ตอนที่ 348

Black Tech Internet Cafe System

หนังหลายเรื่องในร้านของฟางฉีได้รับการย่องยกและกล่าวขานกันว่าเป็นสมบัติที่หายากซึ่งเป็นเรื่องดีที่อนุญาตให้ผู้คนได้มีโอกาสสืบทอดทเคนิคการต่อสู้และทำความเข้าใจมากขึ้นถึงพื้นฐานต่างๆ

 

ตัวอย่างเช่นว่าหลังจากรับชมกระบี่เทพสังหารแล้วได้อ่านและทำความเข้าใจถึงความจริงของโลกใบนี้จากหนังสือสวรรค์ ส่วนเรื่องแฮร์รี่พอร์ตเตอร์นั้นหลายคนได้รับประโยชน์จากการฝึกใช้เวทย์มนตร์

 

ผู้ชมแต่ละคนมีเข้าใจและรู้สัมผัสได้ถึงกระบวนการฝึกฝนเทคนิคควบคุมดาบและเวทย์มนตร์ได้อย่างชัดเจนและเห็นภาพหลังจากได้ดูหนัง พวกเขาเข้าใจถึงโครงสร้างของสิ่งของและประเพณีต่างๆ พวกเขาแต่ละคนใช้เวลาอย่างถี่ถ้วนในการทำความเข้าใจ

 

แน่นอนว่าคนหนึ่งคนสามารถเรียนรู้ได้หลายอย่างและมันจะเข้าใจง่ายมากขึ้นหากได้รับการถ่ายทอดอย่างระเอียด นี่เป็นสามารถที่ทำให้ฟางฉีนั้นสามารถฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ

 

เมื่อถึงตอนนี้รวนหนิง หลิวหนิงหยุนพร้อมด้วยคนอื่นๆ ที่เป็นลูกค้ารายแรกๆ สามารถใช้เทคนิคการควบคุมดาบขั้นพื้นฐานของกลุ่มเมฆเขียวได้แล้วเช่นกัน

 

ฟางฉีมองออกไปพบว่ามีหลายคนกำลังเคลื่อนไหวอยู่หน้าร้าน

 

“ฮ่าๆๆๆ มาดูเทคนิคการควบคุมดาบของข้า!” รวนหนิงเอ่ยชวนเพื่อนขณะทื่เธอกำลังเหยียบอยู่บนดาบ ในตอนแรกรวนหนิงเองก็ไม่ได้ใช้งานมันได้ดีนักเธอยังคงเก้ๆ กังๆ ซึ่งแตกต่างจากจางเซียวฟานอย่างมาก

 

“เจ้าช่างพอใจในตัวเองจริงๆ” ฟางฉีมองไปที่เธอ “หลิวหนิงหยุนเจ้ามาที่นี่แต่เช้าเพื่อมาเรียนรู้เทคนิคควบคุมดาบหรือ”

 

หลิวหนิงหยุนพกโทเค็นดาบมังกรไว้ตรงหน้าอกของเธอ เธอถูกชักชวนเข้าสู่สมาคมโดยรวนหนิงมันไม่ใช่แผนการดั้งเดิม แต่อย่างก็ตามเมื่อเธอเห็นหลายคนทำการต่อสู้อย่างอิสระแล้วพ่ายแพ้เธอจึงจำเป็นต้องเข้าร่วมสมาคมเพื่อความแข็งแกร่งที่มากขึ้น

 

ตอนนี้เธอกำลังฝึกฝนเทคนิคการควบคุมดาบให้ดีขึ้นไม่มีใครกล้าจะทำอะไรเธอเนื่องจากสัญลักษณ์โทเค็นบนหน้าอก

 

“ข้ายังทำได้ไม่ดีนัก” หลิวหนิงหยุนส่ายหัว “ข้าลองบินมาที่นี่ ในฐานะผู้เริ่มเล่นข้ายังบินได้ไม่ดีนัก”

 

“เธอคือนางฟ้างแห่งสวรรค์ของหนานหัวและข้าเป็นเพียงคนธรรมดา” รวนหนิงพูด “เจ้ากำลังเยาะเย้ยข้า” เธอมองค้อนฟางฉี

 

เธอพึมพำด้วยเสียงต่ำ “หัวหน้าสมาคมเป็นปีศาจเจ้าเล่ห์!”

 

“เจ้าว่าอะไร!?” เขาจ้องหน้าเธอ

 

“เปล๊า!”

 

ฟางฉีมองว่านอกจากเจ้ากระบี่ขั้นเทพแล้ว วีรบุรุษแห่งดาบอีกคนก็อยู่ในเรื่องศึกเทพยุทธภูผาซูที่นำโดยกลุ่มเอมเมย

 

ตอนนี้ลูกค้าเริ่มเล่นเกมกันแล้วแม้แต่คนที่กำลังพักผ่อนบนโซฟาด้วยความขี้เกียจพวกเขาก็จำใจลุกมากินบะหมี่และโค้กเพื่อเตรียมตัวพร้อมที่จะเล่นเกม

 

“เฮ้! เรากำลังจะมีหนังเรื่องใหม่” ฟางฉีเคาะกระดานเพื่อบอกรวนหนิงและคนอื่นๆ เนื่องจากพวกเขาเป็นสมาชิกของสมาคมเขาจึงแนะนำหนังพวกนี้ให้พวกเขา

 

“เจ้าหมายถึงแฮร์รี่พอร์ตเตอร์หรอ? ข้าเคยดูมาแล้วนะ” รวนหนิงทำหน้าสับสน

 

“ศึกเทพยุทธภูเขาซูหรอ?” หลิวหนิงหยุนพูดพลางถือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในมือ “มีนคือหนังอะไรหรอ? มันบอกเล่าเกี่ยวกับภูผาหรือ?”

