ตอนที่ 207 เล่นอย่างจริงจัง

“สวรรค์…ผู้คนเข้าร่วมการแข่งขันคนนี้คือใครกัน” ผู้อาวุโสจิ้งพึมพําด้วยเสียงที่งุนงงขณะที่เขาจ้องมองไปที่ร่างที่สวมหน้ากากหยกดําอยู่

หยวนคนนี้…เขาไม่ได้ใช้ความสามารถทั้งหมดของเขาในช่วงที่ต่อสู้ตัวต่อตัวกับข้างั้นหรอ? เขา…ดูถูกข้าหรือเปล่า?”ซึ่งหลิงเอ๋อร์จ้องมองหยวนด้วยสายตาที่ไม่อยากเชื่ออย่างชัดเจน

คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนดูถูกเธอที่เป็นผู้นําของนิกายดนตรีสวรรค์ เธอรู้สึกถึงความรู้สึกที่ไม่อาจพรรณนาได้ในใจของเธอหลังจากที่เธอได้เรียนรู้สิ่งนี้

แน่นอนว่าหยวนไม่ได้ตั้งใจดูถูกซ่งหลิงเอ๋อร์ในตอนที่เขาต่อสู้แบบตัวต่อตัว แต่เพราะเขาเพียงไม่รู้สึกจริงจังในการแข่งขันกันเองระหว่างผู้เล่นพิณสองคน เขาเห็นว่าเป็นการเล่นด้วยกันอย่างเป็นมิตรมากกว่า

แต่ตอนนี้ในฐานะคนที่ถูกกําหนดเงื่อนไขให้แสดงให้ดีที่สุดในระหว่างการแข่งขัน และตอนนี้เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันจริงเขาจึงเข้าสู่โหมดจริงจัง” โดยไม่รู้ตัว เขาจึงเล่นพิณด้วยความมุ่งมั่นและจริงจังโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากนี่เป็นการแข่งขันดนตรี

ในขณะเดียวกันผู้ชมและผู้เข้าร่วมต่างก็จ้องมองหยวนด้วยความตกตะลึง คําว่าไม่เชื่อเขียนขึ้นทั่วใบหน้าของพวกเขาทั้งหมด แม้ว่าผู้ชมส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจสถานการณ์ว่าการแสดงของหยวนในตอนนี้นั้นน่าพึ่งเพียงใดแต่พวกเขาก็รู้ดีว่านี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาเคยได้ยินในวันนี้และน่าจะเป็นไปได้ตลอดชีวิตของพวกเขา

สําหรับผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ พวกเขารู้สึกที่งกับการแสดงของหยวนและพวกเขายังสามารถมองเห็นภาพลวงตาของสวนดอกไม่ได้แม้ว่าเวลาจะผ่านไปสักครู่แล้วหลังจากที่พวกเขาได้ยินโน้ตดนตรีทั้งสาม!

หยวน…นาย… แม้แต่เฟยยู่หยานก็จ้องมองหยวนด้วยสีหน้าแวววาวบนใบหน้าของเธอ เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นมากในขณะนี้

หลังจากเงียบไปนานสองสามนาทีในที่สุดซ่งหลิงเอ๋อร์ก็หายจากความงุนงงและเป็นครั้งแรกในการแข่งขันครั้งนี้ที่เธอให้คําตัดสินก่อนว่า

“สิบคะแนน”

อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้พูดอะไรอีก ไม่มีคําชมเชยไม่มีความคิดเห็น ไม่มีอะไรเลยเกือบจะเหมือนกับว่าเธอพูดไม่ออก

ผู้อาวุโสซูและผู้อาวุโสจิ้งก็ตามมาสักครู่และพวกเขาก็ให้คําตัดสินของพวกเขาโดยไม่มีคําพูดอื่นใด

“สิบคะแนน…”

“สิบคะแนน…”

ถึงแม้จะมีผู้เข้าร่วมคนแรกที่ได้รับคะแนนที่สมบูรณ์แบบในการแข่งขันครั้งนี้ แต่ผู้ชมไม่ได้ตื่นเต้นหรือส่งเสียงเชียร์ทุกคนยังคงเงียบ ส่วนใหญ่เป็นเพราะพวกเขายังคงพยายามเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

เมื่อถึงเวลาที่ผู้ชมส่วนใหญ่กลับมามีสติ กรรมการก็ได้ให้คําตัดสินแล้วและย้ายเข้าสู่ทีมต่อไป

อย่างไรก็ตามทีมต่อไปดูเหมือนจะไม่อยู่ในความคิดที่ถูกต้องเมื่อถึงคราวของพวกเขาในที่สุดและเมื่อพวกเขาพยายามเล่นพิณ มันฟังดูเหมือนพวกเขาเพิ่งจะเคยเล่นพิณเป็นครั้งแรกพวกเขาลืมวิธีเล่นไปเสียสนิท

“ศูนย์คะแนน”

“ศูนย์จากฉันเช่นกัน”

“ศูนย์”

ผู้ตัดสินทั้งสามให้คําตัดสินอย่างรวดเร็วและเป็นครั้งแรกในการแข่งขันครั้งนี้ครั้งนี้เหมือนกันที่ผู้ตัดสินทุกคนให้คะแนนเป็นศูนย์

