นฝ่ายแพ้การเดิมพันกับหลิงฮัน

เจ้าหมอนี่คาดการณ์ไว้แล้ว!

“เจ้ามันเป็นคนเจ้าเล่ห์เกินไป!” เย่วไค่หยู่พูดติเตียน ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไม “ฮันหลิง” ถึงมอบโอสถฟื้นคืนวิญญาณให้กับเขาเป็นของขวัญ  หลังจากที่คำตอบทั้งหมดถูกเปิดเผยออกมาหมดแล้ว ทำให้เขารู้สึกอับอายมากจึงติเตียนหลิงฮัน

มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่เขายอมรับของขวัญพวกนั้น

หลิงฮันหัวเราะเสียงดังและพูดว่า “ข้าจะมาหาเจ้าอีกในอนาคต สำหรับตอนนี้ เจ้าควรกลับไปได้แล้ว ข้าเกรงว่าพวกตาเฒ่าจะโจมตีทีเผลอและลากเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”

“เจ้ารับมือกับพวกเขาได้งั้นรึ?” เย่วไค่หยู่พูดออกมาอย่างจริงจัง

“ไม่มีปัญหา” หลิงฮันพูดออกมาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม

เย่วไค่หยู่พยักหน้า เขาเคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับหลิงฮันมาแล้วในสิบสองเขตแดนลี้ลับสวรรค์และมั่นใจในตัวหลิงฮันมาก หากหลิงฮันพูดว่าไม่มีปัญหา มันจะต้องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

“เอาล่ะ อย่างลืมมาเยี่ยมข้าพร้อมกับท่านป้าของข้าและท่านลุงด้วยล่ะ!” เย่วไค่หยู่พูดเตือนอีกครั้ง

“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว ทำไมเจ้าพูดย่ำตลอดเหมือนคนแก่เลย” หลิงฮันสะบัดมือเพื่อไล่เขขาไป

“เจ้านั่นแหละคนแก่!” เย่วไค่หยู่พูดสวน เขาหันหลังจากไปพร้อมกับโบกมือให้หลิงฮัน

หลิงฮันเองก็โบกมือเช่นเดียวกัน แล้วหันหลังกลับจากไปอย่างเร่งรีบ

หลังจากผ่านไปครึ่งวัน เขาก็อยู่ห่างไกลจากนิกายจันทราเหมันตร์พอสมควร บางทีจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณแปดคนที่ตามเขาอยู่เบื้องหลังอาจลงมือโจมตีในไม่ช้า

หลิงฮันยิ้มและกระโดดลงไปแม่น้ำ จุ่ม น้ำกระจายไปทั่ว แต่เขากลับไม่ลอยขึ้นมา และเข้าไปในหอคอยทมิฬแทน

พรึบ พรึบ พรึบ คนเก้าคนปรากฏอยู่บนฟากฟ้า แต่ละคนแสดงสีหน้าตกใจออกมาเพราะพวกเขาไม่อาจสัมผัสได้ถึงตัวตนของหลิงฮันได้อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ชายชราคนหนึ่งได้เปิดเผยรอยยิ้มแห่งความสุขออกมาในความตกใจของเขา

เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้อาวุโสแห่งตระกูลเย่ว

“มันหายตัวไปได้ยังไงกัน?” จือเฮอชุนตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด

“เจ้าเด็กนั่นจะต้องใช้วิธีการพิเศษบางอย่างที่สามารถปกปิดตัวตนและลบร่องรอยของตัวเองได้” ผู้อาวุโสตระกูลอ้าวคาดเดา สายตาของเขาดูน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง ลูกหลานของมัน อ้าวเฟิงคือคนที่จะมีโอกาสก้าวเข้าสู่ระดับตัวอ่อนวิญญาณแต่รากฐานวิญญาณของมันกลับถูกทำลาย!

“แยกกันไปค้นหา!”

ทั้งเก้าคนกระจายตัวออกไปทันที ผู้อาวุโสตระกูลเย่วเห็นได้ชัดว่ามีแผนอย่างอื่นอยู่ในใจ ถ้าเขาพบหลิงฮัน ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ทำอะไรหลิงฮันเท่านั้น แต่ยังคิดที่วิธีที่จะพาเขาหนีไปด้วย

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่อาจรู้ได้ว่าหอคอยทมิฬนั้นกลายเป็นจุดสีดำที่ไหลไปตามแม่น้ำไปไกลแล้ว แม่น้ำสายนี้จะกลับสู่ท้องทะเล ซึ่งเป็นทางออกของดินแดนทางตอนเหนืออันโดดเดี่ยว

หลิงฮันไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขาเข้าไปในหอคอยทมิฦและอยู่กับแม่ของเขา

“ลูกแม่!” หลังจากที่เห็นหลิงฮัน เย่วฮงฉางที่หยุดร้องไห้ออกมาได้แล้วนั้นก็ร้องไห้ออกมาทันทีอีกครั้งพร้อมทั้งสวมกอดหลิงฮันและไม่อยากปล่อย นางรอคอยมาเป็นเวลาสิบแปดปีแล้ว และคิดว่าคงไม่มีโอกาสที่จะมีชีวิตใหม่ แต่สวรรค์นั้นไม่ได้ทอดทิ้งนาง ในที่สุดนางก็ได้เห็นหน้าลูกชายของตัวเองอีกครั้ง

หลิงฮันเองก็รู้สึกดีใจเช่นเดียวกัน ในที่สุดเขาก็มีพ่อและแม่เสียทีในชีวิตนี้