 

“…”

 

[ใครสนใจจะไปเที่ยวภูเขาซูบ้าง?] ฟางฉีคุยในกลุ่ม QQ [หากใครสนใจโปรดชำระเงิน]

 

ซงฉิงเฟิง [ภูเขาซู?]

 

นาหลันหมิงสือ [มันเป็นตำนวนของเซียนกระบี่พิชิตมารใช่มั้ย?]

 

ซูเทียนจิ [เป็นภาคต่อของเซียวเหยาและหลิงหรอ?]

 

เจียงเสี่ยวหยู​ [เจ้านายทำไมท่านไม่บอกข้าบ้างว่ามีหนังใหม่ ข้ายังไม่ได้เขียนขึ้นบนกระดานดำ!]

 

ไม่กี่วิต่อมาเจียงเสี่ยวหยูก็เขียนขึ้นกระดานดำว่าได้มีหนังใหม่เข้ามา!

 

หลายคนเริ่มโพสต์ข้อความ ..

 

นาหลันหมิงสือ “ทำไมมันถึงชื่อศึกเทพยุทธภูผาซู แทนที่จะใช้เซียนกระบี่พิชิตมาร ..”

 

เยซงเต๋า [เรากำลังเรียนรู้เทคนิคขั้นสูงของกลุ่มภูเขาซู เราต้องดูหนังเรื่องนี้หรอ?]

 

เยเสี่ยวเย้ [บอกข้าว่าหลิงจะฟื้น ถ้าไม่ข้าไม่ดู!]

 

เธอเลิกคิดถงหลิงไม่ได้เลย

 

ฟางฉี [ไม่!]

 

เยเสี่ยวเย้ [ข้าไม่ดู!]

 

ซูเทียนจิ [ข้าด้วย]

 

หลันหยัน [หนังเรื่องนี้ไม่มีหลิง]

 

ฟางฉีตอบ [มันเหมาะกับทุกคน หากไม่มีใครต้องการข้าจะดูแล้วนะ!]

 

อาจารย์ซีชิ [ช้าก่อน! .. กลุ่มหนานหัวต้องการเข้าร่วม! ]

 

ตังหยวนและเหล่าอาจารย์จากหยวนเฮง [เจ้าช่วยพาพวกเข้าไปด้วย!]

 

ปีศาจดำ [มันดีมั้ย? ข้ายังไม่เคยดูเลยงั้นข้าร่วมด้วย!]

 

นักบวชเต๋าปีกแดง [ข้าอีกคน!]

 

หนิงไป่ [ข้าด้วยๆ]

 

ขณะเดียวกันกลุ่มเฮารันที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้านสายตาพบเข้ากับหนังเรื่องใหม่ “เจ้าของนี่มันหนังเกี่ยวกับอะไร? ห้าสิบคริสตัล .. ทำไมแพงมาก!”

 

“เจ้าต้องการดูมันมั้ย?”

 

“แน่สิ! ข้าไม่รู้ว่าทำไมมันถึงแพงมันคงจะดีตามราคาที่ข้าจ่ายไป” ผู้ฝึกฝนจากกลุ่มเฮารันกล่าวขณะควักเงินออกมาจ่าย

 

“เร็วเข้า!” ฟางฉีเร่งเขา

 

ขณะนี้ผู้คนจำนวนมากเข้ามารวมตัวกันในเขตคิวโซนของฟางฉีด้วยความรวดเร็ว

 

ไม่เพียงแต่คนจากกลุ่มเฮารันเท่านั้น แต่ซูเทียนจิ เยเสี่ยวเย้และคนอื่นๆ ที่บอกว่าจะไม่มาในตอนนี้แรกก็โผล่มาพร้อมผู้อาวุโสอย่างเยซงเต๋า นาหลันฮงวูและหลันโมก็เข้าร่วมเช่นกัน

 

“ไหนเจ้าบอกว่าจะไม่ดูมัน”

 

“หลังจากคิดพิจารณาแล้วเราตัดสินใจที่จะดูมัน” แม้ว่าพวกเขาจะบอกไม่ แต่หัวใจอันซื่อสัตย์บอกว่าใช่!

 

“…”

 

ความมืดค่อยๆ สว่างขึ้นและฉากตรงหน้าพวกเขาค่อยๆ เปลี่ยนไป ดูเหมือนว่าพวกเขามาถึงกลุ่มเมฆหลากสีที่อยู่บนสวรรค์ เมื่อแสงจันทร์จางลงท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวยามค่ำคืนส่องไสวลอยอยู่เบื้องหน้าพวกเขา

 

“จักรวาลอันกว้างใหญ่ ดวงดาวระยิบระยับเปลี่ยนไปในทุกวินาที”

 

“พื้นที่รอบๆ ภูเขาซูนั้นอยู่ในมณฑลเสฉวนทางตอนกลางของประเทศจีนที่นั้นเต็มไปด้วยเมฆและสาระสำคัญทางจิตวิญญาณ ท้องฟ้าภูเขาและโลกรวมตัวกันตามตำนาน”

 

.. ภูเขาที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเป็นภูเขาขนาดใหญ่ลอยอยู่บนอากาศโดยไม่มีอะไรรองรับ

 

“ว้าว!” เหนือมหาสมุทร แสงอาทิตย์ส่องประกายในทุกทิศทาง ผู้ฝึกฝนหายคนยืนอยู่บนภูเขาด้วยความประหลาดใจหลายคนลังเลที่จะเดินทาง ..