และเหตุการณ์ที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชม ยังคงเกิดขึ้นกับทีมถัดไปเช่นกัน เกือบจะเหมือนกับผู้เข้าร่วมทุกคนที่ได้ยินหยวนเล่นพิณไปแล้ว พวกเขาสูญเสียความสามารถในการเล่นพิณไปอย่างกะทันหัน

สิ่งนี้ทําให้ผู้ชมงุนงงเป็นอย่างมากทําให้พวกเขาสงสัยว่าหยวนตั้งใจที่จะทําร้ายผู้เข้าร่วมคนอื่นๆหรือไม่ซึ่งนี่น่าจะถือว่าเป็นการโกง

อย่างไรก็ตามกรรมการไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่ผู้ชมจะพูดได้ แม้ว่าใครบางคนต้องการเปล่งเสียงของพวกเขาพวกเขาก็จะนึกถึงการแสดงที่แปลกประหลาดของหยวนซึ่งทําให้พวกเขาเปลี่ยนใจอย่างรวดเร็วท้ายที่สุดแล้วคนที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ไม่จําเป็นต้องโกงการแข่งขัน

อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาทีมสุดท้ายก็ได้รับคําตัดสินในส่วนแรกของการแข่งขัน

และเมื่อสิ้นสุดการแข่งขันส่วนแรกผู้เข้าร่วมกว่าครึ่งถูกตัดสิทธิ์เนื่องจากผลการแข่งขันไม่เป็นที่น่าพอใจโดยเหลือเพียงไม่กี่ร้อยทีม

“นั่นคือจุดสิ้นสุดของส่วนแรก” ผู้อาวุโสซูกล่าวและกล่าวต่อว่า

“ในส่วนที่สองของการแข่งขันเราจะให้ทั้งสองคนในทีมเล่นเพลงด้วยกัน”

“ในที่สุดเราก็ได้ฟังเพลงจริงกันแล้ว!”

“ข้ารอสิ่งนี้อยู่!”

ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้น แม้ว่าช่วงแรกของการแข่งขันจะมีความน่าตื่นเต้นในรูปแบบของมันเอง แต่ก็ยังสั้นเกินไปสําหรับผู้ชมที่จะดื่มต่ํากับดนตรีอย่างแท้จริงเพราะมันจบลงหลังจากโน้ตสั้นๆสามครั้งเท่านั้น

ในเวลาต่อมาผู้อาวุโสกล่าวต่อว่า

“เนื่องจากนี่เป็นการแข่งขันที่วัดจากความสามัคคี พวกเจ้าจึงควรฝึกซ้อมร่วมกับคู่หูของเจ้ามาก่อน ดังนั้นเราจะให้เจ้าตัดสินใจเลือกเพลงที่เจ้าต้องการเล่น”

“เจ้ามีเวลาสามนาที่ในการแสดง แต่พวกเราผู้ตัดสินทุกคนสามารถตัดสินใจที่จะตัดมันให้สั้นลงได้ หากเพลงที่พวกเจ้าเล่นออกมามันแย่เกินไป”

ผู้อาวุโสซูชี้ไปที่ทีมที่อยู่ด้านหน้าและพูดว่า “เราจะเริ่มจากเจ้า เจ้ามีเวลาหนึ่งนาทีในการพูดคุยกับคู่ของเจ้าและเตรียมตัวให้พร้อมสําหรับเพลงของเจ้า สําหรับทีมอื่นๆพวกเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกันจนกว่าจะถึงตาของเจ้ามิฉะนั้นเจ้าจะถูกตัดสิทธิ์โดยอัตโนมัติเริ่มได้!”

ทันใดนั้นทั้งสองคนในทีมนั้นก็เริ่มคุยกันและตัดสินใจว่าพวกเขาควรจะเล่นเพลงไหน

สามสิบวินาทีต่อมาผู้เข้าร่วมสองคนนั้นก็หายใจเข้าลึกๆและเริ่มเล่นพิณพร้อมกัน

เสียงที่ไพเราะมากดังไปทั่วบริเวณและเข้าหูของผู้ชม

ผู้ชมส่วนใหญ่ได้รับความสนใจจากดนตรีอย่างรวดเร็วและหมกมุ่นอยู่กับมัน

อย่างไรก็ตามเมื่อผ่านไปสามสิบวินาที เมื่อคนในทีมทําผิดครั้งแรกด้วยโน้ตที่ไม่ตรงจังหวะเดียวเสียงของซ่งหลิงเอ๋อร์ก็ดังก้อง

“พอแล้ว”

เสียงดนตรีหยุดลงทันทีหลังจากคําพูดของเธอดังก้องและผู้เข้าร่วมก็เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของซ่งหลิงเอ๋อร์ที่ขมวดคิ้วเล็กน้อยบนใบหน้าที่สวยงามของเธอ

“นี่คือการแข่งขันแบบทีมไม่ใช่การแข่งขันแบบเดี่ยวเจ้าไม่ได้ฝึกซ้อมด้วยกันมากพอ พวกเจ้าจึงถูกตัดสิทธิ์”ซ่งหลิงเอ๋อกล่าวให้เวลาต่อมาด้วยน้ําเสียงเย็นชาบดขยี้ความหวังของทีมนั้นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที