เมื่อความผันผวนมิติกระจาย กลุ่มเทพเสมือนในขอบเหวนรกก็กลับไปยังพื้นที่ที่พวกเขาเฝ้าปกป้อง สร้างค่ายกลและเข้าสู่สภาวะพร้อมรบ
หลินฮวงใช้จิตเทวะ ความหนาแน่นของกลิ่นอายเบื้องหลังความผันผวนมิติแค่เทพเสมือนขั้นต้น ดังนั้นเขาจึงเมินเฉย
เมื่อเขามาถึง มีค่ายกลทั้งหมด28ค่ายกล ต่อให้คนเจ็ดคนถอนตัวไป หลังปรับโครงสร้างใหม่ ตอนนี้ก็ยังมีถึง26กลุ่ม ซึ่งมากพอจัดการกับผู้รุกรานทั้งแปด
คุณฟู่ไม่ได้ลงมือใดๆแต่กลับเฝ้าดูอยู่เงียบๆ
ไม่กี่อึดใจต่อมา นักสำรวจก็คลื่อนผ่านรอยแยกมิติทั้งแปดเกือบจะพร้อมกัน
ทั้ง26กลุ่มที่สร้างค่ายกลไม่ลังเล พวกเขาเคลื่อนไหวทันทีและฆ่านักสำรวจทั้งแปดภายในไม่กี่วินาที
อันตรายถือว่าผ่านไปชั่วคราว
แต่ทว่า สีหน้าคุณฟู่ไม่ผ่อนคลายเลย
“วันนี้มีนักสำรวจมากกว่าเมื่อวาน เมื่อวาน อย่างมาก ก็มีการเคลื่อนย้ายพร้อมกันมากสุดแค่สาม แต่วันนี้กลับมีถึงแปด”
“นั่นเพราะพวกเขากำลังเพิ่มการทดสอบ”หลินฮวงไม่แปลกใจอะไร มีคำอธิบายโดยละเอียดในข้อมูลที่เจ้าแดงจัดหาให้
“อุโมงค์มิติกว่า30ที่นี่ถูกใช้มาหลายครั้งแล้ว ภายใต้สถานการณ์ปกติ อุโมงค์มิติที่สัมผัสกับกฏมิติมานานไม่น่ามีปัญหาด้านความเสถียร ต่อให้มีปัญหา มันก็แค่ยิบย่อย”
“สิ่งที่พวกเขาทำเมื่อวานไม่ใช่เพื่อทดสอบว่าอุโมงค์มิติมีประสิทธิภาพไหม แต่เป็นการทดลอง เมื่อวานพวกเขาพยายามใช้อุโมงค์มิติทีละอัน บางอันยังถูกทดลองมากกว่าครั้ง และนักสำรวจทั้งหมดก็ถูกฆ่าภายในชั่วพริบตา ในแง่ของความน่าจะเป็นที่อุโมงค์มิติจะเสียหาย นี่เป็นไปได้น้อยมากและพวกเขาก็ต้องรู้เรื่องนี้ดี”
“หากข้าเดาไม่ผิด พวกเขาจะต้องเดาได้ว่ามีใครบางคนทางฝั่งเรากำลังแทรกแซง ดังนั้น วันนี้พวกเขาจึงควรจะทำการทดลองหลายครั้งเพื่อพิจารณาว่ามีคนฆ่านักสำรวจของพวกเขาหรือไม่”
“จากสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้นำของผู้รุกรานต้องมีนิสัยที่ขี้ระแวงมาก”
“หากข้าเป็นผู้นำของผู้รุกรานเหล่านี้ ข้าจะเพิ่มจำนวนนักสำรวจและระดับพลัง อย่างน้อยสุด ข้าจะหาอุโมงค์ที่ข้ามั่นใจเต็มร้อย เมื่อข้าพบอุโมงค์เช่นนั้น ข้าจะใช้มันทำการรุกรานรอบแรก!”
เมื่อเขาได้ยิน สีหน้าของคุณฟู่ก็ยิ่งจริงจัง
หลังเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ถาม”เจ้าอยากเรียกกำลังเสริมไหม?”
