ถังซีลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เธอเห็นคือใครบางคนนอนซบอยู่บนร่างเธอ เป็นผู้หญิงผมสีน้ำตาลเข้ม ไม่ใช่ผมดำ ดังนั้นนี่ไม่ใช่คุณแม่ เธอขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วก็หวีดร้องออกมาด้วยความโล่งอก เธอกลับมาแล้ว!
ใช่! เธอกลับมาแล้ว!
เธอลองใช้ทุกวิถีทางเท่าที่จะนึกออก ยกเว้นการเรียกหา 008 ถ้าเธอเรียก 008 ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ เธอคงตื่นขึ้นมาตั้งนานแล้วใช่ไหม
เมื่อคิดเช่นนี้ถังซีก็ระเบิดเสียงร้องไห้ออกมาให้กับความโง่เขลาของตัวเอง อาจเป็นเพราะเสียใจที่ไม่ได้เรียกหา 008 ตั้งแต่แรก หรืออาจเป็นเพราะเธอตื่นเต้นเกินไปที่ได้กลับมา แต่เธอร้องไห้ออกมาจริงๆ น้ำตาเธอไหลพรากอย่างกลั้นไม่อยู่
หลินหรูตกใจเสียงหวีดร้องของถังซี เธอมองสำรวจถังซีอย่างละเอียด แล้วด้วยความโล่งอกเธอกอดถังซีแน่น และร้องไห้น้ำตานองหน้ากล่าวว่า “ลูกรัก ในที่สุดลูกก็ฟื้น รู้ไหมว่าแม่กลัวเหลือเกิน”
ถังซียังไม่หายตื่นเต้น ในเวลานี้เธอต้องการใครสักคนจริงๆ ที่จะแบ่งปันความสุข เธอจึงกอดหลินหรูขณะร้องไห้และหัวเราะไปพร้อมกัน ในที่สุดเธอก็ได้กลับมาแล้ว ตอนนี้เธอสามารถไปหาเฉียวเหลียง ไปบอกให้เขาหายเศร้า บอกเขาว่าเธอยังมีชีวิตอยู่
หลินหรูดีใจที่ถังซีกอดเธอ เธอเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้น “ขอบคุณนะโหรวโหรว ขอบคุณที่ให้อภัยแม่”
เมื่อได้ยินเสียงหลินหรู ถังซีก็คลายอ้อมกอด ค่อยๆ ปล่อยหลินรูออกจากอ้อมแขน เธอประหลาดใจมากที่เห็นว่าเป็นหลินรู เธอยิ้มอย่างเก้อเขินและถามว่า “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่”
หลินหรูรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยจากปฏิกิริยาของถังซี แต่ก็ยังคงสงบนิ่งและกล่าวว่า “ลูกอยู่ในอาการโคม่ามาหลายวันแล้ว แม่เป็นห่วงลูกมาก…”
“ขอบคุณนะคะ” ถังซียิ้มแล้วมองดูนาฬิกาบนผนัง ยังเช้าอยู่ หลินหรูคงเฝ้าเธอมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแน่ๆ เมื่อเห็นว่าหลินหรูเต็มใจทำแบบนี้ให้เซียวโหรว เธอก็ไม่อาจตัดสินใจไม่ให้อภัย ถังซีจึงกล่าวว่า “คุณคงเหนื่อยมาก”
เป็นครั้งแรกที่หลินหรูได้ยินน้ำเสียงที่ลูกสาวพูดกับเธอเช่นนี้ เธอโบกมือไปมาด้วยความตื่นเต้นและตอบว่า “ไม่เลยจ้ะ ไม่เลย แม่ไม่เหนื่อยเลย ดีเหลือเกิน… ดีเหลือเกินที่ลูกฟื้นขึ้นมา แม่จะไป…” หลินหรูชะงัก จากนั้นก็พูดต่อ “โทรบอกคุณแม่ของหนู รอแป๊บเดียวนะ พวกเขาก็มาเฝ้าหนูอยู่ที่โรงพยาบาลนี่ทุกวันเหมือนกัน ตอนกลางคืนแม่จะมาผลัดกับคุณแม่ของหนู ทุกคนต้องดีใจมากแน่ๆ ที่รู้ว่าหนูฟื้นแล้ว…”
ถังซีรู้สึกว่าหลินหรูเปลี่ยนแปลงไปมาก ไม่ก้าวร้าว ไม่เห็นแก่เงินเหมือนเมื่อก่อน และไม่ได้พยายามหาความดีความชอบให้ตัวเองเลยด้วย
ถังซีพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เธอถามว่า “พี่ใหญ่ของฉันปลอดภัยดีไหมคะ”
ขณะที่หลินหรูกำลังจะตอบ เซียวเหยาก็ผลักประตูห้องคนไข้เปิดเข้ามา เขาดูหล่อขึ้นกว่าเดิมอีกในเครื่องแบบทหาร ดูเข้มแข็งและมีพลัง เขายิ้มให้ถังซีและกล่าวว่า “ขอบใจมากนะโหรวโหรว พี่สบายดีแล้ว”
หลินหรูไม่เข้าใจความหมายของเซียวเหยา แต่ถังซีเข้าใจ เธอตอบด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นข่าวดีที่สุดสำหรับฉัน ฉันดีใจที่เห็นพี่ปลอดภัยค่ะ พี่เหยา”
“แต่ถ้าเธอไม่ฟื้นขึ้นมา พี่จะรู้สึกผิดอย่างมาก” เซียวเหยากล่าวอย่างจริงจัง ด้วยท่าทางเคร่งเครียด
ถังซีเม้มริมฝีปากและไม่พูดอะไร เธอรู้ว่าเซียวเหยาอาจเดาว่าเธอเป็นนางฟ้า ใครเล่าจะสามารถทำในสิ่งที่เธอทำได้ นอกเสียจากนางฟ้า แล้วเธอยังสามารถพาเขากลับจากเมือง J มายังเมือง A ในฉับพลันได้อีกด้วย!
แน่นอน เป็นเรื่องดีสำหรับคนอื่นที่คิดว่าเธอเป็นนางฟ้าน้อย แต่ตัวเธอเองรู้ดีว่าทุกอย่างนี้เป็นความดีความชอบของ 008
หลินหรูพยักหน้า กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ยังเจือด้วยความหวาดกลัวว่า “ใช่จ้ะ โหรวโหรว ไม่ว่าหนูจะเป็นห่วงพี่ชายมากแค่ไหน หนูก็ไม่ควรรีบร้อนตอนลงบันได หนูอยู่ในอาการโคม่าหลายวันเลย พวกเราทุกคนเป็นห่วงมาก ต้องระมัดระวังมองขั้นบันไดให้ดีนะจ๊ะเวลาขึ้นลงบันได” เมื่อกล่าวจบ เธอก็ออกไปโทรศัพท์
เหลือเพียงถังซีกับเซียวเหยาเท่านั้นในห้อง ฝ่ายหลังเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ ถังซี จากนั้นก็พิจารณาดูถังซีอย่างละเอียด ถังซีมัวยุ่งอยู่กับการประเมินเวลาเที่ยวบินของเฉียวเหลียง ไม่ทันสังเกตท่าทางของเซียวเหยาที่แปลกไป
เซียวเหยาอยากถามถังซีหลายอย่าง แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้ถามอะไรเลย ไม่นานหลังจากนั้นหลินหรูก็โทรศัพท์เสร็จและกลับเข้ามา เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณแม่ของหนูกำลังจะมา เธอทำซุปมาให้ หนูทานซุปก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวแม่จะกลับไปทำอาหารกลางวันให้หนู”
“คุณไม่กลับไปทำงานเหรอคะ” ถังซีมองหลินหรู เธอไม่รู้จะเรียกหลินรูว่าอย่างไรดี จึงเลือกใช้คำแบบไม่เจาะจง
หลินหรูยิ้ม แล้วเดินไปปอกแอปเปิลให้เธอพร้อมกับกล่าวว่า “แม่ลาพักร้อนจ้ะ แม่อยู่ดูแลลูกได้ แต่ถ้าหนูไม่อยากให้แม่อยู่ที่นี่…”
“คุณอยู่ที่นี่ได้ค่ะ” ถังซีรีบขัดจังหวะหลินหรูด้วยรอยยิ้ม หลินหรูมองตอบด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความซาบซึ้งใจ และปอกเปลือกแอปเปิลต่อไป
เซียวเหยากระซิบ “ป้าหลินมาอยู่เฝ้าที่นี่ตั้งแต่เธออยู่ในอาการโคม่า พี่ว่าป้าหลินคงเสียใจจริงๆ ที่เคยทำกับเธอแบบนั้น”
ถังซียิ้ม ไม่พูดอะไร
ทันใดนั้นความคิดบางอย่างก็เกิดขึ้นกับเธอ ถังซีบอกว่า “พี่เหยา ฉันรู้สึกง่วง อยากนอนแล้วค่ะ”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ทั้งหลินหรูและเซียวเหยาก็ขมวดคิ้วพร้อมกันทันที เซียวเหยากล่าวว่า “ถ้าง่วงก็ลงไปเดินเล่นในสวนข้างล่างดีกว่า ยังเช้าอยู่อากาศไม่ร้อน อย่านอนเลย!”
หลินหรูก็กล่าวด้วยความกังวลใจเช่นกัน “ใช่จ้ะ หนูนอนมานานมากแล้ว ถ้าหนูไม่ตื่นขึ้นมา… อย่านอนอีกเลยนะ ทานแอปเปิลก่อน ดีไหมจ๊ะ”
ทันใดนั้นถังซีก็รู้สึกขึ้นมาว่าจริงๆ แล้วหลินหรูเป็นคนน่ารัก
เธอมองดูทั้งสองคนอย่างสิ้นหวัง “ฉันสัญญาค่ะ ว่าจะนอนแค่ห้านาทีเท่านั้น… นะคะ”
เซียวเหยาตอบพร้อมกับส่ายศีรษะ “ไม่”
หลินหรูยิ้มและกล่าวว่า “ห้านาทีสั้นนิดเดียว แม่ว่าทานแอปเปิลดีกว่านะจ๊ะ หนูจะได้สดชื่น”
ถังซีไม่รู้จะทำอย่างไร “ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปล้างหน้า สมองจะได้ปลอดโปร่ง ดีไหมคะ”
เซียวเหยายิ้ม เอื้อมมือไปขยี้ผมถังซีแล้วบอกว่า “ไปเลย อย่าลืมแปรงฟันด้วยล่ะ เธอนอนโคม่ามาตั้งอาทิตย์กว่า ไม่ได้แปรงฟันนานมากขนาดนี้ลมหายใจอาจเหม็นได้นะ”
ถังซีเหลือบตาค้อนเซียวเหยา แล้วทันใดนั้นเธอก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้และตะโกนกลับมาว่า “พี่เหยา! พี่โทรหาคุณป้าเฉียวให้หน่อยได้ไหมคะ ฉันไม่ได้ไปหาท่านเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ท่านต้องรอฉันนานมากแน่ๆ!”
เซียวเหยาส่ายศีรษะ “ไม่หรอก ท่านไม่ได้รอ จิ่งโทรไปหากู้อวิ๋นตั้งแต่วันศุกร์ และเขาพาคุณป้าเฉียวมาเยี่ยมเธอแล้ว ไม่ต้องห่วง ไปล้างหน้าแปรงฟันเลย”
ถังซีรู้สึกโล่งอกที่ได้รู้ว่าเธอไม่ได้ทำให้ป้าเฉียวรอเก้อ เธอไม่อยากทำให้ใครรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ ไม่ต้องพูดถึงว่าบุคคลนี้เป็นมารดาของเฉียวเหลียง และเธอจะรู้สึกผิดมาก ถ้ามารดาเฉียวเหลียงต้องเตรียมอาหารและเสียเวลาไปเปล่าๆ กับการรอเธอ
ทันทีที่เข้าไปในห้องน้ำ ถังซีก็ติดต่อ 008 เพื่อตรวจสอบคะแนนประสบการณ์