หลินฮวงคิดสักพัก”เราสามาถรเรียกหาพวกเขาได้ตอนนี้เลย ใช่ หากไม่มีอะไรผิดพลาด สงครามนี้ควรเริ่มอย่างเป็นทางการภายในสองวันข้างหน้า”
เมื่อคุณฟู่ได้ยินแบบนี้ เขาก็รีบติดต่อรัฐบาลกลาง
หลินฮวงยังส่งข้อความหาหวงเทียนฟู่และจื่อจี้
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา รัฐบาลกลางก็ส่งการแจ้งเตือนไปยังทุกองค์กรที่มีเทพเสมือน แจ้งให้ทุกคนทราบถึงสถานการณ์ในขอบเหวนรก และเรียกเชิญพวกเขามาเข้าร่วมกองกำลังต่อต้าน
เมื่อเทพเสมือนส่วนใหญ่เห็นข่าว พวกเขาก็รีบเก็บของและออกเดินทางมาขอบเหวนรก
แน่นอน ยังมีคนที่เลือกรอดู
ทางฝั่งจักรวรรดิ นอกจากหวงเทียนฟู่และทาสดาบที่คอยปกป้องหลินซิน รวมถึงเสี่ยวโม่ที่ยังปิดประตูบ่มเพาะ เทพเสมือนทั้งหมดล้วนถูกส่งมา
ทางฝั่งผู้ปลดปล่อย นอกจากจื่อจี้ รวมถึงทาสดาบทั้งห้า เทพเสมือนคนอื่นเองก็ถูกส่งมาเช่นกัน
แต่ทว่า ในช่วงครึ่งชั่วโมงระหว่างตอนคุณฟู่แจ้งข่าวให้รัฐบาลกลางและทำการประกาศ ผู้รุกรานอีกสามระลอกก็มาถึง
ทั้งสามระลอกเกิดขึ้นพร้อมกันบนรอยแยกมิติ8หรือ9แห่ง แต่ละระลอกจะออกมาไม่ซ้อนทับรอยแยกเดิม
มีผู้รุกรานมาถึงทั้งหมดสี่ระลอก และอุโมงค์มิติทั้ง33ก็ถูกทดสอบ
หลินฮวงเดาว่าอีกฝ่ายอาจมีอุโมงค์กว่า33แห่งในมหาพิภพและควรมีอุโมงค์มิติบางอันที่ได้รับความเสียหายหนัก ส่งผลให้เคลื่อนย้ายไม่สำเร็จ
หลังการทดสอบ ทุกคนก็ตื่นตัวเต็มที่และพร้อมรับมือกับการมาของนักสำรวจอีกระลอก
โชคดี ก่อนระลอกห้าจะมาถึง เทพเสมือนก็เริ่มมาสมทบแล้ว
เทพเสมือนหลายคนได้ระบุตำแหน่งทางเข้าขอบเหวนรกไว้ บางคนยังเอาของใช้ชีวิตประจำวันใส่แหวนและออกเดินทางทันที พวกเขาจึงมาถึงเร็วกันมาก
เทพเสมือนที่เพิ่งมาใหม่เหล่านี้เข้าสู่สภาวะพร้อมรบอย่างรวดเร็วและจัดตั้งค่ายกล
เมื่อนักสำรวจระลอกห้ามาถึง ค่ายกลก็เพิ่มเป็น29อัน
แต่ทว่า ในการบุกรอบนี้ จำนวนอุโมงค์มิติที่ปล่อยความผันผวนกลับเพิ่มขึ้นสองเท่าจาก8เป็น16
วินาทีต่อมาหลังความผันผวนมิติเกิดขึ้น หลินฮวงก็เลิกคิ้ว
“นักสำรวจได้เปลี่ยนจากเทพเสมือนขั้น3เป็นขั้น4!”
จิตเทวะเขาตรวจพบว่าระดับพลังของอีกฝ่ายสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้กังวลนัก ยกเว้นทาสดาบสองกลุ่ม ค่ายกลต่อสู้ปัจจุบันทั้ง29มีเทพเสมือนขั้น3เป็นกลาง และพลังของค่ายกลทั้งหมดก็เกือบถึงเทพเสมือนขั้น5 ยังมีสามกลุ่มที่ใช้เทพเสมือนขั้น4เป็นแกน และพลังของค่ายกลก็เทียบเคียงได้กับเทพเสมือนขั้น6 ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนของค่ายกลยังมากกว่าศัตรูถึงสองเท่า
การตัดสินของหลินฮวงถูกต้อง ศัตรูทั้ง16นี้ถูกกำจัดอย่างรวดเร็ว
เมื่อนักสำรวจระลอกที่หกมาถึง ค่ายกลต่อสูทั้ง29ในโลกกรวดก็เพิ่มเป็น31
นักสำรวจทั้ง17จากระลอกใหม่นี้เองก็ถูกฆ่าอย่างง่ายดายเช่นกัน
มันค่อนข้างง่ายที่จะต้านทานผู้รุกรานทีละระลอก
แต่ทว่า สีหน้าของทุกคนกลับไม่ผ่อนคลายเลย เพราะพวกเขารู้ว่าการรุกรานรอบใหม่ต้องยากขึ้น
“เรามีกำลังคนไม่พอ..”คุณฟู่กำลังจะเข้าไปร่วมสู้แต่ก็ถูกหยุดโดยหลินวง
“อาจารย์ ท่านลืมความชำนาญของข้าไปหรือเปล่า?”หลินฮวงถามด้วยรอยยิ้ม
คุณฟู่ดูแปลกใจ แต่จากนั้นหลินฮวงก็บดขยี้การ์ดมอนสเตอร์จำนวนหนึ่ง
ทีละตัว มอนสเตอร์อัญเชิญได้รับการปลดปล่อยและยืนกันตรงหน้าเขา
หลินฮวงอัญเชิญมอนสเตอร์อัญเชิญมาทั้งหมดสิบตัว ชุดคลุมเลือด ปีศาจมาลาเชี่ยน อิมพ์ อสรพิษจันทรา อัศวินแห่งความตาย อัศวินอมตะ ราชาเฮอคิวเลี่ยน ปิงหวาง และอสรพิษจันทร์ทมิฬสองตัว
มอนสเตอร์ทั้งสิบไม่ถือว่าเก่งสุด แต่ระดับพลังพวกมันเป็นเทพแท้จริงขั้น3แล้ว(หลังบรรลุระดับเทพแท้จริง การ์ดมอนสเตอร์ที่ต่ำกว่าเทพสูงสุดจะไม่เพิ่มระดับพลังตามเจ้านายอีก พวกมันต้องล่าเองเพื่อเพิ่มระดับพลังตน”
เมื่อสัมผัสได้ถึงการปฏิเสธของโลกร่วมกับคลื่นเสียงที่หลินฮวงส่งมา เหล่ามอนสเตอร์จึงรีบผนึกพลังตัวเองเป็นเทพเสมือนขั้น9
การปรากฏตัวอย่างฉับพลันของมอนสเตอร์ทั้งสิบดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที